Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1322

ตอนที่ 1322

มาถึงขุนเขาที่เจ็ด

“ท่านเรียกตัวเองว่า…สุ่ยตงหลิว”

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวได้ยินนามนั้น ก็ต้องอ้าปากค้าง แววตาเต็มไปด้วยแสงแปลกๆ ยืนเงียบๆ อยู่ที่นั่นชั่วขณะ ภายในจิตใจมีการเชื่อมโยงกันไปมาอย่างมากมาย ทันใดนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนว่าจะชัดเจนมากขึ้น เมิ่งฮ่าวจึงผงกศีรษะกล่าวว่า

“ไว่กง ข้าส่งไว่ผอและคฤหาสน์บรรพชนตระกูลเมิ่งไปยังขุนเขาทะเลที่เก้าแล้ว น่าเสียดายที่หลังจากสวรรค์ชั้นแรกตกลงมา ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้าและข้ามีปัญหากันเล็กน้อย…”

“ราชันแห่งขุนเขาทะเลที่เก้า, จี้เทียน? มันกล้าดีอย่างไร!” ดวงตาไว่กงเมิ่งสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา

“หลังจากที่จัดการขุนเขาทะเลที่แปดเรียบร้อยแล้ว เหล่าฟูจะไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า ถ้าจี้เทียนจงรักภักดีต่ออาณาจักรขุนเขาทะเลก็ไม่เป็นไร มิเช่นนั้น…”

รังสีสังหารแวบประกายขึ้นในดวงตาท่าน

เมิ่งฮ่าวรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยในทันที

รู้สึกได้จากความผันผวนของพื้นฐานฝึกตนไว่กงว่ามีความแข็งแกร่งกว่าไป๋จู่ อยู่ห่างจากระดับหกแก่นแท้เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

เหตุผลที่เมิ่งฮ่าวสามารถจัดการร่างจำแลงของจักรพรรดิเต๋านอกคอกได้ในทันทีก็เป็นเพราะว่า ท่านเพิ่งจะตื่นขึ้นมาและต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ตอนนี้ไว่กงก็สามารถจะปลดปล่อยพลังจากพื้นฐานฝึกตนออกมาได้อย่างเต็มกำลังแล้ว

ไว่กงเมิ่งมองไปยังเมิ่งฮ่าว ถึงแม้ท่านจะไม่ค่อยมั่นใจนักว่า ทำไมเมิ่งฮ่าวถึงไม่ต้องการจะกลับไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า

แต่ก็สามารถจะบอกได้ว่าหลานชายของท่านเป็นผู้ที่แข็งแกร่งเกินกว่าราชันขุนเขาทะเลในอาณาจักรขุนเขาทะเลแห่งนี้ จึงกล่าวขึ้นว่า

“เจ้าเติบใหญ่ขึ้นแล้ว และมีพื้นฐานฝึกตนที่น่าประหลาดใจ ตอนนี้อาณาจักรขุนเขาทะเลไม่ค่อยมั่นคงนัก และผู้ฝึกตนทั้งหมดต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง เจ้าไปกระทำในสิ่งที่ตนเองต้องทำเถอะ!”

“ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตระกูลฟางในขุนเขาทะเลที่เก้า ขุนเขาทะเลที่แปด…พังทลายลงไปแล้ว เหล่าฟูจะไปรวบรวมผู้รอดชีวิต และนำไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นต่อสู้กับกลุ่มคนนอกคอกต่อไป”

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ชั่วขณะ ก่อนที่จะประสานมือและโค้งตัวลงต่ำให้กับไว่กง มองออกไปยังทิศทางของขุนเขาทะเลที่เก้า และสามารถจะรับรู้ได้ถึงสายโลหิตของตนเอง เขารู้ว่าในตอนนี้ผู้ฝึกตนตระกูลฟางไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายใดๆ จึงรู้สึกสบายใจขึ้น หันหลังและกลายเป็นลำแสงพุ่งออกไปยังที่ห่างไกล

เป้าหมายของเมิ่งฮ่าวคือขุนเขาทะเลที่สี่ จุดประสงค์ก็คือนำสวี่ชิงกลับบ้าน แต่ตอนนี้เมื่อเกิดสงครามขึ้น เขาก็รู้สึกว่า…ไม่สบายใจมากขึ้นกว่าเดิม

ความไม่สบายใจนั้นเริ่มมีมากขึ้น ในทันทีที่สวรรค์ชั้นแรกเริ่มตกลงมา

ย้อนกลับไปยังขุนเขาที่แปด ไว่กงเมิ่งยืนอยู่ที่นั่นมองเมิ่งฮ่าวเดินทางออกไปไกล สีหน้าเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู แต่ก็มีร่องรอย…ความไม่พอใจอย่างลึกล้ำที่ต้องแยกจากหลานชายด้วยเช่นกัน

“ผู้อาวุโสคนนอกเคยบอกว่าเมื่อหายนะแห่งขุนเขาทะเลมาถึง ทุกสรรพสิ่งก็จะกลายเป็นเถ้าธุลี…แต่ก็มีบางสิ่งที่พิเศษเฉพาะอยู่ในขุนเขาที่เก้า ในที่สุดมันก็จะกลายเป็นขุนเขาเดียวที่หลงเหลืออยู่…” ท่านกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา

“ท่านยังบอกด้วยว่า ไม่มั่นใจว่าขุนเขาทะเลใดจะรอดจากหายนะนี้ได้ ท่านบอกว่าที่สามารถจะทำได้ทั้งหมดก็คือค้นหา…ความหวัง”

“เห็นได้ชัดว่า ความหวังที่ท่านพูดถึงคือ…ฮ่าวเอ๋อร์” เมื่อมองไปยังเมิ่งฮ่าวที่จากไปไกล ท่านก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปด้วย และมองเห็นกลุ่มคนนอกคอกอย่างรวดเร็ว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหารอันเย็นเยียบ ขยับร่างเคลื่อนไหวออกไปในทันที

เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งขุนเขาทะเลที่แปด ในที่สุดก็บรรลุถึงรอยแตกที่ตนเองเคยต่อสู้กับไป๋จู่ ตอนนี้รอยแตกนั้นพังทลายลงไปแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่ร่องรอยที่เลือนลางเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวลอยตัวอยู่ที่นั่น ดวงตาสาดประกายขึ้นขณะที่ก้าวเดินตรงไป ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขากำลังเดินไปอย่างเนิบนาบ แต่จริงๆ แล้วก็เดินไปเป็นรูปวงกลม เคลื่อนที่เร็วมากขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแก่นแท้แห่งกาลเวลาเริ่มกระจายออกมา ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวไปมา และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ได้รับผลกระทบ ในที่สุดกระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นอย่างเลือนลาง หมุนวนไปรอบๆ ขณะที่เริ่มมีขนาดใหญ่มากขึ้น

เริ่มต้นจากขนาดสิบจ้าง จนขยายใหญ่ขึ้นเป็นหนึ่งร้อยจ้าง จนกระทั่งในที่สุดก็มองเห็นเป็นภาพทับซ้อนของเมิ่งฮ่าวเท่านั้น เงาร่างเมิ่งฮ่าวนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ขณะที่กระแสน้ำวนส่งเสียงดังกระหึ่มจนมีขนาดหนึ่งพันจ้าง

ขณะที่พลังแห่งกาลเวลาระเบิดออกไป ผู้คนมากมายจากขุนเขาทะเลที่แปดก็รู้สึกได้ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ เวลานี้เองที่จู่ๆ รอยแตกก็ปรากฏขึ้นอยู่ภายในกระแสน้ำวน!

นี่คือรอยแตกที่เชื่อมต่อขุนเขาทะเลที่เจ็ดและแปดเข้าด้วยกัน

แทบจะในทันทีที่รอยแตกปรากฏขึ้น เงาร่างนับไม่ถ้วนของเมิ่งฮ่าวที่กำลังหมุนวนอยู่รอบๆ กระแสน้ำวนก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นร่างของคนผู้หนึ่งขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ก้าวเดินเข้าไปในรอยแตกจนหายลับตาไป

หลังจากที่เมิ่งฮ่าวหายตัวไป กระแสน้ำวนก็จางหายไป และในที่สุด…รอยแตกก็หายไปอย่างรวดเร็ว และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

ภายในรอยแตกนั้นเชื่อมต่อขุนเขาทะเลทั้งสองเข้าด้วยกัน เมิ่งฮ่าวกลายเป็นลำแสงเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วยิ่งกว่าไป๋จู่ ในชั่วพริบตาก็ไปอยู่ยังอีกด้านหนึ่ง

ในที่สุดเขาก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายพลังแห่งคำสาปแช่ง ซึ่งกระจายอย่างเด่นชัดอยู่ในขุนเขาทะเลที่เจ็ด โดยไม่ลังเลใดๆ เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านเข้าไปยังประตูทางออก

แทบจะในทันใดนั้น เสียงแค่นเย็นชาก็ดังก้องขึ้น

“ใครบางคนปรากฏตัวขึ้น ดูเหมือนว่าเหล่าฟูจะคำนวณได้ถูกต้อง กลุ่มคนในอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังพยายามออกจากขุนเขาทะเลที่แปดมายังที่แห่งนี้”

“เมื่อมาแล้วก็ไม่ต้องรีบจากไป” ทันใดนั้นเวทแห่งความสามารถศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งเสียงดังกระหึ่มตรงไปยังเมิ่งฮ่าว และเปลวไฟสีดำก็ปกคลุมไปรอบๆ ตัวเขาในทันที

ทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็นเปลวไฟ ก็บอกได้ว่านี่คือวิชาเวทของกลุ่มคนนอกคอก ซึ่งถูกเกื้อหนุนด้วยพื้นฐานฝึกตนจากราชันเต๋า ถึงแม้ว่าอาณาจักรของผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังนี้จะสามารถทำให้รอบๆ บริเวณนี้ต้องสั่นสะเทือนขึ้นมาเพียงแค่มันกระทืบเท้าลงไปก็ตาม แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้วพวกมันคล้ายกับเป็นแมลงที่เขาสามารถจะสังหารไปได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือเท่านั้น

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบประกายขึ้นด้วยความเย็นชา ขณะที่สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ในทันที เปลวไฟสีดำถูกดูดกลืนเข้าไปผ่านทางจมูกและปาก จากนั้นก็มองไปรอบๆ ยังเสียงหอบหายใจที่ดังก้องออกมา จากปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นยังสิ่งที่ตนเองเพิ่งจะทำไป

ปากทางออกของรอยแตกในขุนเขาทะเลที่เจ็ด อยู่ใกล้กับขุนเขาที่เจ็ดเป็นอย่างยิ่ง และบริเวณนั้นก็มีซากศพกระจัดกระจายออกไปทั่ว มีคนนอกคอกอยู่แปดตนอยู่ในที่แห่งนั้น เต็มไปด้วยท่าทางที่ตื่นตระหนก ความผันผวนจากพื้นฐานฝึกตนของพวกมันอยู่ในอาณาจักรเต๋า

เห็นได้ชัดว่าพวกมันกำลังเฝ้ารอสังหารใครก็ตามที่ปรากฏตัวขึ้นในที่แห่งนี้ แต่ตอนนี้เมิ่งฮ่าวแค่สูดหายใจเอาแก่นแท้แห่งเปลวไฟที่ราชันเต๋าปลดปล่อยออกมา ก็ทำให้พวกมันต้องหอบหายใจและสีหน้าก็สลดลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนนอกคอกราชันเต๋า ดวงตามันเบิกกว้างและจิตใจก็หมุนคว้าง รีบพุ่งถอยไปทางด้านหลังในทันที แต่เวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ไปปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้ามัน ยื่นมือออกไปคว้าจับลำคอมันไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงออกไปที่ด้านข้าง

เกล็ดทั่วร่างมันแตกกระจายออกไป เลือดเนื้อกลายเป็นก้อนเนื้อเลอะเลือน เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวดังก้องออกมา ขณะที่ร่างกายมันแตกกระจายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปโดยสิ้นเชิง

ทันใดนั้นคนนอกคอกที่เหลืออยู่ก็เริ่มสั่นสะท้านไปทั้งร่าง และพยายามจะหลบหนีจากไปในทันที ด้วยพลังทั้งหมดที่สามารถจะรวบรวมได้ออกมา

“จักรพรรดิเต๋า! มันคือจักรพรรดิเต๋าที่แท้จริง!!”

“ข้าคิดว่าตี้จ้างแห่งขุนเขาที่สี่ คือจักรพรรดิเต๋าเพียงคนเดียวในอาณาจักรขุนเขาทะเลเท่านั้น! แต่มันกำลังต่อสู้อยู่กับราชันจักรพรรดิ! มันไม่น่าจะมายังที่แห่งนี้ได้ในช่วงเวลานี้! คนผู้นี้คือใคร!?!?”

“บัดซบ พวกเรากลับมาซุ่มโจมตีจักรพรรดิเต๋า!!” กลุ่มคนนอกคอกทั้งแปดรีบถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก เกล็ดทั่วร่างสั่นระริก หางสั่นไปมา พยายามจะหลบหนีจากไป

แต่เมิ่งฮ่าวก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป แค่คิดเพียงแวบเดียวก็กระจายเต็มไปทั่วบริเวณนั้น แรกก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ของผู้แข็งแกร่งอาณาจักรเต๋านอกคอกหนึ่งแก่นแท้และสองแก่นแท้ทั้งหมดแตกกระจายไป จิตใจพวกมันถูกม้วนกวาดออกไป เหลือไว้แต่ซากศพที่ไร้วิญญาณ ตกลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ในทันทีที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวม้วนกวาดออกไป ทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรขุนเขาทะเลก็ลอยขึ้นมาอยู่ในจิตใจ รวมทั้งเสียงแผดร้องของกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่ในที่แห่งนี้ ก็ดังก้องออกมาอย่างไร้จุดสิ้นสุด

เมิ่งฮ่าวมองเห็นสี่เหลี่ยมลูกบาศก์สีดำจำนวนมาก กำลังลอยอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวของขุนเขาทะเลที่เจ็ด ที่ใหญ่มากที่สุดมีขนาดถึงหนึ่งหมื่นจ้าง และที่เล็กมากที่สุดมีขนาดแค่ไม่กี่ร้อยจ้างเท่านั้น กลุ่มคนนอกคอกกำลังเข้าออกอยู่ในสี่เหลี่ยมลูกบาศก์เหล่านั้น เห็นได้ชัดว่าพวกมันคือฐานที่มั่นของกองกำลังบางอย่าง

เปลวไฟสีดำปกคลุมอยู่รอบๆ สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ สายฟ้าปะทุขึ้นมาอยู่รอบๆ พื้นผิวของมัน ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวรอบๆ บริเวณนั้นบิดเบี้ยวไปมาด้วยเช่นกัน ราวกับว่าสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ถูกจัดตั้งให้เป็นค่ายกลเวทบางอย่าง

ขุนเขาทะเลที่เจ็ด ควรจะถูกครอบครองโดยผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล แต่สิ่งที่มองเห็นอยู่นี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นกลุ่มคนนอกคอก มองเห็นผู้ฝึกตนดั้งเดิมอยู่น้อยมาก ที่มองเห็นได้ส่วนใหญ่แล้วก็ตกตายไปจนหมดสิ้น ผู้ฝึกตนจากขุนเขาทะเลที่เจ็ดส่วนใหญ่ไปอยู่ในขุนเขาทะเลที่แปด ผู้ที่ยังคงอยู่ด้านหลังมักจะมีระดับการฝึกตนที่ต่ำต้อยเป็นส่วนมาก ทำให้กลุ่มคนนอกคอกสามารถจะครอบครองสถานที่แห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าบึ้งตึง และความกราดเกรี้ยวที่มีต่อกลุ่มคนนอกคอก ก็มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ขณะที่พบว่าแม้แต่มนุษย์ธรรมดาพวกมันก็ยังไม่ละเว้น สำหรับพวกมันแล้วไม่สำคัญว่าคนผู้นั้นจะเป็นผู้ฝึกตนหรือไม่ ใครก็ตามที่มาจากอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องถูกสำเร็จโทษ!

จากสี่ดวงดาวอันยิ่งใหญ่ในขุนเขาทะเลที่เจ็ด สามดวงแตกกระจายกลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว เนื่องจากเช่นนั้นทำให้พลังคำสาปแช่งที่เต็มอยู่ในขุนเขาทะเลที่เจ็ดตามปกติทั่วไป ต้องตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวายไปโดยสิ้นเชิงในตอนนี้

“แม้ว่าไป๋จู่จะตายไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่อาจจะชดเชยกับความผิดของมันได้!”

เมิ่งฮ่าวแผดร้องคำรามออกมา ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำ ขณะที่ตรวจสอบดูสถานการณ์ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ก็สังเกตเห็นว่ายังมีกองกำลังของกลุ่มคนนอกคอกนับหมื่นคนกำลังโจมตีไปยังดาวดวงสุดท้าย ซึ่งเป็นดาวที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในขุนเขาทะเลที่เจ็ด

ยังคงมีผู้ฝึกตนรอดชีวิตอยู่นับหมื่นคนบนดาวดวงนั้น กลุ่มนักสู้เหล่านั้นคือส่วนสุดท้ายของผู้ฝึกตนแห่งขุนเขาทะเลที่เจ็ด…

ถึงแม้ว่าสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จะม้วนกวาดไปยังดาวดวงนั้นในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม แต่เมิ่งฮ่าวก็สามารถจะมองเห็นผู้ฝึกตนมากมายในขุนเขาทะเลที่เจ็ด เลือกที่จะระเบิดตนเองไปแทนที่จะถูกสังหารโดยกลุ่มคนนอกคอก ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่พวกมันจะตายไป ก็ร้องตะโกนออกมาจนดังก้องอยู่ในสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว

“มีชีวิตอยู่เพื่อขุนเขาทะเล ตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!!”

เสียงระเบิดดังก้องไปรอบๆ บริเวณกลุ่มผู้ฝึกตนนับหมื่น ขณะที่พวกมันต่อสู้เพื่อปกป้องดวงดาวและสิ่งมีชีวิตทั้งมวลบนนั้น

ในท่ามกลางกลุ่มผู้ฝึกตนเหล่านั้น เมิ่งฮ่าวมองเห็น…ผู้ฝึกตนลำดับขั้นแห่งขุนเขาที่เจ็ด อวี่เหวินเจียน!

อวี่เหวินเจียนเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตโดยสิ้นเชิง และได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น มันก็ยังคงแผดร้องคำรามออกมาด้วยโทสะ ขณะที่ต่อสู้กลับไปยังเหล่าศัตรู มันคือผู้ฝึกตนกายเนื้อ และอาวุธที่ใช้อยู่ก็คือของวิเศษอันล้ำค่าที่ได้ไปจากเมิ่งฮ่าวเมื่อปีนั้น ตอนนี้มันกำลังถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มศัตรูจนต้องต่อสู้ไปมาอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้คนนอกคอกอาณาจักรเต๋าผู้หนึ่ง กำลังหัวเราะอย่างเย็นชา ขณะที่กลายเป็นลำแสงพุ่งตรงไปยังอวี่เหวินเจียน ขณะที่มันเข้าไปใกล้ เมิ่งฮ่าวก็แค่นเสียงเย็นชา ทำให้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของมันสั่นสะท้าน จู่ๆ คนนอกคอกอาณาจักรเต๋าที่กำลังโจมตีไปยังอวี่เหวินเจียนก็แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา และจากนั้นก็ระเบิดขึ้น ถูกสังหารไปในทันที!

เวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็เดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวโดยไม่ลังเลใดๆ หายตัวไปขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังสนามรบแห่งนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version