บทที่ 516 ให้ตายข้าก็ไม่ไป!
ผู้เฒ่ามีสีหน้าทั้งฮึกเหิมทั้งเศร้าอาดูร ในใจสบถด่าป๋ายเสี่ยวฉุนไม่หยุด เกลียดแค้นอีกฝ่ายอย่างยิ่งยวด แม้ว่าเขาจะถือยาไว้ในมือ แต่กลับไม่ได้ไพล่นึกไปถึงตัวตนของป๋ายเสี่ยวฉุน เพราะอย่างไรซะยารวมวิญญาณนี้ต่อให้ไม่ถึงขนาดที่เรียกได้ว่านักพรตในกองทัพใหญ่ทั้งห้ามีครอบครองกันทุกคน แต่ก็ไม่ต่างกันมากนัก
“ไอ้ลิงบัดซบ เจ้าต้องไม่ได้ตายดีแน่!!” ผู้เฒ่าด่ากราดอยู่ในใจ กัดฟันเข้าไปใกล้หลุมลึกด้วยความกระวนกระวาย ตอนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเขาหันกลับมามองครั้งหนึ่งก็พบว่าพวกป๋ายเสี่ยวฉุนห่างออกไปไกลพันจั้งแล้ว ยิ่งเห็นท่าทางที่พร้อมโกยแนบอย่างรวดเร็วตลอดเวลาก็ยิ่งทำให้ในใจของผู้เฒ่าขมขื่น
ทว่าเขาไม่มีทางเลือกมากนัก หากทำตามที่ป๋ายเสี่ยวฉุนบอก บางทีอาจจะยังมีความเป็นไปได้เสี้ยวหนึ่งที่จะรอดชีวิต แต่หากตนไม่ทำตาม ถ้าเช่นนั้นพวกป๋ายเสี่ยวฉุนอาจจะไม่ได้ตายทั้งหมด แต่ตนย่อมตายอย่างมิต้องสงสัยแน่นอน
คิดไม่ตกอยู่พักใหญ่ ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ตะโกนอย่างหงุดหงิดเสียงแหลมดังแว่วมาแต่ไกล
“เร็วเข้าหน่อยสิ ทุกคนรอเจ้าอยู่นะ”
“รอย่าเจ้าน่ะสิ!” ผู้เฒ่าด่าขรมอยู่ในใจ หลังจากกัดฟันก็เดินเข้าไปในหลุมลึกหนึ่งก้าว พริบตาเดียวก็เข้าไปข้างใน เพิ่งจะเข้ามา พวกวิญญาณพยาบาทที่อยู่ในหลุมซึ่งเดิมทีกำลังล่องลอยไปมากลับพากันหยุดชะงักแล้วหันขวับมามองผู้เฒ่าอย่างพร้อมเพรียงกัน
หนังหัวของผู้เฒ่าใกล้จะระเบิดเต็มที สมองของเขาขาวโพลน คำรามเสียงดังลั่นหนึ่งครั้งก่อนจะบีบยาในมือให้แตกละเอียด ยังไม่ทันรอให้วิญญาณพวกนั้นตั้งตัวได้ ยารวมวิญญาณก็ระเบิดกระจายดังตูม พริบตาเดียวแรงดึงดูดมหาศาลระลอกหนึ่งก็แผ่ออกไปทั่วด้าน
ทันใดนั้นวิญญาณพยาบาทนับหมื่นตนก็ร่างบิดเบือน ไม่ทันได้ดิ้นรนก็ถูกยาเม็ดนั้นดูดสวบกลายมาเป็นลูกวิญญาณที่ถูกผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าเก็บไปทันทีทันใด เวลาเดียวกันนั้นวิญญาณพยาบาทตนอื่นๆ ที่อยู่รอบด้านก็ราวกับถูกกระตุ้น พวกมันคำรามเสียงหวีดแหลม อีกทั้งด้านในหลุมลึกยังมีเสียงคำรามดังสะเทือนเลือนลั่นลอยออกมา เพียงแค่เสี้ยววินาทีนี้ก็มีพายุคลั่งพวยพุ่งจากในหลุมลึกทะยานสู่ท้องฟ้า
ผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าร้องโหยหวนหนึ่งครั้ง หันตัวกลับหมายเผ่นหนี แทบจะวินาทีเดียวกับที่เขาพุ่งตัวออกมา หมอกควันตลบอบอวลด้านหลังของเขาก็พลันระเบิดตูม หมอกควันที่พวยพุ่งทำให้วิญญาณที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน…ซึ่งมีจำนวนเกินล้านตัวพ่นปะทุออกมากลายเป็นมหาสมุทรวิญญาณไร้ที่สิ้นสุด
“ช่วยด้วย!” ผู้เฒ่าร้องโหยหวน เขาไม่กล้าหนีไปยังทิศทางอื่น อีกทั้งในใจก็เกลียดแค้นพวกป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นทุนเดิม ดังนั้นจึงบินดิ่งไปยังทิศทางที่ป๋ายเสี่ยวฉุนยืนอยู่ด้วยความรวดเร็ว
ความเร็วของเขามีมาก ทว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเร็วยิ่งกว่า แทบจะวินาทีเดียวกับที่ผู้เฒ่าบีบยารวมวิญญาณให้แตกออก เขาก็พลันเผ่นหนีไปไกลพร้อมพวกนักพรตนับพันที่พากันกลายร่างเป็นรุ้งเส้นยาวทะยานออกห่าง
เห็นว่าพวกป๋ายเสี่ยวฉุนโกยแนบอย่างรวดเร็ว ผู้เฒ่าก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ด้วยความจนใจจึงได้แต่ระเบิดความเร็วเต็มกำลัง ทว่าก่อนหน้านี้ตบะเขาถูกปิดผนึกไปบางส่วน ตอนนี้ต้องหนีหัวซุกหัวซุนสุดชีวิตถึงพอจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ทว่ามหาสมุทรวิญญาณที่อยู่ด้านหลังเขาก็ยังตามติดไม่ปล่อย เสียงร้องหวีดแหลมแหบพร่าดังก้องอย่างต่อเนื่อง
ความรู้สึกถึงวิกฤตความตายที่อาจเยื้องกรายมาถึงตัวได้ทุกเมื่อทำให้ผู้เฒ่าที่สิ้นหวังแหกปากด่ากราด
“ไอ้ลิง เจ้าต้องไม่ตายดีแน่!”
“ต่อให้ข้ากลายเป็นผีก็จะไม่มีทางปล่อยเจ้าไป!!” ผู้เฒ่าคำรามด้วยความร้าวราน
ภาพเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้พวกนักพรตที่หนีอยู่ด้านหน้าจิตใจสั่นไหว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็ยิ่งใจเต้นกระหน่ำ ตอนที่เสียงตูมตามดังกังวานขึ้นที่ด้านหลัง ป๋ายเสี่ยวฉุนก็รีบเผ่นหนีพลางเหลียวหลังกลับไปมองด้วย ไม่ได้มองผู้เฒ่าคนนั้น แต่กวาดสายตาไปที่มหาสมุทรวิญญาณไร้ที่สิ้นสุดนั่น
“หนึ่งล้าน…ไม่ใช่สิ สิบล้าน…ก็ยังไม่ใช่…สวรรค์ นี่มันมีวิญญาณมากเท่าใดกันแน่!!” หนังหัวของป๋ายเสี่ยวฉุนใกล้จะระเบิดออกเต็มที ตอนนี้จึงยิ่งขยายความเร็วให้มากขึ้น ส่วนผู้เฒ่าคนนั้น ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่มีเวลามามัวสนใจอีกแล้ว ในใจยิ่งมากด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจ รู้สึกว่าเมื่อครู่ตนละโมบเกินไปหน่อย
ขณะที่กำลังจะยิ้มขื่น สีหน้าของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันกระตุก เผยความแปลกใจ หันขวับกลับไปมองก็เห็นทันทีว่าหลังจากที่ผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าคำรามโหยหวนดิ้นรนหนีรอดมาได้ มหาสมุทรวิญญาณที่นับไม่ถ้วนนั้นกลับไล่ตามมาแค่ไม่กี่ร้อยจั้ง ทั้งยังไม่ทันได้กระจายตัวออกไปอย่างเต็มที่ก็ไม่ไล่ตามมาอีกแล้ว แต่ลอยเวียนวนอยู่ในรัศมีหลายร้อยจั้งก่อกลายมาเป็นลมพายุที่หมุนวนบนนภากาศ จากนั้นก็ย้อนกลับไปในหลุมหมื่นจั้งนั่นอีกครั้ง ไม่นานก็หายวับไป แล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ กลับคืนสู่ความสงบ
ป๋ายเสี่ยวฉุนตะลึงงัน นักพรตนับพันที่หนีกระจายกันไปทั่วด้านก็อึ้งค้าง โดยเฉพาะผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าคนนั้นที่ยิ่งรู้สึกเหมือนรอดชีวิตมาจากความตาย สีหน้าของเขาแฝงเร้นไว้ด้วยความปิติยินดีอย่างไม่คาดคิด
“ข้า…ข้าไม่ตาย!!” ผู้เฒ่าตัวสั่น น้ำตาไหลพรากลงมา ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะฟื้นคืนกลับมาจากความเบิกบานอันบ้าคลั่ง ป๋ายเสี่ยวฉุนก็เข้ามาใกล้ในชั่วพริบตา มาปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าของผู้เฒ่า ก่อนจะมองประเมินผู้เฒ่าด้วยความคลางแคลงใจ
ผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าร่างแข็งทื่อ ตอนที่มองมายังป๋ายเสี่ยวฉุน ในใจก็กระวนกระวายไม่เป็นสุข รอบกายเขามีแต่คนของป๋ายเสี่ยวฉุน เขารู้ดีว่าตัวเองหนีไม่รอด พอนึกถึงคำด่าของตัวเองก่อนหน้านี้ร่างก็สั่นเทิ้ม รีบส่งมอบลูกวิญญาณในมือไปให้กับป๋ายเสี่ยวฉุนทันที
“ไต้เท้า…ข้า…” ผู้เฒ่ากำลังจะเอ่ยอธิบาย แต่กลับถูกป๋ายเสี่ยวฉุนตัดบท ก่อนที่เขาจะเดินวนรอบร่างของผู้เฒ่าอีกหลายรอบ ลูบๆ คลำๆ ร่างของอีกฝ่ายตรงนู้นทีตรงนี้ที ทำให้ผู้เฒ่าตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม
“พวกวิญญาณไม่ได้ไล่ตามต่อ หรือว่าบนร่างของผู้เฒ่านี้มีอะไรผิดปกติ” ป๋ายเสี่ยวฉุนเดินวนรอบร่างของผู้เฒ่าเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบก็มองไม่ออกถึงจุดที่ผิดปกติเลยยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า
“เอาอย่างนี้ ในเมื่อวิญญาณพวกนั้นไม่ไล่ตามเจ้า ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองไปทำอีกที…” ระหว่างที่ป๋ายเสี่ยวฉุนพูดก็หยิบเอายารวมวิญญาณออกมาหนึ่งเม็ดหมายจะส่งให้กับผู้เฒ่า
ผู้เฒ่าได้ยินประโยคนี้ร่างก็ราวกับจะระเบิดออก ดวงตาพลันเบิกกว้าง ไฟโทสะระเบิดตูมอย่างมิอาจสะกดกลั้นได้อีกต่อไป
“ไม่ไป แม่งเอ๊ย ต่อให้เจ้าสั่งคนทั้งพันแร่เนื้อเถือหนังข้า ข้าก็ไม่ไป!! ให้ตายยังไงก็ไม่ไป!!” ผู้เฒ่าแผดเสียงเดือดดาล เขาจะเป็นบ้าแล้วจริงๆ ภาพเหตุการณ์ที่ราวกับเดินอยู่บนเส้นบางๆ ซึ่งกั้นขวางความตายก่อนหน้านี้ทำให้เขาแทบแตกสลาย เวลานี้ร่างจึงสั่นเทิ้มไม่หยุด รวดร้าวปานจะขาดใจ
สายตาที่นักพรตนับพันซึ่งอยู่รอบด้านมองมายังผู้เฒ่าคนนี้ไร้ซึ่งความเห็นใจใดๆ ทั้งยิ่งมากด้วยความเย็นชาถึงขีดสุด แต่ก็รู้ดีว่าตอนนี้ขนาดความตายผู้เฒ่าก็ยังไม่กลัว ถ้าเช่นนั้นคิดจะให้เขาไปตรวจสอบเส้นทางก็ยิ่งเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงมีคนเดินออกมาประสานมือคารวะและกล่าวว่า
“ท่านไต้เท้า ข้าน้อยยินดีไปตรวจสอบเส้นทางให้ท่าน!”
“ไต้เท้า ข้าไปเอง!”
“ไต้เท้า เรื่องการตรวจสอบเส้นทางเช่นนี้ ข้าน้อยทำได้!” เห็นว่ามีคนทยอยกันเดินออกมา ป๋ายเสี่ยวฉุนก็รู้ว่าพวกเขาอยากตอบแทนบุญคุณ แต่มีหรือที่เขาจะยินยอม เพราะจะว่ากันตามจริงแล้วหากจะให้ปลอดภัยมากที่สุด ตนไปเองก็ย่อมมั่นคงยิ่งกว่าผู้ใด
ดังนั้นจึงหันไปมองหลุมลึกนั่นอีกครั้ง ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวฉุนจะกัดฟันกรอด
“ถอยกันไปให้หมด แล้วก็เจ้าด้วย ตะโกนทำไม คิดว่าเส้นเสียงตัวเองใหญ่นักหรือไง” ป๋ายเสี่ยวฉุนถลึงตาดุดันใส่ผู้ฝึกวิญญาณเฒ่า ระหว่างที่โบกมือก็จับร่างผู้เฒ่ามัด โยนให้ลูกน้องเสร็จสรรพ จากนั้นเขาก็หันไปมองหลุมลึก ลังเลอยู่ชั่วครู่ก็พลันก้าวออกไปข้างหน้า
พวกจ้าวหลงตะลึงงัน ขณะที่กำลังจะเอ่ยห้ามปราม แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับเข้าไปใกล้หลุมลึกอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเสียงของเขาก็ดังออกมาด้วย
“พวกเจ้าถอยห่างออกไปอีกหน่อย รอข้า” ป๋ายเสี่ยวฉุนไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ขณะที่มาหยุดอยู่นอกหลุมลึกด้วยใจที่วุ่นวายคิดไม่ตก นักพรตนับพันที่อยู่ด้านหลังเขาก็เริ่มตื่นตระหนก มีเพียงผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าเท่านั้นที่หัวเราะเสียงเย็นอยู่ในใจ แอบกัดฟันสาปแช่งไม่หยุด
“ข้าคือผู้ฝึกวิญญาณของแดนทุรกันดาร บางทีบนร่างอาจมีปราณของนครผียักษ์อยู่เสี้ยวหนึ่ง ดังนั้นวิญญาณพวกนั้นจึงไม่ไล่ตามข้า…ทว่าเจ้าลิงนี่คือนักพรต เหยียบเข้าไปในนั้นก็ย่อมตายแน่นอน!” ผู้เฒ่าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดวิญญาณพวกนั้นถึงได้ไม่ไล่ตามตน แต่พอครุ่นคิดหาสาเหตุก็รู้สึกว่าความคิดนี้ของตนอาจจะพอมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง ถึงแม้จะไม่แน่ใจนัก แต่กลับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนเหยียบเข้าไปข้างในจะถูกพวกวิญญาณเหล่านั้นฉีกทึ้งกลืนกินร่างไปเลย
และขณะที่เขากำลังหัวเราะเสียงหยัน คนอื่นกำลังตึงเครียดกันอยู่นั้น ดวงตาของป๋ายเสี่ยวฉุนก็เผยความเด็ดเดี่ยว
“น่าจะไม่มีปัญหา พวกมันต้องมองไม่เห็นข้าแน่นอน!” ป๋ายเสี่ยวฉุนลูบคลำหน้ากากที่สวมอยู่บนใบหน้าก่อนจะก้าวออกไปหนึ่งก้าว เหยียบลงไปในหลุมลึก
เขาเตรียมพร้อมไว้แล้วว่าหากท่าไม่ดี ต่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนเรือนกายจะปริแตกก็ต้องร่ายเวทอภินิหารที่ผสานรวมกับฟ้าดินอย่างก่อนหน้านี้ออกมาให้ได้ ขณะที่เดินลงไปในหลุมลึกด้วยความระมัดระวัง พวกวิญญาณด้านในที่ล่องลอยไปมากลับไม่มีสักตนที่มองเห็นเขา พวกมันยังคงลอยละล่องอยู่เช่นเดิม
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้พวกนักพรตนับพันที่อยู่ด้านนอกมองตาค้าง ผู้ฝึกวิญญาณเฒ่าก็ยิ่งตะลึงลาน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน…”
ป๋ายเสี่ยวฉุนฮึกเหิมขึ้นมาทันใด แต่ก็ยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ เดินไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มวิญญาณหลายหมื่นตน ตลอดทางมานี้ไม่มีวิญญาณตนใดแสดงท่าทีว่าเห็นการมาเยือนของเขาแม้แต่น้อย พวกมันทำราวกับมองไม่เห็นเขาอย่างไรอย่างนั้น
จนกระทั่งป๋ายเสี่ยวฉุนมาหยุดอยู่กลางฝูงวิญญาณ เขาก็รีบหยิบเอายารวมวิญญาณเม็ดหนึ่งออกมาบีบละเอียด
เสียงตูมดังหนึ่งครั้ง แรงดึงดูดมหาศาลระลอกหนึ่งแผ่ออกมาจากกลางมือของเขา พริบตาเดียวพอวิญญาณพยาบาทนับหมื่นรอบด้านกลายมาเป็นลูกวิญญาณก็ถูกป๋ายเสี่ยวฉุนเก็บไปทันที เวลาเดียวกันนี้ กระแสวิญญาณพลันเกิดความโกลาหล วิญญาณนับไม่ถ้วนแผดเสียงร้องหวีดโหยก่อนจะลอยหนีไปอย่างรวดเร็ว ป๋ายเสี่ยวฉุนตื่นตระหนกทันที แต่รออยู่ครู่หนึ่งก็พบว่าไม่ว่ากระแสวิญญาณเหล่านั้นจะบ้าคลั่งหรือพลุ่งพล่านแค่ไหนก็ยังมองไม่เห็นตน เขาจึงวางใจได้โดยพลัน
ยิ่งสัมผัสได้ว่าลูกน้องที่อยู่นอกหลุมกำลังมองมาที่ตนด้วยความตื่นตะลึงด้วยแล้ว ป๋ายเสี่ยวฉุนก็หัวเราะคิกคักอยู่ในใจ ถือโอกาสเอามือไพล่หลัง เชิดคางขึ้น วางมาดของยอดฝีมือผู้ลึกลับสุดจะหยั่ง
ภาพเหตุการณ์นี้เมื่ออยู่ในสายตาคนนอกกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง นัยน์ตาของพวกเขาที่มองเห็นคือวิญญาณในหลุมที่มีหลายแสนไปจนถึงหลายล้านหรืออาจจะมากกว่านั้นกำลังร้องคำรามแหบโหย แต่ละตนทำท่าหมายจะดับทำลายทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นบ้า คำรามผ่านไปมารอบกายป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างดุร้าย แถมยังมีวิญญาณก่อกำเนิดสีชาดบางส่วนที่มาปรากฏอยู่บนไหล่ของป๋ายเสี่ยวฉุนแล้วแผดเสียงคำรามไปรอบด้าน
ทว่าป๋ายเสี่ยวฉุนกลับยืนสงบนิ่งประหนึ่งไม่แยแสวิญญาณเหล่านั้นแม้แต่น้อย แถมอีกฝ่ายแค่โบกมืออย่างไม่ตั้งใจก็เก็บเอาวิญญาณก่อกำเนิดที่อยู่บนไหล่ไปได้โดยตรง
แสดงให้เห็นถึงท่วงท่าของยอดฝีมือผู้มากความสามารถ จัดการกับเหล่าวิญญาณได้อย่างง่ายดายไม่คณามือ!