บทที่ 367 แย่งกันยกใหญ่
หวังเป่าเล่อเลิกตื่นเต้นกับตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเขตนครใหม่หลังกลับออกจากสำนักเจ้านคร พอคิดถึงเงื่อนไขทั้งสามที่เจ้านครตั้งไว้ก็เริ่มปวดหัวขึ้นมา
นางบังคับให้ข้าต้องขายตัว! ความขุ่นเคืองคุกรุ่นอยู่ภายในใจขณะเดินทางกลับสำนักศึกษาเต๋าหมอกขุนเขา เขาถอนหายใจ รู้ว่ามีเวลาเหลือไม่มากเพราะอีกสามวันต้องเดินทางไปเขตนครใหม่แล้ว หมายความว่าหวังเป่าเล่อต้องหาทางจัดการปัญหาให้ได้ภายในสามวัน
ไม่เป็นไรหรอก ไม่เห็นต้องเครียดมาก ถึงหาทางจัดการไม่ได้ภายในสามวันนี้ ข้าก็ค่อยไปหาทางเอาใหม่ตอนก่อตั้งเขตนครใหม่ก็ได้ หวังเป่าเล่อถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก เริ่มใช้สมองคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างหนัก รู้สึกว่าตนที่กำลังตกที่นั่งลำบากในตอนนี้ไม่ได้ต่างจากตอนทดสอบ เพราะตอนนั้นทั้งตัวเขาก็ไม่ได้มีทรัพยากรอะไร มีเพียงพิมพ์เขียวปราการนิรันดร์กับหุ่นเชิดก่อสร้างเท่านั้น
สถานการณ์นี้ก็ไม่ได้ต่างกัน ยังขาดแคลนทรัพยากรเช่นเดิม และไม่มีพิมพ์เขียวกับหุ่นเชิดก่อสร้างเหมือนรอบก่อนด้วย แต่เพียงตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเท่านั้นที่จะใช้เป็นข้อต่อรอง
ข้า หวังเป่าเล่อ ผู้ยึดมั่นในเกียรติและอุดมการณ์ มีหน้าตาอันหล่อเหลา อีกทั้งยังไม่เคยใช้เล่ห์เหลี่ยมแอบโกงกิน ต้องมาโดนเจ้านครอาณานิคมดาวอังคารบีบบังคับ ฝืนใจให้ทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย เอาเถอะ ข้าจะยอมทำอะไรขัดอุดมการณ์แค่ครั้งนี้ก็แล้วกัน หวังเป่าเล่อถอนหายใจ เริ่มสงบใจลงเมื่อคิดว่าจะใช้ข้อต่อรองที่มีอย่างไรเพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด เขารู้ดีว่ากลุ่มอำนาจทางการเมืองทุกกลุ่มต่างกระหายตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี แม้จะขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีเองไม่ได้ แต่ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีก็เป็นเครื่องรับประกันว่าพวกเขาจะไม่พลาดผลประโยชน์อะไรไปในระยะยาว
ถ้าเปิดประมูลตำแหน่งได้คงจะดีไม่น้อย หวังเป่าเล่อรู้สึกเสียดาย เขาคิดเล่นๆ ว่าถ้าทำเช่นนั้นจริง คงจะถูกผู้ทรงอำนาจที่มีส่วนเกี่ยวข้องจับตัวไปในวันถัดไปแน่นอน…
หวังเป่าเล่อครุ่นคิดถึงวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี หาผลประโยชน์ คืนนั้น ขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งสมาธิอยู่ เขาก็ได้รับข้อความเสียงจากคนแปลกหน้า
ผู้ที่ติดต่อมาเป็นชายชรา น้ำเสียงฟังดูมีอายุกล่าวเผยตัวตนทันทีที่หวังเป่าเล่อรับสาย
“หวังเป่าเล่อ ข้าคือประมุขสำนักศึกษาเต๋ากวางขาว…จากข้อตกลงของ สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า หลี่อี้จะเข้ารับตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีและคอยช่วยเหลือเจ้าในภารกิจจัดตั้งเขตนครใหม่บนดาวอังคาร…” ประมุขสำนักรู้สึกสับสนขณะที่พูด เขาพยายามข่มความหงุดหงิดฉุนเฉียวในใจ น้ำเสียงของชายชราฟังดูบงการวางอำนาจ แต่นี่ก็ถือว่าดีที่สุดแล้วที่เขาทำได้
ไม่ทันที่ชายชราจะได้พูดจนจบ หวังเป่าเล่อก็ตัดสายไปโดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ!
ประมุขสำนักศึกษาเต๋ากวางขาวนิ่งอึ้งไป สะกดกลั้นความโกรธเคืองที่ปะทุในใจไม่ได้อีกต่อไป
ไอ้เด็กเวร กล้าดีอย่างไรมาตัดสายข้า! ประมุขสำนักทุบโต๊ะเสียงดังสนั่น ก้องไปทั่วทั้งสำนักศึกษาเต๋ากวางขาว
ชายชราเกลียดขี้หน้าหวังเป่าเล่อมาโดยตลอด ชายหนุ่มไม่ฟังคำสั่งของ สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าและเข้ารับการทดสอบ การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการทรยศต่อสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าตกลงร่วมกันแล้วว่าจะให้การสนับสนุน หลี่อี้ ใครจะไปคิดว่าหวังเป่าเล่อจะเข้ามาขัดขวาง ถีบตัวเองขึ้นมาเป็นตัวแทน ชิงตำแหน่งด้วยเช่นกัน
หากเพียงเท่านั้นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ชายหนุ่มกลับไม่หยุดเพียงแค่นั้น และมุ่งมั่นจนชิงตำแหน่งไปได้ ประมุขสำนักคงจะมองเรื่องนี้ต่างออกไปหาก หวังเป่าเล่อเป็นคนของสำนักศึกษาเต๋ากวางขาว ทว่านี่นอกจากไม่ใช่คนของสำนักตนแล้วยังมาขัดคำสั่งอีก ความหงุดหงิดรำคาญใจอัดอั้นอยู่เต็มอกชายชรา
หลังจากหวังเป่าเล่อตัดสายไป ความโกรธแค้นของเขาก็พุ่งขึ้นสูงจนแค่นเสียงทางจมูกแสดงความรังเกียจขึ้น
อายุแค่นี้กลับจองหองยิ่งนัก ข้าจะทำให้เจ้าเห็นว่าหลี่อี้จะได้ขึ้นเป็น รองนายกเทศมนตรีแม้ว่าเจ้าจะไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเจ้าจะไม่พอใจเพียงใด ก็ทำได้แค่กลืนมันลงคอให้จุกแน่นอยู่ในอก! คิดดังนั้น ประมุขสำนักก็ติดต่อไปยังรองเจ้านครอาณานิคมดาวอังคารทันที
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ประมุขสำนักก็ต้องตื่นตะลึงเมื่อต้นไม้ยักษ์บอกว่า ตนก็เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้ไม่ได้ พอได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมก็ยิ่งตื่นตะลึงหนักขึ้นไปใหญ่ ชายชราได้ยินต้นไม้ยักษ์ถอนหายใจพร้อมกับบอกว่าตนก็ถามไถ่เรื่องตำแหน่ง รองนายกเทศมนตรีเข้าไปเช่นกัน แต่เจ้านครเน้นย้ำว่าห้ามใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในกระบวนการคัดเลือกครั้งนี้
ต้นไม้ยักษ์เองก็ไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาว่าอย่างผิดหวัง ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับการเสนอชื่อของหวังเป่าเล่อเท่านั้น
ประมุขสำนักปวดหัวขึ้นมา สองจิตสองใจว่าจะติดต่อหวังเป่าเล่อไปอีกดีไหม แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องพูดอย่างไรดี…
หวังเป่าเล่อที่เพิ่งตัดสายประมุขสำนักไปเริ่มตื่นเต้น ดวงตาลุกโชน เขาตั้งใจ ตัดสายเนื่องจากน้ำเสียงอีกฝ่ายทำให้ตนไม่พอใจมาก นอกจากนี้ยังต้องการทดสอบอีกฝ่ายด้วย
แล้วอย่างไรต่อ ตาเฒ่าจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร ต้นไม้ยักษ์หรือ หรือเจ้านคร ไม่แน่อาจจะเป็นประมุขสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้
ขณะที่หวังเป่าเล่อกำลังพึงพอใจในตนเองอยู่นั้น แหวนสื่อสารของเขาก็สั่นขึ้นอีกครั้ง เมื่อก้มดูก็พบว่าเป็นประมุขสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ที่ติดต่อมา ชายหนุ่มไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยจึงรีบรับสายทันที หลังจากคุยกันเล็กน้อย ประมุขสำนักก็ถอน หายใจขึ้น
“เป่าเล่อ ประมุขสำนักศึกษาเต๋ากวางขาวติดต่อข้ามาเมื่อกี้…ถ้าเจ้ายอมรับข้อเสนอของเขาไม่ได้จริงๆ ข้าจะบอกปฏิเสธให้…” ในใจประมุขสำนักเอ่อล้นไปด้วยความภาคภูมิใจในการกระทำของหวังเป่าเล่อ แต่ก็ลำบากใจที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ทว่าอย่างไรเขาก็เลือกที่จะสนับสนุนชายหนุ่ม
หวังเป่าเล่อไม่มีทางปฏิเสธคำขอของประมุขสำนัก เขาหยุดคิดสักพักและเลือกที่จะเปิดเผยเงื่อนไขทั้งสามข้อที่เจ้านครตั้งให้อีกฝ่ายได้รู้
“ท่านประมุขสำนัก ข้าไม่มีปัญหาถ้าเป็นหลี่อี้ แต่นางต้องหาทรัพยากร มาสนับสนุนด้วยเช่นกัน สำนักศึกษาเต๋ากวางขาวต้องรับผิดชอบทรัพยากร สองในสิบส่วนที่ใช้จัดตั้งเขตนครใหม่ ถ้านางทำตามเงื่อนไขนี้ได้ ข้าจะให้นางเป็น รองนายกเทศมนตรี!” หวังเป่าเล่อไม่อ้อมค้อมเมื่อเจรจากับคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับตน ประมุขสำนักได้ยินที่เขาพูดก็หัวเราะขึ้น
“ทรัพยากรนั้นไม่ได้มาจากสำนักศึกษาเต๋ากวางขาวเพียงที่เดียว แต่เป็นจากทั้ง สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋า ทางสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์เองก็จะพยายามเต็มที่ ไหนๆ ทรัพยากรก็หามาเพื่อให้เจ้าใช้ แต่เจ้าใจดีเกินไป ทำไมขอแค่สองในสิบ จริงๆ เจ้าควรเรียกสักร้อยละสี่สิบ!”
หวังเป่าเล่อตาเป็นประกายในทันใด ประมุขสำนักดูแลเขาดีจริงๆ ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณประมุขสำนักยิ่งขึ้น พวกเขาคุยกันต่อสักพักก่อนจะจบการสนทนา ผ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ประมุขสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งข้อความเสียงมาอีก เขาพูดเพียงแค่ว่า
“สี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าจะสนับสนุนทรัพยากรร้อยละสี่สิบจากที่ต้องใช้ก่อตั้ง เขตนครใหม่!”
หวังเป่าเล่อตาเป็นประกาย แอบโล่งใจอยู่ภายใน เขาตั้งใจจะพักการเขม่นกันระหว่างตนและหลี่อี้เพื่อเห็นแก่ทรัพยากรที่จะได้มา ชายหนุ่มรู้ดีว่าแม้ตนจะไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ แต่ด้วยอำนาจที่สำนักศึกษาเต๋ากวางขาวมี คงจะสามารถ เกลี้ยกล่อมให้เจ้านครแต่งตั้งหลี่อี้ขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรีอยู่ดี
พวกเขาต้องจ่ายราคาแพงเพื่อทำเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์แก่เขาสักเท่าไหร่
ต่อไปก็…ยังมีที่ว่างอีกสามที่ให้เติมเต็ม ไฟลุกโชนในตาหวังเป่าเล่อ เขาจ้อง แหวนสื่อสาร คิดว่าตนไม่ต้องกังวลเรื่องหาทางออกอะไรมากมาย ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวแกะก็คงมานอนให้เชือดเอง
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ต่อจากนั้นไม่นาน เขาได้รับการติดต่อจากตระกูลนภาห้าสมัย สำนักสหชุมนุมสกุณา และสำนักรุ่งสางจักรพิภพ เหมือนว่าพวกเขาจะทราบสถานการณ์ปัจจุบันจึงเริ่มส่งข้อความมาแจ้งว่ากลุ่มของตนสามารถช่วยเหลือ เรื่องทรัพยากรได้มากเท่าใด ทางสำนักรุ่งสางจักรพิภพนั้นเปิดข้อเสนอว่าจะให้การช่วยเหลือถึงร้อยละห้าสิบ!
หวังเป่าเล่อสนใจข้อเสนอนั้นมาก ขณะที่กำลังชั่งน้ำหนักดูข้อดีข้อเสียอยู่นั้น เขาก็ได้รับข้อความจากแม่ทัพโจว ชายหนุ่มไม่ได้ติดต่อกับแม่ทัพโจวเลยตั้งแต่จบเหตุการณ์ที่แนวป้องกันลำดับเจ็ด
แม่ทัพไม่อ้อมค้อม บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าทางกองทัพประจำดาวอังคารและกองทัพประจำโลกอยากให้กงเต๋าขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรีของเขตนครแห่งใหม่…
หวังเป่าเล่อครุ่นคิดข้อเสนอนี้ ตระหนักว่าตนมีความสัมพันธ์อันดีกับทางกองทัพ คงจะปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้ยาก อีกทั้งฝ่ายนั้นยังเคยให้การช่วยเหลือเขาในการคัดเลือกหาตัวแทนเพื่อชิงตำแหน่ง
ขณะที่กำลังไตร่ตรองอยู่นั้น แหวนสื่อสารก็สั่นเตือนอีกครั้ง รอบนี้มาจากสำนักงานใหญ่ของผู้นำสหพันธรัฐ ต้วนมู่ฉี ผู้ที่ติดต่อมานั้นไม่ใช่ตัวผู้นำเองแต่เป็น หนึ่งในรองผู้นำ น้ำเสียงของเขาสุภาพนอบน้อม เขาแจ้งว่าได้รับสั่งจากท่านผู้นำให้มาแสดงความยินดีที่หวังเป่าเล่อได้ขึ้นเป็นนายกเทศมนตรีประจำเขตนครแห่งใหม่ จากนั้นก็กล่าวชมเชยให้กำลังใจอีกเล็กน้อย
การติดต่อทั้งสองสายนั้นตามกันมาติดๆ ถึงแม้จะเป็นคนโง่เพียงใดก็ต้องดูออกว่าสถานการณ์เช่นนี้คืออะไร ต้วนมู่ฉี ผู้นำสหพันธรัฐนั้นเป็นบิดาบุญธรรมของกงเต๋า เขาทราบความหมายเบื้องหลังการติดต่อครั้งนี้ดี
ข้าก็อยากมีบิดาบุญธรรมบ้าง หวังเป่าเล่อตบหน้าผากตนเอง ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะแจ้งแม่ทัพโจวไปว่าจะเสนอชื่อกงเต๋าให้ขึ้นเป็นรองนายกเทศมนตรี แต่…กงเต๋าต้องรับผิดชอบจัดหาทรัพยากรร้อยละสี่สิบจากทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นในการก่อสร้างเขตนคร หลี่อี้เองก็ต้องรับผิดชอบจำนวนเท่านี้เช่นกัน
แต่ด้วยความสัมพันธ์อันดีกับทางกองทัพ เขาจึงยอมลดเหลือแค่ร้อยละยี่สิบ แม่ทัพโจวหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินที่หวังเป่าเล่อพูด เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นและ ชอบพอความซื่อสัตย์ของอีกฝ่ายยิ่งนัก แม่ทัพพยักหน้าจากนั้นก็บอกว่าจะส่งต่อข้อความไปให้และแจ้งให้ทุกคนได้ทราบถึงความเอื้อเฟื้อของชายหนุ่ม
ช่วงวันอันแสนวุ่นวายผ่านไป หวังเป่าเล่อยืนยันสองชื่อที่จะเสนอรับตำแหน่ง รองนายกเทศมนตรี นอกจากนี้เขายังมั่นใจแน่นอนแล้วว่าจะได้รับการสนับสนุนด้านทรัพยากรสำหรับก่อตั้งเขตนครใหม่ถึงร้อยละหกสิบ!
เมื่อนำมารวมกับทรัพยากรที่ทางสหพันธรัฐและฝ่ายบริหารดาวอังคารให้การสนับสนุน ก็น่าจะเพียงพอต่อการจัดตั้งเขตนครแห่งใหม่ ทำให้หวังเป่าเล่อเบาภาระที่แบกรับไปได้ ในหัวผุดคิดว่ายังเหลือตำแหน่งว่างอีกสองตำแหน่ง เขาอาจสามารถรวบรวมทรัพยากรได้มากเพียงพอที่จะสร้างนครที่ดีเยี่ยมไปกว่าแผนที่วางไว้เสียอีก!