ตอนที่ 1104
สังหารเจ้า…แค่ภายในเจ็ดก้าวเท่านั้น!
หานชิงเหลยยืนเงียบๆ อยู่ที่นั่น ถอนหายใจออกมา อีกครั้งที่ความต้องการต่อสู้ได้ลุกโชนขึ้นในแววตาของมัน
มันเฝ้าบอกตนเองว่ามันก็อยู่ในลำดับขั้น เป็นผู้ถูกเลือกในท่ามกลางดวงตะวันอันเจิดจ้าเช่นกัน มันยอมรับความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ได้ แต่ไม่อาจจะยอมรับความอัปยศ!
จากช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามาในชนเผ่าที่แปด มันแยกตัวออกมาจากร่างจำแลงของตนเอง ใช้ร่างจำแลงนั้นหลอกล่อเมิ่งฮ่าว ทำให้ร่างจริงของมันสามารถหลบเลี่ยงจากการถูกตรวจพบได้ จากนั้นมันก็ใช้เวทลับเพื่อระงับกลิ่นอายของตัวเอง และหลบหนีมายังสถานที่แห่งนี้
ถ้าไม่มีร่างจำแลงคอยทำให้เมิ่งฮ่าวไขว้เขว เวทลับของมันเพียงอย่างเดียวคงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการถูกตรวจจับไปได้ หนึ่งในความโดดเด่นที่เกี่ยวกับวิชานี้ของมันคือ ยิ่งมันใช้วิชานี้นานมากเท่าใด ก็ยิ่งยากที่จะพบเห็นร่องรอยได้
สิ่งที่มันต้องการคือเวลา จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมมันถึงส่งร่างจำแลงไปแทนที่ร่างจริง
“หลินชงคือผู้แข็งแกร่งอันดับสองในท่ามกลางลำดับขั้น และข้าก็ไม่อาจจะต่อสู้กับมันได้ เมิ่งฮ่าวอาจจะสามารถเอาชนะข้าได้ แต่การเอาชนะหลินชง…คงจะยากเย็นอย่างถึงที่สุด!”
“สมาชิกลำดับขั้นทั้งเจ็ดคนในตอนนี้ เคยเหยียบย่างเข้าไปในอาณาจักรโบราณมาแล้วเมื่อในอดีต แต่หลังจากที่ตระหนักว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ถูกต้อง พวกมันจึงจงใจที่จะลดพื้นฐานฝึกตนของตัวเองลง โดยมีเป้าหมายที่จะทะลวงผ่านอีกครั้งในภายหลัง แต่ละครั้งที่พวกมันทะลวงผ่านเข้าไป ก็จะยิ่งมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น!”
“หลินชงแข็งแกร่งจนไม่อาจจะรู้ว่า มันได้ทะลวงผ่านเข้าไปในอาณาจักรโบราณมากี่ครั้งแล้ว…”
“สิ่งเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับข้ามากนัก เมื่อข้าไม่อาจจะรักษาตราประทับของชนเผ่าที่แปดไว้ได้ ก็น่าจะส่งมอบให้กับคนอื่นๆ ดีกว่าที่จะมอบให้กับเมิ่งฮ่าว และข้าก็จะไม่ถูกไล่ล่าอีกด้วย ดังนั้นสักวันหนึ่งข้าก็จะมีโอกาสกลับมาใหม่!”
ดวงตาหานชิงเหลยสาดประกายขึ้น และสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ในที่สุดมันก็ก้มศีรษะลง และหลบซ่อนตัวต่อไป มันต้องการใช้เวทลับอื่นเพื่อคอยเฝ้าสังเกตดูการต่อสู้ระหว่างเมิ่งฮ่าวและหลินชง แต่หลังจากที่ใคร่ครวญอยู่เล็กน้อยก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช้เวทลับนั้น
มันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเมิ่งฮ่าวไม่อาจจะสู้กับหลินชงได้ แต่ก็ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่ ใบหน้าที่สงบนิ่งของเมิ่งฮ่าวลอยไปมาอยู่ในจิตใจของมัน หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ มันก็ตัดสินใจได้
ถึงแม้ว่ามันเลือกที่จะไม่เฝ้าสังเกตดูการต่อสู้ แต่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นที่อยู่ในชนเผ่าอื่นๆ ทั้งหมด ได้ใช้เวทลับและทรัพยากรต่างๆ เพื่อคอยเฝ้าสังเกตดูการต่อสู้นั้น
การต่อสู้นั้นไม่เพียงแต่จะเป็นโอกาสที่จะได้เห็นว่าหลินชงแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นโอกาสที่จะได้เห็นพลังการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวอีกด้วย ซึ่งจะช่วยให้พวกมันเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าต่อไปในอนาคต
จอภาพอันเจิดจ้าปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของสมาชิกลำดับขั้นแต่ละคน จอภาพเหล่านั้นแสดงให้เห็นถึงภูเขากั๋วยิ่นแห่งชนเผ่าที่แปด!
ตอนนี้หลินชงกำลังพุ่งลงไปบนภูเขาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าตกใจ ทำให้ทุกสรรพสิ่งสั่นสะเทือน ขณะที่มันใกล้เข้ามา เพลิงโทสะก็ปะทุขึ้น
“บัดซบ! ทั้งหมดนั้น…ควรจะเป็นของข้า!!”
“เจ้ากำลังขโมยกระแสลมปราณแห่งอาณาจักรสายลมที่เป็นของข้าไป ถ้าเช่นนั้น…ข้าคงต้องสังหารเจ้าแล้ว!!”
เสียงของหลินชงดังก้องออกมา และรถศึกของมันก็ส่งเสียงดังกระหึ่มขณะที่กดทับลงไปบนร่างเมิ่งฮ่าว มันยกมือขึ้นและชี้นิ้วตรงไปยังเมิ่งฮ่าว
ทันใดนั้นวิญญาณหนึ่งล้านดวงก็นำหน้ารถศึกไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างเข้มข้น จากนั้นก็กระจายออกไปคล้ายกับเป็นทะเลแห่งวิญญาณคนตาย ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ พวกมันกลายเป็นหัตถ์ยักษ์ ฟาดตรงไปยังเมิ่งฮ่าวที่กำลังยืนอยู่บนยอดเขาอย่างดุร้าย
เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นไป และดวงตาก็ลืมขึ้นมาในทันที สายลมที่มองไม่เห็นซึ่งอยู่รอบๆ ตัวเขาแยกออกจากกัน และถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้ขยับตัวแม้แต่น้อย
แต่ทันใดนั้นสายฟ้าสิบกว่าสายก็ปรากฏขึ้นในกลางอากาศ ฟาดลงไปยังพื้นดินที่เบื้องหน้าของเมิ่งฮ่าว ปิดกั้นหัตถ์ยักษ์สีดำสนิทของวิญญาณเหล่านั้นไป
นี่คือ…หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เมิ่งฮ่าวได้รับมา หลังจากที่ได้ครอบครองกระแสลมปราณสองในสิบส่วนของอาณาจักรสายลม!
เป็นการปกป้องจากสวรรค์และปฐพี!
เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา ขณะที่สายฟ้ากระแทกลงไปยังวิญญาณหนึ่งล้านดวง พวกมันกรีดร้องออกมา ขณะที่หัตถ์ยักษ์พังทลายกลายเป็นชิ้นๆ อยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ไม่อาจจะสัมผัสโดนตัวเขาได้
แทบจะในทันทีที่วิญญาณหนึ่งล้านดวงแตกกระจายออกไป พลังของเมิ่งฮ่าวก็พุ่งทะยานสูงขึ้นไป
“สังหารเจ้า…แค่ภายในเจ็ดก้าวเท่านั้น!” เขากล่าว
พร้อมกับคำพูดที่เย่อหยิ่งนั้น พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ และกลิ่นอายที่คุกคามคนก็พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง เขาไม่ได้ล่าถอยไปทางด้านหลัง ไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง เพียงแค่พุ่งไปเพื่อสังหารเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม เมื่อคำพูดของเขาผ่านเข้าไปในหูของผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ ที่อยู่ในชนเผ่าต่างๆ พวกมันก็หัวเราะเป็นเสียงเย็นชาขึ้นมา
“เมิ่งฮ่าวผู้นี้ช่างเย่อหยิ่งอวดดีนัก มันคิดว่าสามารถจะสังหารหลินชงได้ภายในเจ็ดก้าวเท่านั้น? แม้แต่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรกก็ยังไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้! แล้วมีอะไรที่ทำให้เมิ่งฮ่าวคิดว่าสามารถจะทำได้!?”
“หลินชงแข็งแกร่งยิ่ง มันอาจจะด้อยกว่าผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรกแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็น่าสนใจจริงๆ ที่เมิ่งฮ่าวประกาศว่าจะสังหารมันไปในเจ็ดก้าว!”
ในชนเผ่าแรก ผู้ฝึกตนลำดับขั้นที่แข็งแกร่งมากที่สุด บุรุษหนุ่มในชุดสีขาวแห่งขุนเขาแรก กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงราบเรียบ “ความเชื่อมั่นเป็นเรื่องที่ดี แต่ความจริงแล้วมันไม่อาจจะต่อสู้ด้วยได้”
แน่นอนว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้ยินคำพูดที่กำลังกล่าวออกมาเหล่านั้น แต่ถึงแม้ว่าจะได้ยิน เขาก็ไม่ใส่ใจพวกมันแม้แต่น้อย วิถีของเขาคือเซียนทุกชั้นฟ้าในตำนาน และภายในใจก็รู้ดีว่านั่นคือเส้นทางที่แข็งแกร่งมากที่สุด การที่ต้องเดินไปบนเส้นทางเช่นนั้น ต้องมีความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละ
ยิ่งไปกว่านั้น…เขาจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่งที่มาขัดขวางเส้นทางของตนเอง เพื่อที่จะเดินไปจนถึงจุดสูงสุด และจะบดขยี้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นคนอื่นๆ ทั้งหมด เขาจะใช้การกระทำของตนเอง…แสดงให้เห็นว่าเขาคือผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุดในลำดับขั้น!
ตูม!
เมิ่งฮ่าวเดินตรงไปเพื่อเริ่มต้นเจ็ดก้าวเทพ
หลินชงที่อยู่ในรถศึกของมัน แหงนหน้าขึ้นและหัวเราะออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่เย็นชา เต็มไปด้วยความต้องการสังหารและความกราดเกรี้ยว
ไม่เคยมีใครในรุ่นเดียวกันนี้กล้าที่จะกล่าวคำพูดเช่นนั้นกับมันมาก่อน เพียงแค่เจ็ดก้าว…ก็จะสังหารมันไป? คำพูดที่ข่มขู่เหล่านั้นทำให้หลินชงต้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา
“แม้แต่ผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาแรก ก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นอย่างเพียงพอที่จะกล่าวคำพูดเช่นนั้นกับข้า เมิ่งฮ่าว เจ้าเป็นคนแรก!”
เมื่อเสียงของหลินชงดังก้องออกมา เมิ่งฮ่าวก็เดินไปเป็นก้าวแรก!
ก้าวนั้นของเขาคือการก้าวเดินไปจากยอดเขาขึ้นไปในกลางอากาศ ตอนนี้เขาไปอยู่ที่เบื้องหน้าของรถศึก ทำให้กลุ่มวิญญาณที่กระจัดกระจายออกไปสั่นสะท้าน และหลบหนีจากไปในทั่วทุกทิศทาง พวกมันกรีดร้องออกมา ราวกับว่ามีพลังอันแข็งแกร่งบางอย่างระเบิดออกมาจากร่างเมิ่งฮ่าว เป็นพลังที่ถ้ากระแทกไปโดนพวกมัน ก็จะทำให้พวกมันต้องถูกกำจัดไปตราบชั่วนิรันดร์! ขณะที่วิญญาณเหล่านั้นกรีดร้องออกมา เมิ่งฮ่าวก็ต่อยออกไปหนึ่งหมัด
หมัดทำลายล้างชีวิต!
หมัดนั้นกระแทกลงไปยังรถศึก ปลดปล่อยพลังอันมหาศาลไปบนร่างหลินชง หลินชงกำลังจะใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทบางอย่างออกมา แต่พลังนั้นได้ไปขัดขวางมันไว้
ใบหน้ามันสลดลงเมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังออกมาจากรถศึก ทำให้ต้องลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลังหนึ่งร้อยจ้าง!
ช่างเป็นพลังที่ข่มขู่คุกคามอย่างไร้ขอบเขตนัก!
ในช่วงเวลาเดียวกับที่รถศึกลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็เดินไปเป็นก้าวที่สอง พลังของเขาปะทุขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหลายเท่า
สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ขณะที่เขาเหยียบย่างไปอยู่ที่เบื้องหน้าของรถศึกอีกครั้ง จากนั้นก็ต่อยออกไปอีกหนึ่งหมัด!
อีกครั้งที่หมัดทำลายล้างชีวิตถูกต่อยออกไป! กลายเป็นบรรยากาศที่ข่มขู่คุกคามอย่างไร้จุดสิ้นสุดเหมือนกับก่อนหน้านี้!
เกิดเป็นเสียงระเบิดขึ้นขณะที่รถศึกซึ่งมีหลินชงอยู่ด้านในสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง อีกครั้งที่วิชาเวทของมันถูกขัดขวางไป จากเริ่มต้นจนกระทั่งถึงตอนนี้ มันไม่มีโอกาสที่จะต่อสู้กลับไปแม้แต่น้อย!
“มันไม่ได้แค่โชคดีในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น!” หลินชงคิด สั่นสะท้านอยู่ภายในใจ
คงไม่อาจจะตำหนิมันได้ อันที่จริงใครก็ตามที่มาต่อสู้กับเมิ่งฮ่าว จะต้องพบเจอกับกลยุทธ์การต่อสู้ที่ข่มขู่คุกคามเช่นเดียวกันนี้ เขาทำลายโอกาสที่จะถูกโจมตีไป และมักจะมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้เริ่มต้น ทำการโจมตีไปก่อนเสมอ!
ย้อนกลับไปในขุนเขาทะเลที่เก้า คนทั้งหมดมักจะพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผู้ฝึกตนอื่นๆ จะต้องรับรู้ว่า
เมิ่งฮ่าวเป็นผู้ที่มีพลังแห่งการข่มขู่คุกคามมากแค่ไหน!
สามก้าว, สามหมัด! เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องออกไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่รถศึกกระเด็นออกไปทางด้านหลังอีกครั้ง!
สี่ก้าว, สี่หมัด! เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่เมิ่งฮ่าวพิสูจน์ได้ว่าเขาสามารถจะทำได้ตามที่พูดข่มขู่ไว้ และสังหารหลินชงได้ภายในเจ็ดก้าวเท่านั้น!
ถ้าเขาสามารถทำได้ ก็จะยิ่งมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น พลังของเขาก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น ชื่อเสียงของเขาก็จะพุ่งทะยานขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของลำดับขั้น!
ถึงแม้ว่าในที่สุดหลินชงจะไม่ตายไป แต่ในวันข้างหน้าจิตใจของมันก็จะต้องพังทลายลงไป เมื่อไหร่ก็ตามที่มาพบเจอกับเมิ่งฮ่าว
หลิงชงกำลังตกตะลึงต่อสิ่งที่มันกำลังถูกปราบพิชิตไปโดยสิ้นเชิงอยู่ในตอนนี้!!
“นี่เป็นไปไม่ได้! ในรุ่นเดียวกันนี้ไม่เคยมีใครสามารถสะกดข่มข้าได้ ในช่วงของการต่อสู้มาก่อน!!”
เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นจนทำให้ท้องฟ้าต้องสั่นสะเทือนไปมา ขณะที่เมิ่งฮ่าวโจมตีไปราวกับบ้าคลั่ง สี่ก้าว สี่หมัด!
แต่ละหมัดเหล่านั้นคือหมัดทำลายล้างชีวิต ซึ่งไปทำการขัดขวางวิชาเวทของหลินชงไว้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มันไม่อาจจะปลดปล่อยวิชาเวทใดๆ ออกมาได้แม้แต่น้อย หมัดที่สี่ทำให้รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วรถศึกของมัน จากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไป
หลินชงส่งเสียงแผดร้องด้วยโทสะออกมา และโบกสะบัดมือออกไป ฉวยโอกาสพยายามจะปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา เจตจำนงแห่งความตายหมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัวมัน ราวกับว่าน้ำพุเหลืองกำลังโผล่ขึ้นมาจากนรกอเวจี
มันทุ่มสุดตัวด้วยทุกสรรพสิ่งที่มีเพื่อต่อสู้กลับไป มันต้องไม่ปล่อยให้เมิ่งฮ่าวสร้างเป็นพลังหนุนส่งมากไปกว่านี้ หรือทำให้ตัวเองต้องถูกสะกดข่มไปมากกว่านี้ ฉับพลันนั้นมันก็ต้องตกตะลึงขึ้นเมื่อตระหนักว่าถ้าเหตุการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้อีกต่อไป ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้…ที่เมิ่งฮ่าวจะสังหารมันไปภายในเจ็ดก้าวได้จริงๆ!!
อย่างไรก็ตาม…เมื่อมันกำลังจะปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกไปได้แล้ว เมิ่งฮ่าวก็เดินไปเป็นก้าวที่ห้า
พลังของเขาระเบิดพุ่งออกไป รุนแรงกว่าก่อนหน้านี้มากนัก ทำให้ท้องฟ้าต้องเปลี่ยนสี และสายลมขนาดใหญ่ก็กรีดร้องระงม ทำให้กระแสลมปราณแห่งอาณาจักรสายลมยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น
เมื่อเมิ่งฮ่าวเดินไปเป็นก้าวที่ห้า เขาก็ไปปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของหลินชง ในขณะที่เขา…ต่อยออกไปอีกหนึ่งหมัด!
นี่เป็นการโจมตีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ใช่หมัดทำลายล้างชีวิต แต่เป็นหมัดเผาไหม้ตนเอง หรือหมัดกลายเป็นปีศาจ!
มันคือความบ้าคลั่งที่สามารถจะสละได้ทุกสิ่ง แม้แต่ชีวิตของตนเอง เพื่อเข้าไปสู่การกลายเป็นปีศาจอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งจากนั้นก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมากลายเป็นหมัดที่ต่อยออกไป ในตอนนี้มีความคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตใจของเมิ่งฮ่าว
เพราะว่าเขาคือปีศาจ หมัดนั้นจึงมีทั้งรูปร่างและเจตจำนง!
ดวงตาหลินชงเบิกกว้างขึ้น และจิตใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้มันตระหนักดีว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้อ่อนแอ นอกจากนั้นเขายังสามารถเอาชนะหานชิงเหลยมาได้ แต่มันก็ไม่เคยคาดคิดว่าเมิ่งฮ่าวจะแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน!
จากมุมมองของมัน พลังของเมิ่งฮ่าวไม่ได้มาจากพื้นฐานฝึกตนของเขา แต่มาจากรูปแบบการต่อสู้ เป็นรูปแบบที่ใช้พลังของการสะกดข่มได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คู่ต่อสู้ไม่อาจแม้แต่จะหายใจออกมาได้ จนกระทั่งพวกมันถูกกำจัดไป
วิธีการต่อสู้ของเมิ่งฮ่าวเป็นสิ่งที่โดดเด่นไม่เหมือนใครโดยสิ้นเชิง เป็นสิ่งที่มันไม่เคยพบเจอมาก่อน
ตูมมมมมมม!
หนึ่งหมัดอันน่าตกใจของเมิ่งฮ่าว ทำลายความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของหลินชงไป ราวกับว่ามันเป็นแค่กิ่งไม้ที่เน่าเปื่อยผุพัง หมัดกลายเป็นปีศาจอันบ้าคลั่งระเบิดตรงไปยังหลินชงเต็มไปด้วยพลังอันน่ากลัว
โลหิตไหลซึมออกมาจากปากของหลินชง ขณะที่ร่างมันลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา รู้สึกอัปยศอย่างถึงที่สุดขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินไปเป็นก้าวที่หก!
เมื่อเท้าของเขาเหยียบย่างลงไป โลกแห่งนี้ก็ปะทุเป็นสายฟ้าขึ้นมา สายฟ้านับไม่ถ้วนระเบิดขึ้นอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ขณะที่พลังของเขาพุ่งสูงขึ้นไปมากกว่าเดิม แม้แต่ภูเขาที่อยู่ด้านล่างก็ยังต้องสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง รอยแตกร้าวกระจายออกไปในท้องฟ้า ราวกับว่ามันอาจจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ