Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1046

ตอนที่ 1046

ไก่เหล็กก็ถูกถอนขนได้!

แทบจะในเวลาเดียวกับที่โลกภาพสะท้อนแห่งนั้นจางหายไป สามหญิงสาวตัดสินใจเริ่มทำสงคราม เพื่อให้โลกของพวกนางเข้ามาใกล้จากที่ห่างไกลออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาอยู่บ้าง

ตรงตำแหน่งอื่นในท้องฟ้าเป็นโลกอีกแห่งหนึ่ง โลกแห่งนั้นมีดวงตะวันเก้าดวงและมีรูปปั้นขนาดใหญ่ มันไม่ใช่เป็นโลกจริงๆ แต่เป็นภาพสะท้อน ซึ่งเหมือนกับโลกของสามหญิงสาวนางนั้นเป็นอย่างยิ่ง

โลกที่แท้จริงอยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลออกไปมากๆ มากเป็นอย่างยิ่ง…

ในโลกภาพสะท้อนของเก้าดวงตะวัน เสียงอันน่ากลัวและแน่วแน่เด็ดขาดได้พูดขึ้นมาด้วยเช่นเดียวกัน เป็นเสียงของหญิงสาว

“ถึงแม้ว่าพวกมันจะเดินทางมาอย่างรวดเร็ว แต่คงต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะมาถึง เช่นเดียวกับพวกเรา…ครั้งนี้ต้องทุ่มสุดตัว! พวกเราต้องทำให้สำเร็จให้จงได้!”

เสียงของหญิงสาวนางนั้นฟังดูชั่วร้าย เหมือนกับว่าจะเต็มไปด้วยความเย็นชาและไม่สนใจต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด นอกจากกลุ่มที่กำลังห้อมล้อมนางอยู่ในตอนนี้ ขณะที่เสียงนั้นดังก้องออกไป โลกของเก้าดวงตะวันก็ค่อยๆ เริ่มเลือนรางลง และจากนั้นก็หายไป

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในอาณาจักรขุนเขาทะเล ในขุนเขาทะเลที่เก้า เมิ่งฮ่าวลืมเลือนเรื่องเหล่านี้ไปโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เขากำลังขมวดคิ้วมองไปยังนกแก้ว ในที่สุดก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ แต่เมื่อได้เห็นนกแก้วอยู่ในตอนนี้ ก็ทำให้เขาต้องจ้องมองไปด้วยโทสะขึ้น

แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรออกมา นกแก้วก็ขยิบตา กระแอมไอขึ้น จากนั้นก็กระพือปีกบินขึ้นไปในอากาศ ดูเหมือนว่ากระจกทองแดงจะสูญเสียความสามารถในการลอยหรือบินไป และตกลงมาบนพื้น

นกแก้วบินออกไปจากห้องพัก ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจต่อเรื่องราวทางโลกใดๆ แต่ลึกลงไปในจิตใจของมัน กลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“หายนะ…กำลังมาแล้ว เฮ้อ, พลาดไปแล้ว ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกสองกองกำลังจะดื้อรั้นเช่นนี้!”

“ช่างมันเถอะ ในเมื่อตอนนี้เมิ่งฮ่าวเป็นเจ้าของกระจก มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับอู่เหยีย ถ้าเลวร้ายมากที่สุด ข้าก็จะหลบหนีจากไป และหลับไปสักพักอีกครั้ง” ในที่สุดนกแก้วก็คิดได้ วางเรื่องกังวลใจเหล่านี้ทั้งหมดไว้ ดวงตาเริ่มสาดประกายเจิดจ้าขึ้น

ขณะที่มองไปยังผู้ฝึกตนอสูรที่อยู่ในสระน้ำ อีกครั้งที่มันเริ่มจินตนาการพวกมันจนกลายเป็นอ้ายเฟยที่มีขนจำนวนมาก และวันเวลาแห่งความสุขที่จะมาถึงในไม่ช้านี้

“ฮา ฮา ฮา! อู่เหยียกลับมาแล้ว! ตอนนี้ พวกเจ้าทั้งหมดฟังข้าและทำตามด้วย! อู่เหยียกำลังจะสอนพวกเจ้าร้องเพลง!” นกแก้วแหวกฝ่าอากาศจนเป็นเสียงแหลมเล็กตรงไปยังกลุ่มของผู้ฝึกตนอสูร

“มา มา มาร้องเพลงร่วมกัน ชื่อของเพลงนี้ก็คือ ‘ข้าจะเป็นไห่เซียนที่ดี’ ถ้าพวกเจ้าร้องได้ดี อู่เหยียจะมีรางวัลให้กับพวกเจ้า!”

ย้อนกลับไปในห้องพัก เมิ่งฮ่าวกำลังขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่านกแก้วจะทำเหมือนว่าไม่มีอะไรในสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นนี้ แต่เมิ่งฮ่าวก็ฝึกฝนตนเองมานานหลายปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้เห็นซึ่งเกี่ยวข้องกับกระจกทองแดงบานนี้ รวมทั้งท่าทางของนกแก้ว ทำให้เขาต้องเต็มไปด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้น

“ข้าเกรงว่า…มีบางสิ่งที่เลวร้ายมากๆ กำลังจะเกิดขึ้น” เมิ่งฮ่าวพึมพำ มองไปยังกระจกทองแดงและคิดย้อนกลับไปยังภาพทั้งสามที่เขาได้เห็น ในที่สุดก็สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เขารู้สึกมากขึ้นกว่าเดิมว่าความเป็นมาของกระจกทองแดง ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยความลี้ลับอันน่าเหลือเชื่ออย่างลึกล้ำ

“มันมาจากที่ใดกัน?”

“นอกจากคัดลอกสิ่งอื่นๆ แล้ว มันต้องมีความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางอย่างที่ข้ายังไม่รู้!”

“ดูเหมือนว่าทุกคนต่างก็ต้องการมัน แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากที่สุดก็ตามที พวกมันยินดีทำทุกอย่างเพื่อจะได้มันมาไว้ในครอบครอง…”

“ถ้าเช่นนั้น…มันคืออะไรกันแน่?!?!? บางที ‘กระจากซานไห่’ อาจจะไม่ใช่ชื่อจริงของมัน!”

“ถ้ากระจกทองแดงมีความลึกลับและทรงพลังมากเช่นนี้ แล้วทำไมมันถึงได้แตกร้าวไป?”

“ใครเป็นคนทำลายมัน!?…และทำไม?!” คำถามแล้วคำถามเล่าปะทุขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว ดูเหมือนว่าจะไม่มีตรรกะการเชื่อมต่อใดๆ ระหว่างพวกมัน หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน ดวงตาเขาก็แวบขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า

“ไม่ว่ากระจกทองแดงนี้จะมีความลึกลับเช่นใด หรือว่ามันมาจากที่ไหนก็ตามที แต่ในตอนนี้ข้าเป็นเจ้าของมันแล้ว ดังนั้นข้าจะต้องเกี่ยวข้องกับความวุ่นวายที่จะปะทุขึ้นมาจากกระจกนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

“จากพื้นฐานฝึกตนของข้าในตอนนี้ ถ้ามีสิ่งเช่นนั้นเกิดขึ้นมา เป็นไปได้มากที่สุดว่าข้าคงจะถูกสังหารไป ข้าไม่อาจจะยกมือไปต่อต้านกับกลุ่มคนที่ต้องการมันได้ ดังนั้น…สิ่งสำคัญมากที่สุดสำหรับ

ข้าในตอนนี้ก็คือ…ฝึกตนต่อไป!”

“มีแต่กลายเป็นผู้แข็งแกร่งกว่า และมีพลังมากกว่าเท่านั้น ข้าถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตผ่านเหตุการณ์อันวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นมาในวันข้างหน้าได้! นั่นเป็นเพียงหนทางเดียวที่ข้าจะสามารถมั่นใจได้ว่าเต๋าของข้าจะยังคงดำเนินต่อไปได้!” เมิ่งฮ่าวหลับตาลงและทำจิตใจให้เยือกเย็น เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาใหม่ ก็ทำท่าคว้าจับ ทำให้กระจกทองแดงลอยเข้ามาอยู่ในมือ เขามองไปที่มันอยู่ชั่วขณะ จากนั้นโดยไม่ลังเลอีกต่อไป หยิบเอาหินลมปราณและแผ่นหยกออกมา และเริ่มป้อนพวกมันเข้าไปในกระจก เขายังไม่ยอมยกเลิกความคิดดั้งเดิมไป ซึ่งก็คือ…ทำการคัดลอกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่!!

“ถ้ามีโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่เพียงพอ ข้าก็จะมีหยดโลหิตที่สมบูรณ์ สิ่งเช่นนี้ช่างหาได้ยากเย็นอย่างน่าเหลือเชื่อ และจะช่วยให้ข้า…ดูดซับผลเนี่ยผานลูกแรกเข้าไปได้สำเร็จ!”

เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความมุ่งมั่น เส้นทางไปสู่อาณาจักรโบราณได้ทอดยาวอยู่ที่เบื้องหน้าเขาแล้ว และหนทางเดียวที่เขาจะสามารถเปิดประตูไปสู่เส้นทางนั้นได้ก็คือ ทำการดูดซับและหลอมรวมผลเนี่ยผานทั้งสี่ลูกเข้าไปได้ทั้งหมด จากนั้นก็จะสามารถเคาะระฆังโบราณและจุดตะเกียงวิญญาณของตัวเองขึ้นมา

เขาจะใช้เปลวไฟแห่งพลังชีวิตของตนเองเป็นเสมือนสายลมแห่งโลกนี้ เพื่อทำการดับตะเกียงวิญญาณแต่ละดวงของเขาไป!ดังนั้นเขาจะสามารถดับตะเกียงที่อยู่ในอาณาจักรนี้ได้ทั้งหมด แต่ก็ยังคงมีชีวิตอยู่!

หินลมปราณก้อนแล้วก้อนเล่า จมลงไปในกระจกทองแดง ซึ่งคล้ายกับเป็นหลุมดำ ที่สามารถจะดูดกลืนเอาหินลมปราณเข้าไปอย่างไร้ขีดจำกัด แต่ก็สามารถจะมองเห็นแสงที่แวบขึ้นมาพร้อมกับหินลมปราณแต่ละก้อนที่มันกินเข้าไป

ขณะที่อัตราการกระพริบของแสงนั้นมีเพิ่มมากขึ้น ภายนอกของเมิ่งฮ่าวดูเหมือนจะเยือกเย็น แต่จิตใจกำลังบิดเป็นเกลียวขึ้น แต่เขาก็คุ้นเคยกับการที่กระจกทองแดงได้สวาปามต่อหินลมปราณเข้าไป และยังคุ้นเคยอีกด้วยว่า จะต้องใช้หินลมปราณเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนให้กระจกทองแดงเชื่อฟังคำสั่ง…

แม้จะเป็นเช่นนั้น…แต่เขาก็ยังคงมีจิตใจที่แหลกสลาย และค่อยๆ เริ่มไม่อาจจะเยือกเย็นได้อีกต่อไป หินลมปราณทั้งหมดที่เขาได้รับมาจากการแข่งขันที่ถูกจัดขี้นโดยสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ หายเข้าไปในกระจกทองแดง เหลือทิ้งไว้แต่เพียงใบหน้าที่ซีดขาวของเขาเท่านั้น

ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำ แต่ก็คล้ายกับเป็นการเสพติดการพนัน เขาโยนหินลมปราณเข้าไปอย่างต่อเนื่อง กระจกทองแดงเริ่มส่องแสงเจิดจ้ามากยิ่งขึ้นจนกระทั่งในที่สุด…ขวดหยกโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ใบที่สองก็ได้ปรากฏขึ้น!

เมิ่งฮ่าวถอนหายใจยาวออกมา สั่นสะท้านไปทั้งร่าง แต่ก็ระงับความโศกเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียหินลมปราณไว้ และมองไปยังขวดหยกสองใบอย่างละเอียด จากนั้นก็เริ่มหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา

ถ้าจิ่วผอและคนอื่นๆ มาเห็นขวดหยกสองใบนี้ พวกท่านคงจะตกตะลึงเกินกว่าจะเชื่อได้ อันที่จริงพวกท่านอาจจะเริ่มคลุ้มคลั่งขึ้นมา และทำให้เกิดเป็นความหายนะขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ขวดหยกทั้งสองใบนี้มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน ทั้งตัวขวดหยกเองและโลหิตที่อยู่ข้างใน ต่างก็เหมือนกันโดยสิ้นเชิง!

นี่แทบจะเหมือนกับการสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่า เป็นภาพอันลี้ลับบางอย่างที่ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า จนทำให้จิตใจเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างน่าเหลือเชื่อ

ตอนนี้เขาสามารถจะบอกได้อย่างมั่นใจด้วยเช่นกันว่า หลังจากที่ได้เศษชิ้นส่วนของกระจกมาจากสำนักเซียนอสูรโบราณแล้ว พลังการคัดลอกของกระจกบานนี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นอย่างแท้จริง

สิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่อาจจะคัดลอกออกมาได้ ตอนนี้มันสามารถจะทำได้!

เมิ่งฮ่าวยังรู้สึกด้วยอีกว่าในวันหนึ่ง ถ้าเศษชิ้นส่วนของกระจกถูกนำมารวมกันจนกลายเป็นกระจกทั้งหมด เขาก็จะสามารถคัดลอกได้แม้แต่สวรรค์ หรือว่าอาณาจักรแห่งโลกนี้ได้ทั้งหมด! เขาสามารถจะคัดลอกอะไรก็ได้

จิตใจเมิ่งฮ่าวเต้นรัวอย่างรวดเร็ว และแสงอันเจิดจ้าก็ปรากฏขึ้นในดวงตา แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ยังคงระมัดระวังตัวอยู่ เขารู้ว่าถ้ามีใครพบว่าเขามีกระจกบานนี้ ก็จะหมายความว่า หายนะอันยิ่งใหญ่ได้มาถึงตัวเขาแล้ว!

อันที่จริงนี่เป็นสิ่งที่เขาได้ตระหนักดีมาโดยตลอดเมื่อนานมาแล้ว จากตอนที่เขาได้ครอบครองกระจกทองแดง และค้นพบความสามารถของมัน เมื่อเขาเริ่มเดินไปบนเส้นทางแห่งการฝึกตนครั้งแรก เขามักจตักเตือนตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เสมอ

หลังจากที่เก็บขวดหยกโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ที่คัดลอกออกมาไว้แล้ว เขาก็ใช้ขวดเดิมทำการคัดลอกต่อไป เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในที่สุดก็ผ่านไปสามวัน เมิ่งฮ่าวทำตัวเหมือนคนเสียสติ ทำการป้อนหินลมปราณและหยกเซียนเข้าไปในกระจกทองแดงอย่างต่อเนื่อง

ที่ด้านนอกห้องพัก เสียงขับขานบทเพลงดังก้องขึ้นไปในอากาศ เป็นเสียงที่ฟังดูเหมือนจะไม่พอใจ และไม่ยินดีที่จะขับร้อง แต่เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้สังเกตสนใจฟัง เขาเพ่งสมาธิไปที่กระจกทองแดงและโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่โดยสิ้นเชิง

เมื่อหินลมปราณหมดเกลี้ยงไป เขาก็ใช้หยกเซียนแทน ในที่สุดก็จบลงด้วยการคัดลอกขวดหยกโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ได้เจ็ดขวด ในที่สุดหยกเซียนของเขาก็หมดลง

ในตอนนี้ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงเข้ม โบกสะบัดมือ ทำให้เหรียญคำสั่งลอยเข้าไปอยู่ในมือของเด็กชายหุ่นเชิด ซึ่งในตอนนี้กำลังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอรับคำสั่ง ด้วยการปฏิบัติตามเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว มันบินออกไปในทันทีราวกับว่ามันมีความรู้สึกนึกคิดพุ่งผ่านเกราะป้องกันและสระน้ำออกไป กลายเป็นตัวแทนของเมิ่งฮ่าวไปจัดหาสิ่งของที่ใช้ในการฝึกตน จากอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า

สามผู้ชราเคยให้สัญญากับเมิ่งฮ่าวไว้ว่า สิ่งของทั้งหมดในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าได้เปิดออกเพื่อเขา ถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่เห็นด้วยอย่างแท้จริง ว่าจะมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา แต่ก็ยังคงยืนยันอย่างหนักแน่น เมื่อเกี่ยวข้องกับเรื่องของการฝึกตนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เวลาผ่านไปไม่นานนัก ก่อนที่เด็กชายหุ่นเชิดจะกลับมาพร้อมกับถุงสมบัติ ทันใดนั้นเมิ่งฮ่าวก็ทำการคัดลอกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ต่อไป เขาจะทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยเติมเต็มความต้องการ ที่จะดูดซับผลเนี่ยผานเข้าไปอย่างสมบูรณ์

หนึ่งวัน สองวัน สามวัน

เวลาผ่านไป และเมิ่งฮ่าวแทบไม่เคยจะย่างเท้าออกไปที่ด้านนอกเลย สิ่งที่เขาทำอยู่ทั้งหมดก็คือ คัดลอกโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ ในที่สุดเขาไม่ได้มีแค่เจ็ดส่วนเท่านั้น แต่เป็นสิบห้าส่วน ซึ่งโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่จำนวนนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่อาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าก็ยากที่จะมีได้

นอกจากนั้น เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้สนใจต่อทะเลของหินลมปราณและแผ่นหยกเท่าใดนัก แม้แต่จะนับว่าพวกมันมีอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่เขาก็ยังไม่ทำ นั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น ถ้าเขานับ ความเจ็บปวดที่อยู่ในจิตใจ คงทำให้เขาต้องกระอักโลหิตออกมาอย่างแน่นอน

“มันยังไม่เพียงพอ!” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปโดยสิ้นเชิง โบกสะบัดทำให้เด็กชายหุ่นเชิดออกไปอีกครั้ง เพื่อนำทรัพยากรที่ใช้ในการฝึกตนกลับมา ครั้งนี้เด็กชายหุ่นเชิดไม่ได้กลับมาอย่างรวดเร็วเหมือนก่อนหน้านี้ เมิ่งฮ่าวรอคอยอยู่ชั่วขณะ และเมื่อมันยังคงไม่กลับมา เขาจึงต้องลุกขึ้นมายืนอย่างไร้ทางเลือก ขณะที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องพัก สีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อมองตรงไปยังห้องศิลาที่ใช้ในการเข้าฌาณตามลำพังด้านซ้ายมือสุด

แทบจะในทันทีที่เขามองตรงไป เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากภายในห้องศิลานั้น ต่อมาประตูศิลาก็สั่นไปมาและรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนพื้นประตู ราวกับว่ามีพลังอันแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อกำลังกระแทกออกมาจากด้านใน

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่ใช้พลังของเวทเป็นตายมองเข้าไปในห้องศิลา สิ่งที่เขาเห็นก็คือ ในที่แห่งนั้นซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีด้วงตาปีศาจอยู่สิบตัว

ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ตัวเดียว!  อย่างน่าตกใจยิ่ง ดวงตาขนาดใหญ่หนึ่งดวงได้ปรากฏขึ้นอยู่ในห้องศิลานั้นแทน!!

ดวงตานั้นถูกห้อมล้อมด้วยหนวดสิบเส้น ซึ่งพลิ้วไปมาอยู่รอบๆ อย่างรวดเร็ว ยังมีแสงสีดำกระจายออกมาจากดวงตานั้นอีกด้วย ซึ่งทำการกระแทกเข้าไปในประตูศิลาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่ตรวจสอบดูอย่างละเอียด ก็มองเห็นว่าภายในดวงตาปีศาจนั้นมีภูติน้อยสีดำขนาดเล็ก กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น ภูติตัวนั้นไม่มีดวงตา มีปากขนาดใหญ่ และที่แปลกมากที่สุดก็คือมันมีกระดองสีดำอยู่บนหลัง!

เห็นได้ชัดว่า ดวงตาปีศาจที่แปลกๆ นี้ จริงๆ แล้วก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยภูติที่มีเกราะสีดำนั้น

ดวงตาเมิ่งฮ่าวเบิกกว้างขึ้น ขณะที่ตระหนักด้วยเช่นกันว่า ทันใดนั้น เวทเป็นตายของเขาได้สูญเสียการเชื่อมต่อไป แทบจะในเวลาเดียวกับที่เวทเป็นตายกำลังอ่อนแอลง เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ได้ยินมา

ขณะที่ประตูศิลาพังทลายลงไป ดวงตาปีศาจพุ่งทะลวงออกมา กระจายเสียงแผดร้องอย่างดุร้าย ดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง จากนั้นดวงตาปีศาจก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินเขาลงไป!

——————-

หมายเหตุ :

  1. 1. ชื่อตอนนี้มาจากภาษาจีนว่า 铁公鸡也拔毛

(เถี่ยกงจีเหยี่ยป๋าเหมา – ไก่เหล็กก็ถูกถอนขนได้) หมายความว่า

ถึงจะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวก็อาจจะต้องยอมเสียเงิน

  1. 2. ตัวด้วงในภาษาจีน มาจากคำว่า 甲虫 (เจี่ยฉง)

ซึ่งแปลตรงตัวว่า แมลงเกราะ หรือแมลงกระดอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version