ตอนที่ 1055
โลหิตหยดนี้ของผู้ยิ่งใหญ่คนใด!?
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เด็กชายหุ่นเชิดก็กลับมา เหมือนกับที่หลิงอวิ๋นจื่อได้กล่าวไว้ ของรางวัลที่มากกว่าปกติทั่วไป เก็บอยู่ในถุงสมบัติ และถูกนำมามอบให้กับเขา
เมิ่งฮ่าวยกถุงสมบัติขึ้นมา ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดผ่านไปชั่วขณะ ก่อนที่จะเริ่มหอบหายใจออกมา รีบดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ไม่อาจจะทนได้ที่จะมองไปยังสิ่งของเหล่านั้น ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นความปวดร้าวอยู่ในจิตใจขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเมิ่งฮ่าวต้องรู้สึกราวกับว่ากำลังถูกคมมีดมากรีดเฉือน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่ไปคิดถึงมัน
นี่เป็นความสามารถอันล้ำค่าที่เมิ่งฮ่าวเพิ่งจะเรียนรู้มาเมื่อเร็วๆ นี้ เขาถอนหายใจกัดฟันแน่น และหยิบเอาขวดใบเล็กๆ ของโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ออกมา และเริ่มทำการคัดลอกมัน
เวลาผ่านไป ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงก่ำไป และเส้นผมก็ยุ่งเหยิงราวกับเป็นคนบ้า ขณะที่ทำการป้อนหยกเซียนและหินลมปราณเข้าไปในกระจกทองแดง ด้วยหน้าตาที่บูดเบี้ยว เขาทำการคัดลอกขวดใบนั้นไปเรื่อยๆ
ในที่สุดก็ผ่านไปเจ็ดวัน ตอนนี้เมิ่งฮ่าวอยู่ในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้ามาเกือบครบหนึ่งเดือนเต็มแล้ว ในที่สุดถุงสมบัติของเขาก็ปราศจากหยกเซียนและหินลมปราณโดยสิ้นเชิง และที่อยู่เบื้องหน้าเขาก็เป็นขวดหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งร้อยใบ!
ขณะที่เมิ่งฮ่าวมองไปยังหยดโลหิตเหล่านั้น ก็เริ่มหอบหายใจออกมา เฝ้าบอกกับตนเองว่าอย่าได้ไปคิดเกี่ยวกับจำนวนที่เขาต้องใช้ไปมากนัก แต่ก็ไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ ในทันทีที่เกิดความคิดเช่นนั้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้จิตใจต้องบิดจนเป็นเกลียวขึ้น
“เมื่อข้ายังเยาว์ มักต้องการจะกลายเป็นคนรวย หลังจากที่เริ่มฝึกตน มีอยู่บ่อยครั้งที่ข้ารู้สึกว่าได้กลายเป็นเศรษฐีแล้ว แต่ในชั่วพริบตาสิ่งของทั้งหมดก็หายไป และข้าก็ยากจนลงอีกครั้ง”
เขาอยากจะร้องไห้แต่ก็ไร้น้ำตา ไม่มั่นใจว่าความฝันในชั่วชีวิตของเขาจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้หรือไม่
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ดวงตาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และหยิบเอาเม็ดยาออกมาเป็นจำนวนมาก ใส่เข้าไปในปาก แต่ไม่ได้ขบเคี้ยวพวกมัน เพียงแค่กลืนลงไปเพื่อให้พวกมันเริ่มละลายไปอย่างช้าๆ
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ ทำให้ขวดหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ลอยออกมาสิบใบ เกิดเป็นเสียงแตกร้าวขึ้นขณะที่ขวดเหล่านั้นแตกกระจายไป และหยดโลหิตก็หมุนคว้างอยู่ในอากาศ
ระลอกคลื่นเริ่มกระจายออกมา ขณะที่เขายกมือขึ้นมาทั้งสองข้าง และเริ่มทำให้หยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่รวมตัวเข้าด้วยกันกลายเป็นลูกทรงกลมหนึ่งหยด
หลังจากนั้น กลิ่นอายอันน่ากลัวก็เริ่มกระจายออกมา
“นกแก้ว! ผีโต้ง! มาที่นี่ช่วยทำให้กลิ่นอายนี้ไม่กระจายออกไป!”
คำพูดของเมิ่งฮ่าวดังก้องออกไป ในเวลาเดียวกับที่นกแก้วกำลังให้กำลังใจผู้ฝึกตนอสูรร้องเพลง หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา มันก็พึมพำกับตนเองอยู่สองสามประโยค จากนั้นก็กระพือปีกและบินตรงมาพร้อมกับผีโต้ง เพื่อช่วยสะกดข่มกลิ่นอายของโลหิตผู้ยิ่งใหญ่
เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ขณะที่โบกสะบัดมือขวา ทำให้ขวดหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ลอยออกมาและแตกกระจายไปอีกสิบใบ จากนั้นโลหิตก็หลอมรวมเข้าไปในลูกทรงกลมที่เบื้องหน้าจนมีขนาดใหญ่มากขึ้น
กลิ่นอายอันน่ากลัวระเบิดออกไปอย่างรุนแรง กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ทำให้ที่พักรอบๆ บริเวณนั้นต้องสั่นไปมาอย่างรุนแรง จนดูเหมือนว่าจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า โดยไม่ลังเลใดๆ เขาโบกสะบัดมือไปอีกครั้ง ขวดหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ก็แตกกระจายไปอีกสิบใบ และจากนั้นก็รวมตัวเข้าด้วยกัน กลิ่นอายอันน่ากลัวยิ่งมีความเข้มข้นมากขึ้น และรอยแตกร้าวก็กระจายออกไปทั่วทั้งที่พัก
ในตอนนี้เองที่นกแก้วได้มาถึง มันไม่ได้ดูสงบนิ่งและใจเย็นอีกต่อไป แต่กู่ร้องเป็นเสียงดังออกมา ขณะที่ใช้พลังทั้งหมดเพื่อสะกดข่มกลิ่นอายนั้น
ดูเหมือนว่าผีโต้งจะไม่ค่อยยินดีให้ความร่วมมือมากนัก แต่กระนั้นก็ยังกลายร่างเป็นแผ่นครอบขนาดใหญ่ ปกคลุมไปยังที่พักทั้งหมด ป้องกันไม่ให้กลิ่นอายนี้กระจายออกไปยังโลกด้านนอกโดยสมบูรณ์
“สามส่วน!” เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ แรงกดดันจากหยดโลหิตนี้ทำให้เขาต้องสั่นสะท้าน และเสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา จิตใจกำลังหมุนคว้างอย่างรุนแรง
เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่นและโบกสะบัดมือไปอีกครั้ง เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้น ขณะที่ขวดหยดโลหิตแตกกระจายไปอีกสิบใบ
หยดโลหิตลอยออกมารวมเข้ากับลูกทรงกลมขนาดใหญ่ จนตอนนี้มีขนาดประมาณกำปั้นของเด็กทารก
ลูกทรงกลมนั้นเป็นสีแดงจ้า และมองเห็นเส้นใยสีทองกำลังหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ด้านในอย่างน่าตกใจยิ่ง ทำให้ดูงดงามจนถึงจุดที่สามารถจะดึงให้วิญญาณออกมาได้
ในเวลาเดียวกันนั้น แรงกดดันก็มีเพิ่มขึ้นอย่างเข้มข้น ซึ่งได้กระจายออกมาโดยกลิ่นอายอันน่ากลัวนั้น
ระเบิดเป็นพลังโจมตีไปยังเมิ่งฮ่าว ทำให้โลหิตไหลซึมออกมาจากปาก และผิวหนังก็มีรอยแตกร้าวกระจายไปทั่ว แรงระเบิดอันทรงพลังนั้นยังทำให้ร่างกายเขาเกือบจะระเบิดออกมาอีกด้วย
ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้าขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่โคจรหมุนวนพื้นฐานลมปราณ ดึงพลังทั้งหมดของชีพจรเซียนออกมา ใช้เวทลับเพื่อทำให้พวกมันทั้งหมดกลายเป็นความเป็นนิรันดร์ พลังพุ่งขึ้นมาอยู่ในร่างกาย ขณะที่เขาโบกสะบัดมือไปอีกครั้ง ทำให้ขวดหยดโลหิตอีกสิบใบลอยออกมาและแตกกระจายไป เมื่อหยดโลหิตหลอมรวมเข้าไปในลูกทรงกลมนั้น กลิ่นอายอันน่ากลัวก็ปะทุขึ้นมาด้วยความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อทำให้ที่พักทั้งหมดของเมิ่งฮ่าวต้องพังทลายลงไปกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดกลายเป็นเถ้าธุลีไป!
โลหิตไหลซึมออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว และสองมือของเขาก็แทบจะแตกละเอียดไป อาณาจักรความเป็นนิรันดร์พุ่งขึ้นมาอย่างเต็มกำลัง ทำการฟื้นฟูรักษาเขาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้สามารถต่อต้านกลับไปยังพลังอันรุนแรงนั้นได้
ผีโต้งแผดร้อง และนกแก้วก็ส่งเสียงแหลมเล็กออกมา ขณะที่พวกมันทำการสะกดข่มกลิ่นอายนั้นด้วยพลังทั้งหมดที่พวกมันสามารถจะทำได้
เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นไปทั้งร่าง แต่ดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง
“ห้าส่วน!” เขาโบกสะบัดมือ ทำให้ขวดหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่อีกสิบใบลอยออกมา เมื่อพวกมันหลอมรวมเข้าไปในลูกทรงกลม เขาก็ส่งขวดสิบใบออกมาอีก จนกระทั่งมีทั้งหมดแปดสิบใบที่เขาได้รวมพวกมันเข้าด้วยกัน ในตอนนี้ลูกทรงกลมนั้นมีขนาดใหญ่เท่าศีรษะเด็กทารก และแรงกดดันนั้นก็ทำให้เกิดเป็นสีสันแวบขึ้นไป ท้องฟ้าเริ่มมืดสลัวดูเลือนรางไป
เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่ากำลังถูกพลังอันเข้มข้นโจมตีมา จนต้องลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ทำงานราวกับบ้าคลั่ง แต่ก็ไม่อาจจะรักษาฟื้นฟูร่างกายได้ทันกับระดับการทำลายล้างเช่นนั้น ถึงแม้ว่าชีพจรเซียนหนึ่งร้อยยี่สิบสามจุดของเขาจะหลอมรวมเข้าด้วยกันก็ตามที
ในช่วงวิกฤตนี้เอง ที่เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ที่จะกลืนกินเม็ดยาเท่าที่มีลงไปครึ่งหนึ่งในทันที ฉับพลันนั้นพวกมันก็หลอมละลายไป ไหลเข้าไปในร่างกายพร้อมกับพลังที่ช่วยฟื้นฟู พลังเซียนของเขาได้ฟื้นกลับคืนมาอีกครั้ง และเริ่มต่อต้านกับแรงระเบิดที่ทรงพลังนั้นอีกครั้ง
โลหิตลูกทรงกลมกระจายแสงอันเรืองรองออกมา ราวกับว่าเจตจำนงแห่งผู้ยิ่งใหญ่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วในตอนนี้!
ถ้าไม่มีผีโต้งและนกแก้วมาช่วยปิดกั้นกลิ่นอายไม่ให้กระจายออกไปแล้วละก็ ทั่วทั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า จะต้องตกอยู่ในความวุ่นวายโดยสิ้นเชิง ทะเลที่เก้าคงจะต้องเดือดพล่าน และขุนเขาที่เก้าทั้งหมดคงจะต้องสั่นสะท้าน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ากลิ่นอายนั้นไม่ได้กระจายออกไป แต่กฎธรรมชาติในบริเวณรอบๆ เมิ่งฮ่าวทั้งหมดต่างก็กำลังได้รับผลกระทบ อากาศเต็มไปด้วยการบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่ามีโลกอีกแห่งหนึ่งกำลังก่อตัวขึ้นมา
ทั้งหมดนี้…ก็เนื่องมาจากหยดโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่!
หยดโลหิตนั้นไม่เพียงแต่เป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้น แต่มีถึงแปดส่วนที่ถูกหลอมรวมเข้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้กลั่นสกัดมันไป และเป็นเพียงแค่การรวมตัวกันเท่านั้น แต่ก็ยังคงเป็นโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ ที่ถูกแยกออกมาจากส่วนที่สมบูรณ์ทั้งหมด!
“ข้าต้องทำได้!” เมิ่งฮ่าวแผดร้องออกมา โบกสะบัดมือ จนเกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังขึ้นมา ขณะที่ขวดหยดโลหิตยี่สิบใบสุดท้ายลอยออกมา ครึ่งหนึ่งของพวกมันแตกกระจายไป และหยดโลหิตเหล่านั้นก็ไปหลอมรวมเข้ากับลูกทรงกลม
มือของเมิ่งฮ่าวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นก็กระอักโลหิตออกมา แต่ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็กลืนเม็ดยาเข้าไปอีก ทำให้พลังของพวกมันไหลผ่านร่างกายไปกระตุ้นให้อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ทำงานขึ้นอย่างบ้าคลั่ง โลหิตที่เขากระอักออกมานั้น ไม่ได้มีผลกระทบหรือไปหลอมรวมกับโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่แต่อย่างใด
ผีโต้งแผดร้องออกมาอย่างรุนแรงมากขึ้น เมื่อแผ่นผืนที่มันได้กลายร่างไป กำลังต่อสู้เพื่อควบคุมกลิ่นอายนั้นไว้ นกแก้วอยู่ในกลางอากาศ กรีดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กขณะที่ทำให้กระแสของสัญลักษณ์เวทจำนวนมาก หมุนวนลงไปด้านล่าง และผนึกทั่วทั้งบริเวณนั้นไว้
“บัดซบ! นี่ไม่ใช่โลหิตของเหล่าเยาผอ (ยายอสูรเฒ่า) นั่น! นางอาจจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่หยดโลหิตนี้ต้องไม่ใช่ของนางอย่างแน่นอน ทำไมหยดโลหิตที่ไม่บริสุทธิ์นี้ถึงได้มีพลังอันน่ากลัวเช่นนี้ได้!?!?”
“สิบขวดสุดท้าย!” เมิ่งฮ่าวกลืนเม็ดยาที่เหลืออยู่ลงไปทั้งหมด จากนั้นก็โบกสะบัดมือทำให้ขวดหยดโลหิตสิบใบสุดท้ายแตกกระจายไป โลหิตไหลเข้าไปในลูกทรงกลม ซึ่งตอนนี้มีขนาดเท่ากับศีรษะของผู้ใหญ่!
โลหิตลูกทรงกลมประกอบด้วยเส้นใยสีทองนับไม่ถ้วน ซึ่งได้ประสานเชื่อมต่อกัน ก่อตัวเป็นสัญลักษณ์เวทอันเลือนราง จนดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยต้นกำเนิดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว เป็นแก่นแท้แห่งโลกนี้ เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทั้งมวล!
ผีโต้งกำลังสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างรุนแรง และรอยแตกร้าวก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกายของมัน ดูคล้ายกับว่ากำลังจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ และส่งเสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดออกมา นกแก้วกำลังกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง จนแทบจะคล้ายกับช่วงที่กระจกทองแดงระเบิดเป็นพลังออกมาอย่างรุนแรงอย่างที่คาดไม่ถึงในตอนนั้น
“มันต้องไม่ใช่โลหิตของเหล่าเยาผอ และไม่ใช่ของเซียนกู่เหล่าโถว (เฒ่าชราเซียนโบราณ) ด้วยเช่นกัน!” นกแก้วแผดร้องออกมา จ้องมองไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ “หรือว่าเป็น…หรือว่านี่คือ…ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้! มันไม่ใช่ตายไปแล้ว? ในทันทีที่มันตายไป โลหิตทั้งหมดของมันก็น่าจะหายสาบสูญไปจากสวรรค์และปฐพีแห่งนี้! แล้วจะไปมีเหลืออยู่บ้างได้อย่างไรกัน!?!?”
“บัดซบ! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมก่อนหน้านี้กระจกนั่นถึงได้สั่นสะท้านอย่างรุนแรงเช่นนั้น! ตอนแรกข้าคิดว่าเป็นเพราะมีใครบางคนกำลังใช้เวทมาที่มัน แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดส่วนหนึ่งเท่านั้น! อีกเหตุผลก็คือเนื่องจากโลหิตนี้!!”
โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากเมิ่งฮ่าว และร่างกายก็สั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าเขาจะมีการเตรียมตัวด้วยการใช้เม็ดยา แต่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์กำลังบรรลุถึงจุดที่ไม่อาจจะประคับประคองเขาได้อีก กายเนื้อเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ซึ่งกำลังขยายเป็นวงกว้างออกไป ราวกับว่าร่างกายอาจจะระเบิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ร่างกายเมิ่งฮ่าวชุ่มโชกไปด้วยโลหิต แต่ดวงตาก็เด็ดเดี่ยวแน่วแน่โดยสิ้นเชิง สองมือที่ถือโลหิตลูกทรงกลมอยู่สั่นไปมา และจากนั้นก็กดลงไปเต็มแรง
“กลั่นสกัด!!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้น โลหิตลูกทรงกลมค่อยๆ เริ่มหดเล็กลงไปและกลั่นตัวเองให้บริสุทธิ์ขึ้น เริ่มมองเห็นเส้นใยสีทองมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุด โลหิตทั้งหมดก็กลายเป็น…สีทอง!
เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน และรอยแตกร้าวก็กระจายออกไปทั่วผิวกายมากขึ้น รู้สึกว่าเปลวไฟแห่งพลังชีวิตกำลังมอดดับลง
ทั้งหมดนี้ก็เนื่องมาจากแรงกดดันขนาดใหญ่ที่กดทับลงมาโดยกลิ่นอายของโลหิตผู้ยิ่งใหญ่ มันเป็นแค่โลหิตเพียงหยดเดียวเท่านั้น
แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังคงไม่อาจจะต่อต้านได้ เขาแทบจะพังทลายลงไป ถึงแม้ว่าโลหิตนั้นไม่ได้โจมตีมาที่เขาอย่างแท้จริง…แต่มันก็ยังคงทรงพลังอย่างเพียงพอที่จะกำจัดเขาไปได้
ไม่เพียงแต่เมิ่งฮ่าวเท่านั้น บางคนที่อยู่ในอาณาจักรโบราณ หรือแม้แต่บางคนที่อยู่ในอาณาจักรเต๋า…ก็อาจจะถูกสังหารไปได้โดยหยดโลหิตนี้!
เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไป แต่เมิ่งฮ่าวก็พยายามอดทน ร่างกายแทบจะระเบิดออกไป ขณะที่โลหิตเริ่มหดตัวลงอย่างรวดเร็วในที่สุดก็มีขนาดเท่ากับกำปั้นของเด็กทารก
ร่างกายเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยรอยแตกร้าวและฉีกขาด สองมือกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือน ดูบิดเบี้ยวและผิดรูปไป แต่ดวงตาก็ยังคงสาดประกายขึ้นด้วยความแน่วแน่เด็ดเดี่ยว
“กลั่นสกัด!!” เขาแผดร้องออกมา เป็นเสียงที่คล้ายกับเสียงแผดร้องก่อนตายไป และในทันทีที่เขาตะโกนเสร็จสิ้น โลหิตลูกทรงกลมก็หดเล็กลงไปจนมีขนาดเท่าเล็บนิ้ว!
ในตอนนี้ มันกลายเป็นสีทองไปโดยสิ้นเชิง!
กลิ่นอายแห่งผู้ยิ่งใหญ่อย่างไร้ที่เปรียบ กระจายออกมาจากด้านในของโลหิตนี้ในทันที
นี่คือ…โลหิตของผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง!
มันเป็นโลหิตของผู้ยิ่งใหญ่ที่ยากจะพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง!
สามารถกล่าวได้ว่า…จริงๆ แล้วมันไม่ควรจะมีอยู่ เป็นหยดโลหิตจากผู้ยิ่งใหญ่คนเดียวกับที่นกแก้วได้เอ่ยถึง
ผีโต้งกำลังแผดร้องออกมา และนกแก้วก็กำลังร้องตะโกนขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ร่างกายเมิ่งฮ่าวกำลังจะระเบิดออกมา แต่…กลิ่นอายที่ไม่ใช่กลิ่นอายของการฝึกตนก็ปรากฏขึ้นมา มันคือ…กลิ่นอายของพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูร!
ในทันทีที่กลิ่นอายนั้นปรากฏขึ้น หยดโลหิตก็เริ่มสั่นไปมา!!
การสะท้อนกำลังก่อตัวขึ้นมา แทบจะคล้ายกับว่าเป็นสายโลหิตเดียวกัน!
“นี่…” เมิ่งฮ่าวคิด พร้อมกับจิตใจที่กำลังสั่นสะท้าน จากนั้นเขาก็คิดย้อนกลับไปในสิ่งที่จิ่วผอและเสินซือซ่างเหรินเคยบอกเขาไว้ ไห่เมิ่งจื้อจุนเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าและสำนักกระบี่ไท่สิง เซียนกู่เต้าฉ่างถูกก่อตั้งโดยเซียนกู่จื้อจุน สำหรับผู้ยิ่งใหญ่คนที่สาม ซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งมากที่สุด จิ่วเฟิงจื้อจุน…ไม่มีใครรู้ว่าท่านเป็นผู้ก่อตั้งอะไร
“ท่าน…ก่อตั้ง…พันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูร!” เมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่าจิตใจกำลังถูกฟาดด้วยสายฟ้า