บทที่ 96 ทั้งสุขทั้งเศร้า
“แม้แต่รากฐานวิญญาณยังเล่นตุกติก และก่อปัญหาได้เช่นกันหรือนี่” หวังเป่าเล่อเบิกตากว้างด้วยความฉงนใจเล็กน้อยมากกว่าจะรู้สึกเกรงกลัว ขณะมองดูร่างมายากำลังหัวเราะ จริงๆ แล้ว ก่อนมาถึงที่นี่ เขาได้ใช้แผ่นหยกซึ่งเจ้าสำนักเคย ให้ไว้ ทำความเข้าใจคร่าวๆ เกี่ยวกับรากฐานวิญญาณระดับลมหายใจเที่ยงแท้ จึงได้รู้ว่าพวกมันมีปัญญาวิญญาณ
ชายหนุ่มต้องการเดินเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ราวกับร่างมายารู้สึกตัว ร่างมายาตนนั้นรีบหันขวับ เผยให้เห็นใบหน้าไร้เค้าโครงหน้าตา ส่วนร่างกายของมันเผยให้เห็น รากเจ็ดนิ้วอย่างชัดเจน
“เจ็ดนิ้ว เฮ้อ” หวังเป่าเล่อค่อนขอด พลางคิดว่าตนเองต้องตามหารากฐานวิญญาณหนึ่งนิ้วที่ถูกชะตาด้วยให้เจอก่อน
“ตอนแรก ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะท้าทายอะไรนักหนา แต่ตอนนี้ เข้าใจแล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!” หวังเป่าเล่อเอ่ยพลางเกาหัว แต่ขณะถอนหายใจและหมุนตัวกลับอยู่นั้น รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วไร้หน้าก็เริ่มเรืองแสงหลังจากเห็นหน้าเขา ใบหน้าของมันค่อยๆ พร่าขึ้น ร่างกายขยายอย่างรวดเร็ว
“หืม” ชายหนุ่มสับสนกับฉากตรงหน้า เพียงไม่กี่อึดใจ รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วได้ตัวใหญ่ขึ้น เผยให้เห็นเค้าโครงหน้าตา และสวมใส่เสื้อผ้า จนเหมือนกับตัวเขา ไม่ผิดเพี้ยน!
หวังเป่าเล่อดวงตาเป็นประกายและตื่นเต้นกับภาพตรงหน้า
แม้พอรู้เรื่องราวมาบ้างจากแผ่นหยกที่เจ้าสำนักมอบให้ ว่าลมหายใจเที่ยงแท้จะ จู่โจมผู้ที่มันต้องตาต้องใจ โดยคนผู้นั้นต้องทำลายร่างของมันให้แตกสลาย เพื่อดูดกลืนรากฐานวิญญาณไว้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากเจอกับรากฐานวิญญาณระดับสูงซึ่งดูดกลืนได้ยาก ต่อให้เอาชนะลมหายใจเที่ยงแท้ได้แล้ว ก็ไม่อาจจะดูดซับมันได้อยู่ดี สุดท้ายพวกมันจะประกอบร่างขึ้นใหม่ ก่อนกลับมาจู่โจมอีกครั้ง
นับว่าเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง หากรากฐานวิญญาณตัดสินใจโจมตีผู้ใด เพราะหมายถึงพวกมันมีความจงรักภักดี เมื่อถูกผู้นั้นดูดกลืนไปแล้ว พวกมันจะยังคงเป็นเช่นเดิม
“หึ! สายตาเฉียบคมนัก เจ้าคงเลือกจากหน้าตาของข้า ซึ่งดูดีกว่าคนอื่นๆ สินะ” หวังเป่าเล่อหัวเราะอย่างหลงตน ก่อนเคลื่อนตัวไปด้านหลัง เพื่อหลอกล่อให้ รากฐานวิญญาณตามมา
ในจังหวะที่เขาเคลื่อนตัวนั้น รากฐานวิญญาณคำรามและรีบพุ่งเข้าใส่ ทำให้ ร่างทั้งสองกระแทกจนเกิดเสียงดังทันที รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วกระเด็นไปไกล หลายร้อยฟุตหลังจากจู่โจม ส่วนชายหนุ่มเองก็ประหลาดใจ ขณะโดนแรงปะทะผลักออกไปเช่นกัน
รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วช่างทรงพลังนัก!
หวังเป่าเล่อผงะ ด้วยทักษะการต่อสู้ของตนเองตอนนี้ ทำให้รู้ดีว่าหมัดที่เพิ่งซัดไปนั้น ต่อให้เป็นหัวหน้าศิษย์ของสาขาการยุทธ์ก็ไม่อาจต้านทานไหว แต่รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วตนนี้กลับทนได้ แรงปะทะนั้นสะเทือนจนร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปทั่วอย่าง น่าแปลกใจ แม้ว่าตัวมันเองจะกระเด็นออกไปด้วยก็ตาม
ถ้าเป็นคนอื่นคงทนไม่ไหว แต่ข้าจะลองดูสักตั้ง! หวังเป่าเล่อคิด ก่อนวิ่งด้วยความเร็วแสงไปยังพื้นที่นอกป่า โดยมีเสียงคำรามของรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้ว ไล่ตามหลัง
“มาเลย เจ้ารากฐานวิญญาณ! ข้าอยู่นี่! มาสิ!” ชายหนุ่มเกรงว่าอีกฝ่ายจะตามไม่ทัน จึงตะโกนร้องเป็นครั้งคราว เพื่อเรียกความสนใจ
ทั้งคู่วิ่งไล่กันไปยังด้านนอกป่า มีการแลกหมัดและตะคอกใส่กันเป็นบางจังหวะ จนเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย
หวังเป่าเล่อเริงร่าขณะวิ่งหนี เพราะทุกครั้งที่หันกลับไปมอง จะเห็นร่างมายาซึ่งเหมือนกับตัวเองกำลังไล่ตามอยู่ ร่างนั้นช่างดูดีไม่มีที่ติ จนเจ้าตัวเห็นแล้วประทับใจและเบิกบานยิ่ง ถึงขั้นตะโกนออกมาอย่างอารมณ์ดี
“หล่อเหลามาก เจ้ารากฐานวิญญาณ ตามมานะ! อย่าเพิ่งท้อถอย อีกเดี๋ยว เจ้าคงจะจับข้าได้!”
เสียงของหวังเป่าเล่อราวกับกระตุ้นปลุกเร้า จนรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วคำรามดังกว่าเก่าและเร่งความเร็วขึ้น
“ข้าอยู่นี่ มา จงตามมา…!”
ชายหนุ่มได้เพิ่มระยะห่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เหล่าบรรดาศิษย์จากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าซึ่งมองดูเหตุการณ์จากบริเวณใกล้เคียง รู้สึกงุนงงในช่วงแรกที่ได้ยินเสียงของหวังเป่าเล่อ ก่อนจะประหลาดใจเมื่อเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังวิ่งผ่านไป โดยมีรากฐานวิญญาณไล่ตามหลัง
“รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้ว! เจ้าอ้วนช่างโชคดีนัก ที่พบรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้ว ซึ่งถูกชะตากับเขา!”
“สวรรค์! การเริ่มต้นกับรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ เจ้านั่น ไม่เพียงแค่ได้พบ แต่ยังต้องชะตากับมันอีกต่างหาก โชคดีเหลือเชื่อ!”
“เขาตั้งใจหลอกล่อให้รากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วนั่นไล่ตาม ปกติวิธีนี้จะใช้กับรากฐานวิญญาณต่ำกว่าห้านิ้วนี่นา พลังต่อสู้ของรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วนั้นสูงนัก เจ้านั่นกำลังเล่นอยู่กับไฟชัดๆ”
การถูกไล่ล่าด้วยรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ประเด็นคือ ท่าทางและน้ำเสียงของชายอ้วนซึ่งตะโกนเรียกรากฐานวิญญาณนั้นแปลกพิกล ทั้งยังน่ารำคาญเบาๆ ใครได้เห็นเป็นต้องงุนงงอย่างอดไม่ได้
ชายหนุ่มได้พบกับเหล่าศิษย์จากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าเพิ่มขึ้นขณะวิ่งแจ้น และทุกคนตัวแข็งทื่อด้วยความตกตะลึง เมื่อเห็นรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วไล่ตาม หวังเป่าเล่อแจ
ในบรรดาศิษย์เหล่านั้น มีบางคนมาจากสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ ต่างพากันอิจฉาและคุกรุ่นไปด้วยอารมณ์ หลังจากเห็นหนุ่มร่างอ้วนวิ่งผ่านไป โดยมีรากฐานวิญญาณที่รูปร่างเหมือนกับตัวเขาวิ่งตาม
“หัวหน้าศิษย์แห่งโถงทั้งสามของสาขาอาวุธเวทประจำสำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของเราช่างไม่ธรรมดา! แม้แต่วิธีล่อลวงรากฐานวิญญาณนั้นยังผิดแผกจากปกติเลย!”
หวังเป่าเล่อพึงพอใจเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าและการพูดคุยของกลุ่มคนระหว่างทาง ด้วยความคิดว่าตนนั้นเปี่ยมไปด้วยความสามารถ ยิ่งมีรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้ว ไล่ตามหลังมาด้วย ยิ่งดูเหนือชั้นกว่าคนอื่นเป็นไหนๆ
คงจะดี หากข้าได้เจอรากฐานวิญญาณหกนิ้วบ้าง!
ขณะที่กำลังลิงโลดใจ ทันใดนั้นเอง ชายหนุ่มได้สังเกตเห็นร่างมายาร่างหนึ่ง ซ่อนอยู่ในหุบเขาด้านหน้า แววตาของชายหนุ่มทอประกาย ก่อนตัดสินใจรีบพุ่งเข้า ไปหา จนได้พบกับร่างมายารากฐานวิญญาณถึงสามตนล่องลอยอยู่บริเวณหุบเขานั้น
ร่างทั้งสามสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของหวังเป่าเล่อ จึงเคลื่อนตัวออกห่าง ก่อนหยุดลงอย่างกะทันหัน แล้วหมุนตัวกลับในทันที เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง ขณะพวกมันจ้องมองมา ร่างกายเหล่านั้นแผ่ขยายและบิดเบี้ยว ก่อนกลายร่างจนเหมือนกับแฝดสามของหวังเป่าเล่อ!
“ทั้งสามตนนั้น ยาวตนละห้านิ้ว!” ชายหนุ่มสับสนและแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ขณะมองไปยังรากฐานวิญญาณห้านิ้วอันมีรูปลักษณ์เดียวกันกับเขา พวกมันกระโจนเข้ามาพร้อมส่งเสียงโหยหวน
“ตัวใดแปลงกายเป็นข้า แปลว่าตัวนั้นถูกชะตากับข้าหรือนี่” หวังเป่าเล่อสูดลมหายใจเข้าลึก แม้จะประหลาดใจ และรู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติ แต่ไม่มีเวลาครุ่นคิด มากนัก เพราะรากฐานวิญญาณเจ็ดนิ้วกำลังไล่ตามหลังมาอยู่เช่นกัน ชายหนุ่มรีบวิ่งฉวัดเฉวียน โดยมีร่างแฝดอีกสี่ตน อันเกิดจากการกลายร่างของรากฐานวิญญาณ เจ็ดนิ้วหนึ่งตน และห้านิ้วสามตน คอยวิ่งไล่ตามและแผดเสียงโหยหวน
เป็นเพราะข้าหล่อเหลาเกินไปหรือนี่ ชายหนุ่มสับสน แต่ยังมีอารมณ์ยินดีปรีดา แม้สัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ทว่าไม่นานนัก ความเบิกบานนั้นได้กลับกลายเป็นความกังวลใจเข้ามาแทน
เหตุผลที่ทำให้หวังเป่าเล่อจะเป็นบ้าตายตอนนี้ ไม่ใช่เพราะรากฐานวิญญาณสี่ตนนั่น หากแต่เป็นเพราะรากฐานวิญญาณทุกตนที่เขาพบตลอดทางระหว่างวิ่งหนีอยู่นั้น ต่างก็กลายร่างเป็นตัวเขา ก่อนเริ่มไล่ตามมาสมทบเช่นกัน
สมองของชายหนุ่มด้านชาไปชั่วขณะ เมื่อมีร่างมายาอวบหนาจำนวนกว่า สามสิบตัวตามล่า ซึ่งส่วนใหญ่มีความยาวมากกว่าสามนิ้วทั้งสิ้น ดวงตาของพวกมันแดงก่ำ และส่งเสียงโหยหวนต่อเนื่องขณะไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน หวังเป่าเล่อตื่นตระหนกและไม่สนุกกับมันอีกต่อไป ทั้งยังรู้สึกกังขากับเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อเหล่านี้ โดยเฉพาะ รากฐานวิญญาณเหล่านั้นแข็งแกร่ง หากโดนโจมตีเพียงครั้งเดียว คงบาดเจ็บไม่น้อย หนำซ้ำพละกำลังของ ทั้งสามสิบตัวที่วิ่งไล่อยู่นั้น ดันก่อให้เกิดเสียงดังราวกับฟ้าผ่าลงพื้นดิน
เสียงแพร่กระจายไปจนเรียกความสนใจจากเหล่ารากฐานวิญญาณตนอื่น และพากันกลายร่างเป็นหวังเป่าเล่อทันทีหลังจากเห็นหน้า จนจำนวนของพวกมันทวีคูณขึ้นนับร้อยตัว!
“โอ้ ฟ้าดิน!” ชายผู้ไร้หนทางทำลายรากฐานวิญญาณได้ตะโกนร้องอย่างสับสน แม้จะลองสังหารไปบางตน แต่พวกมันกลับไม่ตาย เหล่าร่างมายานั้นเพียงแค่ แตกสลายไป และรวมร่างขึ้นกันใหม่โดยใช้เวลาไม่นาน
ชายหนุ่มไม่อาจทำอะไรได้ จนเหงื่อตกและสับสนอย่างมาก เขารู้ดีว่าหากหยุดวิ่งลง ร่างแฝดร้อยกว่าตนด้านหลัง คงกรูเข้ามาล้อมวงโจมตีเป็นแน่
มีบางสิ่งผิดเพี้ยนไป ระยำนัก! มีรากฐานวิญญาณเป็นร้อยอยู่ตรงนี้ แถมไม่มีตนใดที่ ต่ำกว่าสามนิ้วอีกด้วย ข้าต้องการรากฐานวิญญาณเพียงนิ้วเดียวเท่านั้น! หวังเป่าเล่อรู้สึกกังวลและวิ่งเร็วขึ้น ก่อนนำหน้ากลุ่มชายจ้ำม่ำขบวนใหญ่ซึ่งเพิ่มจำนวนไม่หยุด ไปถึงหมู่บ้านลมปราณวิญญาณ
ความโกลาหลนั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากให้หันมาสนใจ เหล่าศิษย์ผู้เห็นเหตุการณ์จ้องตาไม่กะพริบ ปากอ้าค้างตะลึงงัน ทุกคนต่างรู้สึกว่าสถานการณ์นี้มันแปลกประหลาดเกินไป!
“มัน…มันต้องระดับไหนกันเนี่ย”
“เป็นไปได้ไหมว่าความสามารถของเจ้าอ้วนนั่นไม่ธรรมดา จนเหล่า รากฐานวิญญาณพากันถูกชะตาได้ขนาดนั้น”
รากฐานวิญญาณไล่ตามหวังเป่าเล่อจนดูคล้ายเป็นกองทัพ พื้นที่ทั้งหลายในป่าเรียบเตียนเป็นหน้ากลอง จากการไล่ล่าไม่จบไม่สิ้น
หวังเป่าเล่อถอนหายใจเป็นระยะอย่างจนปัญญา ยิ่งเวลาผ่านไป รากฐานวิญญาณยิ่งเพิ่มจำนวนขึ้นหลายร้อยตน และมีจำนวนไม่น้อยในกลุ่มนี้ เคยถูกชะตากับคนอื่น จนกลายร่างเป็นผู้นั้นไปแล้ว แต่พอได้เห็นหวังเป่าเล่อ ก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีราวกับเป็นกบฏ พวกมันแปลงกายใหม่อีกครั้งเป็นตัวเขา ก่อนสมทบกับกองทัพนี้ทันที
เวลาผ่านไป มีศิษย์จากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าหลายคนเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์ทรมานทรกรรมของหวังเป่าเล่อ ความสามารถอันน่าตราตรึงใจของ หวังเป่าเล่อผู้วิ่งนำขบวนรากฐานวิญญาณนั้น ต่างเป็นที่กล่าวขานถึง แต่เจ้าตัวไม่มีเวลาใส่ใจนัก เขาเป็นกังวลยิ่งกว่าใคร ขณะกำลังค้นหารากฐานวิญญาณหนึ่งนิ้ว อย่างเอาเป็นเอาตาย
ตอนนั้นเอง หวังเป่าเล่อก็วิ่งโร่มาถึงหนองน้ำแห่งหนึ่ง หลี่อี้จากสำนัก ศึกษาเต๋ากวางขาว ผู้ครอบครองกายาวิญญาณเพลิงโดยกำเนิดนั้น เอาชนะ ลมหายใจเที่ยงแท้ที่กลายร่างเป็นตัวนางได้สำเร็จ ดวงตาของหญิงสาวดูเอียงอายขณะมองร่างมายาซึ่งเหมือนกับตนเอง
หลี่อี้ใช้เวลานานเช่นกันกว่าจะพบกับลมหายใจเที่ยงแท้ขนาดหนึ่งนิ้ว หลังจากกำราบมันได้ นางก็ไม่อาจห้ามใจมิให้จุมพิต และหลงใหลในรูปโฉมอันงดงามตรงหน้าได้อีก
แต่แล้วขณะริมฝีปากสีชมพูกำลังโน้มลงมา แผ่นดินก็พลันสั่นไหวขึ้นเสียก่อน หวังเป่าเล่อวิ่งนำกองทัพเหล่าร่างมายาอ้วนใหญ่ตรงเข้ามาทางนั้นพอดี!