Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1248

ตอนที่ 1248

ออกมาจากสามสิบสามนรก

“โดดเด่น” ความหมายของสองตัวอักษรนี้ เมิ่งฮ่าวรู้ดีว่าคงจะแตกต่างไปจากตอนที่เขาอยู่ในตระกูลฟาง ในที่แห่งนั้นเมิ่งฮ่าวสร้างความโดดเด่นขึ้นมาด้วยตนเอง

เมิ่งฮ่าวเป็นสมาชิกในตระกูลฟาง และเป็นนายน้อยแห่งสายโลหิตหลักในที่แห่งนั้น บิดาของตนเองมีพื้นฐานฝึกตนที่สูงส่งลึกล้ำ และเมิ่งฮ่าวก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสสายโลหิตหลักด้วยเช่นกัน

เนื่องจากเช่นนั้น แทนที่จะบอกว่าเขาช่วยให้สายโลหิตหลักมีความโดดเด่นขึ้นมา ก็น่าจะดีกว่าถ้าจะกล่าวว่า เมิ่งฮ่าวได้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของตนเองออกมา

แต่เหตุการณ์ในตระกูลเมิ่ง…แตกต่างกันออกไป จากระดับพื้นฐานฝึกตนของเขาในตอนนี้ ถ้าต้องการจะมีตำแหน่งที่สูงส่งอยู่ในตระกูลเมิ่ง ก็สามารถจะทำได้ แต่เขาต้องอยู่กับตระกูลเมิ่งในขุนเขาทะเลที่แปดไปตราบชั่วนิรันดร์ ซึ่งคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก เมื่อไหร่ที่เขาจากไป สายโลหิตที่เฝ้ารอคอยให้ท่านตากลับมา ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์เดิมก่อนที่เมิ่งฮ่าวจะมาถึง

การสร้างความโดดเด่นอยู่ในตระกูลเมิ่งจึงหมายความว่า…สายโลหิตทั้งหมดต้องมีความโดดเด่นขึ้นมา ไม่ใช่แค่บุคคลเพียงคนเดียว

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น ตกอยู่ในห้วงภวังค์อันลึกล้ำ คำพูดเพียงไม่กี่คำของเมิ่งเฉิน ทำให้เขายากที่จะปฏิเสธต่อสายโลหิตของท่านตา และวิกฤตอันร้ายแรงที่พวกมันกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ได้ จากความจริงที่ว่าพวกมันมีผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียนเหลืออยู่เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

ซึ่งจะหมายความว่าสายโลหิตทั้งหมดอาจจะถูกกำจัดออกไปเมื่อไหร่ก็ได้

อันที่จริง ไม่มีใครในตระกูลจะให้ความสนใจต่อการตายไปของเมิ่งเฉินแม้แต่น้อย เพราะว่ามันไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตระกูลทั้งหมด แต่สำหรับสายโลหิตของมัน คงเหมือนกับเป็นหายนะอย่างแน่นอน

ผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียนเพียงคนเดียวของพวกมันตายไปแล้ว…

“เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?” เมิ่งฮ่าวคิดด้วยความไม่เข้าใจอย่างแท้จริง แค่ระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งพันปี สายโลหิตที่เคยรุ่งเรืองในครั้งหนึ่ง กลับต้องมาพบเจอกับความตกต่ำเช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น

“ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังทั้งหมดตกตายไป เหลือทิ้งไว้แต่เพียงแม่หม้ายและเด็กกำพร้า…” เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ และจิตใจก็บิดขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขาตระหนักดีถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของสายโลหิตเมิ่งเฉิน และภายในใจก็เต็มไปด้วยความสำนึกผิดอย่างลึกล้ำ

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็พุ่งออกไปยังที่ห่างไกลอย่างเงียบๆ ยกเลิกแผนการที่จะไปค้นหาหานชิงเหลย ในตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามันเพื่อจะออกไปจากที่แห่งนี้อีกต่อไปแล้ว แต่เมิ่งฮ่าวจะใช้ตัวตนของเมิ่งเฉินแทน

หลังจากที่เวลาชั่วธูปไหม้หมดหนึ่งดอกผ่านไป เสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกมาจากภายในเขตสุสาน ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มสั่นสะเทือนไปมา ขณะที่รอยแตกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น พลังระเบิดอันน่ากลัวเริ่มพุ่งขึ้นมาด้วยเช่นกัน

จากความทรงจำของตันหลาง มีวิธีที่จะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เมื่อใช้แก่นแท้พลังชีวิตของตันหลางใส่เข้าไปในรูเล็กๆ ของค่ายกลเวท มันก็จะเปิดเป็นทางออกขึ้นมา

ขณะที่เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา เมิ่งฮ่าวก็ฉวยโอกาสจากพลังระเบิดนั้น พุ่งฝ่าออกไปจากรอยแตก ติดตามมาด้วยหานชิงเหลยที่เต็มไปด้วยความตกใจ ซึ่งรีบหมุนตัวมองกลับไปยังรอยแตกที่นำไปสู่ด้านในเขตสุสาน มันตระหนักว่าบุคคลที่กำลังถูกดูดออกไปเป็นตัวเองและอีกคนที่มาจากตระกูลเมิ่ง

คนอื่นๆ ทั้งหมด ไม่มีใครโผล่ออกมา…แม้แต่เมิ่งฮ่าว

ทำให้มันได้ข้อสรุปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

“ตายแล้ว? เป็นไปไม่ได้!” หานชิงเหลยไม่อยากจะเชื่อว่าเมิ่งฮ่าวตายอยู่ด้านในแล้ว ทันใดนั้นมันก็คิดย้อนกลับไปยังช่วงเวลาสุดท้ายที่มันพบเห็นเมิ่งฮ่าว และรู้สึกได้ถึงเหตุการณ์แปลกๆ เหล่านั้น

ทันใดนั้นหานชิงเหลยก็มีความรู้สึกที่เลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง ถอนหายใจออกมา หมุนตัวมองไปยังรอบๆ บริเวณนั้น และเห็นได้ชัดว่ากำลังตกอยู่ในกลุ่มหมอกอีกครั้ง ได้ยินเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาจากด้านใน รวมทั้งเสียงของผู้ฝึกตนกำลังปลดปล่อยวิชาเวทออกมา

มันมองกลับไปยังผู้ฝึกตนตระกูลเมิ่งที่ถูกผลักออกมาจากเขตสุสานพร้อมกับตนเอง เหตุผลที่มันจดจำตัวตนของคนผู้นี้ได้อย่างง่ายดายว่ามาจากตระกูลเมิ่ง ก็เป็นเพราะว่าสมาชิกของตระกูลเมิ่งที่มายังสถานที่แห่งนี้มีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่อาณาจักรเซียนเท่านั้น และตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็สะกดพื้นฐานฝึกตนของตัวเองไว้จนถึงระดับนี้

“คนอื่นๆ ตายไปหมดแล้ว มันมีชีวิตรอดออกมาได้อย่างไร…?” หานชิงเหลยครุ่นคิดพร้อมกับดวงตาที่สาดประกายขึ้น แต่ขณะที่มันกำลังจะตรวจสอบดูเมิ่งอ่าวให้ละเอียดขึ้น เสียงแผดร้องด้วยความกราดเกรี้ยวก็ดังก้องออกมา

“หิว…หิวเป็นอย่างยิ่ง…” เสียงนั้นดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงโซ่เหล็กที่ดังกระทบกันไปมา ชั่วขณะต่อมาโซ่เหล็กสีดำก็พุ่งออกมาจากกลุ่มหมอก ทำให้ภูเขาพังทลายลงไป และผู้ฝึกตนที่อยู่ตรงทิศทางนั้นก็ถูกกำจัดไป

กลุ่มหมอกม้วนตัวไปมา และในที่สุดก็มองเห็นยักษ์ตนหนึ่งปรากฏกายขึ้น ท้องขนาดใหญ่โตของมันถูกพันไว้ด้วยโซ่เหล็กสีดำจำนวนมาก

มีผู้ฝึกตนอยู่รอบๆ ตัวมันหลายคน รวมทั้งผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋า ทั้งหมดกำลังตกอยู่ในการต่อสู้อย่างดุร้าย

ถึงแม้ว่าชายชราจากพันธมิตรเทพสวรรค์ได้จากไป หลังจากที่เมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ ถูกดูดเข้าไปในเขตสุสาน แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีผู้ฝึกตนอื่นๆ ได้เข้ามาเพื่อค้นหาโชควาสนาอีกกลุ่ม

“นี่คืออะไร!?” หานชิงเหลยอ้าปากค้าง แต่กลุ่มหมอกก็ทำให้ยากที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจน เห็นแต่เพียงว่ายักษ์ถูกปกคลุมไปด้วยเส้นหนวดนับไม่ถ้วน บ้างก็ม้วนพันไปรอบๆ โซ่เหล็ก และส่วนที่เหลือก็พลิ้วไปมาในอากาศ ดูน่าตกใจอย่างแท้จริง

สิ่งมีชีวิตนี้ถูกโอบล้อมไว้ด้วยผู้ฝึกตนจำนวนมากอยู่ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าหลายคนกำลังเก็บรวบรวมหยดโลหิตที่หยดลงมาจากหนวดที่ปกคลุมยักษ์ตนนั้น

หานชิงเหลย เพิ่งจะละสายตากลับมาจากเงาร่างทั้งหมดที่อยู่ในกลุ่มหมอก เมื่อหันกลับมาก็พบว่าผู้ฝึกตนตระกูลเมิ่งได้หายไปแล้ว มันมองไปยังทิศทางของสุสานอีกครั้ง จากนั้นก็ถอนหายใจยาวและกลบฝังความสงสัยไว้ในส่วนลึกของจิตใจ บินขึ้นไปในอากาศตรงไปยังทางออก

เมิ่งฮ่าวแอบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มหมอก มองดูหานชิงเหลยมุ่งหน้าจากไป ก้มศีรษะต่ำพุ่งตามไป รอคอยอยู่ชั่วขณะหลังจากที่หานชิงเหลยพุ่งฝ่าทางออกไปแล้วจริงๆ ก่อนที่จะบินตรงไป

ไม่ใช่ว่าเมิ่งฮ่าวจะเฝ้าระวังตัวต่อหานชิงเหลย ซึ่งมายังที่แห่งนี้เพื่อช่วยเหลือตนเอง มิตรภาพที่มันแสดงออกมานี้เป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวจะจดจำไว้ แต่ก็ไม่สะดวกเป็นอย่างยิ่งที่จะไปพบมันด้วยตัวตนในตอนนี้ สิ่งที่เขาคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในสายโลหิตของท่านตา ยังคงกดทับลงมาในจิตใจอย่างหนักหน่วง

ขณะที่เมิ่งฮ่าวบินขึ้นไปในอากาศตรงไปยังปากทางออก ใครบางคนกำลังหมุนคว้างพุ่งฝ่าอากาศตรงมายังเขาจากที่ห่างไกล เป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณผู้หนึ่ง ที่ถูกยักษ์โจมตีและตอนนี้กำลังกระอักโลหิตออกมา และมีใบหน้าที่ซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครู่นี้ยักษ์อันน่ากลัวเพิ่งจะฟาดฝ่ามือไปยังทิศทางมัน

แค่ระลอกคลื่นแรงกดดันจากการฟาดนั้นก็แทบจะสังหารมันไป ร่างลอยละลิ่วหมุนคว้างห่างออกไปนับหมื่นจ้าง จนมาอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวหลบเลี่ยงไปที่ด้านข้าง จากนั้นก็มุ่งหน้าต่อไป ผู้ฝึกตนอาณาจักรโบราณเป็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่ง มันปาดเช็ดโลหิตออกมาจากมุมปาก จ้องมองไปยังทิศทางยักษ์ที่อยู่ห่างไกลออกไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็มองมายังเมิ่งฮ่าว

“อาณาจักรเซียน? เจ้ากล้าเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ขณะที่เป็นผู้ฝึกตนอาณาจักรเซียน? เจ้ามาจากสำนักใด?” ดวงตาบุรุษวัยกลางคนแวบประกายขึ้น ขณะที่บินตรงมาขัดขวางเมิ่งฮ่าวไว้

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงเย็นชา ไม่ยอมเชื่องช้าลงแม้แต่น้อย

“บังอาจนัก! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย?!” บุรุษผู้นั้นแค่นเสียงเย็นชา ขณะที่มันพุ่งตรงมา ก็ยื่นมือออกไปคว้าจับเขาไว้ เมิ่งฮ่าวขมวดคิ้ว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร เห็นได้ชัดว่าบุรุษผู้นี้ไม่มีเจตนาดี แต่ก่อนที่มันจะทันได้ใกล้เข้ามา เสียงกระหึ่มอย่างรุนแรงก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ

กลุ่มหมอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นเริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วนม้วนตัวไปมา เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็มองเห็นยักษ์ที่ถูกโอบล้อมไว้ได้อย่างชัดเจนขึ้นในทันที

มันมีความสูงหนึ่งพันจ้าง และมีพุงที่เต็มไปด้วยไขมัน จนดูคล้ายกับลูกทรงกลม ถูกห้อมล้อมด้วยเส้นหนวดที่พลิ้วไปมา ถ้ามันไม่มีศีรษะและแขนขาทั้งสี่ข้างแล้วละก็ คงจะดูเหมือนกับลูกทรงกลมเป็นอย่างยิ่ง

มันถือตะบองขนาดใหญ่อยู่ในมือ ฟาดไปมาขณะที่แผดร้องขึ้น “หิว…หิวเป็นอย่างยิ่ง…”

ทันใดนั้นมือซ้ายของมันก็ยื่นออกไปคว้าจับผู้ฝึกตนไว้ จากนั้นก็ใส่เข้าไปในปาก โลหิตไหลซึมออกมา ขณะที่ยักษ์เคี้ยวคนผู้นั้นและกลืนมันลงไป เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นกำลังเฝ้ามองไป

เมิ่งฮ่าวได้ยินเสียงแผดร้องโหยหวน จากนั้นก็มองเห็นบุรุษผู้นั้นถูกกลืนกินลงไป ต่อมาหนวดของยักษ์เส้นหนึ่งจู่ๆ ก็เริ่มส่องแสงเจิดจ้าออกมา ราวกับเป็นผลึกของเหลวที่กำลังไหลอยู่ด้านใน ทันใดนั้นผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่ห้อมล้อมอยู่ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋าก็เริ่มโจมตีไปยังหนวดเส้นนั้น

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น และหนวดเส้นนั้นก็แตกกระจายไป ทำให้ผลึกของเหลวจำนวนมากพุ่งกระจายออกมา ผู้ฝึกตนรีบไปคว้าจับไว้

ในตอนนี้เองที่เสียงอันเย็นชา จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาในหูเมิ่งฮ่าว

“เจ้าเห็นหรือไม่? ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าต้องทำเพื่อข้าแล้ว พวกเราจะใช้ร่างของเจ้าเปลี่ยนเป็นน้ำยาจันทรา!” บุรุษวัยกลางคนกล่าวขึ้น พุ่งตรงมาราวกับเป็นสายฟ้า พยายามจะคว้าจับเมิ่งฮ่าวไว้ เมิ่งฮ่าวไม่แม้แต่จะมองกลับไป แค่ชี้นิ้วขวาไปทางด้านหลัง ก็ทำให้มันต้องหยุดชะงักลง โดยที่ไม่ต้องแตะสัมผัสไปโดนตัวมันด้วยซ้ำ ดวงตาบุรุษวัยกลางคนเบิกกว้างขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่จู่ๆ มันก็ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้ ยืนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว

ความประหลาดใจเต็มอยู่ในดวงตา และคลื่นแห่งความตกใจก็เต็มอยู่ในจิตใจมัน

เมิ่งฮ่าวมองกลับไปยังยักษ์ตนนั้นอย่างครุ่นคิด ฉับพลันนั้นเสียงกระหึ่มก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่พลังอันแข็งแกร่งระเบิดขึ้นมาจากภายในโลกแห่งนี้ กระจายเต็มไปทั่วทั้งพื้นดิน

พลังระเบิดนั้นเริ่มผลักดันให้ผู้ฝึกตนลอยขึ้นไปในอากาศ เวลาเดียวกันนั้น กลุ่มหมอกก็ม้วนตัวไปมาก่อตัวเป็นใบหน้าอันดุร้ายจำนวนมาก จากนั้นก็แผดร้องคำรามพุ่งตรงไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนที่ด้านบน

ราวกับว่าพวกมันกำลังจะผลักดันให้กลุ่มคนเหล่านั้นออกไป!

ที่น่าตกใจมากที่สุดก็คือทางออกตรงด้านบนเริ่มหดตัวลงไป ราวกับว่ากำลังจะปิดตัวลง

ทันใดนั้น ผู้ฝึกตนก็เริ่มร้องตะโกนและบินขึ้นไปในอากาศ

“ไปกันเถอะ ทางออกใกล้จะปิดลงแล้ว! ออกไปจากที่แห่งนี้!”

“สามสิบสามนรกเปิดออกด้วยเวลาที่จำกัด พวกมันมีช่วงเปิดเริ่มต้น ช่วงเปิดหลัก และช่วงเปิดสุดท้าย การเปิดแต่ละครั้งจะนานกว่าครั้งก่อนหน้า ไปกันเถอะ หลังจากนี้พวกเรายังมีโอกาสอีก จากสมัยโบราณมาจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ ใครก็ตามที่ยังอยู่ข้างในหลังจากที่ทางออกปิดไป ก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวอีก!”

“แย่นักที่สุสานแห่งนี้ไม่มีอะไรเลย ไม่มีภูเขาอาวุธใดๆ มีแต่ผู้ฝึกตนเพียงคนเดียวที่ถูกสะกดฝังไว้อยู่ด้านใน…” เสียงกลุ่มฝูงชนดังก้องออกมา ขณะที่คนทั้งหมดบินตรงขึ้นไปยังปากทางออก

ยักษ์ตนนั้นยังคงแผดร้องและโจมตีไปยังกลุ่มคน พลังระเบิดเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น และเมิ่งฮ่าวก็พุ่งตรงไปยังทางออก ลากบุรุษวัยกลางคนตามไปด้วย

ขณะที่กลุ่มฝูงชนเข้าไปใกล้ปากทางออก และกำลังจะออกไป ทันใดนั้นยักษ์ก็มองขึ้นมา อ้าปากขึ้นและแผดร้องคำรามจนท้องฟ้าต้องสั่นสะเทือน พื้นดินแตกกระจายไป ร่างมันพองขึ้นอย่างรวดเร็ว และหนวดของมันก็ยื่นยาวออกไปอย่างฉับพลัน ในชั่วพริบตาก็มองไม่เห็นศีรษะหรือแขนขาของมันอีก มองดูคล้ายกับลูกทรงกลมที่มีขนาดหนึ่งหมื่นจ้าง

ผู้ฝึกตนมองไปยังหนวดหนึ่งหมื่นเส้นที่พุ่งขึ้นมาในอากาศราวกับเป็นสายฟ้าอย่างน่าตกใจ ผู้ฝึกตนหลายคนเชื่องช้ามากเกินไป จึงถูกหนวดเหล่านั้นจับตัวไว้ หลังจากนั้นบนหนวดเหล่านั้นก็มีรอยแยกเกิดขึ้นจนดูคล้ายปาก ทำการกลืนพวกมันลงไป

คนทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล ตอนนี้ทางออกมีขนาดเพียงแค่สามในสิบส่วนของขนาดดั้งเดิม คนทั้งหมดพุ่งตรงไปยังปากทางออกด้วยความรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับหนวดเหล่านั้น พวกมันไม่กล้าจะติดตามไป จึงเริ่มโจมตีไปยังกลุ่มคนที่ยังไม่ได้จากไป

หนวดเส้นหนึ่งพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว แต่ขณะที่มันใกล้เข้ามา เมิ่งฮ่าวก็ทำท่าคว้าจับออกไป ทันใดนั้นสีหน้าของผู้ฝึกตนวัยกลางคนก็เปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง ขณะที่เมิ่งฮ่าวโยนมันออกไปยังหนวดเส้นนั้น และมันก็ถูกกลืนกินเข้าไปในทันที จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ก้าวผ่านปากทางออกไปด้วยความเยือกเย็น พร้อมกับมองกลับไปยังยักษ์ลูกทรงกลมขนาดหนึ่งหมื่นจ้างและเส้นหนวดที่พลิ้วไปมาของมัน รวมทั้งใบหน้าอันดุร้ายที่ก่อตัวขึ้นมาจากกลุ่มหมอก

จากนั้นก็หันหลัง เดินจากไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version