ตอนที่ 1155
ซ่านไฉถงจื่อ
“สหายเต๋าท่านนี้ ท่าน…ท่านพูดว่าอะไร?” หญิงสาวเยาว์วัยดวงตาเบิกกว้าง และจิตใจก็เริ่มเต้นรัวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าบอกว่าของทั้งเจ็ดชิ้นเหล่านี้ข้าไม่ต้องการ ข้าจะซื้อที่เหลือทั้งหมด”
เมิ่งฮ่าวยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย แต่เมื่อได้เห็นสีหน้าของหญิงสาว ความรู้สึกก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจ ซึ่งเขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน คิดย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองหยุนเจี๋ย เมื่อเขาเดินไปตามร้านและได้เห็นเศรษฐีโจวซื้อสิ่งของด้วยวิธีที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้
สีหน้าของพนักงานขาย และน้ำเสียงของมัน เช่นเดียวกันกับหญิงสาวเยาว์วัยในตอนนี้
นางกำลังหอบหายใจ และยังรู้สึกหน้ามืดอยู่เล็กน้อยอีกด้วย คิดไปถึงตลอดหลายปีที่นางทำงานในร้านนี้ ได้พบเห็นผู้ฝึกตนมาหลากหลายรูปแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้พบเจอกับใครบางคนเช่นเมิ่งฮ่าว
“ผู้…ผู้อาวุโส ถ้าไม่รวมกับเจ็ดชิ้นนั้น ของวิเศษที่วางแสดงอยู่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบสี่ชิ้น” โดยที่ไม่ต้องขบคิด นางเริ่มอธิบายต่อไป “ถ้าท่านซื้อด้วยหินลมปราณ ก็จะมีราคาอย่างน้อยสี่สิบล้าน…ซึ่งเทียบเท่ากับหยกเซียนสี่พันชิ้น…”
เมิ่งฮ่าวเชิดหน้าขึ้นและถามว่า “แล้วเจ้าจะขายหรือไม่?” ตอนนี้เขามีหยกเซียนอยู่หนึ่งร้อยล้านชิ้นในถุงสมบัติ ซึ่งหมายความว่าถ้าเขาต้องการ ไม่เพียงแต่สามารถจะซื้อของวิเศษเหล่านี้ได้เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วก็ทั้งร้าน หรือแม้แต่ทั้งตลาดแห่งนี้ แม้แต่กลุ่มดาวทั้งหมดเขาก็สามารถจะซื้อได้
หลังจากที่ออกมาจากอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า เมิ่งฮ่าวอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยมากที่สุดในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด แต่ถึงแม้จะร่ำรวยถึงระดับนี้
ก็ยังไม่ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาได้ เมื่อคิดไปถึงกระจกทองแดงที่ชอบกลืนกินหินลมปราณและหยกเซียน ทำให้เขารู้สึกกังวลใจขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
แต่เมื่อมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวเยาว์วัย ก็ทำให้เขารู้สึกว่าตนเองช่างยอดเยี่ยมนัก ในที่สุดก็สามารถจะมีความสุขกับชีวิตของคนร่ำรวยได้ เขาโบกสะบัดมือ ส่งผลให้หยกเซียนสี่พันชิ้นลอยออกไป กองเรียงรายกลายเป็นภูเขาลูกน้อยๆ อยู่บนพื้น
ปราณเซียนพุ่งกระจายออกไปในทันที เต็มไปทั่วทั้งร้าน ทำให้คล้ายกับเป็นแดนสวรรค์ ที่เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆและสายหมอก
เมื่อได้เห็นหยกเซียนมากมายเช่นนี้ ก็ทำให้ดวงตาของหญิงสาวเยาว์วัยแทบจะปะทุออกมาจากเบ้าตา นี่คือความร่ำรวยมากที่สุดเท่าที่นางเคยพบเห็นมา ในเวลาเดียวกันนั้นบุคคลอื่นๆ ที่อยู่ภายในร้าน ก็จ้องมองมาด้วยความประหลาดใจและละโมบอยากได้
มีผู้ฝึกตนอยู่ไม่น้อยที่ตอนแรกเริ่มสั่นสะท้าน เมื่อมองไปยังหยกเซียน จากนั้นก็มองไปยังถุงสมบัติของเมิ่งฮ่าว ดวงตาสาดประกายขึ้น พวกมันรีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เมิ่งฮ่าวชำเลืองดูพวกมันด้วยหางตา และจากนั้นก็มีรอยยิ้มเขินอายปรากฏขึ้นอยู่เล็กน้อย
“ผู้อาวุโส ได้โปรดรอสักครู่ แค่ครู่เดียวเท่านั้น นี่…นี่เกินกว่าที่ข้าจะตัดสินใจได้ ผู้เยาว์จะไปเรียกผู้อาวุโสของร้านมา” หญิงสาวเยาว์วัยหอบหายใจ รีบถอยไปทางด้านหลัง แต่ก่อนที่นางจะทันได้หมุนตัว ก็มีสายลมพุ่งออกมาจากลานบ้านที่หลังร้าน ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างของชายชราขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ชายชราผู้นั้นสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูหรูหราฟุ่มเฟือย และมีรูปร่างหน้าตาคล้ายเทพเซียน มันรีบประสานมือและโค้งตัวลงให้กับเมิ่งฮ่าวในทันที
“เหล่าฟู (ผู้ชรา) สุ่ยโม่เทียน ขอน้อมพบสหายเต๋า ของวิเศษทั้งเจ็ดชิ้นที่สหายเต๋าไม่ต้องการ เหล่าฟูขอมอบให้เป็นของกำนัลในฐานะที่เป็นสหาย” ชายชราหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา ขยับมือร่ายเวทและชี้นิ้วออกไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเกราะป้องกันที่มองไม่เห็นบนกำแพงก็หายไป และของวิเศษก็ลอยเป็นวงกลมอยู่รอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ซึ่งเริ่มกระจายเป็นกลิ่นอายของอัญมณีและสิ่งของอันล้ำค่าออกมาในทันที
เมิ่งฮ่าวมองไปยังชายชราและพยักหน้าให้เล็กน้อย จากนั้นก็ทำท่าคว้าจับ ทำให้ของวิเศษเหล่านั้นลอยเข้าไปในถุงสมบัติ
“สุ่ยโม่เทียน ข้าจะจดจำนามนี้ไว้” เมิ่งฮ่าวกล่าว หันหลังเดินจากไป ชายชราแทบจะเบิกบานใจจนคลุ้มคลั่ง เมื่อได้ยินคำพูดสุดท้ายของเมิ่งฮ่าว และรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว โค้งตัวลงตลอดเวลา น้อมส่งเมิ่งฮ่าวจนออกจากร้านไป
เมื่อได้เห็นชายชราปฏิบัติตัวเช่นนี้ก็ทำให้พนักงานขายในร้านทุกคน ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าพวกมันเพิ่งจะได้เห็นกับตาตนเอง ถึงจำนวนเงินมากมายอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พวกมันก็ยังคงยากที่จะเชื่อว่าผู้อาวุโสสุ่ยโม่เทียน ซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรโบราณ จะปฏิบัติตัวอย่างสุภาพกับผู้ฝึกตนที่อยู่แค่ในอาณาจักรเซียนเท่านั้น
ดูเหมือนว่าหญิงสาวเยาว์วัย จะใกล้ชิดกับสุ่ยโม่เทียนเป็นอย่างยิ่ง เอนตัวไปกระซิบว่า “ผู้อาวุโสสุ่ย ถ้าคนผู้นั้นใช้จ่ายหยกเซียนสี่พันชิ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น ถุงสมบัติของมันต้อง…” ก่อนที่นางจะทันได้พูดจบ สุ่ยโม่เทียนก็หันหน้ามาในทันที ดวงตาลุกโชนขึ้นด้วยโทสะ ฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้านาง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และนางก็โซเซถอยไปทางด้านหลัง
“หุบปาก!” ชายชรากล่าวด้วยเสียงเย็นชาราวน้ำแข็ง
“เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันคือใคร? ถ้าเจ้ากล้ากล่าวเช่นนี้ ก็ให้คิดถึงศักดิ์ฐานะของเจ้าด้วย มันสามารถสังหารเจ้าและข้า
หรือแม้แต่สำนักเทียนโม่ของพวกเราได้ทั้งหมด! แม้แต่ตลาดเมฆาสวรรค์มันก็ยังสามารถจะล้มล้างไปได้ในชั่วพริบตา!” เมื่อพูดจบมันก็แค่นเสียงเย็นชาออกมา
ในทันทีที่หยกเซียนสี่พันชิ้นปรากฏขึ้น เมิ่งฮ่าวได้แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของตนเองออกมา ถึงแม้ว่าชายชราจะรู้สึกถึงความคุ้นเคย ในตอนที่ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดผ่านเขาก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องใช้เวลานานก่อนที่มันจะตระหนักว่าเขาคือใคร ดังนั้นมันจึงตัดสินใจที่จะส่งมอบของวิเศษเจ็ดชิ้นเป็นของกำนัล
“มัน…มันคือใคร?” หญิงสาวเยาว์วัยถามขึ้น
ถ้าเป็นคนอื่น สุ่ยโม่เทียนอาจจะไม่ยอมตอบคำถามนี้ แต่เมื่อคิดว่านางให้การต้อนรับเมิ่งฮ่าวเป็นอย่างดี มันจึงเอนตัวเข้าไปใกล้และกระซิบไปที่ข้างหูของนาง “นายน้อยแห่งตระกูลฟาง ศิษย์ร่วมกันเพียงคนเดียวของสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ มันอยู่ในอาณาจักรเซียนก็จริง แต่สามารถจะสังหารผู้แข็งแกร่งอาณาจักรโบราณได้ นั่นก็คือ…เมิ่งฮ่าว!”
“นั่นคือมัน!?!?” หญิงสาวเยาว์วัยอ้าปากค้าง และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้น นางหันหน้าไปค้นหาเมิ่งฮ่าว แต่เขาก็หายตัวไปที่ด้านนอกแล้ว
ทันใดนั้นหญิงสาวเยาว์วัยก็ดูเหมือนว่าจะคิดอะไรขึ้นมาได้ และนางก็พูดโพล่งขึ้นมา “แย่แล้ว! เมื่อครู่นี้มีลูกค้าบางคนแอบออกไปหลังจากที่เห็นหยกเซียนของมัน พวกมันคงจะแอบลอบวางแผนบางอย่างเป็นแน่!”
“ไม่ต้องวิตกไป พวกมันกำลังรนหาที่ตาย” สุ่ยโม่เทียนกล่าวพร้อมกับหัวเราะหึๆ มันรู้ว่าด้วยตัวตนของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ แม้แต่เทียนอวิ๋นซ่างเหรินก็ยังไม่อาจจะทำอะไรกับเขาได้
ในเวลาเดียวกันนั้น ตรงตำแหน่งที่ค่อนข้างจะอยู่ห่างไกลออกไปภายในตลาด มีอาคารอยู่หลังหนึ่งซึ่งน้อยคนนักที่อยากจะเข้าไปใกล้
เมื่อผู้คนเดินผ่านไป ก็จะมองอาคารหลังนั้นด้วยความวิตกและหวาดกลัว จากนั้นก็รีบก้มศีรษะลงและเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกตนวัยกลางคนสี่คนนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ด้านนอกของอาคาร พวกมันทั้งหมดสวมใส่ชุดยาวสีแดง และมีพื้นฐานการฝึกตนอยู่ที่ขั้นสูงสุดของอาณาจักรเซียน
ที่ด้านในของอาคาร เงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง สิ่งเดียวที่ได้ยินก็คือลมหายใจ ท่วงทำนองของลมหายใจนั้นทำให้ดูเหมือนว่ามันได้เชื่อมต่อกับสวรรค์และปฐพี ทำให้ทั่วทั้งอาคารเลือนลางลงไปเป็นระยะ
ตอนนี้ สองผู้ฝึกตนกำลังเร่งรีบเดินตรงมายังอาคารหลังนี้ พวกมันมาหยุดอยู่ที่เบื้องหน้าผู้ฝึกตนชุดแดงและคุกเข่าลงโขกศีรษะ เมื่อพวกมันมองขึ้นไป หนึ่งในสองผู้ฝึกตนนั้นก็กล่าวอะไรบางอย่างกับบุรุษชุดแดงผู้หนึ่ง
บุรุษชุดแดงลุกขึ้นยืนในทันที และเข้าไปในอาคารพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น หลังจากผ่านไปชั่วขณะ มันก็โผล่ออกมาและกล่าวว่า “ไปแอบติดตามมันอย่างลับๆ ไม่ว่ามันจะไปที่ไหน ก็ไปดูว่ามันมีหยกเซียนอยู่มากน้อยเท่าใด ถ้าน้อยกว่าหนึ่งหมื่น ก็ไม่คุ้มค่าที่จะให้จุนเจ่อ (ท่านผู้เฒ่า) ลงมือ”
สองผู้ฝึกตนที่เพิ่งจะมาถึงมีท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง พวกมันโค้งตัวลงอย่างรวดเร็ว และรีบจากไปในทันที
บุรุษชุดแดงยังคงนั่งเข้าฌานอยู่ที่นั่น และทุกสิ่งทุกอย่างก็เงียบสงบลงอีกครั้ง บนชั้นสองของอาคาร ชายชราผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่น มีรอยเปื้อนสีน้ำตาลอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อมันลืมตาขึ้นมา ดวงตาทั้งคู่ก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น และกระจายความผันผวนของอาณาจักรโบราณขั้นสุดท้ายออกมา
“ศิษย์พี่ระมัดระวังตัวมากเกินไป เป้าหมายหลักของตลาดเมฆาสวรรค์ก็คือ ช่วยให้พวกเรามีความสะดวกในการฝึกฝนตนเอง เมื่อศิษย์พี่นั่งเข้าฌานตามลำพัง ข้าก็จะรับหน้าที่แทน หยกเซียนสี่พันชิ้น อืม…ข้าไม่สนใจว่ามันเป็นใคร ด้วยหยกเซียนเช่นนั้น มัน…จะต้องส่งมอบออกมาบ้างถ้าต้องการจะมีชีวิตรอดจากไป!” ด้วยเช่นนั้น มันก็หลับตาลงอีกครั้ง
เมิ่งฮ่าวเดินเนิบนาบไปทั่วตลาดอย่างต่อเนื่อง วางมาดว่าร่ำรวยและภูมิฐานเป็นอย่างยิ่ง เดินเข้าไปทุกร้านที่เห็น และซื้อทุกอย่างที่ดูดี ของวิเศษ, เม็ดยา, ต้นสมุนไพร, ตำราวิชาเวท และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย แม้แต่สิ่งของที่ไม่ขายเขาก็ซื้อมา บางชิ้นก็มีขนาดใหญ่มากซึ่งเป็นฉากกำบังที่ถูกตกแต่งด้วยพยัคฆ์ขาว เขาชอบมันเป็นอย่างมากเพราะว่าดูน่ามหัศจรรย์และกระจายพลังลมปราณออกมา เขาโบกสะบัดมือออกไป ทำให้เงินจำนวนมากลอยออกมา จนเจ้าของร้านได้แต่จ้องมองมาด้วยความตกตะลึง
เมิ่งฮ่าวชี้ไปยังบัลลังก์ที่สร้างขึ้นมาจากกระบี่บินจำนวนมาก และกล่าวว่า “ของสิ่งนี้ดูดีมาก! เตียต้องชอบมันอย่างแน่นอน ข้าขอซื้อ!”
เขามองเห็นรูปปั้นที่ทำมาจากหินลมปราณ ซึ่งตัวรูปปั้นเองก็เป็นของวิเศษอย่างแท้จริง “ของสิ่งนี้ก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน ข้าขอซื้อ!”
“นี่ก็ด้วย!”
“ชุดเกราะนี้ดูดีทีเดียว ข้าต้องการหนึ่งพันชุด!”
“ชุดนักพรตเหล่านี้ก็เยี่ยมมาก ข้าซื้อพวกมัน!”
“ม้วนตำราหยกทั้งหมดในร้านท่านราคาเท่าไหร่? ข้าขอซื้อทั้งหมด”
เมื่อเมิ่งฮ่าวคิดว่าบิดาไม่อาจจะออกมาจากดาวหนานเทียนได้ เขาจึงตัดสินใจซื้อตำราจากร้านมาทั้งหมด เพื่อให้ท่านสามารถอ่านตำราต่อไปได้อย่างสะดวกง่ายดายขึ้น
เมิ่งฮ่าวไม่ค่อยแน่ใจว่าสิ่งของที่ผู้ฝึกตนสตรีชอบจะเป็นอะไร เมื่อเขาไม่มั่นใจว่ามารดาจะชอบของสิ่งไหน เขาจึงตัดสินใจซื้อไปหมดทั้งร้านเช่นเดียวกัน!
“นี่เป็นกลุ่มหุ่นเชิดที่ดี ข้าขอซื้อพวกมัน!”
ที่ไหนก็ตามที่เขาเข้าไป ร้านค้าเหล่านั้นแทบจะบ้าคลั่งด้วยความยินดี ในที่สุดคนทั้งหมดในตลาดต่างก็รับรู้ถึงการคงอยู่ของผู้ฝึกตนเยาว์วัยที่ร่ำรวยผู้นี้
บางคนยังได้เริ่มติดตามเขาไปเพื่อดูว่าเขาใช้จ่ายไปมากน้อยเท่าใด ในที่สุดเขาก็ใช้ไปเทียบเท่ากับหินลมปราณหนึ่งพันล้านก้อน หรือหยกเซียนประมาณหนึ่งแสนชิ้น
ผู้ฝึกตนที่ถูกส่งมาแอบติดตามเขาอย่างลับๆ ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปด้วยความคลุ้มคลั่ง พวกมันเริ่มรายงานกลับไปยังเบื้องสูง และในที่สุดตลาดทั้งหมดก็รับรู้ได้ถึงลมพายุที่กำลังจะพัดผ่านมา
เห็นได้ชัดว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้สังเกตเห็น ยังคงม้วนกวาดไปยังร้านค้าและซื้อทุกอย่างด้วยความบ้าคลั่งต่อไป แม้แต่ผู้ขายแผงลอยต่างๆ เขาก็เริ่มมองไป เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเห็นสิ่งที่ชอบ ก็จะซื้อมันไป ซึ่งบางครั้งก็ซื้อไปหมดทั้งแผงเลยทีเดียว
เมิ่งฮ่าวคล้ายกับเป็นซ่านไฉถงจื่อ (เด็กชายถุงเงิน) ปกติแล้ว การใช้จ่ายเงินทองมักจะทำให้เขาต้องรู้สึกปวดศีรษะเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อคิดว่าเขากำลังซื้อของขวัญให้กับบิดามารดา เขาจึงไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย
เขายังซื้อของขวัญให้กับพี่สาวอีกด้วย ในที่สุดเขาก็ซื้อไปเกือบหนึ่งในสามของสิ่งของที่วางขายอยู่ในตลาด และใช้จ่ายหยกเซียนไปเกือบสามแสนชิ้น
สำหรับสองผู้ฝึกตนที่เดิมทีถูกส่งมาแอบติดตามเขา พวกมันกลับไปรายงานยังอาคารที่อยู่ห่างไกลหลังนั้น ชายชราซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ที่นั่นลืมตาขึ้นมา และดวงตาทั้งคู่ก็สาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร
“หยกเซียนสามแสนชิ้น…การที่มันยอมใช้จ่ายมากมายเช่นนั้น ก็เป็นการบ่งบอกว่าในถุงสมบัติของมันต้องมีมากกว่าหนึ่งล้านชิ้น สวรรค์! หยกเซียนหนึ่งล้านชิ้น…”
ชายชราเริ่มหอบหายใจออกมา แววตาเต็มไปด้วยความโลภอย่างบ้าคลั่ง แต่ทันใดนั้นมันก็เริ่มสงสัยขึ้นมา
เมื่อคิดว่าคนผู้นี้มีเงินมากมายเช่นนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นคนที่มีเบื้องหลังความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ต้องเป็นคนที่ไม่อาจจะไปล้อเล่นด้วยได้