Skip to content

A World Worth Protecting 277

บทที่ 277 สังหารโจวเฟย

ไม่ว่าแสงของกระบี่ตกกระทบไปที่ใด ความตายก็ตามไปเป็นเงาตามตัว!

ตามที่แม่นางน้อยผู้สวมหน้ากากนิลได้กล่าวไว้ เคล็ดวิชานั้นเอาไว้ใช้เพื่อขู่ให้ศัตรูกลัวเท่านั้น แต่หวังเป่าเล่อได้นำเคล็ดวิชามาประยุกต์ใช้ใหม่ เขาใช้คลื่นพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันเพื่อสร้างภาพมายาอันชวนครั่นคร้าม ปลดปล่อยความกลัวเข้าเกาะกุมจิตใจศัตรู ส่งผลให้พลังปราณของอื่นฝ่ายระส่ำระสาย

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ…การปรากฏตัวขึ้นของหวังเป่าเล่อราวกับพญายมมาเยือน       ชายหนุ่มสร้างเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด เสียงปะทุของประคำหมอกเวทเคลื่อนย้าย และเสียงระเบิดกัมปนาทดังสนั่นเอาไว้เบื้องหลังในทุกๆ แห่งหนที่ย่างกรายไป       เขาผละออกมาจากกลุ่มผู้ฝึกตนพร้อมเสียงระเบิดดังสนั่น บนพื้นขณะนี้ดารดาษไปด้วยซากศพ

ผู้ฝึกตนที่เหลือก็บาดเจ็บ ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายสามคนหายไปในประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายและผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ก็ถอยหนีอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาจ้องมองหวังเป่าเล่อนั้น สายตาของพวกเขาฉาบเคลือบไปด้วยความหวาดกลัวอย่างท่วมท้น

หวังเป่าเล่อหอบหายใจเบาๆ นัยน์ตาเขาวาวโรจน์ ชายหนุ่มเริ่มประเมินพลังการต่อสู้ของตนหลังจากการปะทะกับผู้ฝึกตนกลุ่มใหญ่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งๆ หน้า เขาซัดเอาประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายใส่ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายกลุ่มที่สาม ก่อนจะสังหารผู้ฝึกตนที่เหลืออยู่เพียงหยิบมืออย่างง่ายดาย

ข้ารับมือผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายได้แล้ว! หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขาเมินเหล่าผู้ฝึกตนที่วิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัวและหันกลับไปหาโจวเฟยผู้ยืนอยู่ห่างออกไป ก่อนจะแสยะยิ้มกว้าง

“โจวเฟย ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว” หวังเป่าเล่อทักพลางเดินทอดน่องเข้าไปหา โจวเฟยหน้าซีดเผือด ก่อนจะล่าถอยอย่างเร่งรีบพลางร้องตะโกนอย่างตื่นตระหนก

“พวกเรามาโจมตีพร้อมๆ กันเถิด หากเจ้านี่หลุดเข้าไปในหลุมได้ เขาจะต้องทำลายแผนของตระกูลเราจนป่นปี้ แล้วพวกเราก็จะถูกลงโทษกันหมด!”

ผู้ฝึกตนทุกคนต่างก็ลังเลเมื่อได้ยินสิ่งที่โจวเฟยพูด ตั้งแต่หวังเป่าเล่อปรากฏตัวขึ้น ฝีมือการต่อสู้และความเหี้ยมโหดที่ชายหนุ่มแสดงออกมาภายในเวลาแสนสั้น ก็ทำให้พวกเขาแทบลมจับด้วยความหวาดกลัว

หวังเป่าเล่อได้สังหารทั้งผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นต้นและชั้นกลางอย่างง่ายดาย แม้ว่าผู้ฝึกตนเหล่านั้นจะรุมสกรัมเขา ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีเพียงแต่      ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายเท่านั้นที่หวังเป่าเล่อออกจะกลัวเกรงอยู่บ้าง       แม้กระนั้นเขาก็ยังมีความสามารถพิเศษเคลื่อนย้ายเอาศัตรูที่ไม่พึงประสงค์ให้หายไปได้อีก

เมื่อมีความสามารถเหล่านี้เกื้อหนุนอยู่ ก็ไม่อาจมีใครเอาชนะหวังเป่าเล่อได้แล้วทั้งเขตจันทราเวทแห่งนี้!

ในขณะที่ผู้ฝึกตนคนอื่นๆ ต่างก็ยังนิ่งงันคิดไม่ตกหลังจากที่โจวเฟยตะโกนเรียก หวังเป่าเล่อก็ฉวยโอกาสเคลื่อนไหวอย่างฉับพลัน ชายหนุ่มเร่งความเร็วขึ้นมาอย่างมหาศาลภายในระยะเวลาสั้น ทิ้งร่างเงาของตนเอาไว้ด้านหลังเป็นทางยาว โจวเฟยขนหัวลุกซู่ขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหวังเป่าเล่อมาโผล่อยู่ตรงหน้าตัวเองในชั่วเวลาเพียงอึดใจ

“หวังเป่าเล่อ หยุดก่อน โปรดฟังข้าก่อนเถิด ข้า…” หัวใจของโจวเฟยเต้นระรัวขณะที่เขาเริ่มวิงวอนขอความเมตตา หวังเป่าเล่อเมินเสียงอ้อนวอนก่อนจะสะบัด    มือขวาออก กระบี่ปรากฏขึ้นบนมือของเขาในบัดดล มันส่องแสงเจิดจ้า

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดและหวาดกลัวดังลั่นออกมาจากปากของโจวเฟย แขนขวาของเขาถูกตัดขาดกระเด็นไป และในพริบตาที่แขนหลุดกระเด็นจากตัวนั้น มันก็ระเบิดเป็นเสี่ยงในทันที!

ใบหน้าของโจวเฟยขณะนี้ไม่หลงเหลือสีเลือดอยู่อีกต่อไป เขาพยายามจะดิ้นรนหนีทั้งที่เลือดท่วมกายอยู่เช่นนั้น ความหดหู่และสิ้นหวังฉายวับอยู่ในแววตา ขณะที่ความเคียดแค้นเกลียดชังอัดแน่นอยู่ในหัวใจ แต่กระนั้นความรู้สึกเหล่านั้นก็พลังทลายไปหมดต่อหน้าหวังเป่าเล่อ เพียงโจวเฟยขยับถอยหลังไปก้าวเดียว สายตาอัน      เหี้ยมเกรียมของหวังเป่าเล่อก็แวววาวขึ้นมา น้ำเสียงอันเยียบเย็นของผู้ล่าขณะนี้ลอยมากระทบหูโจวเฟย

“แขนข้างหนึ่ง…เป็นค่าที่เจ้าไล่ล่าสังหารข้าอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย…”

“แขนอีกข้างหนึ่ง…เป็นค่าที่เจ้าพยายามรวมหัวกับสำนักรุ่งสางจักรพิภพไล่ล่าข้า…” เมื่อหวังเป่าเล่อพูดจบ เสียงโหยหวนก็ดังขึ้นมาจากปากโจวเฟยอีกครั้ง แขนอีกข้างของเขาถูกกระบี่ของหวังเป่าเล่อตัดขาด ระเบิดสลายไปในพริบตา!

“ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ต่อไปก็ขาของเจ้า…เป็นค่าที่เจ้ากระหายอยากจะได้อาวุธเวทของข้า!” หวังเป่าเล่อพูดเนิบๆ ขณะที่เขาเดินวนอยู่รอบตัวโจวเฟย ชายหนุ่มเงื้อมือข้างที่กำกระบี่ขึ้น ก่อนที่คมกระบี่จะตวัดลงมาหั่นเอาขาขวาของโจวเฟยขาดสะบั้นไป!

กลิ่นสาบโลหิตลอยปกคลุมอากาศ โจวเฟยล้มลงกระแทกพื้นเสียงดัง เขาไม่อาจหนีได้อีกต่อไปเพราะสูญเสียแขนทั้งสองข้างและขาขวาไปแล้ว เรือนผมบนศีรษะ    แผ่สยายไปทั่ว ชายหนุ่มตัวสั่นพลางกรีดร้อง ความหวาดกลัวและสิ้นหวังถึงขีดสุดฉายชัดอยู่ในดวงตาทั้งคู่

ผู้ฝึกตนที่รายล้อมอยู่นั้นถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นเหตุการณ์ ผู้ที่อยู่ในระดับ     ลมหายใจเที่ยงแท้ถึงกับถอยกรูดไปในทันที ในสายตาพวกเขาขณะนี้หวังเป่าเล่อดูราวกับปีศาจจากขุมนรกก็ไม่ปาน

กระทั่งผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นเองต่างก็ผงะถอยด้วยความตกใจ มีราว         เจ็ดถึงแปดคนที่ดวงตาทอประกายแวววับ แต่พวกเขาก็ไม่ได้พยายามออกมาหยุด   หวังเป่าเล่อเอาไว้แต่อย่างใด…

“ขาอีกข้างของเจ้า เป็นค่าที่…” หวังเป่าเล่อจ้องมองโจวเฟยอยู่เนิ่นนาน เขาจนถ้อยคำไปชั่วขณะ ก่อนจะตัดขาอีกข้างออก

“เป็นค่าที่ข้าเกลียดขี้หน้าเจ้าชะมัด!” หวังเป่าเล่อกล่าว นัยน์ตาที่เบิกโพลงของโจวเฟยจ้องเขม็งไปยังกระบวนดาบสุดท้ายของกระบี่ที่พุ่งเข้ามายังหว่างคิ้ว ก่อนจะตัดผ่านร่างของเขาไปอย่างง่ายดาย เขาตายคาที่ทันที!

เมื่อเห็นดังนั้นแล้วผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นเจ็ดแปดคนก่อนหน้านี้ที่ดวงตา      ทอประกาย ต่างก็พากันเรียกผนึกมือขึ้นมา ส่องไปยังร่างไร้วิญญาณของโจวเฟยทันที

ศพของเขาพลันสั่นไหวขึ้นมา เงาดำทมิฬผุดขึ้นมาจากร่างของโจวเฟย เงานั้นไม่มีรูปลักษณ์ชัดเจนแถมยังพร่าเลือน มันเข้าไปห่อหุ้มรอบอาวุธเวทของหวังเป่าเล่อเอาไว้ ก่อนส่งเสียงกรีดร้องเสียงแหบแห้ง เสียงกรีดร้องที่ฟังแทบไม่ได้ยินนั้นจู่โจมมุ่งเป้าไปยังจิตใจของหวังเป่าเล่อโดยเฉพาะ

แววอาฆาตสะท้อนวาบอยู่ในดวงตาของผู้ฝึกตนทั้งแปด พวกเขาพุ่งเข้าใส่หวังเป่าเล่อพร้อมกันอย่างฉับพลัน

“ตายเสียเถอะ!”

ท่ามกลางเสียงกัมปนาทที่ดังอื้ออึง คาถาเวทและสมบัติเวทจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดขึ้นรอบๆ กายของหวังเป่าเล่อ พัดเอาฝุ่นควันตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ         แต่ไม่นานนัก เสียงอุทานด้วยความตกตะลึงก็ดังระงมขึ้นมาจากในดงฝุ่นนั้น ผู้ฝึกตนทั้งแปดกระโจนถอยหลังออกมาอย่างเร่งรีบ ทว่าก็ยังไม่ทันการเสียแล้ว แสงจากกระบี่ตวัดวาบออกมาเป็นวงโค้งกว้างใหญ่ ผู้ฝึกตนเหล่านั้นศีรษะขาดกลางอากาศทันที…

การโจมตีนั้นเกิดขึ้นเร็วเสียจนไม่มีใครตั้งรับได้ทัน

เมื่อฝุ่นจางลงก็ปรากฏร่างสูงร่วมสิบเมตรยืนตระหง่านอยู่ เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่าร่างนั้นคือหุ่นเชิดหลายสิบที่ต่อตัวกันเป็นโล่!

หุ่นเชิดเหล่านั้นเริ่มแตกตัวก่อนจะสลายลงเป็นชิ้นๆ เผยให้เห็นเกราะกำบังกว่าสิบชั้น ผู้ที่อยู่ภายใต้เกราะป้องกันนั้นก็คือหวังเป่าเล่อ ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่ปลายก้อย

เหตุการณ์นั้นทำให้นัยน์ตาของผู้ที่ยืนมองอยู่ลุกวาว ความตื่นตะลึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ผู้ฝึกตนที่่ก่อนหน้านี้คิดจะโจมตีหวังเป่าเล่อก็กลับถอดใจกันไปสิ้น

หวังเป่าเล่อขณะนี้นั้นแข็งแกร่งเกินไป…การต้องมาเผชิญหน้ากับยอดฝีมือเช่นเขาภายในเขตจันทราเวทแบบนี้ ไม่ว่าเป็นใครก็อาจจะถอดใจกันได้ง่ายๆ

ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งหันมาจ้องมองเหล่าผู้ฝึกตนที่เหลือ ยังคงมีผู้ที่บรรลุขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายหลงเหลืออยู่ประปราย พวกเขาเหล่านั้นยังคงสงบเยือกเย็น นอกจากจะไม่ถอยหนีแล้ว ยังพุ่งตรงเข้ามาหาหวังเป่าเล่ออีกด้วย

เจตนาของพวกเขาชัดเจนยิ่ง พวกเขาไม่ต้องการจะต่อสู้กับชายหนุ่ม เพียงแต่ต้องการจะถูกเคลื่อนย้ายไปให้ไกลจากที่แห่งนี้เท่านั้น!

ผู้ฝึกตนเหล่านี้ไม่ใช่คนโง่เขลา พวกเขารู้ดีว่าหวังเป่าเล่อต้องการจะเข้าไปสำรวจหลุมยักษ์แห่งนี้ และหากชายหนุ่มหลุดเข้าไปได้ พวกเขาจะต้องถูกทางตระกูลลงโทษอย่างหนักเป็นแน่ ทว่าหากพวกเขาถูกหวังเป่าเล่อใช้หมอกเวทเคลื่อนย้ายไป    ตำแหน่งอื่น ความรับผิดชอบที่พวกเขาต้องแบกรับก็คงจะเบาลงอย่างมหาศาล

หวังเป่าเล่ออ่านความคิดของเหล่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายออกทันที แผนนั้นช่างตื้นเขินนัก แต่หากพวกเขาไม่ได้คิดจะมีปัญหากับหวังเป่าเล่อ ชายหนุ่ม     ก็จะไม่ตามรังควานพวกเขาเช่นกัน อย่างไรเสียทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้มีความแค้นอันใด  ต่อกัน…

หากพวกท่านต้องการเช่นนั้น ข้าก็ไม่ขัดข้อง! หวังเป่าเล่อซัดประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายออกไปหนึ่งกำมือด้วยการโบกมือขวาเพียงครั้งเดียว ประคำระเบิดและ   ส่งหมอกกระจายออกไป เหล่าผู้ฝึกตนชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเร่งความเร็วพุ่งเข้าไปหาหมอกนั้น ผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นกลางเพิ่งจะมาได้สติและพากันพุ่งเข้าหาหมอกอย่างเร่งรีบบ้าง ต่างคนต่างพากันวิ่งแข่งแย่งกันเข้าไปในดงหมอก…

เหล่าผู้ฝึกตนที่รู้สึกตัวช้าต่างก็ได้เพียงจ้องมองเมื่อหมอกนั้นสลายตัวไป พวกเขาหันหน้าไปมองหวังเป่าเล่อและหันกลับมามองหน้ากันอยู่ไปมา ก่อนจะแตกฮือถอยหนีกันอย่างไม่รอช้า ทิ้งฐานที่มั่นไว้โล่งโจ้งก่อนจะหายตัวไปกับสายลม ในไม่ช้า       ทั้งฐานที่มั่นนั้นก็เหลือเพียงหวังเป่าเล่อและซากศพที่กองเกลื่อนอยู่ทั่วบริเวณ         ไม่มีชีวิตมนุษย์อื่นใดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป

ในสองวันที่ผ่านมานี้ข้าฆ่าคนไปมากกว่าที่เคยฆ่ามาตลอดยี่สิบปีเสียอีก…หวังเป่าเล่อหลับตาลง ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน เขารู้สึกถึงความกระหายเลือดในใจที่ค่อยๆ ดับมอดลง ก่อนจะลืมตาขึ้นและจ้องมองไปยังหลุมยักษ์ตรงหน้าเขา

ข้าจะต้องล้างแค้น!

สิ่งที่ขุมอำนาจทั้งสองและต้นไม้ยักษ์ต้องการ…ข้าจะแย่งมาให้ได้ หากแย่งมาไม่ได้ข้าก็จะทำลายด้วยมือตนเอง จะไม่มีใครอื่นได้ไปเป็นอันขาด! นัยน์ตาของ      หวังเป่าเล่อส่องประกาย เขาก้าวยาวๆ เข้าไปในหลุมยักษ์ในทันที!

คลื่นความร้อนพวยพุ่งออกมาปะทะกายหวังเป่าเล่อทันทีที่เขาเข้าไปด้านใน       มีแสงสีแดงฉานฉายออกมาจากส่วนที่ลึกเข้าไป ราวกับว่ามีบางอย่างกำลังถูกหลอมขึ้นข้างในนั้น ความรู้สึกนี้คล้ายกันกับเมื่อคราวที่เขาค้นพบถ้ำรอยแยก สถานที่ตั้งของหม้อหลอมสามขาเล็กก่อนหน้านี้

รากไม้ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวกับชั้นหินรายล้อมอยู่รอบตัวเขา

หวังเป่าเล่อหรี่ตาลง เขารู้ดีว่าผู้ฝึกตนที่อยู่ในนี้ต้องเป็นผู้บรรลุขั้นกำเนิดแก่นในแล้วเป็นแน่ ชายหนุ่มพลิกฝ่ามือและหยิบเอาประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายออกมา     เต็มกำมือ ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปด้านในทันที!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version