ตอนที่ 1070
สังหารไปตลอดเส้นทางในสำนัก!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยความมุ่งมั่น ขณะที่กลายเป็นลำแสงพุ่งผ่านน้ำทะเลไป เขามีเป้าหมายอยู่ในใจแล้ว ซึ่งก็คือไปยังอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าและค้นหา…หลงเทียนไห่!
สำหรับกลุ่มคนที่มาโจมตีเมิ่งฮ่าว สองผู้อาวุโสของผู้ฝึกตนอสูรได้ถูกสังหารไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเก้าไห่เจี้ยเยา มีเพียงสมาชิกอันดับสูงสุดเท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตรอดอยู่ มันคือคนที่ลักพาตัวฉู่อวี้เยียนมาด้วยตนเอง ทำให้ความต้องการที่จะสังหารมันของเมิ่งฮ่าว ทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก
“ฉู่อวี้เยียนทุกข์ทรมานด้วยพิษมังกรโลกันต์ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับโลหิตจากหัวใจมังกรทะเลมาช่วยรักษานาง!” นั่นคือสิ่งที่เมิ่งฮ่าวรับรู้มาจากความทรงจำของผู้อาวุโสไห่เซิ่ง
มันคือพิษที่ต้องใช้โลหิตหัวใจจากมังกรทะเลอย่างน้อยก็สิบตัว ถึงจะสามารถขจัดออกไปได้ ยิ่งมังกรเหล่านั้นมีพื้นฐานฝึกตนสูงมากเท่าใด การขจัดพิษก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เมิ่งฮ่าวก็เลือกที่จะไม่ทำการค้นหามังกรทะเล ที่ยังไม่มีความสามารถในการกลายร่างเป็นมนุษย์ เป้าหมายของเขาคือ…จัดการกับผู้ฝึกตนอสูรในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า
อีกเรื่องหนึ่งที่เมิ่งฮ่าวได้เรียนรู้มาจากความทรงจำของผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็คือว่า ร่างที่แท้จริงของหลงเทียนไห่คือมังกรทะเล
เขาพุ่งกลับไปยังอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าด้วยความรวดเร็วสูงสุด ตลอดช่วงเวลานั้นพื้นฐานฝึกตนของเขากำลังฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างต่อเนื่อง และบาดแผลก็ถูกรักษาไปเรียบร้อยแล้ว อาณาจักรความเป็นนิรันดร์ต้องทำงานอย่างหนัก หลังจากที่ชั่วระยะเวลาธูปไหม้หมดหนึ่งดอกผ่านไป เขาก็กลับไปสู่จุดสูงสุดของตนเอง ในที่สุดดินแดนอันกว้างใหญ่ที่อยู่ในน้ำก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าขึ้นไป
ดินแดนนั้นประกอบไปด้วยเทือกเขาและแม้แต่ท้องฟ้าของมันเอง นั่นคือ…อาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า!
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร ขณะที่เขาเร่งความเร็วเพิ่มมากขึ้น พุ่งตรงไปจนใกล้กับประตูหลักของสำนัก และจากนั้นก็ก้าวลงไปเดินบนพื้นดินของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า
ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวเดินผ่านเข้าไปในสำนัก ก็มองเห็นสามผู้ฝึกตนอสูรซึ่งมาเฝ้ารอคอยเขาอยู่ เมื่อพวกมันมองเห็นเมิ่งฮ่าว ใบหน้าก็สลดลงไปโดยไม่รู้สึกตัวในทันที เผยให้เห็นถึงความตกตะลึงขึ้นมาอย่างฉับพลัน
การที่มองเห็นเมิ่งฮ่าว ไม่ได้ทำให้รังสีสังหารของพวกมันกระจายออกมา แต่กลับเป็นความตกตะลึง ซึ่งเป็นการบ่งชี้ให้เห็นถึงเรื่องเดียวเท่านั้น…
พวกมันรู้ว่าเมิ่งฮ่าวถูกกำหนดให้ตายอยู่ที่ด้านนอก!
สีหน้าของสามผู้ฝึกตนอสูรสลดลงไป และพวกมันก็เริ่มถอยไปทางด้านหลัง แต่ในขณะที่สีหน้าพวกมันเปลี่ยนไปด้วยความประหลาดใจดวงตาเมิ่งฮ่าวก็แวบขึ้นด้วยรังสีสังหาร
เมื่อคิดว่าพวกมันมีพื้นฐานฝึกตนอยู่เพียงแค่ในอาณาจักรเซียนเท่านั้น สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้วก็ถือได้ว่าพวกมันกลายเป็นคนที่ตกตายไปเรียบร้อยแล้ว
วันนี้เมิ่งฮ่าวได้สังหารผู้คนไปอย่างมากมาย และต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่อันตรายอย่างร้ายแรง ทำให้รังสีสังหารของเขาในตอนนี้พุ่งขึ้นมาอย่างมากมาย เขาไม่มีเจตนาจะทำให้สถานการณ์สงบลงไป เขาต้องการให้ผู้คนมากมายต้องตายไป เขาต้องการให้เกิดเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้น!
เขาต้องการสร้างเป็นมหากาพย์แห่งการสังหาร และภาพที่ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือนขึ้น!
เมิ่งฮ่าวพุ่งตรงไป ฟาดมือออกไปอย่างรุนแรง ทำให้แรงกดดันของจักรพรรดิเซียนม้วนกวาดออกไป ตามมาด้วยลมพายุขนาดใหญ่ สีหน้าของสามผู้ฝึกตนอสูรเปลี่ยนไป และพวกมันพยายามจะหลบหนีจากไปด้วยพลังเท่าที่มีทั้งหมด แต่โชคร้ายที่พวกมันถูกตรึงแน่นไว้ด้วยแรงกดดันที่ม้วนกวาดออกมานั้น
เสียงแผดร้องอย่างโหยหวนดังก้องออกไป ขณะที่ลมพายุทำให้ร่างกายพวกมันแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ จนกลายเป็นลมพายุแห่งพิรุณโลหิต
ในตอนที่คนทั้งสามตกตายไป ก็มีผู้ฝึกตนธรรมดาแปดคนอยู่ห่างไกลออกไปมองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้
ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความตกตะลึง ขณะที่มองเห็นว่าผู้ที่ทำการสังหารนั้นจริงๆ แล้วก็คือเมิ่งฮ่าว พวกมันอ้าปากค้างและสบตากันไปมา
“นั่นคือเมิ่งฮ่าว!”
“ทำไมมันถึงต้องสังหารผู้คน? มันและกลุ่มผู้ฝึกตนอสูรไม่ใช่ว่าได้ตกลงสงบศึกกันไปแล้ว?!”
“ต้องมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นอย่างแน่นอน มันเพิ่งจะสังหารผู้ฝึกตนอสูรไปสามคน! ไม่มีทางที่กลุ่มผู้ฝึกตนอสูรจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างง่ายดาย!!”
ถึงแม้ว่าพวกมันจะตกตะลึง แต่ก็ไม่ได้พยายามมาขัดขวางเมิ่งฮ่าวแต่อย่างใด ถ้าเขาเป็นคนอื่น พวกมันอาจจะกระทำเช่นนั้น และต้องแจ้งไปยังผู้อาวุโสของพวกมันในสำนักด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเมิ่งฮ่าว พวกมันจึงต้องลังเลขึ้นในทันที
ลมพายุม้วนตัวไปมา และพิรุณโลหิตก็ตกลงมาจากท้องฟ้า สำหรับเมิ่งฮ่าว เขาเดินออกไปจากพายุโลหิต และมุ่งหน้าตามไปยัง…เส้นใยกรรมที่ลากยาวจนไปถึงถ้ำแห่งเซียนของหลงเทียนไห่
เพียงชั่วขณะเท่านั้นที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวกระจายออกไป และตรึงถ้ำแห่งเซียนนั้นไว้จนแน่นหนา และเขาสามารถจะรับรู้ได้ถึง…กลิ่นอายของหลงเทียนไห่ด้วยเช่นกัน
เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงหลากสีพุ่งตรงไปคล้ายกับสายฟ้า ผู้ฝึกตนอสูรใดๆ ก็ตามที่มาขัดขวางเส้นทางของเขาก็จะถูกกำจัดไปในทันที
เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ทั่วทั้งอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ได้เห็นเมิ่งฮ่าวสังหารผู้ฝึกตนอสูรไปด้วยสองตาของตนเอง ก็ทำการเผยแพร่กระจายข่าวนี้ออกไปด้วยความตกใจ
ความอาฆาตแค้นของเขาได้เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่คิดว่า จะสามารถแก้ปัญหาด้วยการสังหารไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อพวกมันมองมาที่เขาด้วยความเกลียดชัง เขาก็จะสังหารพวกมันไปโดยที่ไม่ต้องครุ่นคิดใดๆ อีก!
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไป และรังสีสังหารของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไป แต่ผู้ฝึกตนอสูรที่แข็งแกร่งมากที่สุดที่เขาพบเจอมา ก็อยู่แค่ในอาณาจักรโบราณ ซึ่งมีตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วสองถึงสามดวงเท่านั้น ไม่มีผู้ที่แข็งแกร่งกว่านี้ปรากฏขึ้น และจริงๆ แล้วผู้ฝึกตนอสูรที่ปรากฏขึ้นมาส่วนใหญ่ก็อยู่แค่ในอาณาจักรเซียนเท่านั้น
ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น เมื่อผู้ฝึกตนอสูรที่เขาพบเจอ มองมาด้วยความไม่พอใจและเกลียดชัง เขาก็จะสังหารพวกมันไปทั้งหมดโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
เขารู้ว่าถ้าไม่สังหารพวกมันไป พวกมันก็จะพยายามสังหารเขาไปในทันทีที่พวกมันมีโอกาส!
ถ้าไม่อาจจะแก้ไขเรื่องราวด้วยเหตุผลได้ คงต้องทำให้มันถูกต้อง!
เส้นทางการสังหารของเมิ่งฮ่าวเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต และเต็มไปด้วยเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจ เขาคล้ายกับเป็นเทพแห่งความตาย ขณะที่เข้าไปใกล้กับถ้ำแห่งเซียนของหลงเทียนไห่มากขึ้นไปเรื่อยๆ!!
จากตอนที่เมิ่งฮ่าวพบกับหลงเทียนไห่ที่ด้านนอกของประตูหลัก จนถึงการสังหารที่เกาะไห่ซาน จนถึงการต่อสู้อันน่ากลัวกับผู้อาวุโสไห่เซิ่ง จนถึงการสังหารหมู่ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ภายในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าตอนนี้…
เวลาได้ผ่านไปเพียงแค่สามชั่วยามเท่านั้น!
สามชั่วยามก่อนหน้านี้…
ลึกเข้าไปในจุดศูนย์กลางเทือกเขาของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า มียอดเขาขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ตรงจุดบนสุดมีวิหารโบราณอยู่หนึ่งหลัง
มองเห็นสองรูปปั้นอยู่ที่ด้านนอกของวิหาร ซึ่งได้ถือกระบี่ขนาดใหญ่อยู่ในมือ ถ้ามองมาจากที่ห่างไกล พวกมันก็จะดูคล้ายกับเป็นผู้พิทักษ์ของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าแห่งนี้
จิ่วผอ, เสินซือซ่างเหริน และหลิงอวิ๋นจื่อนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ด้านในของวิหาร จ้องมองไปยังผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าอีกสี่คนอย่างเย็นชา ซึ่งนั่งอยู่ที่ด้านตรงข้ามของพวกท่าน สองคนเป็นชายชราที่เปล่งประกายกลิ่นอายของแก่นแท้ออกมา และมีเกล็ดอยู่บนหน้าผากของพวกมัน พวกมันเป็นปรมาจารย์อาณาจักรเต๋าจากกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร สำหรับอีกสองคน หนึ่งเป็นบุรุษ อีกหนึ่งเป็นสตรี ทั้งคู่ต่างก็ฝืนยิ้มเป็นเชิงขอโทษออกมา
“พวกเราทั้งหมดเป็นคนในสำนักเดียวกัน จึงไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของเหล่าผู้เยาว์ ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสามคงจะเข้าใจ ทำไมพวกเราถึงไม่พูดคุยเกี่ยวกับเต๋าเพื่อฆ่าเวลา? โอกาสที่พวกเราจะมาอยู่รวมกันเช่นนี้มีไม่บ่อยครั้งนัก”
สตรีกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา ยิ้มออกมา แววตาแวบขึ้นขณะที่โบกสะบัดมือออกไป ทำให้จอภาพปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า ภาพบนจอนั้นเป็นภาพของ…เมิ่งฮ่าวที่กำลังโผล่ออกมาจากถ้ำแห่งเซียนของเขา
หลิงอวิ๋นจื่อแค่นเสียงอย่างเย็นชา แต่ก็ไม่กล่าวอะไรออกมา ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้วว่าพวกท่านทั้งสามไม่อาจจะทำอะไรได้ ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรโบราณทั้งหมดในสำนัก ถูกขัดขวางไม่ให้สอดมือเข้าไปด้วยเช่นกัน
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ฝ่ายของพวกท่านเท่านั้นที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้ ผู้ฝึกตนจากฝ่ายอื่นก็พบเจอด้วยเช่นเดียวกัน
น่าเสียดาย…ที่การรวมพลังกันของอีกสามฝ่ายเกินกว่าความสามารถของ หลิงอวิ๋นจื่อ, จิ่วผอ และเสินซือซ่างเหริน ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณของฝ่ายอื่นๆ ก็ถูกควบคุมตัวไว้ด้วยเช่นเดียวกับพวกท่าน
อย่างไรก็ตาม หลิงอวิ๋นจื่อก็ไม่ได้กังวลใจเท่าใดนัก ท่านเพิ่งจะแอบเตือนเมิ่งฮ่าวให้กลับเข้ามาในสำนัก ทันทีที่เขาก้าวเท้าออกไปที่ด้านนอก และบอกเขาว่าท่านจะจัดการเรื่องราวหลังจากนี้เอง
แต่ในตอนนั้นเองที่จอภาพได้แวบขึ้นมาด้วยภาพของหลงเทียนไห่ที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับเมิ่งฮ่าว คนทั้งหมดที่อยู่ในห้องโถงของวิหารสามารถมองเห็นได้ ขณะที่คนทั้งสองเริ่มพูดคุยกัน
จากนั้นคนทั้งหมดก็เห็นฉู่อวี้เยียน และสีหน้าของหลิงอวิ๋นจื่อก็เปลี่ยนไป จิ่วผอและเสินซือซ่างเหรินก็มีปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน ใบหน้าของจิ่วผอหมองคล้ำลงด้วยโทสะ และลุกขึ้นมายืน แต่ทันใดนั้นพลังของผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าทั้งสี่ก็พุ่งขึ้นมา
“จิ่วผอ พวกเรามีข้อตกลงร่วมกัน ใช่หรือไม่?”
หนึ่งในผู้ฝึกตนอสูรอาณาจักรเต๋ากล่าวขึ้น ซึ่งเป็นชายชราที่มีเส้นผมเป็นสีแดงจ้า “ท่านกำลังจะกลับกลอกคืนคำไปจริงๆ?”
“พวกเราเหล่าผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า ได้ให้คำสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องความเป็นศัตรูระหว่างเมิ่งฮ่าวและกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณส่วนใหญ่ก็ถูกตรึงไว้แล้วเช่นกัน จิ่วผอ ถ้าท่านต้องการทำสงครามก็เชิญ!”
“นั่งลง!” เสินซือซ่างเหรินกล่าวขึ้น จิ่วผอหยุดชะงักนิ่ง และจากนั้นก็นั่งกลับลงไปอย่างช้าๆ
ภาพยังคงแสดงอยู่บนจออย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเมิ่งฮ่าวและหลงเทียนไห่ก็เริ่มต่อสู้กัน แต่พลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปอย่างน่าตกใจยิ่ง ใบหน้าของผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าแสดงออกถึงความประหลาดใจที่แตกต่างกันออกไป
ต่อมาก็เป็นการสังหารอสูรทะเล และทะเลที่เก้าที่กำลังเดือดพล่าน ทำให้ผู้ฝึกตนอสูรต้องขมวดคิ้วขึ้น จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ไปถึงเกาะไห่ซานซึ่งเขาได้บดขยี้คู่ต่อสู้และทำลายแรงกดดันของทะเลที่เก้าไป ด้วยการเดินไปเก้าก้าว เขาได้สังหารไห่เจี้ยเยาทั้งแปดไป และทำให้ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณอีกคนต้องแห้งเหี่ยวลงไป
ภาพที่เกาะถูกทำลายลงไปช่างน่าตกใจยิ่ง ทำให้สีหน้าของผู้แข็งแกร่งอสูรอาณาจักรเต๋าเริ่มดูน่าเกลียดมากขึ้น แต่กลับกัน
หลิงอวิ๋นจื่อและจิ่วผอต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา
ในตอนที่กับดักแห่งความตายของผู้อาวุโสไห่เซิ่งปรากฏขึ้น ทันใดนั้นเองที่คนทั้งหมดไม่อาจจะมองเห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น จิตใจจิ่วผอเริ่มเต้นรัว และสีหน้าก็เปลี่ยนไป หลิงอวิ๋นจื่อไม่อาจจะอดทนได้อีกต่อไป และลุกขึ้นมายืน
ในตอนนี้เองที่หนึ่งในผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าที่เป็นมนุษย์ ได้หัวเราะขึ้นมาและเคลื่อนที่ไปขัดขวางท่านไว้
“สหายเต๋าหลิงอวิ๋นจื่อ ข้าเพิ่งจะรู้แจ้งเกี่ยวกับเวทแห่งกาลเวลาบางอย่างมาเมื่อเร็วๆ นี้ มา มา มาครุ่นคิดและร่วมยินดีไปด้วยกัน”
ด้วยเช่นนั้น มันก็ยกมือขึ้นมา ทำให้ลำแสงอันเจิดจ้าลอยขึ้นมา และแวบกลิ่นอายของกาลเวลาออกมา
“หลีกทาง!” หลิงอวิ๋นจื่อกล่าวขึ้น ดวงตาสาดประกายด้วยรังสีสังหาร
สีหน้าของบุรุษผู้นั้นหมองคล้ำลงและกล่าวว่า
“สหายเต๋าหลิงอวิ๋นจื่อ ท่านลืมข้อตกลงระหว่างพวกเราไปแล้ว? นอกจากนี้ท่านยังดูแคลนที่จะมาพูดคุยเรื่องเต๋ากับข้า?”
“นั่ง!” เสินซือซ่างเหรินกล่าวขึ้น ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยความลึกล้ำ
หลิงอวิ๋นจื่อกัดฟันแน่น และนั่งกลับลงไปอย่างช้าๆ จ้องมองไปยังจอภาพ เวลาผ่านไปไม่นานนักก่อนที่กับดักแห่งความตายจะถูกทำลายไป มังกรทะเลหนึ่งตัวโผล่ออกมา ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าสังเวช ติดตามมาด้วยเมิ่งฮ่าวที่ดูดุร้ายน่ากลัว!
ทันใดนั้นสีหน้าของสองผู้ฝึกตนอสูรอาณาจักรเต๋าก็สลดลง จากนั้นพวกมันมองเห็นเมิ่งฮ่าวพูดจาข่มขู่ทะเลที่เก้า และผู้อาวุโสไห่เซิ่งก็ตกตายไป
ในที่สุดเมิ่งฮ่าวก็พุ่งกลับมา ผ่านเข้าไปในอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า และเริ่มสังหารกลุ่มผู้ฝึกตนอสูร!
ทันใดนั้นสองผู้ฝึกตนอสูรอาณาจักรเต๋าก็ลุกขึ้นมายืน แต่จากนั้นหลิงอวิ๋นจื่อก็ลุกขึ้นมา ส่งเสียงหัวเราะขณะที่ขัดขวางเส้นทางของพวกมันไว้ กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
“พวกเราทั้งหมดเป็นคนในสำนักเดียวกัน จึงไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของเหล่าผู้เยาว์ ข้าหวังว่าพวกท่านทั้งสองคงจะเข้าใจ ทำไมพวกเราถึงไม่พูดคุยเกี่ยวกับเต๋าเพื่อฆ่าเวลา? โอกาสที่พวกเราจะมาอยู่รวมกันเช่นนี้มีไม่บ่อยครั้งนัก”
“หลีกทาง!” ผู้ฝึกตนอสูรที่มีเส้นผมสีแดงกล่าวขึ้น เสียงของมันดังก้องออกไปราวกับเป็นเสียงฟ้าผ่า มันกำลังจะพุ่งฝ่าออกไป
แต่หลิงอวิ๋นจื่อก็แค่นเสียงอย่างเย็นชาขึ้นมากล่าวว่า
“พวกเรามีข้อตกลงร่วมกัน ใช่หรือไม่? ท่านกำลังจะกลับกลอกคืนคำไปจริงๆ?”
สีหน้าของสองผู้แข็งแกร่งอสูรอาณาจักรเต๋าเปลี่ยนไป
ในตอนนี้เองที่เสินซือซ่างเหรินจู่ๆ ก็เคลื่อนที่ไปอย่างไร้สุ้มเสียง ไปปรากฏกายขึ้นอยู่ที่ด้านข้างของหลิงอวิ๋นจื่อ มองไปยังสองผู้แข็งแกร่งอสูรอาณาจักรเต๋าด้วยแววตาที่น่ากลัวและกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“เมิ่งฮ่าวมีโชคชะตาที่เชื่อมต่ออยู่กับอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า! ถ้าพวกท่านก้าวเท้าออกไปจากประตูนี้ ข้าก็คงต้องสังหารพวกท่านไป อย่างที่ไม่อาจจะตำหนิข้าได้!”
ที่ด้านข้าง สองผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าที่เป็นมนุษย์ เพิ่งจะเดินออกไป แต่จิ่วผอก็ไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าพวกมัน ยิ้มออกมากล่าวว่า
“สหายเต๋า ข้าเพิ่งจะรู้แจ้งเกี่ยวกับเวทน้ำบางอย่างมาเมื่อเร็วๆ นี้ มา มา มาครุ่นคิดและร่วมยินดีไปด้วยกัน”
จิ่วผอโบกสะบัดมือ ทำให้หยดน้ำลอยออกมา หยดน้ำนั้นไม่ได้ส่องประกายเจิดจ้า และเป็นแค่หยดน้ำธรรมดา เห็นได้ชัดว่าจิ่วผอไม่ได้ให้ความสนใจต่อการเสแสร้งที่น่ารำคาญแต่อย่างใด
สองมนุษย์ที่เป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า มองไปด้วยความขุ่นเคือง และกำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาเพื่อตอบโต้ แต่ทันใดนั้นดวงตาของจิ่วผอก็แวบขึ้นอย่างน่ากลัว “พวกท่านทั้งสองลืมข้อตกลงระหว่างพวกเราไปแล้ว? นอกจากนี้พวกท่านยังดูแคลนที่จะมาพูดคุยเรื่องเต๋ากับข้า?”