Skip to content

A Will Eternal 505

บทที่ 505 ยาอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์แบบ

ตูม!

พลังของยาก่อกำเนิดนั้นมหาศาลเกินไปคล้ายคลื่นพิโรธที่โถมตัวอยู่ในเรือนกายของป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างบ้าคลั่ง ทุกที่ที่ผ่าน เส้นชีพจรทั่วร่างของเขาล้วนสั่นไหว หลังจากที่มันแพร่ไปทั่วเรือนกายก็ไหลทะลักทลายเข้าไปรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ตรงจุดที่ตั้งของยาอายุวัฒนะ

ยาอายุวัฒนะของป๋ายเสี่ยวฉุนแฝงเร้นไว้ด้วยปราณวิถีฟ้า อีกทั้งด้านในยังมีมหาสมุทรวิญญาณเก้าชั้น ซึ่งเมื่อพลังวิญญาณฟ้าดินที่ท่วมท้นไหลรินเข้ามาอยู่ภายใน ท่ามกลางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ปราณตบะของเขาเองก็ไต่ทะยานขึ้นสูง

ก่อนหน้านี้ป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ในขั้นยาอายุวัฒนะช่วงท้าย เดิมทีก็ห่างจากขั้นสมบูรณ์แบบอีกไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว ไอแห่งความเย็นของยาสีทองในร่างมีอยู่แล้วเจ็ดแปดส่วน ขอแค่ไต่ไปถึงสิบส่วนเมื่อไหร่ก็จะฝ่าทะลุจากขั้นท้ายก้าวเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์แบบทันที

ตอนนี้เมื่อพลังฟ้าดินมากไพศาลเยื้องกรายมาถึงและเติมเต็มมหาสมุทรวิญญาณเก้าชั้นในยาสีทองของเขาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเมื่อคาถาหันเหมินเลี้ยงความคิดของเขาเคลื่อนโคจร ไอความเย็นหลายระลอกก็แผ่ซ่านออกมาอย่างรวดเร็ว!

นี่ไม่ใช่ไอความเย็นทั่วไป แต่นี่คือไอความเย็นระดับสูง!

และแค่บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์แบบ ไอความเย็นของป๋ายเสี่ยวฉุนก็จะฝ่าทะลุตามไปด้วย เปลี่ยนจากความเย็นระดับสูงไปเป็น…ความเย็นระดับสุดขั้ว!!

ความเย็นระดับสุดขั้วคือความเย็นน่าครั่นคร้ามที่สามารถปิดผนึกส่วนหนึ่งของแม่น้ำทงเทียนได้

โดยเฉพาะเมื่อรวมเข้ากับความไม่ธรรมดาของป๋ายเสี่ยวฉุนจึงสามารถพูดได้ว่า ไม่ว่ารวมโอสถคนใดก็ตามที่อยู่ต่อหน้าเขา ขอแค่สัมผัสโดนปราณความเย็นระดับสุดขั้วนี้ ตลอดทั้งร่างของคนผู้นั้นก็จะถูกปิดผนึกด้วยน้ำแข็ง หรืออาจถึงขั้นกายและจิตดับสลาย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ที่ความคิดเดียวของป๋ายเสี่ยวฉุนเท่านั้น

ต่อให้เป็นก่อกำเนิด…เมื่ออยู่ภายใต้ปราณความเย็นระดับสุดขั้วก็ยังถูกจำกัดขอบเขต!

และหากตบะของป๋ายเสี่ยวฉุนฝ่าทะลุกลายมาเป็นขั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าเช่นนั้นพลังยาอายุวัฒนะวิถีฟ้าของเขาก็จะระเบิดออกมาได้อย่างแท้จริง นั่นจะเป็น…ยาอายุวัฒนะที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นยาอายุวัฒนะวิถีฟ้าที่สามารถ…สั่นคลอนก่อกำเนิดได้!

ก่อนหน้านี้เขาอาศัยยาเทพสถิตมาสังหารหัวหน้าเผ่าตบะเทียบเคียงก่อกำเนิดโดยใช้แค่พลังกล้ามเนื้อ ตอนนี้หากป๋ายเสี่ยวฉุนเหยียบเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าเช่นนั้นต่อให้เขาเจอกับผู้ฝึกวิญญาณที่มีวิชาอภินิหารเทียบเท่าก่อกำเนิด เขาก็สามารถต่อกรได้เช่นเดียวกัน!

“ยาอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์แบบ…” ป๋ายเสี่ยวฉุนคิดมาถึงตรงนี้ในใจก็เปี่ยมล้นไปด้วยความคาดหวัง ทั้งยังมากด้วยความฮึกเหิมอย่างบ้าคลั่ง เขารอวันนี้มานานเหลือเกินแล้ว ตอนนี้เมื่อทำใจให้สงบเขาจึงโคจรคาถาหันเหมินเลี้ยงความคิดอีกครั้ง เสียงตูมตามดังออกมาจากทั่วร่างของเขา ไอความเย็นเป็นระลอกก็ระเบิดครืนครั่นออกมา

พริบตาเดียวไอความเย็นนี้ก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งหอเรือน ก่อนที่ทุกอย่างในหอเรือนจะกลายมาเป็นน้ำแข็ง อีกทั้งเมื่อมองจากภายนอก ตลอดทั้งหอเรือนนี้ก็เหมือนกลายมาเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ยักษ์ในเวลาเพียงชั่วลมหายใจ

ท่ามกลางเสียงลั่นดังเปรี๊ยะๆ พวกจ้าวหลงที่เฝ้าพิทักษ์อยู่ข้างนอกล้วนหน้าเปลี่ยนสี พวกเขามองเห็นหอเรือนกลายเป็นก้อนน้ำแข็งคาตาตัวเอง มองเห็นไอความเย็นเป็นกลุ่มๆ ที่แผ่ออกมาจนทำให้ลานกว้างรอบด้านรวมไปถึงเตาหลอมยาจำนวนไม่น้อยล้วนถูกปิดผนึกด้วยน้ำแข็งในชั่วพริบตา

ยังดีที่ก่อนหน้านี้ป๋ายเสี่ยวฉุนสั่งความไว้แล้วว่าให้พวกเขาถอยไปห่างๆ มิฉะนั้นเกรงว่าตอนนี้พวกเขาก็คงหนีภัยถูกน้ำแข็งปิดผนึกไม่พ้น

“ไต้เท้ากำลังฝึกวิชาอะไรอยู่”

“นี่…ความทรงพลังของไอความเย็นนี้ช่างน่าตื่นตะลึงยิ่งนัก”

พวกจ้าวหลงและหลิวลี่มองหน้ากันไปมา ทุกคนล้วนสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ถอยห่างออกไปอีกครั้ง ตอนที่มองไปก็พบว่าไอความเย็นที่แผ่ออกมาจากในหอเรือนได้ขยายออกมาปกคลุมไปเกินครึ่งของหอกงเจี่ยแล้ว!

ทุกที่ที่ผ่าน ทุกสิ่งล้วนจับตัวกลายมาเป็นโลกแห่งน้ำแข็ง!

ยังดีที่เมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนผงาดโดดเด่นขึ้นมา ปรมาจารย์คนอื่นๆ ที่อยู่ในหอกงเจี่ยได้ย้ายออกไปหมดแล้ว มิฉะนั้นตอนนี้คงถูกปิดผนึกไปตามๆ กัน

ครึ่งก้านธูปต่อมา ตลอดทั้งหอกงเจี่ยก็กลายมาเป็นพื้นที่น้ำแข็งหนาวเหน็บ มองไกลๆ เหมือนภูเขาน้ำแข็ง ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้พวกจ้าวหลงตะลึงลานเท่านั้น แม้แต่นักพรตคนอื่นๆ ในกองถลกหนังก็ยังอกสั่นขวัญแขวน ต่างก็สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงน่าหวาดหวั่นของพื้นที่แห่งนี้

แม้แต่พวกผู้บังคับกองหมื่นที่มีตบะก่อกำเนิดก็ยังพากันใจสั่น ส่วนป๋ายหลินนั้นถึงขั้นรีบมาเยือนด้วยตัวเอง เมื่อยืนอยู่กลางอากาศแล้วก้มหน้าเพ่งมองหอกงเจี่ย ดวงตาของเขาก็ฉายประกายประหลาดใจ

“ไอความเย็นเช่นนี้แทบจะไต่ถึงขีดสุดแล้ว หากเขามีวิชาความเย็นเช่นนี้ตั้งแต่ตอนที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของศัตรู หากคิดจะหวนคืนกลับมาก็ยิ่งเป็นเรื่องง่าย” แววชื่นชมในดวงตาของป๋ายหลินยิ่งมีมาก ก่อนที่เขาจะรีบออกคำสั่งให้นักพรตกองถลกหนังคุ้มกันรอบด้าน เป็นผู้พิทักษ์ให้แก่ป๋ายเสี่ยวฉุน

สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถึงขั้นดังไปเข้าหูของเฉินเห้อเทียนผู้มีขอบเขตคนฟ้า ในดวงตายักษ์จึงพลันปล่อยลำแสงเจิดจ้าส่องไกลๆ มาตกลงบนหอกงเจี่ยของป๋ายเสี่ยวฉุน หลังจากที่มองอย่างละเอียดแล้วถึงได้ค่อยๆ ถอนคืนกลับไป

“ไอความเย็นเช่นนี้ดูเหมือนจะยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่…” เฉินเห้อเทียนพึมพำเบาๆ ในใจครุ่นคิด

เวลาผ่านพ้น การปิดด่านครั้งนี้ของป๋ายเสี่ยวฉุนดำเนินไปนานหลายเดือน ยังดีที่ช่วงเวลาหลายเดือนมานี้ถึงแม้สงครามนอกกำแพงเมืองจะยังคงเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ก็เป็นแค่สงครามขนาดเล็กเท่านั้น เพราะสงครามขนาดใหญ่อย่างเมื่อครึ่งปีก่อนไม่มีทางเกิดขึ้นได้บ่อยนัก

และเมื่อหลายเดือนนี้ผ่านไป ตบะของป๋ายเสี่ยวฉุนก็เลื่อนระดับมาถึงช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด พลังฟ้าดินจากยาก่อกำเนิดได้ไหลทะลักเข้าไปในยาอายุวัฒนะของเขาหมดแล้ว ทำให้มหาสมุทรวิญญาณทั้งเก้าชั้นถูกกรอกเติมจนเต็ม ไอความเย็นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ได้ค่อยๆ ทำให้ยาสีทองนี้จับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง!

ดั่งต้องการแปลงยานี้ให้กลายมาเป็นยาน้ำแข็ง!

เวลานี้ยาสีทองของเขาจับตัวเป็นน้ำแข็งไปแล้วถึงเก้าส่วน ไอความเย็นที่แผ่ประกายแสงเย็นยะเยือกเจิดจ้า กำลังแผ่ขยายพื้นที่ออกไปอย่างเชื่องช้า ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนนั่งนิ่งไม่กระดุกกระดิกราวกับถูกปิดผนึกอยู่ท่ามกลางน้ำแข็งไปด้วย

เวลาผ่านไปอีกสามวัน ยามสนธยาของวันนี้ ทันใดนั้นหลังจากที่น้ำแข็งแผ่ขยายจนครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของยาอายุวัฒนะในร่างป๋ายเสี่ยวฉุนแล้ว ยาอายุวัฒนะทั้งเม็ดก็กลายมาเป็นยาน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์แบบ!

เสียงสะเทือนเลือนลั่นพลันสะท้อนอยู่ในสมองของป๋ายเสี่ยวฉุน ดวงตาทั้งคู่ของเขาเบิกโพลงขึ้นมา วินาทีที่ดวงตาทั้งคู่เปิดออก ปราณน่าครั่นคร้ามซึ่งมากมหาศาลยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ก็ระเบิดครืนครั่นออกมาจากในร่างของเขา

ตบะฝ่าทะลุ!

ไม่ใช่ยาอายุวัฒนะช่วงท้ายอีกต่อไป แต่เป็นยาอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์แบบ!

“สำเร็จแล้ว!” ป๋ายเสี่ยวฉุนคำรามต่ำๆ นัยน์ตาเรืองรอง เขาสัมผัสได้ทันทีว่าตอนนี้ในยาน้ำแข็งสีทองของเขากำลังแผ่ไอความเย็นที่เหนือกว่าก่อนหน้านี้ออกมา ไอความเย็นนี้กำลังว่ายวนอยู่ในร่างของเขาโดยที่ไม่ทำอันตรายร่างกายเขาแม้แต่นิดเดียว

ป๋ายเสี่ยวฉุนยกมือขวาขึ้นอย่างเชื่องข้า ตอนที่สายตามองตามไป ไอความเย็นเส้นหนึ่งในร่างก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้ว วินาทีที่ไอความเย็นนี้แผ่กระจาย ชั้นน้ำแข็งรอบกายก็เกิดเสียงลั่นสนั่นหวั่นไหวราวกับถูกบดขยี้ ประหนึ่งว่าสำหรับชั้นน้ำแข็งรอบด้านแล้ว การได้เห็นไอความเย็นเส้นนี้ปรากฏตัวก็ราวกับได้เห็นเจ้าแห่งน้ำแข็งเผยกาย!

หรือแม้แต่ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมไปทั่วหอกงเจี่ย บัดนี้ก็พลันขยายออกไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักพรตที่ป้องกันอยู่ด้านนอกพากันหลบหนีอุตลุดด้วยความตกใจ

“ความเย็นสุดขั้วหรือ…” ป๋ายเสี่ยวฉุนมีสีหน้าเป็นปกติ มองไอความเย็นบนปลายนิ้วด้วยท่าทางครุ่นคิด แล้วเขาก็พบว่ายาน้ำแข็งในร่างของตัวเองคล้ายกำลังมีการเปลี่ยนแปลงที่ตนไม่เข้าใจเกิดขึ้น

ราวกับว่ามันกำลังบ่มเพาะอะไรบางอย่าง…

ป๋ายเสี่ยวฉุนใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ สีหน้ายังคงตกอยู่ในอาการครุ่นคิด ต่อให้เขาจะไม่รู้ว่าในยาน้ำแข็งมีอะไรฟักตัว แต่กลับสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่านั่นน่าจะเป็นคลื่นเคลื่อนไหวอย่างหนึ่งที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี และเขาก็ยิ่งมีลางสังหรณ์อย่างแรงกล้าว่าหากมันกระเทาะเปลือกออกมาได้สำเร็จในท้ายที่สุดจะต้องสร้างความสะท้านสะเทือนมากอย่างแน่นอน!

“คล้ายพลังการควบคุม…” ขณะที่ป๋ายเสี่ยวฉุนพึมพำ นัยน์ตาของเขาก็พลันระเบิดแสงคมกล้า

“ข้ารู้แล้ว ข้าฝึกคาถาหันเหมินเลี้ยงความคิด ตอนนี้ความเย็นฝึกสำเร็จแล้ว ถ้าเช่นนั้นที่เลี้ยงตัวอยู่ในยาน้ำแข็งตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็น…ความคิด!”

สำหรับคำว่าความคิดนี้ ป๋ายเสี่ยวฉุนมีการคาดเดาและความเข้าใจเป็นของตัวเอง เขาไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ก็ระงับการคาดเดานี้ไว้ในใจ คำตอบทั้งหมดจะรู้ได้ก็ต้องเมื่อพลังความคิดนี้ฟักตัวออกมาเอง

“ตบะคือยาอายุวัฒนะขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว อันดับต่อมาก็คือวิชาอมตะมิวางวาย…” ป๋ายเสี่ยวฉุนรับสัมผัสกับเรือนกายของตัวเอง ฤทธิ์ของยาก่อกำเนิดเม็ดนั้นมีมากเกินไป นอกจากช่วยประคับประคองให้ป๋ายเสี่ยวฉุนเหยียบเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์แบบแล้วก็ยังเหลืออีกส่วนหนึ่งที่หลอมรวมเข้าไปในเลือดเนื้อของเขาแล้วกลายมาเป็นพลังชีวิต

“สมแล้วที่เป็นยาก่อกำเนิด…น่าเสียดายที่ข้าไม่รู้ตำรับยา แต่ข้าก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่าหนึ่งในพืชหญ้าหลักของยาก่อกำเนิดนี้ต้องมีหญ้ากำเนิดเซียนแน่นอน!”

หญ้ากำเนิดเซียนคือพืชหญ้าชนิดหนึ่งที่แทบจะสูญพันธ์ไปแล้ว ประโยชน์อย่างใหญ่หลวงที่สุดของมันก็คือให้พลังชีวิตในระดับที่น่าตกใจ ว่ากันว่าพลังชีวิตนี้สามารถทำให้คนกลายมาเป็นเซียน แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นจริง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงมูลค่าของหญ้ากำเนิดเซียนนี้ได้เป็นอย่างดี

“เมื่อมองเช่นนี้ หากข้ากินยาก่อกำเนิดเม็ดที่สองลงไป ขอแค่ระงับไม่ให้ตัวเองก่อกำเนิดด้วยยาเม็ดนี้ แต่ให้วิชาอมตะมิวางวายดูดซับมันไป ถ้าเช่นนั้นวิชาอมตะมิวางวายของข้าก็จะก้าวทะยานอย่างพรวดพราด!”

“บทที่สามของคัมภีร์มิวางวาย เอ็นคงกระพัน…ตอนนี้ข้าฝึกมาถึงขาและแขนทั้งสองข้างแล้ว เหลือแค่เรือนกายกับศีรษะเท่านั้น และความต้องการของเรือนกายก็ต้องมากอย่างถึงที่สุด…” ป๋ายเสี่ยวฉุนใคร่ครวญ มือขวาหยิบเอายาก่อกำเนิดเม็ดที่สองขึ้นมา ก่อนจะกัดฟันกรอดแล้วโยนมันเข้าปากทันที!

กินยาก่อกำเนิดสองเม็ดติดต่อกัน หากเรื่องนี้คนนอกรับรู้ต้องก่อให้เกิดความแตกตื่นฮือฮาแน่นอน ด้านหนึ่งก็เพราะราคาของยาก่อกำเนิดสูงเกินไป อีกด้านหนึ่งก็เพราะมีน้อยคนนักที่จะสามารถแบกรับพลังการโจมตีของยาฤทธิ์ร้ายแรงเช่นนี้ติดต่อกันได้

วินาทีที่ป๋ายเสี่ยวฉุนกินยาก่อกำเนิดเม็ดที่สองเข้าไป ในยาก่อกำเนิดก็ระเบิดพลังฟ้าดินที่เขย่าคลอนไปทั่วเรือนกายของเขา ก่อนที่มันจะแพร่กระจายไปตามเส้นชีพจรทั่วร่าง และก็ใกล้จะพุ่งเข้าไปโจมตียาน้ำแข็งของเขาคล้ายต้องการให้ยาน้ำแข็งแตกทลายเพื่อรวมตัวกันเป็นก่อกำเนิดขั้นต่ำสุด!

แต่วินาทีที่พลังฟ้าดินนี้จะปะทะกับยาน้ำแข็ง ดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนก็พลันเปล่งวาบ วิชาอมตะมิวางวายเคลื่อนโคจรทันใด เสียงตูมดังหนึ่งครั้ง ร่างกายของเขาก็คล้ายกลายมาเป็นน้ำวนลูกใหญ่ยักษ์ที่แผ่พลังดึงดูดน่าตกใจออกมา พริบตาเดียวพลังวิญญาณฟ้าดินที่ใกล้จะแตะโดนยาน้ำแข็งก็ถูกดูดสวบเข้าไปรวมอยู่ในน้ำวนคล้ายม้าที่ถูกรั้งเมื่อวิ่งมาเจอหน้าผา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version