Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1532

ตอนที่ 1532

สิ่งมีชีวิตทั้งปวงต่างก็เป็นบุตรข้า

สามารถจะกล่าวได้ว่าสิ่งที่เมิ่งฮ่าวต้องพบเจอในการเข้าไปสู่เหนือสูงสุด พวกมันก็ต้องเผชิญหน้าด้วยเช่นกัน ปัญหาแรกก็คือต้องจัดการกับเจตจำนงแห่งหลัวเทียน ในตอนนี้เจตจำนงนั้นไม่สนใจเจ้าสำนักและคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง และกำลังมุ่งเป้าไปยัง…เมิ่งฮ่าวเพียงคนเดียวเท่านั้น!

มันจะไม่ยอมให้เมิ่งฮ่าวเข้าไปสู่เหนือสูงสุดได้อย่างง่ายดาย!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อเจตจำนงแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียนมารวมตัวกันที่ด้านนอกเขตสุสาน และจากนั้นก็เตรียมตัวที่จะผ่านเข้ามา!

เจตจำนงแห่งหลัวเทียนสามารถจะผ่านเข้าไปในสถานที่แห่งใดก็ได้อย่างง่ายดาย แต่เขตสุสานแห่งนี้ก็ไม่ใช่ดินแดนที่เหมือนกับสถานที่แห่งอื่นทั่วไป เป็นดินแดนที่ยากจะผ่านเข้ามา มันสามารถจะขับไล่ผู้ฝึกตนเหนือสูงสุด และสามารถจะปลดปล่อยพลังที่เหมือนกับเจตจำนงแห่งหลัวเทียนออกมาได้

ยังมีความเกลียดชังอย่างไร้จุดสิ้นสุดอยู่ภายในเขตสุสานแห่งนี้อีกด้วย และเจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็คือต้นเหตุแห่งความเกลียดชังเหล่านั้น

ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์อื่นๆ ทั่วไป เจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็ไม่เคยที่จะพยายามผ่านเข้ามาในเขตสุสาน แต่ในตอนนี้มันกำลังทุ่มออกมาจนสุดตัวเพื่อที่จะกระทำเช่นนั้น เขตสุสานกำลังสั่นสะท้านไปทั่ว และเสียงแตกร้าวก็กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง

แต่เจตจำนงแห่งหลัวเทียนส่วนใหญ่ก็ยังคงถูกขัดขวางอยู่ที่ด้านนอก ถึงแม้ว่ามันจะพยายามอย่างไม่ลดละ แต่ก็สามารถผ่านเข้าไปข้างในได้แค่เศษเสี้ยวเล็กๆ เท่านั้น

พลังนั้นกลายเป็นกระแสน้ำที่ไหลผ่านดินแดนกว้างใหญ่ทั้งแปด กลายเป็นหัตถ์ยักษ์ที่ตบฟาดลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้าในทันที

อย่างไรก็ตามประตูขนาดใหญ่ที่เมิ่งฮ่าวเปิดออกมาก่อนหน้านี้ ได้ปิดกลับไปเหมือนเดิมแล้วในตอนนี้ และประตูนั้นก็ป้องกันหัตถ์ยักษ์ไม่ให้ผ่านเข้ามาในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้าได้ หัตถ์ยักษ์กระแทกเข้าไปในประตู และเสียงระเบิดก็ดังก้องออกมา ประตูสั่นสะท้าน แต่ก็ยังไม่เปิดออก ทำให้เจตจำนงแห่งหลัวเทียนต้องติดอยู่ที่ด้านนอก

เมิ่งฮ่าวเพ่งสมาธิไปยังการหลอมรวมชิ้นไม้แกะสลักโดยสิ้นเชิง ในตอนนี้ชิ้นไม้นั้นหายไปแล้วเกือบครึ่ง กลายเป็นหยดน้ำสีดำขนาดเล็กซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องหมายผนึก

ในที่สุดเมื่อชิ้นไม้แกะสลักเริ่มละลายหายไปทั้งหมด หยดน้ำสีดำก็ถูกเมิ่งฮ่าวดูดซับเข้าไปในร่าง ทำการหลอมรวมพวกมันเข้าไปในเครื่องหมายผนึกที่อยู่ภายในจิตวิญญาณของตนเอง และจะกลายเป็น…เวทรุ่นเก้า!

แต่ตอนนี้เมิ่งฮ่าวยังคงอยู่ในขั้นตอนแรก

ตอนนี้เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ภายในเขตสุสาน ขณะที่เจตจำนงแห่งหลัวเทียนล้มเหลวไปครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเสียงแผดร้องด้วยโทสะก็ดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียน ทำให้ดาวเคราะห์จำนวนมากเริ่มสั่นสะเทือนไปมา จากนั้นพวกมันก็เคลื่อนย้ายทางไกลจากไปในทันที

จากนั้นดาวเคราะห์นับล้านก็เริ่มกระแทกเข้าหากัน หลอมรวมเข้าด้วยกันและหดตัวเล็กลงไป ภายในช่วงเวลาแค่ไม่กี่อึดใจ ดาวเคราะห์ทั้งหมดที่อยู่ภายในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียน ต่างก็หายไปจากตำแหน่งเดิมของพวกมัน และเริ่มหลอมรวมเข้าด้วยกัน ภายใต้การควบคุมจากเจตจำนงแห่งหลัวเทียน พวกมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาเป็นหอกยักษ์เก้าเล่ม!

หอกแต่ละเล่มมีความยาวนับล้านจ้าง มีรูปร่างหน้าตาที่น่าประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่พวกมันลอยตัวอยู่ในความว่างเปล่าตรงด้านนอกเขตสุสาน จากนั้นเจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็แยกตัวออกไป หลอมรวมเข้ากับหอกทั้งเก้าเล่มนั้น

ชั่วขณะต่อมาพลังอันเข้มข้นก็ปะทุออกมาจากหอกเหล่านั้น เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังเขตสุสาน

เขตสุสานสั่นสะเทือนไปทั่ว ไม่อาจจะต่อต้านได้ เสียงแตกร้าวดังก้องออกมา ขณะที่หอกเล่มแรกแทงทะลุเกราะป้องกันของเขตสุสานเข้าไป ทำลายท้องฟ้าขณะที่กลายเป็นลำแสงอันเลือนลางพุ่งตรงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรก

เมื่อหอกเล่มนั้นตกลงมา พลังต่อต้านเจตจำนงแห่งหลัวเทียนที่ระเบิดออกมาก็ยิ่งมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น หอกเล่มนั้นต่อสู้กลับไปอย่างดุร้าย ทำให้เกิดเป็นเปลวไฟพุ่งขึ้นมา ในที่สุดหอกเล่มนั้นก็แตกกระจายและหดตัวเล็กลงไป จนกระทั่งมีความยาวหนึ่งแสนจ้าง และไม่ได้แหลมคมอีกต่อไป สุดท้ายก็กลายเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่พุ่งลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรก

เมื่อดาวเคราะห์นั้นกระแทกลงไปบนพื้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็สั่นสะเทือน และรอยแตกร้าวจำนวนมากก็พุ่งกระจายออกไป

ต่อมาก็เป็นหอกเล่มที่สอง, สาม และสี่ แทงทะลุผ่านเกราะป้องกัน ตกลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สอง, สาม และสี่ตามลำดับ

หอกเหล่านั้นกลายเป็นเปลวไฟด้วยเช่นกัน หดตัวเล็กลงไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่พุ่งผ่านดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรกไป แน่นอนว่ายิ่งพวกมันเข้าไปในเขตสุสานลึกมากเท่าใด ก็จะยิ่งพบเจอกับการต่อต้านอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อดาวเคราะห์ทั้งสามดวงเข้าไปใกล้เป้าหมายของพวกมัน

ดาวเคราะห์ที่พุ่งลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สองมีความกว้างแค่ห้าหมื่นจ้างเท่านั้น ดวงที่พุ่งลงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สามมีความกว้างแค่สองหมื่นจ้าง และสำหรับดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่ ก็มีความกว้างแค่หนึ่งหมื่นจ้าง

มันช่างสูญเสียพลังไปอย่างเห็นได้ชัดเจนนัก!

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้ หอกเล่มที่ห้า, หก, เจ็ด, แปดและเก้าพุ่งผ่านท้องฟ้า ทำลายเกราะป้องกันของเขตสุสาน พุ่งตรงไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้า, หก, เจ็ด, แปดและเก้า

ท้องฟ้าภายในเขตสุสานถูกกำจัดออกไปโดยสิ้นเชิง แต่เจตจำนงแห่งหลัวเทียนก็ยังไม่อาจจะผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายดาย พื้นดินสั่นสะเทือนขณะที่หอกยาวลุกไหม้ จนมีขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆ และพวกมันก็พุ่งเข้าไปในเขตสุสานลึกมากขึ้น

เมื่อดาวเคราะห์ตกลงไปบนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้าก็มีความกว้างเพียงแค่หนึ่งหมื่นจ้างเท่านั้น ดาวเคราะห์ดวงที่หกมีขนาดห้าพันจ้าง เมื่อถึงเวลาที่ดาวเคราะห์ดวงที่แปดตกลงไป ก็มีความกว้างเพียงแค่หนึ่งพันจ้างเท่านั้น

และจากนั้นก็เป็นหอกยาวเล่มที่เก้า เมื่อถึงเวลาที่มันบรรลุถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า เปลวไฟก็เผาไหม้มันไปจนกลายเป็นเถ้าธุลี และไม่อาจจะผ่านเข้าไปได้

ชั่วขณะก่อนหน้านี้…

ชิ้นไม้แกะสลักที่อยู่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวหายไปแล้วประมาณเจ็ดในสิบส่วน และเมิ่งฮ่าวก็ถูกห้อมล้อมด้วยหยดน้ำสีดำขนาดเล็กที่เปล่งประกายวาววับ

มันคงอยู่เพียงแค่ชั่วขณะเท่านั้น ก่อนที่จะกระจายหายไปโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน ไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงด้านนอก แต่ก็สามารถจะคาดเดาได้ว่าเจตจำนงแห่งหลัวเทียนกำลังกระทำการทุกอย่างเพื่อที่จะหยุดตนเอง ดังนั้นเขาจึงเพ่งสมาธิทั้งหมดไปที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อหลอมละลายชิ้นไม้แกะสลัก

“เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก!” เส้นเลือดเขียวปะทุขึ้นมาบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว ขณะที่ฉวยโอกาสในทุกช่วงเวลาทำการหลอมรวม

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวได้ยินเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังก้องออกมาจากดินแดนกว้างใหญ่แห่งแรก ขณะที่ดาวเคราะห์ดวงแรกกระแทกลงไปบนพื้นดิน เงาร่างๆ หนึ่งปรากฏขึ้นมาจากภายในเศษซากปรักหักพัง

เป็นมนุษยที่ไม่มีใบหน้า คล้ายกับเป็นโครงร่าง มองขึ้นมายังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า จากนั้นก็ก้าวเดินตรงมาหนึ่งก้าว ขยับตัวเคลื่อนไหวด้วยเงาร่างที่ดูเลือนราง

ชั่วขณะต่อมา ดาวเคราะห์ดวงที่สองและสามก็ระเบิดขึ้น และในขณะที่เถ้าธุลีลอยคละคลุ้ง ก็มีเงาร่างปรากฏขึ้นมาจากภายในด้วยเช่นกัน

เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นบนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่ห้าไปจนถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด

เงาร่างที่ปรากฏขึ้นทั้งหมด เริ่มเดินตรงมายังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า แต่เงาร่างที่ออกมาจากภายในดาวเคราะห์ซึ่งมีความกว้างหนึ่งแสนจ้างดวงแรก เป็นผู้ที่มีความรวดเร็วมากที่สุด

ย่างก้าวแรกของมันทำให้ผ่านเข้าไปในดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สอง หลอมรวมเข้ากับเงาร่างที่โผล่ออกมาจากดาวเคราะห์ดวงที่สอง ในทันทีที่เกิดขึ้นเช่นนั้น ร่างกายมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น กลายเป็นเงาร่างที่เลือนรางน้อยลงและยากที่จะแยกแยะความแตกต่างออกไปได้ จากนั้นก็เดินไปเป็นก้าวที่สอง

ก้าวที่สองทำให้มันไปอยู่บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สาม และทำการหลอมรวมเข้ากับเงาร่างที่สาม ตอนนี้สามารถมองเห็นใบหน้ามันได้แล้ว และดูคล้ายกับเป็นบุรุษหนุ่ม

มันไม่ได้หยุดอยู่ที่นั่น แต่ละย่างก้าวที่เดินไป ทำให้มันเข้าไปยังดินแดนกว้างใหญ่อีกแห่ง เดินไปยังดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่สี่, ห้า ไปจนถึงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด ทำการดูดซับเงาร่างอื่นๆ เข้าไป จนกระทั่งไปยืนอยู่บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่แปด มองขึ้นไปยังประตูขนาดใหญ่ ในตอนนี้เองที่รูปร่างหน้าตาของมันสามารถจะมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เป็นบุรุษหนุ่มที่มีเส้นผมยาวสีดำ สวมใส่ชุดยาวสีฟ้า มีหน้าตาที่หล่อเหลาเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับสีหน้าที่เยือกเย็นสงบนิ่ง แต่เวลาเดียวกันนั้นก็ดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง

คาดไม่ถึงว่าเมื่อมองดูไปอย่างละเอียดก็เผยให้เห็นว่า…มันมีหน้าตาที่เหมือนกับรูปปั้นของบุรุษที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ตรงดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้าเป็นอย่างยิ่ง!

“สิ่งมีชีวิตทั้งปวงต่างก็เป็นบุตรข้า สถานที่แห่งนี้คือสุสานแห่งภูตผี ดังนั้นข้าจึงปรากฏตัวขึ้นมาในรูปร่างหน้าตาของมัน” บุรุษหนุ่มผู้นี้สามารถจะมีรูปร่างหน้าตาของสิ่งใดๆ ก็ได้ที่คงอยู่ในท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งหลัวเทียน มันยกมือขวาขึ้นมาผลักไปที่ประตูขนาดใหญ่นั้น และประตูก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว

จากนั้นมันก็เดินไปอีกหนึ่งก้าว และไปอยู่บนดินแดนกว้างใหญ่แห่งที่เก้า แทบจะในทันใดนั้น พลังอันน่าตกใจก็ระเบิดตรงมากระแทกมัน ผลักให้มันถอยไปทางด้านหลังเล็กน้อย

สีหน้ามันยังคงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่เริ่มเดินตรงไป ถึงแม้ว่าจะมีพลังแห่งการขับไล่กระจายออกมา ถึงแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่แสดงออกมาทางสีหน้าแม้แต่น้อย

เมื่อเดินไปอีกหนึ่งก้าว ก็ไปปรากฏกายขึ้นตรงแท่นบูชาเหนือสูงสุด มองไปยังเจ้าสำนักและคนอื่นๆ จากนั้นก็โบกสะบัดมือขวาออกไป

เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้น แท่นบูชาเหนือสูงสุดสั่นสะเทือน เจ้าสำนักและคนอื่นๆกระอักโลหิตออกมา และความพยายามที่จะอยู่ในจุดเหนือสูงสุดของพวกมันก็ถูกทำลายไป ผู้ยิ่งใหญ่เก้าแก่นแท้บางคนที่อ่อนแอกว่าคนอื่นๆ แผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ขณะที่ระเบิดขึ้นถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ

คนทั้งหมดรู้สึกประหลาดใจ ในขณะที่มองไปยังบุรุษหนุ่ม มันก็เดินออกไปอีกหนึ่งก้าว ทำให้ไปอยู่ตรงตำแหน่งของรูปปั้นขนาดใหญ่ ที่แห่งนั้นทะเลแห่งภูตผีต่างก็หมุนตัวมองมา ด้วยสีหน้าที่ว่างเปล่า แต่ก็เกิดขึ้นอยู่ชั่วขณะเท่านั้น ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยความบ้าคลั่งและเกลียดชังอย่างรุนแรง

ไม่สำคัญว่าเจตจำนงแห่งหลัวเทียนจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับชางหมางเหลาจู่หรือไม่ แต่ก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงกลิ่นอายที่กระจายออกมาจากร่างนั้นได้ และภูตผีเหล่านี้ก็เกลียดชังกลิ่นอายนั้นด้วยความต้องการล้างแค้นไปตราบชั่วนิรันดร์!

พวกมันขยับตัวเคลื่อนไหวพร้อมกับเสียงแผดร้องด้วยโทสะ

ความเกลียดชังนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ตายไปแล้วก็ไม่เคยลืมเลือนด้วยเช่นกัน ทันใดนั้นก็พุ่งทะยานตรงไปยังบุรุษหนุ่มซึ่งเป็นศูนย์รวมของเจตจำนงแห่งหลัวเทียน

“เหล่าบุตรอกตัญญูของข้า ถึงจะตายไปแล้วแต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ดังนั้นข้าจึงได้ตัดวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่ และพลังของพวกเจ้าไป” บุรุษหนุ่มกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ไม่แม้แต่จะมองไปยังเหล่าภูตผี เดินตรงไปอีกหนึ่งก้าว ตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนกระทั่งถึงตอนนี้ สายตาของมันจ้องนิ่งไปยังเงาร่างของคนผู้หนึ่ง ที่นั่งขัดสมาธิทำการหลอมรวมชิ้นไม้แกะสลักอยู่ตรงด้านหลังของทะเลแห่งภูตผีที่อยู่ห่างไกลออกไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version