Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1219

ตอนที่ 1219

ดาวเทียนหุนพังทลาย

แทบจะในเวลาเดียวกับที่สีหน้าของปรมาจารย์เฮยหุนสลดลง เมิ่งฮ่าวก็ยกมือขวาขึ้นมา แสงแปลกๆ สาดประกายอยู่ในแววตา ขณะที่เขาชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า

“สุดยอด…สะพาน!” เขากล่าวเสียงแผ่วเบา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากภายในร่างของเมิ่งฮ่าวเอง และทันใดนั้นคนทั้งหมดก็มองเห็นของสิ่งหนึ่งอยู่ในร่างเขา แม้แต่เสื้อผ้าก็ไม่อาจจะปกปิดแสงอันเจิดจ้าที่กระจายออกมาจากกระหม่อมลงไปจนถึงจุดตันเถียนเพื่อก่อตัวเป็น…สะพานแห่งหนึ่งได้!

สะพานนั้นถูกซ่อนอยู่ภายในร่างเขา แทบจะคล้ายกับเป็นจุดชีพจร จากนั้น…สะพานก็ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในท้องฟ้า…

สุดยอดสะพาน!

ตูมมมมมมม!

เสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ได้ยินมา ขณะที่ท้องฟ้าพังทลายลงไป ในตอนนี้ที่ว่างนั้นถูกครอบครองโดยสุดยอดสะพาน ซึ่งกระจายแสงอันเจิดจ้าและพลังอำนาจอันน่ากลัวออกมา สัญลักษณ์เวทนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมอยู่บนพื้นผิวของมันส่องแสงระยิบระยับ และสะพานนั้นก็มีขนาดใหญ่โตจนใครก็ตามที่มองไป ดวงตาต้องเบิกกว้างขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“นี่คือเวทอะไรกัน…?” ศิษย์ที่กำลังหลบหนีไปของเฮยหุนเต้าอ้าปากค้างและจ้องมองไปด้วยดวงตาที่เบิกโพลงไม่อยากจะเชื่อ

ปรมาจารย์เฮยหุนกำลังหอบหายใจออกมาด้วยเช่นกัน จากระดับพื้นฐานฝึกตนของมัน ทำให้มันรู้จักสิ่งที่กำลังมองเห็นอยู่นี้ และต้องร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

“เวทผู้ยิ่งใหญ่! เจ้า เจ้าอยู่ใน…ลำดับขั้น!!” เวลาเดียวกับที่เสียงของมันดังก้องออกมา แรงกดดันก็กระจายออกมาจากสุดยอดสะพาน บดขยี้ลงไปบนพื้นดิน ทำให้ดาวทั้งดวงสั่นสะเทือน ทันใดนั้นปรมาจารย์เฮยหุนก็ถูกห้อมล้อมด้วยพลังอันมหาศาล

มันสั่นสะท้าน และสีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ไม่เพียงแต่จะหวาดกลัวต่อแรงกดดันที่กำลังบดขยี้ลงมาบนร่างเท่านั้น…ร่างกายมันกำลังสั่นสะท้านไปมาอยู่ในตอนนี้

ความรู้สึกหวาดกลัวพุ่งขึ้นมาในจิตใจ และรู้สึกได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรงอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ความรู้สึกนี้บอกกับมันว่าถ้าพยายามไปต่อสู้กับสุดยอดสะพานนี้ ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกกำจัดไป!!

“เป็นไปไม่ได้!! ต่อให้เป็นเวทผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่น่าจะแข็งแกร่งเช่นนี้ นี่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้!!”

ในเวลาเดียวกันนั้นปรมาจารย์เฮยหุนก็สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง ลำแสงอันเจิดจ้าส่องประกายออกมาจากสุดยอดสะพาน แสงเจิดจ้านั้นเต็มไปด้วยพลังผู้ยิ่งใหญ่ ในชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั่วทั้งกระถางธูปที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของปรมาจารย์เฮยหุน

กระถางธูปเริ่มสั่นไปมา และจากนั้นก็ถูกลากตรงไปยังสุดยอดสะพานอย่างช้าๆ

“กลับมา!” ปรมาจารย์เฮยหุนร้องตวาดขึ้น มันอาจจะรู้สึกได้ถึงวิกฤตอันร้ายแรง และอาจจะรู้สึกสั่นสะท้านโดยสุดยอดสะพาน แต่ก็ยังคงเป็นราชันเต๋าสามแก่นแท้ มันเป็นราชันในโลกแห่งนี้ เป็นบุคคลที่เคยต่อสู้มาแล้วนับไม่ถ้วนในชีวิตนี้ ถึงแม้ว่าจะกำลังรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ยังคงส่งเสียงแผดร้องออกมาอย่างดุร้าย ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกไป เพื่อขัดขวางไม่ให้กระถางธูปถูกดึงไป

มันตระหนักดีมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า คู่ต่อสู้ของมันมาเพื่อกระถางธูปนี้ และมันก็ไม่ยอมจะปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้มันไปอย่างแน่นอน

ในทันทีที่ปรมาจารย์เฮยหุนแผดร้องออกมา เมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือออกไป และทำท่าคว้าจับตรงไปยังกระถางธูป เวทปลิดดาวถูกปลดปล่อยออกไป รวมเข้ากับพลังแห่งสุดยอดสะพาน ทำให้กระถางธูปถูกลากตรงมายังเมิ่งฮ่าวอย่างรวดเร็ว

“นั่นคือของวิเศษของข้า เป็นมรดกตกทอดของเฮยหุนเต้า! เจ้าคิดว่าจะสามารถนำมันจากไปได้!?” ปรมาจารย์เฮยหุนกัดปลายลิ้น และพ่นโลหิตออกมา จากนั้นก็กู่ร้องขึ้น ทำให้กระถางธูปหยุดชะงักนิ่ง ถึงแม้ว่าจะมีพลังแห่งเวทผู้ยิ่งใหญ่ แต่ทันใดนั้นมันก็เริ่มลอยกลับไปยังทิศทางของปรมาจารย์เฮยหุน

เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว และดวงตาก็สาดประกายเย็นชาขึ้น พร้อมกับเสียงแค่นเย็นชา เขาก้าวเดินตรงไป ปรากฏกายขึ้นตรงด้านบนของสุดยอดสะพาน ใช้เท้าขวากระทืบลงไปอย่างรุนแรง

สุดยอดสะพานสั่นสะท้าน และแสงที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นก็พุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง แรงกดดันจากสะพานเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดเท่าที่เมิ่งฮ่าวจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้

พลังบดขยี้อันมหาศาลนั้นทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน!

ดวงดาวซึ่งอยู่ในสถานะที่ใกล้จะพังทลายไปแล้ว ในตอนนี้ก็ไม่อาจจะฝืนทนได้อีกต่อไป เกิดเป็นเสียงกระหึ่มขนาดใหญ่ขึ้น…ขณะที่พื้นผิวของดวงดาวพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง!

ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของพื้นดินลอยไปมาอย่างบ้าคลั่ง และเสียงบดขยี้อันรุนแรงก็ดังก้องออกมา ขณะที่รอยแตกร้าวพุ่งกระจายออกไปในทั่วทุกที่ ภูเขาแบนราบเป็นหน้ากลอง และแม่น้ำก็ระเหยกลายเป็นไอ ศิษย์เฮยหุนเต้าที่กำลังหลบหนีจากไปนับไม่ถ้วนกำลังพบเจอกับหายนะอันเลวร้าย ไม่มีใครสามารถจะหลบหนีจากไปได้

 

ในชั่วพริบตาผู้ฝึกตนก็เริ่มแผดร้องออกมา ขณะที่พลังแห่งการทำลายล้างดวงดาวได้บดขยี้พวกมันไปโดยสิ้นเชิง บางคนยังถูกกลืนกินเข้าไปโดยรอยแตกร้าวที่กลายเป็นพื้นดินที่พังทลายลงไปรอบๆ ตัว และบางคนก็ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มหมอกของโลหิตและชิ้นเนื้อจากแรงกดดันที่กระจายออกมาจากสะพานอีกด้วย

ผู้ฝึกตนบางคนที่หลบเลี่ยงจากความตายเช่นนี้ไปได้ จู่ๆ ก็พบว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับนักรบศิลา ที่กำลังตวัดกระบี่ออกมาม้วนกวาดไปยังใครก็ตามที่หลบหนีมาได้จนต้องตกตายไปในทันที

ทั่วทั้งดาวดวงนี้ซึ่งเป็นที่ตั้งของเฮยหุนเต้ากำลังพบเจอกับหายนะวันสิ้นโลกอยู่!

พื้นดินถูกทำลายไปด้วยความรวดเร็วและท้องฟ้าก็พังทลายลงมา ทั่วทั้งดวงดาว…คล้ายกับหมัดที่กำไว้จนแน่น และในตอนนี้ก็คลายออกอย่างรวดเร็ว

“แหลกสลาย!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกนขึ้น กดมือลงไปด้านล่าง

การกระทำนี้ทำให้แรงกดดันที่กระจายออกมาจากสุดยอดสะพานเพิ่มขึ้นอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้มั่นใจว่าดาวดวงนี้จะถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

ตูมมมมมมม!

ดาวทั้งดวงกำลังพังทลายลงไป!

ชิ้นส่วนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ขณะที่พลังอันมหาศาลระเบิดออกมาจากดวงดาวเอง แรงระเบิดนั้นทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นขนาดใหญ่ม้วนกวาดออกไปในทั่วทุกทิศทาง โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ศิษย์เฮยหุนเต้าถูกโจมตีไปทั้งหมด ทำให้โลหิตพุ่งกระจายออกไปขณะที่ร่างกายพวกมันถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ

ดาวทั้งดวงในตอนนี้กลายเป็นชิ้นส่วนนับไม่ถ้วน ลอยออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงเหลืออยู่ก็คือ ซากปรักหักพัง, ซากศพ และชิ้นเนื้อ…

กลิ่นคาวโลหิตลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณนั้น ราวกับว่าจะไม่มีทางกระจายหายไปตราบชั่วนิรันดร์

ปรมาจารย์เฮยหุนจ้องมองไปด้วยความตกใจ และกระอักโลหิตออกมาจากปาก ร่างกายมันแห้งเหี่ยวลงไปเล็กน้อย และเริ่มสั่นสะท้านไปทั้งร่าง อ้าปากขึ้นและเสียงแปลกๆ ก็ได้ยินมา ราวกับว่ามันมีเรื่องราวมากมายหลายอย่างที่ต้องการจะพูดออกมา แต่ก็ติดอยู่ในลำคอ

ในตอนที่ดวงดาวพังทลายลงไป และโลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน กระถางธูปที่มันพยายามฉุดลากไป ก็ลอยห่างออกไปจากมันด้วยพลังของเมิ่งฮ่าวและสุดยอดสะพาน

ภายในลำแสงเจิดจ้าหลากสีนั้นเป็นกระถางธูป…ที่ลอยตรงไปยังเมิ่งฮ่าว หดขนาดเล็กลง และตกลงไปบนฝ่ามือของเขา!

ทันใดนั้นเอง เมิ่งฮ่าวก็สั่นสะท้านขณะที่รู้สึกถึงความผันผวนที่คุ้นเคยกระจายออกมาจากภายในแสงนั้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเพราะพวกมันอยู่ภายในกระถางธูป หรือเนื่องมาจากเหตุผลอื่น ความผันผวนเหล่านั้นก็เลือนรางเป็นอย่างยิ่ง จนดูเหมือนว่าแทบจะจางหายไปโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่า…ไม่ค่อยสบายใจนัก

แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะมาตรวจสอบดูในตอนนี้ เศษชิ้นส่วนของดวงดาวกำลังลอยไปมาในทั่วทุกทิศทาง และในท่ามกลางเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นทั้งหมดเป็นสะพานที่มีเมิ่งฮ่าวยืนอยู่ด้านบนสุด ด้านล่างสะพานคือปรมาจารย์เฮยหุน ที่กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปโดยสิ้นเชิง จนดูเหมือนว่าแทบจะใกล้บ้าไปแล้ว

มันมองไปรอบๆ ยังดวงดาวที่ถูกทำลายไป ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเฮยหุนเต้า และศิษย์ทั้งหมดที่ตกตายไป สำนักที่มันสร้างขึ้นมาด้วยตนเองกำลังหายเข้าไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอยู่ในตอนนี้

ภาพที่เห็นนี้ทำให้มันต้องสั่นสะท้านขึ้นมา แหงนหน้าขึ้นและส่งเสียงแผดร้องแหลมเล็กออกมา!

“เด็กน้อย เหล่าฟูและเจ้า ไม่ตายไม่เลิกลา!!” ขณะที่เสียงแผดร้องของมันดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง พลังของมันก็พุ่งขึ้นไป เส้นผมยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง ขณะที่มันบ้าคลั่งไปโดยสิ้นเชิง จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวอย่างน่ากลัว พุ่งเข้าไปโจมตี

พลังแก่นแท้ปะทุออกมาอยู่รอบๆ ตัวมัน ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวต้องเบิกกว้างขึ้น แน่นอนว่าเขาตระหนักดีว่าการกระทำของตนเองที่ทำลายดาวดวงนี้ไป จะกลายเป็นจุดสนใจของพันธมิตรเทพสวรรค์

อันที่จริงเขาอาจจะมีเวลาไม่มากนัก ก่อนที่ผู้แข็งแกร่งทรงพลังแห่งพันธมิตรเทพสวรรค์จะปรากฏตัวขึ้น

เมิ่งฮ่าวถอนหายใจออกมา เขาเลือกที่จะทำลายดวงดาวไป ก็เพราะว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีก มันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ปรมาจารย์เฮยหุนได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส และทำให้เขาสามารถจะแย่งชิงกระถางธูปมาได้

“ข้าต้องจบเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร เขารีบวางเครื่องหมายผนึกลงไปบนกระถางธูป และเก็บมันไว้ จากนั้นก็ยกมือขวาขึ้นไปสูงในอากาศ ทำให้อาวุธสงครามปรากฏขึ้นมาอีกครั้งด้วยรูปร่างของใบมีดอันน่าตกใจ!

ตูม!

พลังของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปและจากนั้นก็ระเบิดออก ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน กลิ่นอายอันน่ากลัวทำให้เขาคล้ายกับเป็นนักรบเซียน!

ต่อมาผีโต้งก็ลอยออกมาจากถุงสมบัติ กลายเป็นเกราะนักรบ พลังของเขาระเบิดพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง ทำให้เกิดเป็นสายลมอันรุนแรงม้วนกวาดเศษหินดินทรายที่อยู่รอบๆ ตัวเขาออกไป

ลำแสงสีแดงลอยออกมาซึ่งก็คืออ๋าวเฉี่ยน ขณะที่ร่างมันกลายเป็นผ้าคลุมไหล่ เมิ่งฮ่าวแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา และแสงสีโลหิตอันเข้มข้นก็ปะทุขึ้นไป

ต่อมาเมิ่งฮ่าวก็ยกมือซ้ายขึ้น ซึ่งภายในมือเป็นผลเนี่ยผานลูกที่สี่ของเขา จากนั้นเขาก็นำมาวางบนหน้าผากและกดลงไป

ขณะที่ผลเนี่ยผานหลอมรวมเข้าไปในร่าง เสียงกระหึ่มก็ดังก้องอยู่ในจิตใจ และโลกรอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าวก็เปลี่ยนไป เศษชิ้นส่วนของดวงดาว ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว…ต่างก็กลายเป็นสีฟ้าไปทั้งหมด!

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนสุดยอดสะพาน ทันใดนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าไปอย่างเต็มปอด ทำให้สุดยอดสะพานส่องแสงเจิดจ้าออกมาในทันที ความรู้สึกของพลังอันสูงสุดกระจายออกมาจากสะพาน ซึ่งจากนั้นก็ถูกดูดซับเข้าไปโดยเมิ่งฮ่าว ดังนั้นก็ราวกับว่าเขาคือ…

ผู้ยิ่งใหญ่ที่มีลมหายใจ มีชีวิตอยู่!!

ขณะที่ปรมาจารย์เฮยหุนเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวก็ใช้อาวุธสงครามขนาดใหญ่กรีดเฉือนตรงไป!

นี่คือขั้นที่ทรงพลังมากที่สุดของเขา และเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งมากที่สุด เขาอยู่ในขั้นสูงสุดแล้วในตอนนี้!

ดูเหมือนว่าท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจะหยุดชะงักนิ่ง กฎธรรมชาติแตกกระจายออกไป เวลาในขุนเขาทะเลที่แปดก็ดูเหมือนว่าจะสงบนิ่งไป…

มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังคงมีอยู่ภายในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ซึ่งก็คือใบมีดขนาดใหญ่นั้น กระจายเป็นแสงเจิดจ้าออกมา ขณะที่สาดประกายตรงไปยังปรมาจารย์เฮยหุน

ปรมาจารย์เฮยหุนแหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา ฟาดมือทั้งสองออกไป ทันใดนั้นร่างมันก็ระเบิดขึ้น ทำให้เลือดเนื้อระเบิดออกไป กลายเป็นกลุ่มหมอกโลหิต ซึ่งภายในดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วย…วิญญาณนับไม่ถ้วน!

“ผู้สังหารสวรรค์วิญญาณมืด!” เสียงหึ่งๆ ได้ยินมา ขณะที่วิญญาณนับไม่ถ้วนเต็มอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว พุ่งกระจายออกจนปกคลุมไปเกือบครึ่งท้องฟ้าเหนือพันธมิตรเทพสวรรค์ กลายเป็นภาพที่น่าตกใจยิ่งทำให้ดวงดาวทั้งหมดที่อยู่ภายในบริเวณนั้นต้องสั่นสะท้าน ผู้ฝึกตนพันธมิตรเทพสวรรค์นับไม่ถ้วนที่กำลังนั่งเข้าฌาณอยู่ ต้องลืมตาขึ้นมาและมองขึ้นไปด้วยความตกตะลึง

ในตอนนี้เอง กระแสสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วน ต่างก็ม้วนกวาดผ่านความว่างเปล่าตรงมายังบริเวณที่เมิ่งฮ่าวและปรมาจารย์เฮยหุนกำลังต่อสู้กันอยู่!

พันธมิตรเทพสวรรค์ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version