Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1249

ตอนที่ 1249

ข้าคือเมิ่งเฉิน

ตรงด้านนอกของทางออก ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเป็นสีดำสนิท และยืดยาวออกไปทั่วทุกทิศทาง เมื่อเมิ่งฮ่าวโผล่ออกมา ก็มองเห็นรอยแตกอื่นๆ ส่องแสงเจิดจ้าขึ้น จากนั้นก็มีผู้ฝึกตนอื่นๆ กำลังโผล่ออกมา

ผู้ฝึกตนจากพันธมิตรเทพสวรรค์เข้าไปในสามสิบสามนรกเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ก็โผล่ออกมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น บางคนมีท่าทางตื่นตระหนก ในขณะที่บางคนมีท่าทางดีใจ เห็นได้ชัดว่าพวกมันได้รับสิ่งของที่มีค่าบางอย่างจากด้านใน สำหรับผู้ฝึกตนเหล่านั้น สหายร่วมสำนักของพวกมัน รีบเข้ามาห้อมล้อมและคุ้มกันจากไป

คนอื่นๆ มีท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก แต่หลังจากที่ครุ่นคิดไปแล้ว ก็ตัดสินใจที่จะไม่ไปต่อสู้แย่งชิง

เมิ่งฮ่าวรวมตัวอยู่ในกลุ่มฝูงชน ขณะที่พวกมันออกมาจากอาณาเขตของสามสิบสามนรก แอบฟังคำพูดของกลุ่มคนเหล่านั้น

“ตอนนี้มันปิดแล้ว ดังนั้นช่วงการเปิดเริ่มต้นได้จบลงแล้ว เมื่อพวกมันเปิดออกในครั้งต่อไป ก็จะมีสุสานให้เข้าไปได้มากขึ้น…”

“สามสิบสามนรกจะเปิดออกสามครั้งติดต่อกัน และช่วงเวลาที่เปิดออกก็ห่างกันไม่นานมากนัก…ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะเปิดออกเป็นครั้งที่สอง และสุดท้าย…ก็ครั้งที่สาม!”

“ข้ารอให้เปิดออกเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งที่สามไม่ไหวแล้ว คาดว่าในตอนนั้นสำนักต่างๆ คงจะได้ครอบครองของวิเศษอันล้ำค่าและเวทแห่งเต๋าไปแล้วมากมาย”

“แต่อันตรายก็มักจะเพิ่มมากขึ้นในการเปิดออกของแต่ละครั้ง เมื่อครู่นี้มีคนตายไปไม่มากนัก

แต่ในการเปิดออกเป็นครั้งที่สอง บางทีครึ่งหนึ่งของผู้ที่เข้าไปอาจจะไม่ได้กลับออกมา สำหรับการเปิดออกเป็นครั้งที่สาม…มีเพียงผู้ที่โชคดีเท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอดออกมาได้”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น แต่สีหน้าก็ยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ติดตามคนทั้งหมดบินต่อไป ตอนนี้พื้นฐานฝึกตนของเขาไม่ได้สูงมากนัก อยู่ในอาณาจักรเซียนเท่านั้น ทำให้ตกอยู่ในกลุ่มท้ายสุด แต่เขาก็ไม่ใช่ผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆ ที่อยู่ในระดับเดียวกันอีกหยิบมือ ทำให้ดูไม่โดดเด่นมากนัก

เมิ่งฮ่าวบินไปเรื่อยๆ รักษาความเร็วคงที่เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ตกอยู่เบื้องหลัง คนกลุ่มนี้มีผู้นำเป็นผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า และในที่สุดก็ออกมาจากอาณาเขตของสามสิบสามนรก

ขณะที่เมิ่งฮ่าวโผล่ออกมา ดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวในที่แห่งนี้ส่องแสงระยิบระยับ ซึ่งแตกต่างเป็นอย่างมากกับความมืดมิดที่อยู่ใกล้กับสามสิบสามนรก

เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ และเห็นว่าพื้นที่บริเวณรอบๆ สามสิบสามนรกแน่นหนาไปด้วยยานรบที่กำลังลอยลำอยู่นับพัน แม้แต่ราชวังเคลื่อนที่ก็ลอยตัวอยู่ที่นั่น ซึ่งเป็นของสำนักต่างๆ ในพันธมิตรเทพสวรรค์ ขณะที่ผู้ฝึกตนบินออกมาจากสามสิบสามนรก และมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางสำนักของพวกมัน เมิ่งฮ่าวมองไปรอบๆ ยังลำเรือต่างๆ จนกระทั่งพบเรือที่เป็นของตระกูลเมิ่ง เสาจู่และผู้พิทักษ์เต๋าของมันอยู่ที่นั่น กำลังตรวจสอบดูคนทั้งหมดที่ออกมาจากสามสิบสามนรก มองหาสมาชิกของตระกูลเมิ่งที่ผ่านเข้าไป

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่ทำให้ใบหน้าซีดขาวลง และทำท่าราวกับว่าเพิ่งจะหนีรอดจากความตายมาได้ จากนั้นก็โซเซไปราวกับได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังเรือตระกูลเมิ่ง

ตอนแรกมันเป็นภาพที่ค่อนข้างจะปั่นป่วนวุ่นวาย ขณะที่คนทั้งหมดมุ่งหน้าตรงไปยังสำนักต่างๆ ของพวกมัน แต่ทั้งหมดนั้นก็เริ่มเงียบกริบลงไปอย่างรวดเร็ว

เมิ่งฮ่าวเข้าไปใกล้เรือตระกูลเมิ่งอย่างช้าๆ และในที่สุดเสาจู่ผู้นั้นก็มองเห็นเขา มันมีท่าทางดีใจขึ้นมาในทันที แต่ผู้พิทักษ์เต๋าที่อยู่ด้านหลังมันขมวดคิ้ว และมองออกไปยังที่ห่างไกล เมื่อเห็นว่าสมาชิกตระกูลเมิ่งไม่มีใครโผล่ออกมาอีกแล้ว มันก็ถอนหายใจ

ในที่สุดเกราะป้องกันของเรือก็ลดลงไป และเมิ่งฮ่าวก็ขึ้นเรือไป กระอักโลหิตออกมาในทันที และถอยโซเซออกไปด้านข้าง พยุงตัวเองไว้กับราวจับก่อนที่จะยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“เจ้ากลับมาเพียงคนเดียวได้อย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับคนอื่นๆ ทั้งหมด?”

ผู้พิทักษ์เต๋าร้องตะโกนถามขึ้น ในท่ามกลางกลุ่มผู้ติดตามของเสาจู่ผู้นั้น มีกลุ่มคนจำนวนน้อยที่เป็นข้าทาสระยะยาว หนึ่งในนั้นคือผู้ฝึกตนวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าคนรับใช้ ซึ่งเคยดุด่าเมิ่งเฉินเมื่อเร็วๆ นี้ และตอนนี้ก็มองไปยังเมิ่งเฉินที่รอดชีวิตกลับมาด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

จากกลุ่มคนทั้งหมดในตระกูลที่เข้าไปในสามสิบสามนรก

พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งเฉินอ่อนด้อยมากที่สุด แต่ตอนนี้มีแต่มันคนเดียวที่รอดกลับมา

อีกด้านหนึ่งของลำเรือเป็นบุรุษหนุ่มจากตระกูลหานและผู้พิทักษ์เต๋าของมัน บุรุษหนุ่มยืนอยู่ที่นั่นมองไปยังเมิ่งฮ่าว ดวงตาที่ชั่วร้ายของมันสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ ขณะที่เลียริมปากอย่างช้าๆ

“ข้าไม่เคยคิดว่าคนผู้นี้จะรอดชีวิตกลับมาได้จริงๆ ดูเหมือนว่ามันจะโชคดีไม่น้อย…” บุรุษหนุ่มพึมพำ ขณะที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ดวงตาสาดประกายขึ้น

ผู้พิทักษ์เต๋าของมันไม่กล่าววาจาใดๆ มันรู้ถึงความหมายที่จ้องมองไปนั้นว่าอะไร และตระหนักดีด้วยว่าเสาจู่ของตระกูลกำลังสนใจในตัวผู้ฝึกตนตระกูลเมิ่งผู้นี้…

เพื่อตอบรับเสียงร้องตะโกนของผู้พิทักษ์เต๋า ใบหน้าเมิ่งฮ่าวซีดขาวลง และเริ่มสั่นสะท้านไปมา หอบหายใจกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขมขื่น “ตายแล้ว ตายหมดแล้ว…”

เมิ่งฮ่าวไม่คุ้นเคยกับวิธีการพูดจาของเมิ่งเฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่พูดมากนัก กล่าวออกมาเพียงไม่กี่คำ ก็กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง และส่ายโงนเงนราวกับว่ากำลังจะหมดสติไปได้ทุกเมื่อ แต่จากนั้นก็มองไปยังเสาจู่ตระกูลเมิ่ง และจิตใจก็เต้นรัว

“ตายหมดแล้ว?!” ผู้พิทักษ์เต๋าร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง “คนทั้งหมดตายไปได้อย่างไร แล้วทำไมเจ้าถึงมีชีวิตรอดกลับมา? เกิดอะไรขึ้นในนั้น? บอกข้ามา!”

เมิ่งฮ่าวไม่สนใจผู้พิทักษ์เต๋าชรา จากนั้นก็ตบไปที่ถุงสมบัติ หยิบเอาตรีศูลสีเงินออกมา ชูสูงขึ้นไป

“เมิ่งเฉินทำภารกิจสำเร็จแล้ว! ข้าเกือบตายไป แต่ก็นำของวิเศษนี้ออกมาได้ นี่คืออาวุธเวทที่คนทั้งหมดตายไปเพื่อจะนำออกมา…” เมิ่งฮ่าวร้องประกาศขึ้น

ดวงตาเสาจู่สาดประกายขึ้น ก้าวเดินตรงมา คว้าจับไปที่ตรีศูลสีเงิน ทดลองมันเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าก็เต็มไปด้วยความยินดี มองไปยังเมิ่งเฉิน หยิบถุงสมบัติของเขาไปค้นหาจนทั่ว จากนั้นก็ยื่นส่งกลับไป

“ไม่เลว เมิ่งเฉิน ถือว่าเป็นความดีเล็กน้อยของเจ้า” เสาจู่ถือตรีศูลอยู่ในมือ ยิ่งมองไปก็ยิ่งมีแต่ความยินดี จนกระทั่งในที่สุดก็หัวเราะเป็นเสียงดังออกมา

“ตอนนี้เมื่อข้ามีของวิเศษอันล้ำค่าอยู่ในมือ ก็สามารถจะกลับไปยังตระกูลเพื่อรับคำชมเชยจากท่านปรมาจารย์ได้แล้ว”

เมิ่งฮ่าวโซเซไปมา รีบประสานมือโค้งตัวลงต่ำและกล่าวว่า “นี่ไม่ถือว่าเป็นความดีของเมิ่งเฉินเพียงลำพัง คนทั้งหมดของตระกูลต่างก็พยายามอย่างหนักเพื่อจะได้ตรีศูลนี้มา แน่นอนว่าที่สำคัญมากที่สุดก็คือแผนการทั้งหมดของเสาจู่ นั่นคือหนทางเดียวที่จะทำให้พวกเราได้ของวิเศษนี้มา”

เสาจู่มองมาชั่วขณะ จากนั้นก็คว้าจับไปที่ไหล่เมิ่งเฉิน และหัวเราะเป็นเสียงดังขึ้น

“ไม่เลว เมิ่งเฉิน เมื่อเจ้ามีผลงาน ข้าก็จะมอบรางวัลให้ด้วยเช่นกัน เจ้าสามารถไปรักษาตัวในห้องผู้ป่วยเป็นเวลาสามวัน พวกเรา นำตัวมันไป!” เสาจู่กล่าวขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีอารมณ์ดี บุรุษหลายคนตรงมายังเมิ่งฮ่าว นำตัวไปยังห้องผู้ป่วยในทันที

ผู้พิทักษ์เต๋าวัยชราขมวดคิ้ว ไม่รู้สึกสงสัยเมิ่งฮ่าวแต่อย่างใด มันกำลังคิดว่าจะอธิบายเรื่องราวเหล่านี้อย่างไรดี เมื่อกลับไปยังตระกูล ทำให้มันไม่ได้ครุ่นคิดถึงการแสดงออกที่แตกต่างไปของเมิ่งฮ่าว ผู้ฝึกตนวัยกลางคนที่ยืนห่างออกไปตรงด้านข้าง ที่เคยพูดคุยกับเมิ่งเฉินดูเหมือนว่าจะรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับบุรุษหนุ่มที่มาจากตระกูลหาน สายตามันตรึงแน่นไปยังเมิ่งฮ่าว และเริ่มสาดประกายเจิดจ้ามากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่ผ่านไปสามวัน เมิ่งฮ่าวก็ไปยังห้องเล็กๆ ของตัวเองเพื่อฝึกฝนพลังการฝึกตน เขียนตัวหนังสือไปบนประตูบอกว่ากำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ จึงไม่มีใครมารบกวน นอกจากนี้ก็มีน้อยคนนักที่จะมาสนใจเมิ่งเฉิน

ชีวิตบนลำเรือของเมิ่งเฉินไม่มีสหายแม้แต่ผู้เดียว ในช่วงเวลาที่อยู่ในห้องผู้ป่วย เมิ่งฮ่าวส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปทั่วทั้งลำเรือ ถ้าเขาต้องการก็สามารถจะสังหารคนทั้งหมดไปได้แค่ความคิดแวบเดียว แม้แต่ผู้พิทักษ์เต๋าก็ตาม

หลังจากที่ตรวจสอบดูสักพัก รวมทั้งแอบฟังคำสนทนาระหว่างสมาชิกธรรมดาของตระกูล ปฏิกิริยาของเสาจู่เมิ่งเต๋อพร้อมกับผู้พิทักษ์เต๋าของมัน และความคิดที่วิปริตของบุรุษหนุ่มจากตระกูลหาน จนทำให้เมิ่งฮ่าวต้องขมวดคิ้วขึ้น

เขาค่อยๆ เริ่มเข้าใจถึงชีวิตที่ยากลำบากของเมิ่งเฉินบนเรือลำนี้ เขาต้องพบเจอกับความอัปยศเช่นเดียวกัน เนื่องจากเรื่องราวเหล่านั้นทั้งหมด ทำให้ไม่มีใครในที่แห่งนี้จะถูกถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกับเขา แต่ก็อาจจะยกเว้นสำหรับ…หัวหน้าผู้รับใช้ที่เป็นบุรุษวัยกลางคน

นั่นคือคนที่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเมิ่งฮ่าวแสดงตัวขึ้น เมิ่งฮ่าวสามารถจะบอกได้ว่าหลังจากที่คอยเฝ้าสังเกตดูบุรุษผู้นี้มาตลอดทั้งสามวันที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ามันจะคุ้นเคยกับเมิ่งเฉินบ้าง แต่ก็มีความคิดที่ชั่วร้าย ในที่สุดเมื่อถึงยามราตรีของคืนวันหนึ่ง เมื่อบุรุษผู้นั้นอยู่ในช่วงการเข้าฌาณ เมิ่งฮ่าวก็ส่งเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์บางส่วนออกไปยังทิศทางนั้น และทำให้จิตใจของมันตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย สังหารมันไปอย่างเงียบๆ

การตายไปของบุรุษผู้นั้นทำให้เกิดเป็นความโกลาหลขึ้นมาเล็กน้อย ในท่ามกลางกลุ่มคนตระกูลเมิ่ง แต่การตรวจสอบของผู้พิทักษ์เต๋าได้บ่งบอกว่าบุรุษผู้นั้นตายไปในช่วงของการฝึกตน ทำให้เกิดเป็นเสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นวงกว้าง

เรื่งนี้ถูกลืมไปอย่างรวดเร็ว เรือตระกูลเมิ่งบินผ่านพันธมิตรเทพสวรรค์ไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เข้าไปใกล้กับหนึ่งในดวงดาวทางออก เมิ่งฮ่าวก็ออกมาจากห้องผู้ป่วย และกลับเข้าไปในห้องของเมิ่งเฉิน จากนั้นก็เริ่มเข้าฌานไป

เนื่องจากการตายไปของปรมาจารย์เฮยหุน และคนอื่นๆ ที่เมิ่งฮ่าวสังหารไป ทำให้รางวัลนำจับของเขาไม่ได้เป็นที่สนใจสำหรับพันธมิตรเทพสวรรค์อีกต่อไป เมื่อรวมเข้ากับการที่สามสิบสามนรกถูกเปิดออก ก็ทำให้น้อยคนนักที่จะพูดคุยถึงเรื่องของเมิ่งฮ่าวอีกต่อไป บุคคลที่ทำการค้นหาส่วนใหญ่แล้วก็เป็นศิษย์จากบางสำนักที่ปรมาจารย์ของพวกมันถูกเมิ่งฮ่าวสังหารไปเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายขึ้นที่จะหลีกเลี่ยงการปิดกั้นของพันธมิตรเทพสวรรค์จากก่อนหน้านี้ ทางออกและประตูเคลื่อนย้ายทางไกลส่วนใหญ่ถูกปลดผนึกไป และการตรวจสอบอื่นๆ ในที่แห่งนั้นก็ไม่เข้มงวดมากนักด้วยเช่นกัน

ผู้คนมากมายสันนิษฐานว่าเมิ่งฮ่าวตายอยู่ในสามสิบสามนรกแล้ว

อันที่จริงแม้แต่เทียนเสินเต้าก็ยังไม่ส่งคำสั่งให้ทำอะไรกับเมิ่งฮ่าว เนื่องจากเรื่องราวเหล่านั้นทั้งหมด ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่เรือตระกูลเมิ่งจะแล่นผ่านดวงดาวที่เป็นทางออกและบรรลุถึง…อาณาเขตที่อยู่ด้านนอกของพันธมิตรเทพสวรรค์!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวก็ลืมตาขึ้นมา รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว และเดินออกจากห้องพักไปยังดาดฟ้าเรือ จ้องมองกลับไปยังพันธมิตรเทพสวรรค์ ถอนหายใจออกมา

เขามาอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปดไม่นานมากนัก แต่ก็ได้พบเจอกับเรื่องราวต่างๆ มาอย่างมากมาย

เขากวาดล้างเฮยหุนเต้าไป กลายเป็นคนที่ถูกต้องการตัวบนรายชื่อของพันธมิตรเทพสวรรค์ ได้เติมเต็มความปรารถนาเมื่อในอดีตที่ต้องการจะสอบเข้าเป็นขุนนางอีกครั้ง ได้พบกับนักพรตชราแห่งสำนักเฮ่าหรัน ได้เรียนรู้เวทผนึกสวรรค์ ผ่านเข้าไปในสามสิบสามนรก สังหารราชันเต๋า ถูกตันหลางยึดร่าง ได้ร่างกลับคืนมาพร้อมกับโชควาสนาอันล้ำค่า และได้แทนที่เมิ่งเฉินอยู่บนเรือลำนี้

“หลังจากที่ไปยังตระกูลเมิ่ง…ข้าต้องทำเรื่องยิ่งใหญ่ให้จงได้!” เมิ่งฮ่าวยิ้มพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น ในตอนนี้เองที่เสียงอันอ่อนแอของบุรุษ จู่ๆ ก็พูดขึ้นมาจากด้านหลัง

“คืนนี้ เจ้าต้องมาอยู่เป็นเพื่อนข้า”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version