บทที่ 64 เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน!
หากมีเวลามากพอ หวังเป่าเล่อคงไม่ต้องเจ็บกายมากถึงเพียงนี้ แต่นี่เป็นเพราะชายหนุ่มต้องรีบปิดฉากการต่อสู้กับชายทั้งสี่นั้นให้ได้เร็วที่สุด หากยืดเยื้อออกไป ชายชุดดำกลุ่มอื่นต้องเดินทางมาเสริมทัพแน่นอน
เมื่อตัดสินใจที่จะโต้กลับแล้ว เขาก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา หวังเป่าเล่ออาจเจ็บหนักจากการตอบโต้ของชายทั้งสี่นั้นก็เป็นได้ แม้ว่าตนจะพรั่งพร้อมด้วยวัตถุเวทก็ตาม
บัดนี้ จิตของเขาไม่นิ่งนัก ชายหนุ่มยืดหลังขึ้นก่อนพุ่งทะยานไปข้างหน้า ผ่านพงหญ้ารกชัฏไปด้วยความเร็วเต็มขั้น เขากลืนโอสถ ก่อนตรวจสอบดูปริมาณที่เหลืออยู่ในกำไลคลังเวท
เหลือยาไม่มาก แถมข้ายังใช้วัตถุเวทไปแล้วครึ่งหนึ่ง…หวังเป่าเล่อเลียริมฝีปาก ก่อนจะพบโพรงในตนไม้ให้เข้าไปหลบซ่อนได้ ชายหนุ่มควักเอาลูกประคำอำพรางที่ฉกมาจากเหยื่อคนก่อนหน้าออกมา และใช้พลังของมันพรางกาย ก่อนค่อยผ่อน ลมหายใจลง เมื่อซ่อนกายเรียบร้อย หวังเป่าเล่อก็หยิบเอาวัตถุเวทวงแหวนที่ใช้ค้นหาออกมาหรี่ตาพินิจ
ถ้าจะปรับแต่งเจ้านี่ ข้าต้องชำแหละมันออกมาเสียก่อน หากข้าดัดแปลงให้มันทำงานย้อนกลับได้ ข้าก็จะตรวจดูได้ว่าศัตรูที่ถือเจ้านี่อยู่ อยู่ตรงไหนกันบ้าง…
หากเป็นคนอื่น เรื่องนี้คงยากเกินความสามารถ แต่หวังเป่าเล่อเป็นถึง หัวหน้าศิษย์สามโถงของสาขาอาวุธเวท ผู้หาตัวจับยากด้านศิลาวิญญาณ อักขราจารึก และแก่นวิญญาณ ชายหนุ่มทำได้แม้กระทั่งคำนวณโครงสร้างอักขระในหัว ไม่มีใครทัดเทียมเขาได้ในเรื่องวิชาการนี้ หลังจากที่พิจารณาวัตถุเวทวงแหวนอยู่ชั่วครู่ หวังเป่าเล่อก็มั่นใจว่าตนเองจะไขความลับนี้ได้สำเร็จ
ข้ามีวัตถุเวทสำหรับการค้นหาอยู่ทั้งหมดแปดอัน ต่อให้ข้าทำพลาดไปบ้างก็ไม่เป็นปัญหา แค่ต้องทำให้ถูกหนึ่งครั้งเท่านั้น!
หวังเป่าเล่อรู้ดีว่าเวลามีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด เขาเริ่มทำการปรับแต่งวัตถุเวททันที
ขณะนี้ จำนวนของชายชุดดำลดลงไปกว่าร้อยละ 30 ส่วนที่เหลืออยู่ก็ระวังตัวมากกว่าเดิม พวกเขารู้แล้วว่าการไล่ล่าหวังเป่าเล่อนั้นยากลำบากและอันตรายเพียงใด แม้พวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมาอย่างมืออาชีพก็ยังอดกลัวไม่ได้
ความเป็นจริงนี้ตอกย้ำอยู่ในใจของท่านท่านผู้เฒ่าผู้เป็นหัวหน้า เขายืนอยู่ตรงจุดที่หวังเป่าเล่อเพิ่งต่อกรกับลูกน้องทั้งเจ็ดไปหมาดๆ จับตาดูลูกน้องคอยดึงศพเหล่านั้นขึ้นมาจากกองโคลน ในฐานะหัวหน้างาน เขานำนักฆ่าอาชีพมากมายมาเพียงเพื่อจบชีวิตศิษย์สำนักหนึ่งคน แต่กลับสูญเสียคนของตัวเองไปมากโข ชายชรารู้สึกเหมือนโดนตบหน้า สีหน้าของเขาบูดเบี้ยวอัปลักษณ์ รังสีอำมหิตก็รุนแรงขึ้นตามไปด้วย
“บัดซบจริงๆ ข้าได้ข้อมูลมาว่าหวังเป่าเล่อมันมีระดับปราณแค่ขั้นผนึกกายาสมบูรณ์แบบเท่านั้น ผนึกกายาบ้าอะไรฆ่าลูกน้องข้าตายไปเกือบสิบคน อย่าว่าแต่ขั้นผนึกกายาเลย ต่อให้เป็นขั้นบำรุงชีพจรกว่าจะทำได้แบบนี้ก็คงแทบลากเลือด!”
แม้ตอนแรกพวกเขาแค่ทำตามใบสั่งที่ออกมาให้ปลิดชีพหวังเป่าเล่อ แต่ตอนนี้ ต่อให้ไม่มีคำสั่งนั้น พวกเขาก็นึกอยากกำจัดหวังเป่าเล่อเสียให้สิ้นซากให้จงได้
“แล้วไอ้เด็กนี่มันมีวัตถุเวทเยอะขนาดนั้นได้อย่างไรกัน!”
ชายชรากัดฟันกรอด เขารู้สึกว่าลูกน้องของตนต่างสะดุ้งตกใจ แววตาของเขา เย็นเยือกลงอีกด้วยความอาฆาต
“หามันต่อไป ทุกคน จงระวังตนทุกฝีก้าว ไอ้ระยำนี่มันไม่ธรรมดา หากพวกเจ้าคนใดเจอมัน จงส่งสัญญาณบอกข้า ข้าจะไปหักคอมันด้วยมือของข้าเอง!”
เหล่าชายฉกรรจ์ชุดดำที่รายล้อมพยักหน้า พวกเขากระจายตัวออกค้นหาหวังเป่าเล่ออีกครั้งด้วยสีหน้ามืดมน ตาข่ายมนุษย์ขนาดใหญ่กำลังหดล้อมเข้ามาอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาเป้าหมาย
ขณะถูกตามล่าอยู่นั้น หวังเป่าเล่อที่ซ่อนกายอยู่โยนวงแหวนห้าอันที่เขาทำพังทิ้งไป ตาของชายหนุ่มจับจ้องอยู่ที่วงแหวนอันเดียวที่เขาดัดแปลงสำเร็จ แววตาสว่างวาบขึ้น
เขาเห็นจุดแสงยี่สิบจุดกระจายออกอย่างรวดเร็วไปทุกทิศ มีอยู่สามจุดที่อยู่ใกล้เขาที่สุด และระยะทางระหว่างสามจุดนั้นก็ไม่ได้ไกลกันมาก หวังเป่าเล่อพึมพำกับตัวเองขณะพิจารณาจุดนั้นต่อ เขาเข้าใจดีว่าด้วยการค้นหาแบบตีวงล้อมตีขลุมแบบนี้ ถึงอย่างไรก็คงถูกจับจนได้
ข้าซุ่มโจมตีไม่ได้แล้ว ข้าต้องหนีออกไปไกลๆ ให้เจ้าพวกนี้กระจายตัวออกจากกัน ถึงจะจัดการมันต่อได้…หวังเป่าเล่อหายใจเข้าลึก ก่อนจะแอบหลบออกจากโพรงต้นไม้อย่างเงียบๆ เขาเปลี่ยนทิศทางตามพิกัดของศัตรูที่วงแหวนบอก บางคราก็เพิ่มความเร็วขึ้น บางคราก็เดินช้าลง ชายหนุ่มหลบลี้หนีชายชุดดำหลายต่อหลายคน พยายามรักษาระยะห่างขณะมุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าฝนบ่อเมฆอย่างรวดเร็ว
ตราบใดที่ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิด หวังเป่าเล่อก็จะหนีการล้อมจับได้สำเร็จ แต่ในวินาทีที่ฝันเกือบจะเป็นจริงนั้น สีหน้าของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปในบัดดล เขายืนนิ่ง ลมหายใจผ่อนช้าลง รู้สึกถึงมวลไอกระหายเลือดที่พุ่งตรงมายังเขา
หวังเป่าเล่อหันหน้าไปมองอย่างช้าๆ สีหน้าก็ซีดเผือดลงทันที เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นบนหน้าผาก
มีงูอยู่เจ็ดตัวที่ด้านขวาของต้นไม้!
งูแต่ละตัวมีลำตัวหนาเป็นปล้องเท่าแขน ทั่วร่างเป็นสีแดงยกเว้นส่วนหัวที่เป็นสีขาว เมื่อมองแวบแรกดูราวกับใบหน้าของเด็กอ่อน แต่ดวงตาของพวกมันกลับส่อแววดุร้ายที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
อสรพิษทารกขาวกระดูกแดง! ใจของหวังเป่าเล่อกระตุก แม้ว่าในการทดสอบ มิติมายาเขาจะเคยโจมตีเจ้างูเหล่านี้อย่างไร้ซึ่งความกลัว แต่ตอนนั้นมีแค่หนึ่งตัวเท่านั้น หวังเป่าเล่อเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจับจิต เขาหายใจอย่างระมัดระวังและค่อยๆ ถอยหลังหนี นี่เป็นทางเดียวที่จะรอดไปได้ หวังเป่าเล่อไม่อยากสู้กับเจ้างูทั้งเจ็ดตัวนี่
อย่าร้องนะ อย่าร้อง ได้โปรด ข้าจะไม่ทำอะไรพวกเจ้าหรอก…
แต่ขณะที่เขากำลังจะหนีไป หวังเป่าเล่อก็เห็นสายตาพิฆาตจากงูทั้งเจ็ดเพิ่ม ความดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ งูตัวหนึ่งยังอ้าปากกว้างเผยคมเขี้ยวอีกด้วย ชายหนุ่มกัดฟันพุ่งเข้าไปหางูทั้งเจ็ดด้วยความเร็วระดับพระกาฬ เขายกแขนขวาขึ้น และใช้ตราผนึก โอสถ และกระบี่เหาะเหินฆ่างูหกตัวตายคาที่ทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หวังเป่าเล่อทุ่มสุดตัวให้กับการโจมตีในครั้งนี้แต่ ก็สายเกินไปเสียแล้ว งูตัวสุดท้ายโยกตัวหลบการโจมตีนั้น และอ้าปากออก…
เสียงดังก้องไปทั่วป่าเงียบสงัด ทุกคนในที่นั้นได้ยินชัด…เสียงเด็กทารกร้อง!
เสียงเด็กทารกผู้นั้นดังเกินไป ทันทีที่มันสะท้อนออกไปทั่วป่าสีหน้าของชายหนุ่มก็บูดเบี้ยวในทันที ที่เขากลัวไม่ใช่เจ้างูนี่ แต่เป็น…เสียงร้องที่ดังเป็นพิเศษของมันต่างหาก หวังเป่าเล่อรู้ถึงความอันตรายข้อนี้ดีจากประสบการณ์ในมิติมายา
บัดซบ! หวังเป่าเล่อรีบเก็บวัตถุเวทกับซากงูอย่างไวมือ ชายหนุ่มรีบรุดหนีไปโดยไม่มีเวลาแม้แต่จะฆ่างูตัวสุดท้าย
ในเวลาเดียวกันนั้น เหล่าชายชุดดำหันควับเมื่อได้ยินเสียงงูร้องดังก้องไปทั่วป่า ชายชรายิ้มเยาะ แววตาฉายให้เห็นความตั้งมั่นที่จะเอาชีวิต เขาไม่รอให้ลูกน้องวิ่งตามไปค้นหาตัวหวังเป่าเล่อ แต่กลับยกมือขวาของตนขึ้นมาแทน แม้บริเวณนี้จะถูก ตัดสัญญาณการสื่อสาร แต่ก็ได้ผลแค่กับโลกภายนอกเท่านั้น เหล่าชายชุดดำยังสามารถสื่อสารกันเองได้
“เรือเหาะ ทิ้งระเบิด!” ท่านผู้เฒ่ายิ้มเย้ยขณะเอ่ยประกาศิตสังหาร ก่อนหน้านี้เขาตัดสินใจไม่โจมตีทางอากาศ เนื่องจากเสียงระเบิดกึกก้องจะดึงดูดสัตว์ร้ายทั่วป่ามาหาพวกเขา แต่ภารกิจนี้จะยืดเยื้อเกินไปเสียแล้ว หวังเป่าเล่อกลับเป็นเป้าหมายที่โค่นลงยากเสียยิ่งกว่ายาก ท่านผู้เฒ่าจึงตัดสินใจโยนความระมัดระวังทิ้งไป
สิ้นเสียงคำสั่ง อากาศยานห้าลำก็บินเข้ามาจากระยะไกล ฝูงเรือเหาะสีแดงมุ่งหน้าไปยังจุดที่ได้รับมอบหมายอย่างรวดเร็ว ก่อนยิงลำแสงร้อนผ่าวออกมานับไม่ถ้วน ถล่มไปยังบริเวณที่งูทารกร้องเสียงดังลั่นก่อนหน้า เสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดเหมือนเสียงประทัด
เสียงระเบิดทำให้ทุกคนตะลึงพรึงเพริด แผ่นดินสั่นสะเทือน ต้นไม้ใบหญ้ากระจุยว่อน ดินโคลนสาดกระจายไปทั่วทุกสารทิศ แรงระเบิดต่อเนื่องทำให้ทั้งบริเวณถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง
หวังเป่าเล่อเองก็ถูกแรงระเบิดนั้นบังคับให้ออกจากที่ซ่อนเช่นกัน ชายหนุ่มกระอักเลือด ร่างกายสั่นสะท้าน ทันทีที่เขาปรากฏกายออกมา ดวงตาของท่านผู้เฒ่าก็สว่างวาบ เขามองไปที่ท้องฟ้าและระเบิดเสียงหัวเราร่า ก่อนพุ่งเข้าหาเป้าหมายด้วยความเร็วสูง จนดูเหมือนลำแสงสว่างจ้าวิ่งเป็นทาง
ชายชราผู้นั้นว่องไวยิ่งนัก พลังปราณขั้นบำรุงชีพจรอันสมบูรณ์แบบระเบิด พวยพุ่งออกมา หัวหน้ามือสังหารชรานั้นได้ฝึกฝนปราณโลหิตของตนจนแก่กล้า เต็มขั้น ดูเหมือนว่าในวัยหนุ่ม เขาจะมีพรสวรรค์ในการฝึกปราณอันเลิศล้ำ รังสีที่แผ่ออกมานั้นจึงเทียบเท่าได้กับ…ระดับลมหายใจเที่ยงแท้!
แน่นอนว่าไม่ใช่ระดับลมหายใจเที่ยงแท้จริงๆ กระนั้นรังสีนี้ก็ทำให้ความสามารถในการต่อสู้ของเขาพุ่งทะลุจุดสูงสุดของพลังปราณขั้นบำรุงชีพจรไปเสียอีก!
หวังเป่าเล่อบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดูเหมือนชายหนุ่มจะโดนระเบิดเข้าบ้างเหมือนกัน เขาหอบตัวโยน ขณะที่ชายชราเจ้าของปราณเทียบเท่ากับระดับลมหายใจเที่ยงแท้ย่างเท้าเข้ามาใกล้
ขณะที่ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนน้อยลงเรื่อยๆ ท่านผู้เฒ่ายกมือขวาของตนขึ้น อากาศรอบกายถูกดูดเข้าในฝ่ามือ ที่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ก่อนปล่อยแรงอัดรุนแรงออกมา มือขวาของท่านผู้เฒ่าพุ่งตรงเข้าหาหวังเป่าเล่อ เส้นทางที่ฝ่ามือมรณะพุ่งผ่านลุกเป็นไฟ
“ตายเสียเถอะ!”
ความตายที่มากระซิบข้างหูทำให้หวังเป่าเล่อรู้ดีว่าไม่มีทางหนีอีกต่อไป ชายหนุ่มหันหน้ากลับมามอง ดวงตาฉายแววบ้าระห่ำ เขาสะบัดมือขวา ทันใดนั้น วัตถุเวททั้งหมดในกำไลคลังเวทก็พุ่งออกมา
หวังเป่าเล่อปลุกอำนาจของวัตถุเวททั้งหมดจนส่องแสงวาบ วัตถุเวททุกชิ้น อาบไปด้วยพลังปราณ พุ่งเข้าใส่ชายชราเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
หากเป็นคนอื่นคงไม่กล้าโจมตีห่าฝนวัตถุเวทนั้นและเลือกที่จะหลบเสียแทน แต่ท่านผู้เฒ่ากลับแสดงสีหน้าเย้ยหยัน แล้วใช้มือขวาของตนบิดอากาศอย่างดุเดือดโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด คลื่นความร้อนลูกใหญ่กว่าเดิมสาดออกมาจากมือขวานั้น
“สลายไปเสีย!”
วินาทีนั้น พายุขนาดย่อมก็ระเบิดออกจากถุงมือของท่านผู้เฒ่า พุ่งตรงไปยังวัตถุเวททุกชิ้นของหวังเป่าเล่อ แรงปะทะนั้นทำให้ตราผนึกปริแตก แต่ไม่ได้ระเบิดเป็นเสี่ยงๆ สิ่งที่แตกเป็นเพียงเปลือกนอกของวัตถุเวทเท่านั้น แก่นวิญญาณภายในไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย แก่นวิญญาณเหล่านั้นพุ่งเข้าชนระเบิดความร้อนจากมือของท่านผู้เฒ่า พลังงานจึงหักล้างกันไป!
แม้แรงระเบิดจะลดความแรงจากฝ่ามือมรณะลงได้ แต่ก็ยังมีบ้างที่เล็ดรอดจากห่าฝนวัตถุเวทออกมา คลื่นโจมตีนั้นซัดเข้าใส่ร่างหวังเป่าเล่อด้วยความรุนแรงที่เหลือเพียงร้อยละ 40 พลังคุ้มกันจากชุดคลุมเต๋าและกำไลคลังเวททำให้หวังเป่าเล่อเพียงกระอักเลือดออกมาเท่านั้น ชายหนุ่มใช้ความเจ็บปวดนั้นขับเน้นให้ตัวเองพุ่งทะยานออกไปอย่างว่องไวยิ่งขึ้น พร้อมกันนั้น เขาก็สะบัดแขนใต้ชุดคลุม ฉวยเอากระบี่สีม่วงเล่มนั้นออกมา
กระบี่สีม่วงเล่มนี้คือ ไพ่ตายของเขา หวังเป่าเล่อรู้ดีว่าเขาไม่ควรใช้ไม้ตายกับ คู่ต่อสู้แต่แรก มิเช่นนั้นเหล่าชายชุดดำก็จะจับทางกระบี่เล่มนี้ได้ในที่สุด ชายหนุ่มตั้งใจใช้กระบี่สีม่วงกับท่าไม้ตายสังหารของเขาเท่านั้น
“ระยำนัก!” ชายชราตกใจกับภาพที่เห็น สีหน้าของเขาพลันบูดเบี้ยวอัปลักษณ์ เขาไม่คาดคิดว่าหวังเป่าเล่อจะมีวัตถุเวทระดับสูงเช่นนี้อยู่ในคลังแสงด้วย
เหล่าชายชุดดำรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อกระอักเลือดออกมาหลังจากรับแรงโจมตีของหัวหน้าของตน ดวงตาของพวกเขาก็พลันลุกวาวด้วยความกระหายเลือด ทุกคนตั้งท่ากระโจนเข้ามารุมสกรัมหวังเป่าเล่อ
แต่ทันใดนั้น…สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเสียก่อน!
เสียงยุงบินหึ่งดังสะท้อนไปทั่วป่าฝนบ่อเมฆอันกว้างใหญ่ เสียงสั่นสะเทือนนั้นพาให้คนที่ได้ยินต่างขวัญผวาไปตามๆ กันอย่างช่วยไม่ได้ แม้แต่เหล่าอสูรกายในป่าก็ยังพากันอกสั่นขวัญแขวนอย่างไร้การควบคุม ราวกับความกลัวจากสัญชาตญาณภายในได้ปะทุออกมา
หวังเป่าเล่อเองก็ตะลึงเช่นกัน สีหน้าของเหล่าชายชุดดำเบื้องหลังเขาเปลี่ยนไปในทันที
จากระยะไกล มีบางสิ่งบินพุ่งออกมา เจ้าสิ่งนั้นยาวราวหนึ่งเมตร ดูคล้ายภูเขา ลูกย่อมๆ
มันคือ ยุงยักษ์ป่าเถื่อน!
แรงอาฆาตชวนขนหัวลุกแผ่กระจายออกมาจากร่างของเจ้ายุงนั้น ทำให้บรรดาสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ตกอยู่ในความสะพรึงไปตามๆ กัน!