บทที่ 363 ขุนนางระดับสี่ชั้นสูง
การทดสอบของเขตนครใหม่ของดาวอังคารจบลงในที่สุด มันเป็นประสบการณ์การรับชมที่น่าตื่นตาตื่นใจ จนทำให้ทุกคนในสหพันธรัฐที่ดูอยู่ตั้งแต่ต้นแทบหัวใจหยุดเต้น
หวังเป่าเล่อเป็นเป้าความสนใจตั้งแต่แรก เขาดึงดูดสายตาของทุกคนที่ดูอยู่ให้ จับจ้องไปที่ตนเองตั้งแต่ปรากฏกาย และตรึงความสนใจของคนดูเอาไว้ได้อยู่หมัด จนจบการแข่งขัน
ผู้คนทั่วสหพันธรัฐรู้จักตัวตนของหวังเป่าเล่อมากขึ้น พวกเขาเห็นหนุ่มอ้วนที่ ขุดหลุมฝังตัวเอง เห็นนักหลอมอาวุธเวทที่ใช้ความฉลาดหลักแหลมและโทรโข่งยักษ์ในการต่อกรกับเหตุอสูรหลั่งไหล เห็นชายนิสัยเสียที่พึมพำกับตนเองและเตะลา ของตน นอกจากนี้พวกเขายังเห็นชายผู้กล้าหาญ ที่บุกเดี่ยวเข้าไปในฝูงเหล่าอสูรเพื่อสังหารจ่าฝูง…
พวกเขาเห็นชายผู้น่าประทับใจที่ปล่อยพลังลึกลับไล่กองทัพอสูรเสียแตกกระเจิง เห็นการโจมตีอันแสนตื่นตาตื่นใจของปราการนิรันดร์ และท้ายที่สุด…เหตุการณ์ที่ทำให้พวกเขาจดจำหวังเป่าเล่อได้ไม่รู้ลืม…คือการโยนแผ่นหยกเคลื่อนย้ายทิ้ง เพื่อให้ตัวเองไม่เหลือทางออกอื่นนอกจากสู้จนตัวตายจนได้รับชัยชนะมาครอง!
ความมุ่งมั่น เด็ดขาดจนค่อนข้างเหี้ยมหาญของหวังเป่าเล่อ ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ต่อหน้าทุกชีวิตในสหพันธรัฐ ไม่ใช่เพียงผู้ชมธรรมดาเท่านั้น แม้แต่ เหล่าวีรบุรุษของแต่ละกลุ่มอำนาจยังเงียบงันไปเมื่อได้เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มเลือกทำ
ความคิดเดียวที่ปรากฏในใจพวกเขาก็คือ…พวกเขาจะไม่มีวันตั้งตัวเป็นศัตรูกับหวังเป่าเล่อ นอกเสียจากว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ
ทุกคนคิดย้อนไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเขตจันทราเวท ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจมีคำถามหรือข้อกังขา แต่เมื่อนำสิ่งที่เกิดขึ้นในการทดสอบมาเทียบกับเหตุการณ์ในเขตจันทราเวทแล้ว ทุกคนก็เข้าใจอย่างถ่องแท้…ว่าหวังเป่าเล่อเป็นคนที่กล้าเล่นกับความตาย!
ในยุคแห่งความสงบสุข ผู้ที่มีนิสัยเช่นนี้หากไม่ตายก็ใช้ชีวิตน่าเบื่อซังกะตาย แต่ในยุคกำเนิดวิญญาณ…เขาจะกลายเป็นวีรบุรุษ!
หวังเป่าเล่อยังไม่ถึงคราวเป็นใหญ่เป็นโตเต็มที่ แต่บัดนี้เขากลายเป็นผู้ชนะใน การทดสอบครั้งนี้เรียบร้อย ชายหนุ่มจะได้เป็นนายกเทศมนตรีแห่งเขตนครใหม่ของดาวอังคาร และดำรงตำแหน่งขุนนางระดับสี่ชั้นสูง หวังเป่าเล่อผู้นี้จะเป็นคนสำคัญของสหพันธรัฐ เมื่อเขาบรรลุปราณขั้นกำเนิดแก่นใน…ชายหนุ่มจะไต่เต้าขึ้นไปเป็นหนึ่งในผู้ทรงอำนาจที่สุดในสหพันธรัฐแน่นอน!
ขณะที่ทั่วทั้งสหพันธรัฐกำลังตกท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ หวังเป่าเล่อยังอยู่ใน เขตนครใหม่ ชายหนุ่มเห็นหลี่อี้ถูกเคลื่อนย้ายออกจากการทดสอบไปแต่ก็ไม่มีเวลา ดีใจหรือโล่งอก เขารีบล่าถอยอย่างรวดเร็วพร้อมกรีดร้องสุดเสียง
“ช่วยข้าด้วย ท่านเจ้านคร!”
เสียงตะโกนของหวังเป่าเล่อแหลมสูง ความเร็วในการหนีของเขามากกว่าที่เขาเคยสำแดงออกมาก่อนหน้านี้เสียอีก ชายหนุ่มวิ่งหนีไปพลางตะโกนไปพลาง
“เร็วเข้า ช่วยพาข้าออกไปที! ข้าเป็นนายกเทศมนตรีของเขตนครใหม่นะ ชาวดาวอังคารต้องขายขี้หน้ามากแน่ๆ หากข้าตาย!”
“เจ้านคร รีบมาช่วยข้าเร็ว…”
ฉากนี้ทำให้ทุกคนที่กำลังย้อนนึกถึงการต่อสู้อันดุเดือดก่อนหน้านี้ถึงกับอึ้งไป สีหน้าของทุกคนชะงักค้าง ราวกับเห็นสุนัขเป็นคน…ภาพจำของหวังเป่าเล่อที่เขา เล่นกับความตายเมื่อครู่ยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจ ความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่มกะทันหันเสียจนทำให้ทุกคนตั้งตัวไม่ถูก…
หากหวังเป่าเล่อทำแค่ตะโกนคงไม่เป็นไร แต่เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าอสูรขั้น กำเนิดแก่นในยังตามติดเขามาอย่างไม่ลดละ หวังเป่าเล่อก็เริ่มสติแตก เขาบังคับให้หน้ากระดาษหน้าหนึ่งตกใส่อสูรเพื่อถ่วงเวลา และคว้าตัวเจ้าลามาเพื่อกระโดดขึ้นหลังในทันที
เจ้าลาเคยชินกับการโดนกระทำเช่นนี้อยู่แล้ว มันจึงกระทืบกีบเท้าและห้อตะบึงออกไปอย่างเข้าตาจนเพื่อหนีเอาชีวิตรอด เพียงแค่ว่า…ผู้ชมทางบ้านไม่รู้ว่าเจ้าลา เคยชินกับการกระทำเช่นนี้ของหวังเป่าเล่อ…เมื่อเห็นสิ่งที่ชายหนุ่มทำ ทุกคนต่างก็มี สีหน้าประหลาด ร่างของหวังเป่าเล่ออ้วนใหญ่เสียจนพวกเขาแทบไม่เห็นเจ้าลาที่อยู่ข้างใต้…
“ข้าละปวดใจแทนเจ้าลาจริงๆ…”
ผู้ชมหลายแสนครัวเรือนทั่วสหพันธรัฐไม่รู้ว่าตนเองจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความรู้สึกที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เอ่อล้นขึ้นในใจ พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าก่อนหน้านี้ที่ทุกคนเฝ้ามองหวังเป่าเล่อด้วยสายตาเคารพและชื่นชม แต่ความรู้สึกนั้นก็มาพร้อมระยะห่างระหว่างพวกเขาและหวังเป่าเล่อเช่นกัน
แต่บัดนี้เมื่อทุกคนเห็นหวังเป่าเล่อตะโกนขอความช่วยเหลือและข่มเหงลาของตน พวกเขาก็รู้สึกเหมือนตนเองกำลังดูลูกของคนข้างบ้านอยู่ ความรู้สึกอบอุ่นและคุ้นเคยก่อตัวขึ้นในใจของทุกคน
พวกเขาชอบเจ้าหนุ่มอ้วนนี่
เจ้านครก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเช่นกัน นางสองจิตสองใจว่าจะชะลอการช่วยเหลือหวังเป่าเล่อเพื่อลงโทษเขาดีหรือไม่ ภาพของเขาถูกถ่ายทอดสดไป ทั่วสหพันธรัฐ เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเขาทำให้นางรู้สึกอับอายเป็น อย่างมาก อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึง…นายกเทศมนตรีของอาณาเขตนครใหม่ เป็นขุนนางระดับสี่ชั้นสูง
ต้นไม้ยักษ์อดสะใจไม่ได้เมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาไม่อาจควบคุมความเกลียดชังที่มีต่อหวังเป่าเล่อได้ ต้นไม้ยักษ์แอบหวังว่าหวังเป่าเล่อจะโดนฆ่าตายเสียตรงนั้น จะได้จบเรื่องไปเสีย แต่เมื่อนึกได้ว่าในตัวของหวังเป่าเล่อมีผลไม้อยู่เขาก็เริ่ม สองจิตสองใจ หวังเป่าเล่อตัวเป็นๆ ช่างเป็นเสี้ยนหนามน่ารังเกียจ ส่วนหวังเป่าเล่อที่ตายแล้วก็ยังนำพาความน่ารำคาญมาให้ไม่รู้จบ
มันทำบ้าอะไรอยู่กันแน่! ต้นไม้ยักษ์พ่นลมเยาะ เจ้านครที่อยู่ข้างกายเขาก็ตัดสินใจได้เช่นกันว่าจะชะลอการช่วยเหลือออกไป แต่ทันใดนั้นแหวนสื่อสารของนางก็สั่นอย่างรุนแรง
เจ้านครก้มหน้าลงมอง สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง นางเงยหน้าขึ้นมองหน้าจอวิญญาณเบื้องหน้า หวังเป่าเล่อกำลังฟาดก้นเจ้าลาและตะโกนให้มัน วิ่งเร็วขึ้น นางพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกมือขวาขึ้น บังคับวงแหวนปราณดาวอังคารให้ทำงานและเคลื่อนย้ายตนเอง ต้นไม้ยักษ์ และเจ้าพนักงานระดับสูงคนอื่นๆ ของดาวอังคารออกจากศูนย์ควบคุมหลักไป
พวกเขาปรากฏตัวเหนือเขตนครใหม่ของดาวอังคาร ขณะที่ทุกคนกำลังเคลื่นตัวลงมา เจ้านครก็ออกคำสั่ง ผนึกเหนือสุสานอาวุธเทพใต้ดินส่องสว่าง และเปลี่ยนสภาพเป็นลำแสงนับพันที่พุ่งเข้าใส่อสูรจากทุกทิศทางราวกับเป็นลูกธนู ฆ่าอสูรร้ายทุกตน ตายคาที
อสูรขั้นกำเนิดแก่นในหลายตนที่กำลังไล่ล่าหวังเป่าเล่อก็ไม่รอดเช่นกัน มันมีปราณเพียงขั้นต้นของขั้นกำเนิดแก่นในเท่านั้น ทั้งยังเป็นอสูรกลายพันธุ์จากรังสีของสุสานอาวุธเทพใต้ดินและไม่มีสติปัญญามากนัก จึงไม่อาจต้านทานพลังของ วงแหวนปราณได้ ลำแสงพิฆาตพุ่งทะลุร่างของพวกมันตายคาที่ทันที!
ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที และอสูรร้ายทุกตนบนอาณาเขตอาวุธเทพล้วนตายเรียบ…
หวังเป่าเล่อดีใจเป็นอันมากเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขาหยุดวิ่งและคิดว่าตนเองควรแสดงความกล้าหาญเฉกเช่นวีรบุรุษให้ประชาชีได้เห็นเสียหน่อยหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเอง เสียงคำรามกึกก้องก็ดังออกมาจากสุสานอาวุธเทพใต้ดิน
เสียงคำรามนั้นก้องกังวานในอากาศ ผนึกที่สะกดสุสานอาวุธเทพใต้ดินไว้นูนบวมออกมา ใบหน้าขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นพร้อมพลังงานที่ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน!
พลังงานนั้นรุนแรงมากเสียจนทำให้หวังเป่าเล่อกลัวจับขั้วหัวใจและตื่นตระหนกเป็นอันมาก ขาของเขาพลันอ่อนแรงลง เจ้าลาก็ตัวสั่นงันงกและแทบทรุดลงกับพื้น…หัวใจของหวังเป่าเล่อแทบระเบิดอยู่ในอก เขารู้สึกได้ว่าพลังปราณนั้นแก่กล้ากว่าต้นไม้ยักษ์หรือต้วนมู่ฉีเสียอีก…
นี่มัน…ปราณขั้นจุติวิญญาณ! หวังเป่าเล่อตาเบิกโพลง หัวใจพุ่งขึ้นมาจุกที่คอหอย เขามองเห็นใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวนั้นบิดเบี้ยวเป็นสีหน้าสยดสยอง มันกดหน้าเข้ากับผนึกจากภายในสุสาน ดูเหมือนมันพยายามจะออกมา แต่ก็ถูกผนึกขวางกั้นเอาไว้ มันกดใบหน้าใส่ผนึกอย่างรุนแรงจนผนึกปูดออกมาเป็นรอยเครื่องหน้า
ต้นไม้ยักษ์ลอยคว้างอยู่กลางอากาศเนื่องจากได้รับผลกระทบจากพลังปราณนั้นเช่นกัน แม้จะเคยได้ยินความลี้ลับของสุสานอาวุธเทพใต้ดินที่ถูกผนึกไว้มาก่อน แต่เขาก็ยังทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้สัมผัสกับคลื่นพลังรุนแรงที่ออกมาจากสุสานใต้ดิน
สีหน้าของผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในชั้นสูงที่มาจากทั้งกองทัพและฝ่ายบริหารล้วนมืดมน มีเพียงเจ้านครคนเดียวเท่านั้นที่ดูไม่แยแส นางก้มลงมองใบหน้าที่ติดอยู่ ใต้ผนึก สีหน้าของนางเรียบเฉยขณะสร้างผนึกฝ่ามือเป็นลำดับขั้น และชี้ลงไปที่ ปากทางเข้านั้น
ผนึกเปล่งแสงจ้าแสบตาออกมาและจมลงไป มันดันใบหน้าขนาดยักษ์นั้นให้กลับลงไปในสุสาน จากนั้นเสียงคำรามโหยหวนก็ค่อยๆ จางหายไป
ความเงียบมาเยือนอีกครั้ง หัวใจของหวังเป่าเล่อยังเต้นระส่ำ เจ้านครที่ยังอยู่ บนฟ้าปรากฏขึ้นในหน้าจอทั่วสหพันธรัฐเป็นภาพสุดท้ายก่อนจากลา ขณะที่ทุกคนยังคงนิ่งตะลึงด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นใบหน้าขนาดใหญ่นั้น เจ้านครก็เอ่ยด้วย เสียงไพเราะ เสียงเสนาะหูของนางราวกับเป็นประกาศิตส่งตรงจากดาวอังคาร สีแดงเพลิงเอง!
“ในวันนี้ เขตนครใหม่แห่งดาวอังคารได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
“หวังเป่าเล่อ ข้าได้รับแต่งตั้งจากสหพันธรัฐให้ควบคุมดูแลดาวอังคารในนามของสหพันธรัฐ รัฐบาลแห่งดาวอังคารมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานตำแหน่งขุนนางระดับสามชั้นรองลงไป วันนี้…ข้าข้อแต่งตั้งเจ้าให้เป็นนายกเทศมนตรีคนแรกของเขต นครใหม่แห่งดาวอังคาร อันมียศขุนนางระดับสี่ชั้นสูง!
“ข้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าจะไม่ทำให้สหพันธรัฐและดาวอังคารต้องผิดหวัง จงทำหน้าที่ของเจ้าให้เต็มที่ในการสร้างเขตนครใหม่แห่งดาวอังคารให้สมบูรณ์แบบ!”
ทุกคนที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่มีสีหน้าจริงจังทันทีที่ได้ยินคำพูดของเจ้านคร คนที่รู้เกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจของสหพันธรัฐตระหนักได้ในทันทีว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หวังเป่าเล่อจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ในระบอบการเมืองของสหพันธรัฐ!
หวังเป่าเล่อจะกลายเป็นผู้นำที่มีอำนาจจริงในสหพันธรัฐ เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นเพียงหัวหน้ากรมธรรมดา แต่เป็นนายกเทศมนตรีของเขตนครใหม่แห่งดาวอังคาร และเขตนครใหม่นี้จะกลายเป็นสมรภูมิการแย่งชิงอำนาจระหว่างก๊กเหล่าต่างๆ ในสหพันธรัฐในอนาคต
ชายหนุ่มได้ตำแหน่งนี้มาครองต่อหน้าคนหลายแสนคนที่เป็นสักขีพยาน นั่นแปลว่าตราบใดที่เขาไม่ทำผิดพลาดใหญ่หลวง ตำแหน่งของเขาในเขตนครใหม่แห่งดาวอังคารย่อมไม่มีวันหลุดมือแน่นอน!
แม้หวังเป่าเล่อจะรู้ว่าตนเองได้ตำแหน่งมาครอบครองแล้วแน่นอน แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านครเมื่อครู่กับหูตนเอง ชายหนุ่มก็เหมือนจะหน้ามืดไปชั่วครู่ เขาตัวสั่นไปทั้งตัว และหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้น
ดวงตาของหวังเป่าเล่อเป็นประกายราวดวงดาว ชายหนุ่มเอ่อล้นด้วยความตื่นเต้นดีใจ หวังเป่าเล่อหายใจเข้าลึก ทำท่าคารวะเบื้องบน และพูดออกมาด้วยเสียงอันดัง “ขอรับท่านเจ้านคร!”