Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1134

ตอนที่ 1134

หัวใจลำดับขั้น

เสวี่ยเอ๋อร์ทำลายกระดานหมากล้อมของนางไป มอบหัวใจลำดับขั้นให้ และจากนั้นก็หายลับไปในเส้นขอบฟ้า

เมิ่งฮ่าวยังคงอยู่ที่ด้านหลัง หอบหายใจออกมา เนื่องจากการส่งเสริมของหัวใจลำดับขั้น ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทางอย่างต่อเนื่องรวดเร็ว และร่างกายกำลังสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง

“หัวใจลำดับขั้น…” เมิ่งฮ่าวคิด ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า ในที่สุดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็เต็มไปทั่วทั้งเขตพื้นที่วิหารกลาง และเริ่มกระจายออกไปทั่วทั้งเก้าชนเผ่า

ขณะที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์พุ่งผ่านผู้ฝึกตนและกลุ่มนักรบ สีหน้าพวกมันก็เปลี่ยนไป เมื่อพวกมันมองขึ้นไป ก็เห็นกลุ่มเมฆกำลังม้วนตัวไปมา กระจายออกปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว

ราวกับว่าสวรรค์กำลังถูกปิดบังไป และพื้นดินก็ถูกปกคลุม จุดศูนย์กลางของทั้งหมดนี้คือเมิ่งฮ่าว มนุษย์ธรรมดาและเหล่านักรบในท่ามกลางพวกมันไม่อาจจะมองเห็นได้ แต่ผู้ฝึกตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝานตงเอ๋อร์และคนอื่นๆ มองเห็นลมพายุที่โปร่งใสกำลังหมุนวนอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว

ลมพายุนั้นทำให้กลุ่มเมฆและสายลมกำลังพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว “ของสิ่งนี้มีหน้าที่เพียงแค่เพิ่มพลังให้กับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้า และส่งออกไปในทั่วทุกทิศทางเท่านั้น?”

เขาใช้กลอุบายเอาชนะเสวี่ยเอ๋อร์มา และได้ครอบครองหัวใจลำดับขั้น แต่ก็ไม่อาจจะเอาชนะความช่วยเหลือจากนางได้ และในตอนนี้การใช้หัวใจลำดับขั้นก็ยังเป็นความลับสำหรับเขา

“มันสามารถทำให้ผู้ฝึกตนลำดับขั้นแข็งแกร่งได้มากขึ้น…” ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้น และโดยไม่ลังเลใดๆ อีก เขาใช้มือขวาจับแน่นไปที่หัวใจลำดับขั้นที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่

เมิ่งฮ่าวกำมันจนแน่น และจิตใจก็เริ่มหมุนคว้าง ขณะที่หัวใจลำดับขั้นหลอมรวมเข้าไปในฝ่ามือของเขา ในทันทีที่มันหลอมรวมเข้าไป ก็กลายเป็นห้ากลิ่นอายที่พุ่งผ่านเส้นลมปราณ แยกกระจายออกไปเต็มอยู่ในร่างของเขา จากนั้นสี่กลิ่นอายก็หายสาบสูญไป ดูเหมือนว่าจะทำการหลบซ่อนอยู่ภายในร่างเขา หายไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงกลิ่นอายสีส้มเท่านั้นที่ยังคงมีอยู่ พุ่งเข้าไปในจิตใจของเขาและจากนั้นก็ระเบิดออกไป

แรงระเบิดนั้นทำให้โลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา, หู, จมูก และปาก เขาแผดร้องออกมา และจู่ๆ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็เพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ ม้วนตัวออกไปอยู่รอบๆ ตัว ในชั่วพริบตา ก็ปกคลุมไปยังทุกสรรพสิ่งในเก้าชนเผ่า ในที่สุดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งเทือกเขาและแม่น้ำ รวมถึงภูเขากั๋วยิ่นทั้งเก้าด้วย ในช่วงเวลาสั้นๆ ทั่วทั้งอาณาจักรสายลมก็ถูกสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาปกคลุมไว้โดยสิ้นเชิง

เขามองเห็นสิ่งมีชีวิตและผู้ฝึกตนได้ทั้งหมด เขามองเห็นจ้งอู๋หยาซึ่งมีแววตาที่แปลกๆ พร้อมกับกลุ่มผู้ฝึกตนชุดดำที่เป็นผู้ติดตามของมัน

บนยอดเขากั๋วยิ่นของชนเผ่าที่สาม เขามองเห็นจักรพรรดิซึ่งกำลังมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขายังมองเห็นหลินชง, หานชิงเหลย และอวี่เหวินเจียนด้วยเช่นกัน พวกมันทั้งหมดกำลังพุ่งตรงมายังตนเอง รวมทั้งเต้าเทียนที่เต็มไปด้วยโทสะ

ทุกสิ่งทุกอย่างถูกมองเห็นได้ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขา จากนั้นขณะที่เขากำลังหอบหายใจออกมา มันก็ขยายขอบเขตออกไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งกระจายออกไปใน…ความว่างเปล่าที่ด้านนอก!

ตรงด้านนอกเป็นความว่างเปล่าที่มืดสนิท เขามองเห็นอาณาจักรสายลมได้ทั้งหมด ซึ่งตอนนี้กำลังพุ่งสูงขึ้นไป

อาณาจักรสายลมกำลังเคลื่อนที่อยู่ พุ่งสูงขึ้นไป มุ่งหน้าสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เข้าไปสู่ความว่างเปล่า

จิตใจเมิ่งฮ่าวหมุนคว้าง ขณะที่มองออกไปยังที่ห่างไกล และเห็นแสงลูกทรงกลมสองลูก กำลังกระแทกเข้าหากันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับว่าพวกมันกำลังต่อสู้กันอยู่ ภายในแสงลูกทรงกลมลูกหนึ่งเป็นไห่เมิ่งจื้อจุนในชุดสีขาว บุคคลที่นางกำลังต่อสู้ด้วยเป็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่ง เป็นบุรุษที่…มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับรูปปั้นที่เมิ่งฮ่าวเคยเห็นมา ในตอนที่ขึ้นไปยังยอดเขากั๋วยิ่นหลังจากที่ผ่านเข้ามาในอาณาจักรสายลมเป็นครั้งแรก!

คนทั้งสองต่อสู้กันไปมาโดยไม่พูดจา แต่ก็เต็มไปด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง

เมิ่งฮ่าวหอบหายใจออกมา รับรู้ได้ถึงอันตรายอันน่าเหลือเชื่อ และไม่กล้าที่จะส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปไกลมากกว่านี้ เขารีบดึงมันกลับเข้ามายังดินแดนแห่งอาณาจักรสายลมอย่างรวดเร็ว

“เหมือนกับที่ข้าคาดคิดไว้ หายนะที่ร้ายแรงบางอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่ในอาณาจักรสายลม…” เมิ่งฮ่าวคิดพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น

“ข้าไม่อาจจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ ถึงแม้ว่าต้องการก็ตามที…ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของหัวใจลำดับขั้นมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ ช่วยให้ข้ามองเห็นได้มากขึ้น ช่วยให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของข้าปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรสายลม แต่มันจะช่วยพื้นฐานฝึกตนข้าได้อย่างไร…หือ?” ทันใดนั้นแรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว

“มันไม่ได้ไร้ประโยชน์แม้แต่น้อย!! การปกคลุมอาณาจักรสายลมทั้งหมดด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ จะช่วยให้ข้าได้รับความรู้แจ้งแห่งกฎธรรมชาติและแก่นแท้ของสถานที่แห่งนี้!

ข้าไม่จำเป็นต้องใช้ตราประทับใดๆ เพราะว่าข้าสามารถรับรู้อาณาจักรได้ทั้งหมด โดยหลักการแล้วข้าน่าจะสามารถรับรู้ถึงกฎธรรมชาติและแก่นแท้ได้โดยตรง!”

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่มีตราประทับเหล่านั้น ก็ยังคงสามารถจะทำได้!”

“นอกจากนี้ตราประทับก็เป็นแค่ตัวแทนของกฎธรรมชาติและแก่นแท้ของอาณาจักรสายลมเท่านั้น!” เมิ่งฮ่าวหอบหายใจ ดวงตาเริ่มสาดประกายขึ้น รวมพลังของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกัน และทันใดนั้นก็เริ่มเข้าฌาณ!

เมิ่งฮ่าวมีพื้นฐานที่ได้มาจากตราประทับของชนเผ่าที่เก้า, แปด, เจ็ด, หกและสี่อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงทำตามแผนการที่คิดไว้ และใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เริ่มไตร่ตรองความรู้แจ้ง

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังขึ้นเต็มอยู่ในจิตใจ ขณะที่เขานั่งลงขัดสมาธิและเริ่มต้นเข้าฌาน

ตอนนี้เขาสามารถเข้าถึงกฎธรรมชาติและแก่นแท้ได้มากกว่า ที่ตราประทับของแต่ละชนเผ่าสามารถจะให้กับเขาได้ จากสิ่งที่เขารับรู้ได้ในตอนนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งที่เขาได้รับความรู้แจ้งไปเรียบร้อยแล้ว อันเนื่องมาจากตราประทับที่เขาได้มาครอบครอง ตอนนี้ด้วยความสามารถของการรับรู้ที่สามารถครอบคลุมพวกมันได้ทั้งหมด ทำให้เขาได้รับความรู้แจ้งที่รวดเร็วกว่าก่อนหน้านี้มากนัก

“มีทั้งหมดสามพันเต๋าอันยิ่งใหญ่ สองพันเจ็ดร้อยอยู่ในแต่ละชนเผ่า สามร้อยเต๋าสุดท้ายอยู่ในวิหารกลาง ถ้าข้าได้รับความรู้แจ้งทั้งสามพันเต๋า ก็สามารถจะดูดซับผลเนี่ยผานลูกที่สองเข้าไปได้อย่างสมบูรณ์ และกลายเป็น…เซียนทุกชั้นฟ้าที่แท้จริง!”

“เมื่อถึงเวลานั้น เต้าเทียนก็ไม่อาจจะมาสู้กับข้าได้! นั่นจะเป็นช่วงที่ข้า…สามารถสร้างชื่อเสียงอยู่ในอาณาจักรสายลมได้อย่างแท้จริง!”

เมิ่งฮ่าวมองเห็นกฎธรรมชาติและแก่นแท้อยู่มากมาย และทันใดนั้นเขาก็เริ่มได้รับความรู้แจ้ง กลิ่นอายอันน่าตกใจปรากฏขึ้นอยู่บนร่าง กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง และมีความเข้มข้นมากขึ้นไปเรื่อยๆ อยู่ในตอนนี้ กลุ่มเมฆที่ด้านบนพลุ่งพล่านปั่นป่วน กระจายออกปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรสายลม

คนทั้งหมดตกตะลึง แม้แต่เต้าเทียนก็ยังต้องหยุดชะงักนิ่งในกลางอากาศ สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ มันยื่นมือออกไปคว้าจับปอยเมฆที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นไว้ มองดูอย่างละเอียด และจากนั้นสีหน้าของมันก็หมองคล้ำลง

“นี่คือกลิ่นอายของเมิ่งฮ่าว!!”

ตูม!

หนึ่งพันสามร้อยแก่นแท้!

เส้นผมเมิ่งฮ่าวลอยพลิ้วไปมาอยู่ในอากาศ ขณะที่นั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น พื้นดินที่ด้านล่างสั่นสะเทือนไปมา นี่คือโชควาสนาของเขา เป็นโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ที่เขาได้รับมาในอาณาจักรสายลมแห่งนี้

เมิ่งฮ่าวได้รับความรู้แจ้งเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กระจายสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป เพื่อไตร่ตรองสังเกตดูกฎธรรมชาติและแก่นแท้

เขาหลับตาลง ทำให้ยากที่จะมีใครสามารถมองเห็นการพยากรณ์ที่แวบขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายในดวงตาคู่นั้น ในตอนนี้อาการบาดเจ็บไม่ได้สำคัญอีกต่อไป จิตวิญญาณของเขากระจายออกไปพร้อมกับสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อปกคลุมไปทั่วทั้งดินแดนแห่งนี้

หนึ่งพันสี่ร้อยแก่นแท้!

หนึ่งพันห้าร้อยแก่นแท้!

เขากำลังได้รับความรู้แจ้งผ่านทางโชควาสนาที่เต็มไปด้วยพลังอันดุร้ายรุนแรง เขาทะลวงผ่านขีดจำกัดที่ถูกกำหนดไว้โดยตราประทับจากก่อนหน้านี้ เดินเข้าไป…ในเส้นทางแห่งความรู้แจ้ง ที่ไม่เคยมีใครเดินผ่านมาก่อน

กลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวมีความโอ่อ่าเกรียงไกรมากขึ้นไปเรื่อยๆ และได้รับความรู้แจ้งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

หนึ่งพันหกร้อยแก่นแท้!

หนึ่งพันเจ็ดร้อยแก่นแท้!

เกิดเป็นสายลมอันปั่นป่วนวุ่นวายพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว โดยมีเมิ่งฮ่าวเป็นจุดศูนย์กลาง

อ๋าวเฉี่ยนหมอบอยู่ที่ด้านข้าง ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันดุร้ายขณะที่มองไปรอบๆ คอยป้องกันไม่ให้ใครก็ตามเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวได้ แม้แต่คนที่คุ้นเคยกับเขาก็ตามที

รูปร่างของมันมีขนาดใหญ่โตถึงหนึ่งร้อยจ้าง ทำให้ดูคล้ายกับเป็นภูเขาลูกน้อยๆ และแววตาของมันก็โหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด จนดูเหมือนว่าจะเป็นตัวแทนของนักฆ่าที่แท้จริง

ในตอนนี้เองที่จักรพรรดิแห่งชนเผ่าที่สาม จู่ๆ ก็ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยโทสะและเร่งร้อนถี่รัว เมื่อเสียงของมันดังก้องเข้าไปในหูของจ้งอู๋หยาและคนอื่นๆ จ้งอู๋หยาก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาออกมา มันไม่อาจจะถ่วงเวลาได้อีกต่อไป เพื่อตอบรับกับคำพูดของจักรพรรดิ รังสีสังหารของผู้ฝึกตนชุดดำพุ่งทะยานขึ้นไป พวกมันเฝ้ารอคอยช่วงเวลานี้มานานมากแล้ว พวกมันไม่กล้าที่จะพูดจาใดๆ ในตอนที่จ้งอู๋หยาขัดขวางพวกมันไว้ก่อนหน้านี้ แต่จิตใจของพวกมันก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจมานานแล้ว

ด้วยคำสั่งนั้นทำให้พวกมันไม่สนใจจ้งอู๋หยา และพุ่งตรงไปพร้อมกับรังสีสังหารที่สาดประกายขึ้นมา มุ่งหน้าตรงไปยังเขตพื้นที่วิหารกลางและเมิ่งฮ่าว

จ้งอู๋หยาพุ่งติดตามไป แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า ผ่านเข้าไปในเขตบริเวณนั้น และเฝ้ามองเมิ่งฮ่าวมาจากที่ห่างไกล ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อนและความมุ่งหวัง

ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน ขณะที่บุรุษชุดดำกลายเป็นริ้วลำแสงพุ่งผ่านท้องฟ้า เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวมากขึ้น อ๋าวเฉี่ยนแผดร้องคำรามและพุ่งทะยานขึ้นมาจากพื้น รูปร่างขนาดหนึ่งร้อยจ้างของมันปะทุเป็นพลังและความดุร้ายขึ้นมา ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำขณะที่จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนชุดดำที่กำลังใกล้เข้ามา

เมิ่งฮ่าวคือเจ้านายของมัน เป็นครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของมัน คือเป้าหมายในชีวิตของมัน, ภารกิจทั้งหมดของมัน คือการปกป้องเขา มันยินดีที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขา

เหมือนกับตอนที่มันยังตัวเล็กอยู่ และตอนนี้เมื่อมันเติบโตขึ้น ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม

“สังหารมัน!” ในท่ามกลางผู้ฝึกตนชุดดำ มีอยู่สามคนที่มีความรวดเร็วมากกว่าคนอื่นๆ พวกมันขยับมือร่ายเวท เรียกความสามารถศักดิ์สิทธิ์เพื่อก่อตัวเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

อ๋าวเฉี่ยนแหงนหน้าขึ้นและส่งเสียงแผดร้องคำรามดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง มันพุ่งกระโจนตรงไปยังศัตรูทั้งสาม และสายลมอันโหดเหี้ยมก็พุ่งออกไป อุ้งเท้าที่มันกวาดออกไปเพียงแค่ครั้งเดียวก็ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกกระจายออกไป และจากนั้นมันก็อ้าปากกว้าง ราวกับว่าต้องการจะกลืนกินคนทั้งสามเข้าไป

เสียงระเบิดดังก้องออกมา และบุรุษทั้งสามก็ถอยไปทางด้านหลัง สีหน้าเปลี่ยนไปด้วยความตกตะลึง หนึ่งในพวกมันล่าถอยช้ามากเกินไป และอ๋าวเฉี่ยนก็กลืนมันลงไปในทันที

อ๋าวเฉี่ยนยืนสูงเด่นอยู่ที่ข้างกายเมิ่งฮ่าว จ้องมองไปยังบุรุษชุดดำด้วยความเย็นชาอย่างน่ากลัว กระจายเป็นความเกลียดชังออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ในตอนนี้เองที่จิตใจเมิ่งฮ่าวเกิดเป็นเสียงกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้ง และกลิ่นอายของเขาก็พุ่งขึ้นไปมากกว่าเดิม เขาเพิ่งจะได้รับความรู้แจ้งที่หนึ่งพันแปดร้อยแก่นแท้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version