Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1601

ตอนที่ 1601

เจ้าสามารถเรียกข้าว่า…ซู่มิ่ง

เวทผนึกอสูรรุ่นแปดคือเวทผนึกแรกที่เมิ่งฮ่าวเรียนรู้มา และเป็นเวทที่เขาใช้ออกมาอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งเป็นเวทผนึกแรกที่กลายเป็นแก่นแท้สำหรับตนเอง

ครั้งหนึ่งพลังแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าเคยถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มกำลัง กลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างถึงที่สุด

และแน่นอนว่าด้วยระดับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ก็สามารถจะใช้เวทรุ่นแปดออกมาได้อย่างสูงสุด

สิ่งใดๆ ก็ตามที่เมิ่งฮ่าวเห็น ก็สามารถจะกลายเป็นภาพวาดได้ ด้วยเช่นนั้นสิ่งที่เขามองเห็นก็จะถูกผนึกไว้ตามที่ต้องการด้วยเช่นกัน!

เสียงกระหึ่มดังก้องออกไป ขณะที่เวทรุ่นแปดถูกปลดปล่อยออกมา สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งปวงคือแผ่นผืนผ้าอันกว้าง

ใหญ่ แม้แต่ประตูแห่งอาณาจักรปีศาจ หรือแม้แต่หัตถ์ปีศาจที่ยื่นออกมาจากด้านในก็เป็นเช่นเดียวกัน

เมื่อเวทผนึกถูกปลดปล่อยออกไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นสะเทือนไปทั่ว

“ทำลาย!” เมิ่งฮ่าวตวาด ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ผืนผ้าฉีกขาดออกไปและหัตถ์ปีศาจสีดำก็ระเบิดขึ้น ประตูแห่งอาณาจักรปีศาจขนาดใหญ่ก็พังทลายลงไปด้วยเช่นกัน แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ พร้อมกับผืนผ้านั้น

ปีศาจกำลังสั่นสะท้านจนแทบจะพังทลายลงไป ใบหน้าบิดเบี้ยวไปมาขณะที่แหงนหน้าขึ้นและกู่ร้องออกมา จักรพรรดิภูตผีอันดุร้ายที่อยู่ด้านหลังมันกำลังจะต่อสู้กลับไป แต่เมิ่งฮ่าวก็โคจรหมุนเวียนพลังการฝึกตนให้ไหลเข้าไปในเวทรุ่นแปดอย่างเต็มกำลัง

 

“ข้ายังไม่ได้ใช้เวทผนึกสวรรค์ หรืออาวุธสงครามแม้แต่น้อย ถ้ายังไม่อาจจะเอาชนะผู้อยู่เหนือสูงสุดที่ลอกเลียนแบบมาจากความทรงจำของหลัวเทียนได้ แล้วข้าจะมีคุณสมบัติไปเทียบกับปีศาจที่แท้จริงได้อย่างไร?”

“ทำลาย!” ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเย็นชา ขณะที่ฟาดฝ่ามือลงไปอย่างรุนแรง ปีศาจไม่อาจจะต่อต้านได้อีกต่อไป และจักรพรรดิภูตผีก็เริ่มพังทลายลงไป แต่ความรู้สึกถึงวิกฤตอันร้ายแรงภายในใจเมิ่งฮ่าว ก็ยังคงพุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง

เมิ่งฮ่าวรีบพุ่งทะยานออกไปทางด้านข้างโดยไม่ลังเลใดๆ เวลาเดียวกันนั้นลำแสงสีดำก็แทงทะลุผ่านไหล่ข้างขวาออกไป แขนขวาหายไปทั้งข้าง

และโลหิตก็พุ่งออกมาราวกับเป็นน้ำพุ จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็หายตัวไป ปรากฏขึ้นอีกครั้งอยู่ในที่ห่างไกล

เวลาเดียวกันนั้นกลิ่นอายแห่งความตายอันเย็นชาก็พุ่งขึ้นมา และดรรชนีข้างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายเจิดจ้า ร้องตะโกนออกไปอย่างเต็มกำลัง ทำให้ความว่างเปล่าและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวรอบๆ บริเวณนั้นพังทลายลงไป กลายเป็นลมพายุอันบ้าคลั่ง ภาพลวงตาจักรพรรดิอสูรที่อยู่ด้านหลังแผดร้องคำรามออกมาด้วยโทสะ พุ่งตรงไปยังดรรชนีที่ใกล้เข้ามานั้น

เวลาเดียวกันนั้น เสียงแค่นอย่างเย็นชาก็ดังก้องออกมา ขณะที่เงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า เป็นเงาร่างสีดำสนิทและดูคล้ายกับอสูรเป็นอย่างมาก แต่ก็ไร้ร่องรอยของความรู้สึกที่หลากหลาย ดูเก่าแก่โบราณและเต็มไปด้วยความตาย มันคือ…มารปีศาจ!

เสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นเมื่อจักรพรรดิอสูรและมารปีศาจปะทะกัน เกิดเป็นระลอกคลื่นพุ่งกระจายออกไป เมิ่งฮ่าวถอยไปทางด้านหลังอีกครั้ง โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก หลุดออกมาจากกับดักที่ถูกติดตั้งไว้

มองขึ้นไปและแขนขวาก็งอกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขากำลังจ้องมองไป ไม่ใช่มารปีศาจที่เต็มไปด้วยปราณมารอันแน่นหนา แต่เป็นบุรุษหนุ่มในชุดยาวสีดำซึ่งกำลังลอยตัวอยู่ตรงด้านล่าง

บุรุษหนุ่มผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาที่ดูธรรมดา แต่ก็มีเครื่องหมายสีดำแปลกๆ อยู่บนใบหน้า กระจายเป็นบรรยากาศอันบ้าคลั่งและป่าเถื่อนออกมา

“มาร!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้น เขาไม่เคยเห็นบุรุษหนุ่มผู้นี้มาก่อน แต่ก็จดจำได้ในทันที นี่คือบุคคลที่สองที่อยู่เหนือสูงสุดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแห่งความว่างเปล่าไร้ขอบเขต จู่เหริน (เจ้านาย) ของโฉ่วเหมินไถแห่งอาณาจักรมาร!

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะทำลายจักรพรรดิปีศาจ บุรุษหนุ่มผู้นี้ก็ลงมือ ทำให้ตนเองต้องได้รับบาดเจ็บไป

เมื่อไม่มีเมิ่งฮ่าวคอยควบคุม เวทรุ่นแปดก็พังทลายลง และเครื่องหมายผนึกที่อยู่บนร่างปีศาจก็เริ่มจางหายไป ไม่นานนักมันก็เป็นอิสระจากการถูกตรึงร่างไว้

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวก็จะต้องต่อสู้กับทั้งปีศาจและมารในเวลาเดียวกัน

“ข้าไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่ามาร เจ้าสามารถเรียกข้าว่า…ซู่มิ่ง!”

บุรุษชุดดำกล่าว ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยแสงแปลกๆ และเครื่องหมายสีดำบนใบหน้าทันใดนั้นก็บิดเบี้ยวไปมา พร้อมทั้งขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กำลังพูดอยู่นั้น มันก็ยกมือขวาขึ้นมา และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องขึ้น เมื่อรูปร่างมันเริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่พร้อมด้วยกิ่งก้านสาขานับไม่ถ้วน ต้นไม้นั้นเริ่มพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว ซึ่งดวงตากำลังสาดประกายขึ้นด้วยความต้องการต่อสู้อย่างลึกล้ำ ขณะที่มองไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ ก็หัวเราะขึ้นมาในทันที

“ขอบคุณมากหลัวเทียน ที่ให้ข้ามีโอกาสได้ต่อสู้กับบุคคลที่แข็งแกร่งมากที่สุดจากในอดีต ข้าอยากรู้เป็นอย่างยิ่งว่าพวกมันจะแข็งแกร่งหรือว่าอ่อนแอไปกว่าข้า!” เมิ่งฮ่าวกลายเป็นเงาร่างอันเลือนร่าง พุ่งตรงไปยังบุรุษชุดดำ เมื่อเข้าไปใกล้ สองมือก็ขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทำให้ทะเลเปลวไฟพุ่งขึ้นมาอยู่รอบๆ ตัว แค่หนึ่งอึดใจก็กลายเป็นสีม่วงไป ขณะที่จักรพรรดิอสูรปรากฏกายขึ้นมาอีกครั้ง

จักรพรรดิอสูรและมารปีศาจปะทะกันไปมา เมิ่งฮ่าวเริ่มต่อสู้กับซู่มิ่ง คนทั้งสองต่างก็มีความรวดเร็วเท่าเทียมกัน ไม่ได้พุ่งเข้าไปปะทะกันโดยตรง แต่ต่อสู้กันด้วยวิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวแตกกระจายและความว่างเปล่าก็พังทลายลงไป ดูเหมือนว่าความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยออกมาในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นซู่มิ่งก็ก้าวเดินตรงไปในทันที ขณะที่พลังของมันเริ่มพุ่งทะยานสูงขึ้นไป ต่อมาก็เดินไปเป็นก้าวที่สอง, ก้าวที่สาม และก้าวที่สี่

เมิ่งฮ่าวหัวเราะเป็นเสียงดังก้อง และก้าวเดินออกไปด้วยเช่นกัน หนึ่งก้าว, สองก้าว, สามก้าว, สี่ก้าว…

คนทั้งสองเข้ามาใกล้ซึ่งกันและกันอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนที่ทั้งคู่เดินไปเป็นก้าวที่เจ็ด พลังก็บรรลุถึงระดับอย่างที่ยากจะคาดคิด ความว่างเปล่าตรงหน้าซู่มิ่งแตกกระจายออกไป ขณะที่เท้ายักษ์เริ่มตกลงมายังร่างเมิ่งฮ่าว แต่เจ็ดก้าวที่เดินไปของเมิ่งฮ่าว ก็ให้ผลลัพธ์ออกมาเช่นเดียวกัน

ตูมมมมมมม!

เสียงระเบิดจนแก้วหูแทบจะแตกดังก้องขึ้น โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากของทั้งซู่มิ่งและเมิ่งฮ่าว ขณะที่คนทั้งสองสั่นสะท้านแยกออกจากกัน แต่ชั่วขณะต่อมาก็บินตรงเข้าไปเพื่อต่อสู้กันอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองคู่คี่เท่าเทียมกันโดยสิ้นเชิง!

น่าเสียดายที่เมิ่งฮ่าวมีความรู้สึกว่าทั้งปีศาจและมารมีไพ่ไม้ตายที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา เช่นเดียวกับเวทผนึกสวรรค์ของตนเอง แต่บางทีอาจจะเป็นความจริงที่ว่าความทรงจำของหลัวเทียนไม่ได้ประกอบด้วยการลอกเลียนแบบที่สมบูรณ์ของพวกมัน นอกจากนั้น…หลัวเทียนก็อ่อนแอลงไปจากเดิมเป็นอย่างมากในตอนนี้

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น ขณะที่ปลดปล่อยเวทผนึกอสูรรุ่นแปดออกไปอีกครั้ง และเป็นดังเช่นที่คาดคิดไว้ คู่ต่อสู้ถูกตรึงแน่น ปล่อยให้เมิ่งฮ่าวโจมตีไปอย่างต่อเนื่อง การต่อสู้ของคนทั้งสองทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องสั่นสะเทือน และบริเวณใกล้เคียงก็กลายเป็นเศษซากปรักหักพังไป

ในตอนนี้เองที่ปีศาจส่งเสียงกู่ร้อง และฉีกเวทผนึกออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็หันหน้ามองไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างช้าๆ

และเข้ามาร่วมการต่อสู้นี้โดยไม่ลังเลใดๆ การลงมือครั้งแรกของมันก็คือต่อยหมัดออกไป ทำให้ดูเหมือนว่าภาพของภูตผีนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งขึ้นมา จากนั้นก็กลับไปรวมตัวเข้าด้วยกันอยู่ภายในหมัดของมัน

ในชั่วพริบตาหมัดที่โจมตีมาของปีศาจก็กลายเป็นความแข็งแกร่งอย่างไร้จุดสิ้นสุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version