Skip to content

A Will Eternal 75

บทที่ 75 ข้าถูกใส่ร้าย!!

เสียงคำรามกราดเกรี้ยวสะเทือนฟ้าดิน ต้นไม้รอบด้านพากันสั่นไหว ใบไม้ไม่น้อยร่วงกราวลงสู่พื้นดิน และยังมีลมบ้าคลั่งพัดกวาดให้ม้วนตลบขึ้น

ป๋ายเสี่ยวฉุนพอได้ยินเสียงคำรามด้วยความคั่งแค้นนี้ก็ตกใจจนเกือบสะดุ้งโหยง เงยหน้าขึ้นก็เห็นผู้เฒ่าโจวผมขาวโพลนเต็มศีรษะ เส้นเอ็นเขียวปูดโปน ลอยตัวอยู่กลางอากาศและกำลังพุ่งเข้ามาหา

ผู้เฒ่าโจวยามนี้สีหน้าท่าทางดุร้าย แทบไม่ต่างอะไรจากนกฟ่งเหนี่ยวตัวนั้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน…

“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าทำร้ายนกฟ่งเหนี่ยวของข้า วันนี้ต่อให้หลี่ชิงโหวมา ข้าก็ต้องสั่งสอนเจ้าแรงๆ สักทีให้ได้!” ผู้เฒ่าโจวคำรามอย่างแค้นเคือง เสียงดังราวฟ้าผ่าโหมสัดซาด มือขวาเอื้อมออกมาเตรียมคว้าตัวป๋ายเสี่ยวฉุนเอาไว้

มือที่เอื้อมมานี้ทำให้รอบด้านของป๋ายเสี่ยวฉุนราวกับถูกแช่แข็ง ใจเขาสั่นสะท้าน เปล่งเสียงร้องโหยหวน ผิวหนังตลอดร่างเปล่งแสงสีเงินวิบวับออกมาในพริบตานั้น เวลาเดียวกันนี้รอบกายเขาก็มีแสงสีขาวเปล่งประกาย โล่นกกระสาเทพพลันปรากฏตัวพรวดขึ้นมาทันที เมื่อมองไกลๆ ดูเหมือนเปลือกไข่อันหนึ่ง

“ฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนแล้ว!!” วินาทีที่แสงบนร่างป๋ายเสี่ยวฉุนเปล่งประกาย ความเร็วของเขาพลันระเบิดออก ภายใต้แรงกดดันของผู้เฒ่าโจว เขาก็พุ่งพรวดบินทะยานไปด้านหน้าอย่างไร้ซึ่งความลังเลใดๆ

ผู้เฒ่าโจวส่งเสียงแปลกใจเบาๆ แม้ว่าจะยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แต่เขาซึ่งเป็นนักพรตขั้นสร้างฐานรากขั้นต้น ต่อให้ใช้พลังแค่เสี้ยวเดียวคนพลังขั้นรวมลมปราณก็ยากจะหลุดพ้นไปได้ เวลานี้เห็นแสงคุ้มกันรอบกายป๋ายเสี่ยวฉุน เสียงของผู้เฒ่าโจวก็ดังออกไปอีกครั้ง

“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าอย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ ตั้งแต่เจ้าเข้าไปอยู่ในฝ่ายครัวไฟก็เริ่มสร้างหายนะให้แก่ข้า โสมคน หนวดเห็ดหลินจือที่ใส่ในน้ำแกงของข้าเจ้าก็ขโมยกินเสียหมด ไหนจะความคิดร้ายๆ ที่เปลี่ยนก้นถ้วยให้ตื้นขึ้นเจ้าก็เป็นตัวการ ตอนนี้ยังจะวางยานกฟ่งเหนี่ยวของข้าอีก!

วันนี้ข้าจะให้เจ้ารู้ว่า สำนักคือสถานที่ที่ควรให้ความเคารพ ไฉนเลยจะยอมให้เจ้าทำตัวเกเรก่อกวนไปทั่วได้!” ผู้เฒ่าโจวสะบัดร่างหนึ่งที ไล่ตามออกไปอีกครั้ง เรื่องพวกนั้นที่เกิดขึ้นในฝ่ายครัวไฟ พวกเขาที่เป็นผู้อาวุโสของสำนักล้วนรู้ชัดดีแก่ใจ

“จะโทษข้าไม่ได้นะ นกของท่านตัวนั้นมาแย่งยาไปเองต่างหาก ไม่เกี่ยวกับข้าจริงๆ!” ป๋ายเสี่ยวฉุนรู้สึกไม่เป็นธรรมอย่างถึงขีดสุด มองเห็นท่าทางเหี้ยมโหดของผู้เฒ่าโจว อีกทั้งตบะก็ยังลึกล้ำจนมิอาจประเมินได้ ตอนนี้เขาเพิ่มความเร็วสุดชีวิตจนร่างแทบจะกลายเป็นเงาที่มองเห็นไม่ชัด เผ่นโผนไปข้างหน้าเร็วจี๋

นกฟ่งเหนี่ยวเพศผู้ที่อยู่กลางอากาศตัวนั้น พอได้ยินคำพูดของป๋ายเสี่ยวฉุนก็เหมือนถูกถอนขนออก ขนตลอดร่างตั้งชันขึ้นมาหมด รีบเปล่งเสียงร้องแหลมทันที ตีปีกกระพือไปทางป๋ายเสี่ยวฉุน หากมันพูดได้ ยามนี้คงต้องตะโกนก้องบอกกับทุกคนว่า ป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นคนให้ยามันเอง มันไม่ได้ไปแย่งมา!!

“เจ้า…เจ้า…” ป๋ายเสี่ยวฉุนเห็นว่าเจ้านกฟ่งเหนี่ยวตัวนี้ใส่ร้ายตัวเอง ในใจก็ขัดเคืองอย่างถึงที่สุด เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตนฉลาดขนาดนี้ จะมีวันที่ถูกนกตัวหนึ่งใส่ร้ายเอาเสียได้

ในใจเขาโกรธเกลียดยิ่งนัก สายตาตกอยู่บนร่างนกตัวนั้น คิดไว้เรียบร้อยแล้วว่ารอเรื่องนี้ผ่านไปก่อน เจ้านกตัวนี้จะได้เห็นดีกันแน่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นตัวผู้ เขาก็ต้องหานกตัวผู้ที่แข็งแกร่งกว่ามาโค่นอีกฝ่ายลงให้ได้

“ยังจะกล้าเล่นลิ้น!” ผู้เฒ่าโจวทะยานเข้าหาอย่างรวดเร็ว ตรงดิ่งไปยังป๋ายเสี่ยวฉุน สะบัดปลายแขนเสื้อหนึ่งที พละกำลังมหาศาลระลอกหนึ่งก็กระแทกเข้าที่ร่างของป๋ายเสี่ยวฉุนโดยตรง แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับแค่เซไปก้าวเดียวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตรงกันข้ามกลับยืมแรงนั้นทำให้เผ่นได้เร็วยิ่งกว่าเดิม

ภาพนี้ทำให้ผู้เฒ่าโจวเบิกตากว้าง พลังสายนั้นของเขา หากเปลี่ยนเป็นลูกศิษย์คนอื่นต้องล้มคว่ำและหยุดลงทันที แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนดันไม่เป็นอะไรเลย

ใจป๋ายเสี่ยวฉุนพรั่นพรึง แรงเมื่อครู่นี้ทำให้เขาเจ็บเสียจนต้องแสยะปากแยกเขี้ยว ใจสั่นสะท้าน มองเห็นว่าผู้เฒ่าโจวเข้ามาใกล้ เขาจึงหยิบเอากระบี่วิหคทองออกมา พลังวิญญาณในร่างพลันระเบิดตูม พริบตาเดียววิหคทองก็กลายร่างเป็นรุ้งเส้นยาวสีทองพาป๋ายเสี่ยวฉุนดิ่งทะยานอยู่กลางอากาศ

ผู้เฒ่าโจวส่งเสียงหึขึ้นจมูก บินออกไปเช่นกัน ตามไล่ล่าไปพร้อมกับนกฟ่งเหนี่ยวข้างกาย

ใจของลูกศิษย์เขาเซียงอวิ๋นแต่ละคนที่มองดูอยู่ล้วนชื่นมื่นยิ่งนัก มีความสุขบนความทุกข์ของป๋ายเสี่ยวฉุน เมื่อเห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเผ่นกระโจนไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อเอาชีวิตรอด โทสะในใจของทุกคนก็เหมือนได้ระบายออก

รอยยิ้มบนใบหน้าเฉินจื่ออ๋างและจ้าวอี้ตัวก็ยิ่งผลิออกราวดอกไม้บาน ส่วนหลิวเอ้อโก่วที่เรียกตัวเองว่าท่านหมาป่าก็แทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว

“สวรรค์มีตาแท้ๆ!!”

กลางท้องฟ้าเขาเซียงอวิ๋น ป๋ายเสี่ยวฉุนกรีดร้องเสียงโหยหวน เสียงนั้นเศร้าสลดมากพอจะทำให้คนที่ได้ยินล้วนขนพองสยองเกล้ากันถ้วนทั่ว แม้จะมองเห็นไม่ชัดว่าเป็นเสียงร้องของใคร

“ผู้เฒ่าโจว นกของท่านโกหก ที่ข้าพูดน่ะเรื่องจริง นกท่านน่ะโกหก!” ป๋ายเสี่ยวฉุนอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เหยียบอยู่บนเส้นสีทองทะยานรุดหน้าอย่างไม่คิดชีวิต

“หุบปาก!” ผู้เฒ่าโจวได้ยินประโยคเดี๋ยวก็นกของท่านอย่างนั้น เดี๋ยวก็นกของท่านอย่างนี้ของป๋ายเสี่ยวฉุน โดยเฉพาะมองเห็นว่ารอบด้านมีคนไม่น้อยที่พอได้ยินก็ทำหน้าปุเลี่ยน เขาจึงทั้งโกรธทั้งอายคำรามเสียงดัง มือขวาทำมุทราชี้ไป ลมดรรชนีเส้นหนึ่งบินพรวดออกมา เร่งความเร็วพุ่งเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน

“แต่ข้าพูดจริงนี่นา นกของท่านใส่ร้ายข้า!” ป๋ายเสี่ยวฉุนอยากจะอธิบาย แต่เสียงลมคำรามมาหา พริบตาเดียวลมดรรชนีนั้นก็เข้ามาใกล้ ทำเอาป๋ายเสี่ยวฉุนตกใจจนตัวสั่น ความเร็วในตัวสำแดงเดชออกมาเกินปกติ พุ่งห่างออกไปไกลอีกครั้ง หลบลมดรรชนีนั้นได้ ลมดรรชนีนั้นกระแทกเข้าที่ก้อนหินด้านข้าง เสียงตูมดังหนึ่งที รูโหว่เล็กๆ ปรากฏขึ้นมา

“ข้าคือศิษย์น้องของท่านเจ้าสำนัก อาจารย์ของข้าคือท่านหลิงหลัวนะ!” ป๋ายเสี่ยวฉุนเห็นรูเล็กนั่น หนังหัวก็ให้ชาหนึบ รีบพูดชื่อคนหนุนหลังตัวเองออกมาทันที

“จะใครก็ช่วยเจ้าไม่ได้!” ผู้เฒ่าโจวขมวดคิ้ว ด้วยฐานะของเขา การไล่ล่าป๋ายเสี่ยวฉุนอย่างในตอนนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกขายหน้าเล็กน้อย แต่เขาโมโหจริงๆ นี่นา โดยเฉพาะเห็นๆ อยู่ว่าตนเองยังไม่ทันแตะต้องโดนตัวอีกฝ่าย แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับร้องโหยหวนราวหนูที่ถูกเหยียบหางอย่างไรอย่างนั้น

ในเขาเซียงอวิ๋น สวีเป่าไฉเงยหน้ามองภาพนี้ สีหน้าของเขาซับซ้อน ไม่ได้เป็นห่วงป๋ายเสี่ยวฉุน กลับกันคือเห็นใจผู้เฒ่าโจวที่เป็นฝ่ายไล่ล่านั่นมากกว่า นัยน์ตาเผยแววย้อนความทรงจำ นึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งอดีต

“ป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” ผู้เฒ่าโจวราวกับนกต้าเผิง[1] พริบตาเดียวก็โผเข้ามาใกล้ นกฟ่งเหนี่ยวที่อยู่ด้านข้างเปล่งเสียงร้องลำพองใจ ทั้งยังกระพือปีกชี้มาที่ป๋ายเสี่ยวฉุนอยู่ตลอดเวลา

“ข้าคือศิษย์ผู้ทรงเกียรติ ข้าเคยหลั่งเลือดเพื่อสำนัก ข้าเคยสร้างคุณความดีเพื่อสำนัก!!” ป๋ายเสี่ยวฉุนร้องคร่ำครวญ พุ่งหนีอย่างบ้าคลั่งสุดชีวิต เสียงของเขาดังไปทั่วทิศ แม้แต่เขาชิงเฟิงและเขาจื่อติ่งเองก็ยังมีคนไม่น้อยที่สัมผัสถึง ต่างพากันเงยหน้าขึ้นไปมอง หลังจากเห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนถูกไล่ฆ่า แต่ละคนก็มีสีหน้าเหยเก มีบางคนที่กลั้นไม่ไหว หัวเราะพรืดออกมา

“ศิษย์ผู้ทรงเกียรติมีไว้ให้คนตาย ข้าจะช่วยให้เจ้าทรงเกียรติสมชื่อ!” ผู้เฒ่าโจวไม่ได้คิดจะฆ่าป๋ายเสี่ยวฉุนจริงๆ แต่ความคิดที่ว่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายแรงๆ เสียหน่อยนั้นดุเดือดนัก ขณะเดียวกันกับที่ข่มขู่ มือขวาก็ยกขึ้นสะบัดไปข้างหน้า พลันลมบ้าคลั่งแผ่กระจาย ทำให้ลมรอบกายของป๋ายเสี่ยวฉุนปรากฏเป็นระลอกคลื่นขึ้นมาทันที

ป๋ายเสี่ยวฉุนพอได้ยินประโยคนี้ ทั้งร่างกายยังถูกปกคลุมไปด้วยคลื่นลมรอบด้าน เสียงที่เปล่งก็ยิ่งโหยหวนกว่าเดิม พลังวิญญาณในร่างหลอมรวมเข้ากับกระบี่วิหคทอง ทำให้แสงสีทองขยายตัวขึ้นในพริบตา พอพาเขาถลาออกไปจากคลื่นลมได้ ก็ดับแสงลงตรงจุดระหว่างภูเขาชิงเฟิงและภูเขาจ้งเต้า

แสงสีเงินตลอดร่างป๋ายเสี่ยวฉุนเปล่งประกายวิบวับ ร่างถลาพรวดออกมา เสียงร้องโหยหวนดังต่อเนื่อง วิ่งทะยานอย่างรวดเร็ว เขารู้ว่าหลี่ชิงโหวไม่อยู่ในสำนัก เวลานี้ที่พึ่งเดียวของเขาก็คือศิษย์พี่เจ้าสำนักแล้ว จึงหนีตายตรงดิ่งเข้าหาภูเขาจ้งเต้า

การที่ป๋ายเสี่ยวฉุนหนีพ้นพลังของตัวเองได้หลายครั้งติดต่อกัน ในใจผู้เฒ่าโจวตกตะลึงและประหลาดใจ แอบคิดว่าในเมื่อป๋ายเสี่ยวฉุนสามารถเอาชีวิตรอดมาจากวิกฤตของตระกูลลั่วเฉินได้ แปลว่าเขาต้องมีจุดที่สร้างความตะลึงได้อย่างแท้จริง

แต่รอบด้านมีคนมากมายมองดูอยู่ ทำให้ผู้เฒ่าโจวออกจะขายหน้าอยู่มาก จึงยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ตบะตลอดร่างแผ่กระจาย ไล่ตามไปอีกครั้ง

“ศิษย์พี่เจ้าสำนักช่วยข้าด้วย!” ป๋ายเสี่ยวฉุนร้องเสียงดังโหวกเหวก ความเร็วยิ่งมากกว่าเดิม ท่ามกลางเสียงดังสวบสาบ เขาต้องคอยหลบเลี่ยงผู้เฒ่าโจวที่เข้ามาใกล้อยู่ตลอดเวลา โจนทะยานขึ้นไปบนเขาจ้งเต้า เดิมทีเขาก็ปราดเปรียวสุดๆ อยู่แล้ว นี่ยังกระโดดไปกระโดดมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ขนาดผู้เฒ่าโจวเองก็ยังรู้สึกว่าเขาไหลลื่นยิ่งกว่าปลาไหล

ในความเป็นจริงหากเขาใช้วิชาบางอย่างที่อยู่ในขั้นสร้างฐานราก ก็ใช่ว่าจะหยุดป๋ายเสี่ยวฉุนไม่ได้ ทว่าเขาแค่อยากสั่งสอนเท่านั้น หากใช้คาถาเหล่านั้นขึ้นมา เกรงว่าถ้าควบคุมแรงได้ไม่ดีจะเป็นการเอาชีวิตน้อยๆ ของป๋ายเสี่ยวฉุนไปจริงๆ

แต่ตอนนี้ตนยังไม่ทันแตะโดนป๋ายเสี่ยวฉุน เจ้าป๋ายเสี่ยวฉุนนี่ดันทำท่าน่าเวทนาเปล่งเสียงร้องโหยหวนได้ถึงเพียงนี้ ความโกรธในใจผู้เฒ่าโจวก็ยิ่งพุ่งสูง มือขวาทำมุทราชี้ไปกลางอากาศหนึ่งที ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือร่างป๋ายเสี่ยวฉุน อยู่ๆ ก็พลันปรากฏเมฆทะมึน สายฟ้าเส้นหนึ่งแลบแปลบปลาบออกมา คำรามตรงเข้าหาป๋ายเสี่ยวฉุน

ดวงตาป๋ายเสี่ยวฉุนเบิกค้าง มองเห็นว่าสายฟ้าเส้นนี้ร่วงลงมา แถมในนั้นยังแฝงไว้ด้วยพลังอันน่าตื่นตะลึง ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงวิกฤตที่รุนแรง ยามนี้หัวสมองของเขาขาวโพลน ดวงตาแดงขึ้นมาเล็กน้อย มือทั้งคู่ยกขึ้นทำมุทราชี้ไปข้างหน้าทันที พริบตานั้นบนหัวของเขาพลันปรากฏภาพมายาลมปราณสีม่วงพุ่งเข้าหาสายฟ้าเส้นนั้น

ผู้เฒ่าโจวตะลึงงัน เดิมทีเขาคิดจะข่มขู่ป๋ายเสี่ยวฉุนเท่านั้น สายฟ้าเส้นนี้มองดูแล้วเหมือนจะฟาดใส่ป๋ายเสี่ยวฉุน แต่ในความเป็นจริงแล้วแค่ผ่าใส่ข้างกายเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้ป๋ายเสี่ยวฉุนดันตอบโต้กลับ เขาดึงพลังกลับมา แต่กลับดึงคืนมาไม่ได้ทั้งหมด

พริบตานั้นลมปราณม่วงของป๋ายเสี่ยวฉุนพลันบินออกไปชนเข้ากับสายฟ้าเส้นนั้นกลางอากาศ เหมือนจะเห็นกระถางสีม่วงใบหนึ่งปรากฎขึ้นมารางๆ หลังจากปะทะกับสายฟ้า เสียงกัมปนาทดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน หมอกสีม่วงพังทลาย สายฟ้าเส้นนั้นก็มืดสลัวลงไปเช่นกัน แม้ว่าจะยังพุ่งผ่าลงด้านข้าง แต่ความแรงก็ลดลงมาถึงครึ่งหนึ่ง

ป๋ายเสี่ยวฉุนหน้าซีดขาว ร้องโหยหวนอีกครั้งแล้วทะยานออกไปไกล

“ศิษย์พี่ช่วยข้าด้วย อาจารย์ช่วยข้าด้วย อาจารย์ขอรับ วิญญาณของท่านผู้อาวุโสบนสวรรค์ ช่วยข้าด้วยเถิด!!”

ผู้เฒ่าโจวชะงักฝีเท้า มองไปกลางอากาศแล้วก็มองป๋ายเสี่ยวฉุนอีกที นัยน์ตาเผยแววตกตะลึง สายฟ้าของเขาเส้นนั้น แม้ว่าจะดึงพลังวิญญาณกลับมาได้ครึ่งใหญ่ แต่อีกครึ่งเล็กที่เหลือก็มากพอจะทำให้นักพรตขั้นรวมลมปราณคนหนึ่งเจ็บหนัก แต่ป๋ายเสี่ยวฉุนกลับแค่หน้าซีด เลือดลมตีกลับนิดหน่อยเท่านั้น แม้แต่รอยแผลก็ยังไม่มี

“นั่นมัน…ลมปราณม่วงแปลงกระถาง ก่อนหน้านี้ตู้หลิงเฟยและโหวอวิ๋นเฟยเคยบอกว่าป๋ายเสี่ยวฉุนสำเร็จพลังลมปราณม่วงแปลงกระถาง แต่พลานุภาพเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่นักพรตรวมลมปราณขั้นเจ็ดคนหนึ่งจะมีได้ เด็กคนนี้มีพลังสู้รบถึงขั้นรวมลมปราณที่แปดที่เก้า หรืออาจจะมากยิ่งกว่านั้นเสียด้วย!”

นัยน์ตาผู้เฒ่าโจวฉายแววประหลาดใจ มองเห็นว่าป๋ายเสี่ยวฉุนเป็นศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจถึงเพียงนี้ โทสะในใจจึงลดลงไปเยอะมาก เพียงแต่ยามนี้เสียงร้องโหยหวนของป๋ายเสี่ยวฉุนบาดหูมากเกินไป เขาจะร้องก็ไม่ได้หัวเราะก็ไม่ออก ขณะที่ทำเสียงฮึดฮัดเย็นชาก็ตีหน้าเคร่งไล่ตามไปอีกครั้ง

“ไม่ว่าจะเป็นเพราะตัวนกฟ่งเหนี่ยว หรือตัวของป๋ายเสี่ยวฉุนเอง เด็กคนนี้นิสัยเกเร ถือโอกาสนี้ข่มขู่เสียเลย เขาจะได้สำรวมขึ้นมาบ้าง”

———

[1] ต้าเผิง (大鹏) นกตัวใหญ่ในตำนานของจีน คล้ายนกอินทรี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version