Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1386

ตอนที่ 1386

การต่อสู้ที่แยกสวรรค์หั่นปฐพี

คำพูดของสุ่ยตงหลิวดูเหมือนว่าจะสามารถแยกสวรรค์หั่นปฐพี เปิดเป็นประตูขนาดใหญ่ออกไป ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ กำลังพุ่งออกไปด้วยความเคียดแค้นอยู่ในตอนนี้!

สงครามครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้นแล้ว!

ในการต่อสู้นี้อาณาจักรขุนเขาทะเลพ่ายแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้…พวกมันก็ยังคงมีศักดิ์ศรีของตนเอง ถึงแม้ว่าจะต้องตายไป พวกมันก็จะทำให้ศัตรูต้องรู้สึกเจ็บปวด เป็นความเจ็บปวดไปชั่วชีวิต ทำให้ศัตรูยากที่จะลืมเลือนความภาคภูมิใจและจิตวิญญาณแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล และ…ความน่ากลัวของอาณาจักรแห่งนี้!

ตูมมมมมมม!

การระเบิดตนเองยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ใช่ผู้แปรพักตร์ทั้งหมดจะแอบจงรักภักดี ใครบางคนในพวกมันก็ได้ทรยศต่ออาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างแท้จริง แต่เนื่องจากเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นเป็นสองเท่า ทำให้แม้แต่ผู้ทรยศที่แท้จริงก็ยังต้องถูกกลุ่มคนนอกคอกสังหารไป

ยกเว้นทะเลที่เก้าที่มีเหตุผลพิเศษเฉพาะของนางเอง ดังนั้นจึงไม่ได้กระจายออกไปในท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น และถือได้ว่าเป็นผู้ทรยศที่แท้จริง

รวมทั้งตระกูลหวังด้วยเช่นกัน ในตอนนั้นพวกมันกำลังจะกลืนหายเข้าไปในกลุ่มคนนอกคอกแล้ว แต่ลำแสงกระบี่ก็พุ่งลงมา แยกพวกมันออกไปจากกองกำลังเหล่านั้น นี่คือการลงมือของผู้ยิ่งใหญ่บุรุษแปดแก่นแท้ ขณะที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยโทสะและหน้าตาที่เคร่งขรึม ก็ทำการปกป้องตระกูลหวังในทันที

สำหรับผู้ทรยศที่แท้จริงทั้งหมด หลังจากที่ถูกโจมตีโดยกองกำลังกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ไม่มีใครเลือกที่จะระเบิดตนเอง แต่…ก็ไม่ได้ยืดชีวิตของพวกมันให้ยาวนานมากไปกว่าผู้ที่ระเบิดตนเองแม้แต่น้อย

ภาพที่เกิดขึ้นตรงด้านนอกขุนเขาทะเลโกลาหลวุ่นวายอย่างถึงที่สุด เสียงร้องตะโกนดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ตามมาด้วยเสียงระเบิดของการระเบิดตนเอง ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่เหลือพุ่งออกไปในสนามรบ ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปโดยสิ้นเชิง และบรรลุถึงขั้นที่ยากจะอธิบายออกมาได้ในแง่ของขวัญกำลังใจ

ดังคำกล่าวที่ว่ากองกำลังที่เต็มไปด้วยความเดือดดาลจะต้องได้รับชัยชนะ อย่างไรก็ตามผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไม่ได้เพียงแค่เดือดดาลไม่พอใจเท่านั้น แต่พวกมันกำลังลุกโชนขึ้นด้วยความบ้าคลั่ง สำหรับพวกมันแล้วโลกทั้งหมดกลายเป็นสีโลหิตไป และอะไรก็ตามที่ไม่ได้เป็นสีโลหิตเช่นเดียวกัน ก็จะถูกพวกมันทำร้ายจนกลายเป็นสีโลหิตไป

ผู้ฝึกตนเหล่านี้ไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อความตาย และถ้ามีโอกาสพวกมันก็จะระเบิดตนเองในช่วงก่อนที่จะตกตายไป พวกมันกระทำเช่นนั้นอย่างไม่ลังเลหรือนึกเสียใจใดๆ และเสียงร้องตะโกนของพวกมันก็ทำให้จิตใจของกลุ่มคนนอกคอกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“เหล่าฟูสังหารพวกโง่เขลาเหล่านั้นไปหนึ่งคน แต่ก็ยังไม่พอ!!”

“ฮา ฮา ฮา! เหล่าฟูสังหารกลุ่มคนนอกคอกไปห้าคน นั่นก็เกินพอแล้ว เหล่าฟูสามารถตายไปอย่างมีความสุขแล้ว!!”

“เตีย พวกเราจะได้พบกันอีกในไม่ช้า!!”

“ข้าเคยหวาดกลัวต่อความตาย แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่า…ไม่มีอะไรที่น่ากลัว! เข้ามา เจ้าคนนอกคอกบัดซบ เข้ามาเลย!”

“ตาย!!”

เสียงแผดร้องคำรามดังก้องขึ้น และเสียงระเบิดก็ทำให้ฟ้าสะท้านดินสะเทือน ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็คลุ้มคลั่ง ผู้คนนับล้านกำลังโจมตีไปยังกลุ่มคนนอกคอกหลายสิบล้าน แต่…ผู้ที่ถูกผลักดันให้ถอยร่นไปทางด้านหลังกลับเป็นกลุ่มคนนอกคอก!!

สีหน้าเหยียดหยาม ดูถูกเยาะเย้ยและโหดเหี้ยมของกลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดหายไปจนหมดสิ้น ถูกแทนที่ด้วยความตกใจ สับสนและประหลาดใจ

พวกมันสะท้านใจไปโดยสิ้นเชิงจากความบ้าคลั่งของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเล และไม่อาจจะเข้าใจได้ถึงการอุทิศตนในระดับนี้ ถึงความกระหายเลือดและโหดเหี้ยมที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้กลับมาจนทำให้พวกมันต้องตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

แทบจะราวกับว่าสถานการณ์ของการสู้รบในขณะนี้ ได้พลิกกลับไปยังฝ่ายตรงข้ามแล้วในตอนนี้

ผู้ฝึกตนทั้งหมดแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล ต่างก็เข้าร่วมในการต่อสู้ ยกเว้นมนุษย์ธรรมดาทั่วไป ในท่ามกลางกองกำลังเหล่านั้นก็คือ…เคอจิ่วซือ, ท่านอาจารย์ตานกุ่ยของเมิ่งฮ่าว, ซุนไห่, ไท่หยางจื่อ, ผู้ฝึกตนลำดับขั้น และใบหน้าที่คุ้นเคยอื่นๆ

มีทั้งเฉินฝาน, หวังโหย่วฉาย, เจ้าอ้วน, หลี่หลิงเอ๋อร์, จี้ยิน…ปรมาจารย์แห่งตระกูลฟาง และ…ฟางเว่ยด้วยเช่นกัน รวมทั้งคนอื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อต่อสู้กันมาจนถึงจุดนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งค่ายกลหรือใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนใดๆ สวี่ชิงกัดฟันแน่น ออกไปจากข้างกายเมิ่งฮ่าว และเริ่มสังหารเข้าไปในกองกำลังของกลุ่มคนนอกคอกจนสร้างเป็นเส้นทางของตนเอง การทำสงครามไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งครุ่นคิดไปถึงเรื่องราวความรักหรือความประทับใจใดๆ

เมิ่งฮ่าวก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน สามผู้ยิ่งใหญ่นอกคอก รวมทั้งราชันจักรพรรดิของพวกมันทั้งหมด กำลังต่อสู้ตรงไปยังขุนเขาที่เก้า สุ่ยตงหลิวกำลังต่อสู้ เช่นเดียวกับผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิด, ตี้จ้าง, ราชันขุนเขาทะเล และไห่เมิ่งจื้อจุน ซึ่งกำลังเผาไหม้พลังชีวิตของตนเองออกไป!

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีผู้ถูกเลือกต่างๆ ที่ได้ครอบครองโชควาสนาในสามสิบสามนรก พวกมันคือผู้ที่คอยตรึงราชันจักรพรรดิไว้ ในขณะที่สุ่ยตงหลิวจัดการกับเต้าฟางเพียงลำพัง การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้ขุนเขาที่เก้าต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว จนในที่สุดก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการพังทลายลงไป

พลังปราณของไห่เมิ่ง, ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดและตี้จ้างแทบจะเหือดแห้งหายไปจนหมดสิ้น ขณะที่พยายามตรึงผู้ยิ่งใหญ่บุรุษแปดแก่นแท้ไว้ สำหรับเมิ่งฮ่าว กำลังเต็มไปด้วยความต้องการสังหารอย่างเต็มเปี่ยม ขณะที่ต่อสู้กับบุคคลที่ทำให้ฟางเหยียเยี่ยต้องตายไป…ผู้ยิ่งใหญ่สตรีซึ่งมีพื้นฐานฝึกตนที่อ่อนแอลงไป

สู้!!

สวรรค์คร่ำครวญปฐพีโศกเศร้า และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็ร้องไห้จนกลายเป็นสายเลือด บนดวงดาวต่างๆ มนุษย์ธรรมดาทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจมากนักเกี่ยวกับเหตุการณ์อันน่าตกใจที่กำลังเกิดขึ้นเหนือท้องฟ้า นอกจากนี้พวกมันก็ยังได้มองเห็นดวงตะวันหรือจันทราเป็นระยะอีกด้วย

ตรงด้านบนขึ้นไป มองเห็นเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วน คล้ายกับเป็นโคมไฟสำหรับมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ส่องสว่างในยามราตรีอย่างไร้ที่สิ้นสุดนี้ ขณะที่พวกมันหมอบกราบต่อสวรรค์เพื่ออ้อนวอนอธิษฐาน

ตั้งแต่ยาจกยันหวงตี้ (ฮ่องเต้) คนทั้งหมดกำลังกระทำเรื่องเดียวกัน…

นี่คือสงครามแห่งการทำลายล้างเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ไปโดยสิ้นเชิง ถ้าขุนเขาทะเลพ่ายแพ้ ไม่เพียงแต่ผู้ฝึกตนเท่านั้นที่จะต้องตายไป โลกมนุษย์ทั่วไปก็จะไม่คงอยู่ด้วยเช่นกัน…

แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกก็ไม่เคยจะคาดคิดว่าการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้จะโหดร้ายได้เช่นนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

ผู้ฝึกตนที่มีศีรษะใหญ่โตเป็นพิเศษพุ่งออกไปทั่วทั้งขุนเขาที่เก้า ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังแห่งขุนเขาทะเลต้องรู้สึกปวดศีรษะในทุกแห่งหนที่มันพุ่งผ่านไป ถ้าพื้นฐานฝึกตนของมันดูเหมือนว่าจะเทียบเท่ากับบุคคลที่มาต่อสู้ด้วย มันก็จะหลบหนีจากไปในทันที

สถานการณ์โดยรวมทั้งหมดกำลังเลวร้ายลงสำหรับอาณาจักรขุนเขาทะเล ในการเผชิญหน้ากันทั้งหมดต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะสามารถบังคับให้ผู้ยิ่งใหญ่สตรีถอยร่นไปทั่วทั้งสนามรบ แต่ก็ไม่สามารถจะสังหารนางได้ ยิ่งไปกว่านั้นการสอดมือเข้ามาจากผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ก็ทำให้กลิ่นอายอันน่ากลัวของเมิ่งฮ่าวต้องลุกโชนมากขึ้นกว่าเดิม

คนทั้งหมดกำลังดิ้นรนอยู่บนเส้นด้าย แต่คงไม่นานนักก่อนที่จะเกิดช่องโหว่ขึ้นมา และกลุ่มคนนอกคอกก็จะพุ่งเข้าไปราวกับเป็นอุทกภัยที่ไหลท่วมท้น!

กองกำลังถูกบดขยี้ไป และกลุ่มคนนอกคอกนับล้านก็ถอยร่นไปทางด้านหลังอย่างต่อเนื่อง แต่พวกมันก็มีจำนวนมากเป็นอย่างยิ่ง การต่อสู้อย่างบ้าระห่ำของผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไม่อาจจะคงอยู่ได้นานนัก ขณะที่การระเบิดตนเองกำลังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และขณะที่ผู้ฝึกตนเริ่มอ่อนล้าลงไปมากขึ้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

เสียงร้องตะโกนดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบครั้งแล้วครั้งเล่า “มีชีวิตอยู่เพื่อขุนเขาทะเล ตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!” มันคือเสียงร้องตะโกนแห่งขุนเขาทะเล และเห็นได้ชัดว่าตราบเท่าที่คำพูดเหล่านั้นยังคงได้ยินดังก้องออกมา ขุนเขาทะเลก็จะไม่ถูกกำจัดไป เมื่อไหร่ที่ไม่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นอีกต่อไป ก็หมายความว่าผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลต่างก็ตกตายไปจนหมดสิ้นแล้ว

ตรงส่วนหนึ่งของสนามรบที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะมองเห็นได้ เป็นไท่หยางจื่อที่เปียกชุ่มไปด้วยโลหิต และแผดร้องอย่างดุร้ายออกมา มันไม่เพียงแต่จะต่อสู้เท่านั้น แต่กำลังปลดปล่อยความดุร้ายออกมาโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตามในความบ้าคลั่งนั้นมันกำลังสูญเสียความแข็งแกร่งไป มันใช้วิชาเวท, ความสามารถศักดิ์สิทธิ์, ของวิเศษไปจนหมดสิ้น แต่ก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า ฝังเขี้ยวลงไปบนลำคอของคนนอกคอกอย่างดุร้าย คนนอกคอกผู้นั้นมีพื้นฐานฝึกตนที่สูงมากกว่ามัน แต่ในท่ามกลางความตกใจของคนนอกคอกนั้นก็ไม่อาจจะทำอะไรได้ นอกจากต้องแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา

ไท่หยางจื่อกัดลำคอของคนนอกคอกนั้นด้วยฟันของมัน ไม่สนใจพลังระเบิดของศัตรูที่พุ่งเข้ามาในร่างอย่างรุนแรง ความโหดเหี้ยมบ้าคลั่งสาดประกายขึ้นในดวงตา ไร้ความเสียใจใดๆ โดยสิ้นเชิง

ในที่สุดเมื่อมันเริ่มจะหมดสติไป อันเนื่องมาจากการโจมตีมาอย่างไม่หยุดหย่อนของกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น มันเริ่มยิ้มขึ้นมาในทันที

“มีชีวิตอยู่เพื่อขุนเขาทะเล ตกตายไปเพื่อขุนเขาทะเล! ข้าคือไท่หยางจื่อ!!” เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ขณะที่มันทำการระเบิดตนเองไป ถึงแม้ว่าพลังระเบิดนั้นจะไม่ใหญ่โตมากนัก แต่มันก็ตัดสินใจที่จะทำโดยไม่ลังเล!

ร่างของคนนอกคอกที่ลำคอเป็นแผลเหวอะหวะ ก็ถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ด้วยแรงระเบิดนั้น กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นหลีกเลี่ยงจากความตายไปได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ไม่นานต่อมาคลื่นของผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลขนาดใหญ่ ก็พุ่งเข้ามาเพื่อฉวยโอกาสจากสถานการณ์นั้น

ความหวาดกลัวของกลุ่มคนนอกคอกปรากฏขึ้นในแววตา จากมุมมองของพวกมัน ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลเหล่านี้ไม่ใช่เซียน พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดุร้ายมากไปกว่านั้น

ตรงอีกส่วนหนึ่งของสนามรบ ที่ซึ่งสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่กำลังต่อสู้อยู่

ฝานตงเอ๋อร์ก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน เส้นผมของนางยุ่งเหยิงเป็นกระเซิงขณะที่ต่อสู้ไปมา ดูไม่เหมือนกับเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป ดูเหมือนว่านางจะคลุ้มคลั่งไปแล้ว ขณะที่ต่อสู้ด้วยความดุร้ายอย่างถึงที่สุด

นางเป็นบุคคลที่หยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเอง เป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์แห่งท้องทะเลที่เก้า แต่เมื่อทะเลที่เก้าทรยศตีจากไป ทำให้โลกศักดิ์สิทธิ์แห่งทะเลที่เก้าต้องสั่นสะเทือนไปทั่ว ฝานตงเอ๋อร์ไม่อาจจะทำใจได้ ทะเลที่เก้าคือบ้านของนาง…

ทะเลที่เก้าไม่เพียงแต่จะนำอสูรทะเลที่อาศัยอยู่ไปด้วยเท่านั้น ศิษย์จำนวนมากของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้า หรือแม้แต่ปรมาจารย์บางคนก็จากไปพร้อมกับมัน การจากไปของคนเหล่านั้นทำให้ชื่อเสียงและความรุ่งเรืองของอาณาจักรแห่งท้องทะเลที่เก้าต้องจางหายไปจนหมดสิ้น

ฝานตงเอ๋อร์ไม่ยอมจากไปพร้อมกับพวกมัน นางอยู่ร่วมกับผู้อาวุโสบางคนของสำนักและศิษย์บางส่วนที่เหลือ เพื่อสังหารเข้าไปในกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก นางเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า และเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตของตนเองและศัตรู

ใบหน้าที่เคยงดงามในครั้งหนึ่งของนางถูกคมมีดกรีดเฉือนไป เผยให้เห็นเป็นบาดแผลอันน่ากลัว จนทำให้ดูดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม กล่าวกันโดยทั่วไปแล้วนางไม่อาจจะต่อสู้ได้อีกนานนัก แต่ซากศพที่ลอยอยู่ตรงด้านหลังนาง ทำให้เส้นผมลอยออกไปเพื่อช่วยปกป้องนางอย่างต่อเนื่อง

ฝานตงเอ๋อร์หัวเราะอย่างขมขื่นขณะที่ต่อสู้อยู่ตลอดเวลา แต่ความเหน็ดเหนื่อยก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น นางกำจัดศัตรูไปได้อีกหนึ่งคน แต่การโจมตีกลับมาของคนนอกคอกที่ตายไปนั้น ก็ทำให้เส้นโลหิตตรงหัวใจนางต้องแตกละเอียดไป

“ข้ากำลังจะตายในตอนนี้…?” นางคิด กระอักโลหิตออกมากองโต ขณะที่เริ่มจะหมดสติไป นางก็มองตรงไปยังขุนเขาที่เก้าและมองเห็นภาพของเมิ่งฮ่าวอย่างเลือนราง

“ลาก่อน…” นางกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ กำลังจะระเบิดตนเองไป แต่ซากศพชุดขาวที่อยู่ตรงด้านหลังนาง ทันใดนั้นก็มองลงมาด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ถอนหายใจออกมา เส้นผมของซากศพลอยออกไปในทันที ม้วนพันไปทั่วร่างฝานตงเอ๋อร์จนเหมือนกับเป็นดักแด้ ทำให้ตกลงมาจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว

ถ้าส่วนที่ลึกมากที่สุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวอยู่ตรงด้านล่าง นั่นก็จะเป็นสถานที่ที่คนทั้งสองตกลงไป…ไม่มีใครในสนามรบที่โกลาหลวุ่นวายนี้จะสังเกตเห็นการจากไปของฝานตงเอ๋อร์และซากศพนั้น

ที่ห่างไกลออกไปเป็นผู้ฝึกตนวัยกลางคน ที่กำลังแหงนหน้าขึ้นและหัวเราะด้วยความคลุ้มคลั่ง ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล จนดูเหมือนว่าไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว กระบี่บินจำนวนมากแทงเข้ามาในร่างมันจากทั่วทุกทิศทาง ร่างกายเปียกชุ่มไปด้วยโลหิต แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น สีหน้าก็ยังคงดุร้ายเหมือนเช่นเคย ขณะที่ทำการสังหารไปตลอดเส้นทาง พุ่งเข้าไปในกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก หัวเราะอยู่ตลอดเวลา

“ข้าคือซ่งหลัวตาน เต้าจื่อแห่งตระกูลซ่ง! เคยพ่ายแพ้ให้กับเมิ่งฮ่าวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น พวกเจ้าเหล่าตัวบัดซบกลุ่มคนนอกคอก จงตายไปให้กับข้า!”

ตอนนี้ซ่งหลัวตานอยู่ในอาณาจักรโบราณ แต่ก็ต่อสู้ด้วยความดุร้ายและแข็งแกร่ง จนกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นต้องหวาดกลัวไปโดยสิ้นเชิง และพยายามจะหลีกเลี่ยงมันทุกวิถีทาง ขณะที่มันทำการสังหารไปตลอดเส้นทางทั่วทั้งสนามรบ ซากศพของกลุ่มคนนอกคอกเริ่มซ้อนทับกันไปมาอยู่รอบตัว

ในที่สุดพลังของมันก็อ่อนแอลงไป และกลิ่นอายก็จางหายไป มันเริ่มหยุดชะงักนิ่ง ถูกห้อมล้อมด้วยซากศพนับไม่ถ้วน ดูคล้ายกับว่าแค่พักผ่อนอย่างเงียบๆ ชั่วขณะเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผ่านไปไม่นานนัก กลุ่มคนนอกคอกที่ตกใจกลัวก็เริ่มเข้ามาใกล้

ในตอนนั้นเองที่คนนอกคอกชราผู้หนึ่งถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนและพึมพำว่า “มัน…ตายแล้ว”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version