Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 312

ตอนที่ 312

เพราะคนผู้นี้เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!

ท่ามกลางเสียงหัวเราะ และเส้นผมสีแดงที่ปลิวไสวไปมา เมิ่งฮ่าวยกมือขวาขึ้นมา มีเม็ดยาสีม่วงอยู่ระหว่างนิ้ว! นี่เป็นเม็ดยาที่ประกอบไปด้วยเจตจำนงแห่งปีศาจ และทันทีที่มันปรากฎขึ้น เสียงกึกก้องก็ดังไปทั่วทั้งฟ้าดิน

กลิ่นอายอันยากจะอธิบายออกมาได้ พลุ่งพล่านกระจายออกมาจากเม็ดยา เต็มไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ใบหน้าของคนที่มุงดูอยู่ทั้งหมดเปลี่ยนไป โดยไม่ลังเล เมิ่งฮ่าวหย่อนเม็ดยาเข้าไปในปาก

เม็ดยาสีม่วง ละลายไปด้วยความเร็วอย่างน่าตกใจ ย้อมสีอวัยวะภายในของเขาราวกับมันเป็นน้ำหมึก กระจายออกไปทั่วทั้งร่างกาย

อ๊ากกกกก!

เมิ่งฮ่าวเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้า ส่งเสียงแผดร้องออกมาอย่างน่าตกใจ ภายใต้หน้ากาก ใบหน้าเขาบิดเบี้ยว ดวงตาสีแดงคล้ำเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และคลื่นของความต้องการสังหารอันรุนแรง หน้ากากสีโลหิตดูเหมือนจะพอใจกับกลิ่นอายที่กระจายออกมาจากร่างของเขา ทำให้มันกระจายออกไปอย่างเข้มข้นมากขึ้น

ความเจ็บปวด!

ความเจ็บปวดอย่างไร้ขอบเขต!

ทั่วร่างของเขารู้สึกราวกับว่ากำลังถูกเฉือนออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่าเขากำลังถูกลงโทษด้วยการเฉือนเนื้อพันครั้งจนตายไป ขณะที่เกิดขึ้นเช่นนี้ มันก็ปลดปล่อยพรสวรรค์และพื้นฐานฝึกตนที่ซ่อนเร้นอยู่ทั้งหมดออกมา ราวกับว่าหีบสมบัติที่อยู่ในร่างกายได้ถูกเปิดออก ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขั้นสุดท้ายได้วิ่งผ่านไปทั่วร่าง รู้สึกราวกับว่ามีใครมาแหวกหน้าอก ฉีกกระชากหัวใจออกมา ยกชูขึ้นไปในท้องฟ้า!

พลุ่งพล่านปั่นป่วน!

พลุ่งพล่านปั่นป่วนราวกับแผ่นดินไหว!

พลังที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ดูเหมือนจะทำให้ความทรงจำทั้งหมดของเขาหายไป และบดขยี้มันจนกลายเป็นเถ้าธุลี เจตจำนงและสติสัมปชัญญะของเขาถูกโยนเข้าไปในความสับสนปั่นป่วน ภายในความสับสนและปั่นป่วนวุ่นวายนั้น เส้นใยของความต้องการสังหารอันเข้มข้นเต็มอยู่ในร่าง!

หนึ่งเส้นใย, หนึ่งร้อยเส้นใย, หนึ่งพันเส้นใย, หนึ่งหมื่นเส้นใย, หนึ่งแสนเส้นใย…เส้นใยทั้งหมดสิบล้านเส้นใยแห่งความต้องการสังหารอันเข้มข้น!!

ความต้องการสังหารส่งผลให้จิตใจเมิ่งฮ่าวปั่นป่วนวุ่นวาย มันบดขยี้แกนของเขา ทำให้วิญญาณของเขาคลุ้มคลั่ง ปกคลุมมันด้วยความบ้าคลั่งอย่างน่ากลัว!

ความบ้าคลั่งนี้กลายเป็นความบ้าต้องการสังหาร ซึ่งสร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งโลก มันลบล้างความสามารถในการคิดของเขาไป หลอมรวมจิตใจเขาจนกลายเป็นความว่างเปล่า เติมเต็มไปด้วยเจตจำนงของปีศาจ กลายเป็นความตั้งใจที่จะทำลายตนเอง ซึ่งทำให้พื้นฐานฝึกตนของเขาไต่ทะยานสูงขึ้นไป

ขั้นกลางสร้างแกนลมปราณ, ขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ, วงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นสร้างแกนลมปราณ…เมิ่งฮ่าวส่งเสียงแผดร้องดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวไม่ได้เผชิญหน้ากับการเผาไหม้ของจิตวิญญาณ แต่เป็นการแทนที่จิตวิญญาณ เพราะเม็ดยานี้…ก็คือเม็ดยาแปลงปีศาจ! และเจตจำนงนี้ ก็คือเจตจำนงของปีศาจ!

บุคคลผู้นี้ เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!

พื้นฐานฝึกตนถูกเผาไหม้ ปลดปล่อยจิตวิญญาณ เจตจำนงแห่งความบ้าคลั่ง และความตั้งใจทำลายตัวเอง กลายเป็นความบ้าคลั่งของปีศาจ นี่ก็คือเมิ่งฮ่าว!

ดวงตาเขาเป็นสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยเส้นเลือด ด้วยความชั่วร้าย, ด้วยความอาฆาต ภายใต้หน้ากาก เขาเริ่มแก่ตัวลง เส้นผมสีแดงพริ้วไปมารอบๆ ตัวอย่างดุเดือด

ภาพของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ ติดตรึงแน่นอยู่ในดวงตาของทุกคนที่กำลังมองมา อย่างยากที่จะลบเลือนไปได้

ในตอนนี้ ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งสิบกว่าคน ซึ่งยังคงถูกสะกดให้อยู่ในขั้นสร้างแกนลมปราณได้เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว พวกมันมีจำนวนมากกว่า และพื้นฐานฝึกตนโดยแท้จริงแล้วก็สูงกว่าเขามาก ดังนั้น พวกมันยังคงใกล้เข้ามา แต่ละคนเตรียมตัวโจมตี

ราวกับว่าแต่ละคนต่างก็กลัวว่าไม่อาจจะสังหารเขาได้ด้วยตนเอง และถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจจะมีปัญหาขึ้นได้เมื่อกลับไปยังตระกูลของพวกมัน

รังสีสังหารของพวกมัน กระจายสูงขึ้นไปจนถึงสวรรค์ ขณะที่พุ่งฝ่าอากาศมา ไม่มีใครในที่นั้นสามารถช่วยเมิ่งฮ่าวได้ ในตอนนี้ เขาโดดเดี่ยวอย่างสิ้นเชิง เพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเขาได้ ก็คือตัวเอง เพียงคนเดียวที่สามารถพึ่งพาได้ก็คือ ตนเอง!

เสียงหัวเราะของเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ดังก้องออกไปในอากาศ และขณะที่เป็นเช่นนั้น เขาก็โบกสะบัดมือขวาไปข้างหน้า

“ไร้หน้า!”

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และใบหน้าขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง รอบๆ เมิ่งฮ่าว มันมีขนาดใหญ่กว่า และมีตัวตนมากกว่าก่อนหน้านี้ มันดูไม่เหมือนภาพลวงตาอีกแล้วในตอนนี้ แต่เป็นของจริง

ใบหน้านั้นพุ่งสูงขึ้นไป โลหิตไหลออกมาจากดวงตา ดูน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ราวกับปีศาจอันบ้าคลั่ง มันพุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งสิบกว่าคนที่ใกล้เข้ามา

สำหรับพวกที่มุงดู เมิ่งฮ่าวก็เหมือนกับแมลงเม่าที่กำลังบินเข้าไปในกองไฟเหมือนกำลังหาที่ตาย และด้วยการกระทำเช่นนั้น เขาก็ปลดปล่อยความงดงามแห่งชีวิตทั้งหมดออกมา ทำให้ทุกคนรู้สึกเจ็บปวดใจ

แมลงเม่าที่บินเข้าไปในกองไฟ ก็ดูเหมือนเป็นเพราะแมลงเม่าหลงรักกองไฟ มันปรารถนาที่จะไปเกิดใหม่อยู่ภายในกองไฟ สำหรับพวกที่มุงดู ก็ดูเหมือนว่าความตายเช่นนั้นไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แต่ใครจะรู้ได้ว่าแมลงเม่านี้ไม่ได้หลงรักเปลวไฟ บางทีมันอาจต้องการจะใช้ชีวิตของมันเพื่อดับเปลวไฟนั้นก็เป็นไปได้!

เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ทุกสิ่งทุกอย่างสั่นสะเทือน โลหิตสาดกระจายออกมาจากปากของเมิ่งฮ่าว ขณะที่ใบหน้าขนาดใหญ่แตกกระจาย ถึงแม้ว่าพื้นฐานฝึกตนของเขาจะพุ่งทะยานขึ้นไปเนื่องจากเม็ดยาแปลงปีศาจ เขาก็ได้เผชิญกับการโจมตีของสิบกว่าคนรวมกัน แล้วเขาจะต่อต้านได้อย่างไร?

ขณะที่โลหิตพุ่งออกมาจากปาก ร่างกายเขาก็บาดเจ็บอย่างสาหัส ดวงตาเฉยเมย และรอยยิ้มซีดเซียวก็ปกคลุมใบหน้า ขณะที่เขาลอยไปด้านหลังราวกับว่าวที่ถูกตัดสายป่าน ใบหน้าของศัตรูมากกว่าสิบเปลี่ยนไปขณะที่พวกมันเตรียมโจมตีอีกครั้ง รังสีสังหารของพวกมันราวกับลูกธนูอันแหลมคม เตรียมพร้อมที่จะแทงทะลุร่างเมิ่งฮ่าว

แต่ขณะที่พวกมันพุ่งตรงเข้าไปโจมตี ดวงตาที่เฉยเมยของเมิ่งฮ่าว ก็สาดประกายด้วยความบ้าคลั่งอย่างดื้อรั้น

“หนึ่งคำ!” เขาร้องออกมา ด้วยเสียงแหบแห้ง น่าตกใจที่เขากำลังใช้พลังอันน่ากลัวของเม็ดยาแปลงปีศาจ เพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมทรัพย์เซียนโลหิต

ขณะที่คำพูดดังออกมาจากปาก ใบหน้าที่แตกกระจาย ทันใดนั้นก็หยุดการพังทลาย รอยร้าวที่ปกคลุมมันก็ดูเหมือนจะพลุ่งพล่านไปด้วยความดุร้าย ขณะที่กลุ่มหมอกสีแดงจำนวนมากมายกระจายออกมาจากใบหน้านั้น

กลุ่มหมอกสีแดงกระจายไปทั่วที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ใบหน้าขนาดใหญ่เหมือนจะผ่านกาลเวลาอย่างรวดเร็ว มันเริ่มหดตัว และรอยร้าวก็หายไป กลับมาเป็นปกติขึ้นอีกครั้ง และจากนั้น…ในตำแหน่งที่ก่อนหน้านี้มองไม่เห็นเป็นรูปปาก ริมฝีปากก็ปรากฎขึ้น

ปากอ้าขึ้น และดูเหมือนกำลังพูดออกมา แม้จะไม่มีใครสามารถได้ยินเสียงของมันก็ตาม แต่…ทันทีที่เสียงที่ไม่ได้ยินนั้นปรากฎขึ้น ชายชราสิบกว่าคนนั้นก็รู้สึกว่าจิตใจของพวกมันสั่นสะท้าน เส้นโลหิตปกคลุมไปทั่วร่างพวกมันในทันที ราวกับว่าพวกมันกำลังจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ในทันใด

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวได้พูดประโยคที่สามออกมา

“ไฟสงครามรวมเป็นหนึ่ง!”

ไร้หน้า, หนึ่งคำ, ไฟสงครามรวมเป็นหนึ่ง!

นี่คือหนึ่งในสามความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของขุมทรัพย์เซียนโลหิต ถูกบังคับให้กลายเป็นความเคลื่อนไหวโดยเมิ่งฮ่าว กลุ่มควันพุ่งขึ้นไปจากทั่วทุกทิศทางในทันที ตามด้วยเปลวไฟแห่งสงคราม บิดเบี้ยวลอยไปมารอบๆ ตัวเมิ่งฮ่าว ด้วยเสาแห่งไฟขนาดใหญ่ที่หมุนวนไปมา เสียงกระหึ่มกึกก้องของมันพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์

กระดูกเมิ่งฮ่าวหักมากขึ้น พิรุณโลหิตพุ่งออกมาจากร่างกาย ขณะที่ร่างของเขาล้มกลิ้งไปบนพื้น การลดลงของพลังทำให้หน้ากากหลุดออกมาจากใบหน้าเขาอย่างรุนแรง

รูปลักษณ์ของเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นชายชรา ใบหน้าซีดขาว ขณะที่เขานอนอยู่ที่นั่นบนพื้น แต่ความบ้าคลั่งของปีศาจก็ยังคงสาดประกายอยู่ภายในดวงตา

พื้นฐานฝึกตนของเขาอยู่ในจุดที่กำลังถูกทำลายไป ร่างกายดูเหมือนจะพังทลายลงไปได้ทุกเมื่อ ต้องสูญเสียอายุขัยไปอย่างมากมาย แต่หัวใจก็ยังไม่ยอมพ่ายแพ้ มันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นว่า เขาเลือกที่จะเผาไหม้ตัวเองต่อไป

เสียงกระหึ่มดังก้องอยู่ในอากาศ ขณะที่เสาแห่งไฟยืดขยายออกไป ผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งสิบกว่าคนนั้น ค่อยๆ ถอยห่างออกไป น่าตกใจที่สามคนของพวกมัน กระอักโลหิตออกมาในทันที

พลังอันรุนแรงของความสามารถศักดิ์สิทธิ์เมิ่งฮ่าว ช่างน่าตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง

“ขุมทรัพย์เซียนโลหิตช่างน่าเหลือเชื่อนัก…” หนึ่งในผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งกล่าว สีหน้าของชายชราทั้งสิบกว่าคนเคร่งขรึมดุร้าย โดยเฉพาะสามคนที่ได้รับบาดเจ็บ อาการบาดเจ็บของพวกมันไม่ได้สาหัสมากนัก แต่พวกมันก็ร่วมโจมตีผู้ฝึกตนขั้นสร้างแกนลมปราณเพียงคนเดียว การเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นสำหรับพวกมันแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ยากจะยอมรับได้

“มันจบลงแล้ว” ชายชราอีกคนกล่าวขึ้น พวกมันมองไปยังเมิ่งฮ่าว เขาไม่มีพลังที่จะต่อสู้กลับมาอีกแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสไปทั่วร่าง ราวกับตะเกียงที่ขาดน้ำมัน พวกมันค่อยๆ เดินตรงไปที่เขา เตรียมตัวที่จะจบการเผชิญหน้าอย่างยากลำบากนี้

ฉื่อชิงตัวสั่นสะท้าน นางกำลังจะวิ่งออกไป แต่หานเป้ยก็พุ่งเข้ามาถึงตัว และคว้าจับแขนนางไว้ ดึงนางกลับไปด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ

ฉื่อชิงหันมามองหานเป้ย ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวหัวเราะออกมา

ผิวกายเขาขาวซีด มีรูปลักษณ์ที่แก่ชรา เขาไม่ได้เยาว์วัยอีกต่อไป แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่มองเห็นได้ภายในสีหน้าของเขา ซึ่งยังคงอยู่ที่นั่นตลอดไป…

เสียงหัวเราะของเขาประกอบไปด้วยสิ่งแปลกๆ บางอย่าง, เป็นบางอย่างที่ดุร้าย ซึ่งเต็มไปด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น!

“ตื่นขึ้นมา, อ๋าวเฉี่ยนของข้า!” เขากล่าว ตระเกียกตระกายดิ้นรน ยกมือขวาขึ้นมา และวางลงไปบนหน้ากากสีโลหิตอย่างอ่อนโยน ขณะที่เขาพูดคำนั้น ดวงตาก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความมุ่งหวัง

ในตอนที่เมิ่งฮ่าวได้บรรลุขั้นสร้างแกนลมปราณ เขาก็รู้สึกได้ถึงการจำศีลของอ๋าวเฉี่ยน เขารู้ว่าถึงแม้มันจะยังคงหลับอยู่ ก็เป็นไปได้ที่มันจะตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลได้ทุกเมื่อเป็นระยะ

สิ่งที่เขาต้องทำทั้งหมดก็คือการเรียกมัน, ปลุกมัน นี่คือ…ความต้องการสังหารอย่างแท้จริงของเขา อันที่จริง ทุกสิ่งที่เมิ่งฮ่าวได้กระทำไปจนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็เพียงแค่ซื้อเวลาที่จะให้อ๋าวเฉี่ยนได้ตื่นขึ้นมา ตลอดเวลาเขาได้ร้องเรียกมันอย่างเงียบๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า

เริ่มจากตอนที่อยู่ภายในอาณาจักรจิตใจ ตลอดเวลาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ตอนต่อสู้อย่างดุร้ายถึงตาย เขาได้ร้องเรียกอ๋าวเฉี่ยนอย่างเงียบๆ เขาได้เรียกมันอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งถึงตอนเมื่อครู่นี้ เมื่อเขาสูญเสียพลังสุดท้ายทั้งหมดที่จะต่อสู้กลับไป ก็เป็นตอนที่อ๋าวเฉี่ยน…ในที่สุดก็แสดงให้เห็นว่ามีการขยับตัว

การขยับตัวนี้ประกอบไปด้วยความตื่นเต้น รวมถึงความบ้าคลั่งที่เหมือนกับความบ้าคลั่งที่เต็มอยู่ในตัวเมิ่งฮ่าว ดูราวกับว่าอ๋าวเฉี่ยนกำลังใช้พลังทั้งหมดที่มันมี เพื่อต่อสู้กับการหลับใหลที่สะกดมันไว้ มันตื่นขึ้นมา เต็มไปด้วยความต้องการเดียวกับที่เคยมีอยู่ ในการแข่งขันล่าขุมทรัพย์เซียนโลหิต มันจะต้องปกป้องเจ้านายของมัน

ชายชราสิบกว่าคนพุ่งตรงมา และขณะที่พวกมันทำเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือออกไปแตะหน้ากากสีโลหิต จากนั้น เขาก็ร้องเรียกอ๋าวเฉี่ยน หน้ากากเริ่มสั่นสะท้านขึ้นในทันที มันลอยขึ้นไปในอากาศด้วยความเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ หยุดอยู่กลางอากาศที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว

ทันใดนั้น จอภาพสีโลหิตขนาดใหญ่ก็ปรากฎขึ้น มีความกว้างมากกว่าหนึ่งร้อยจ้าง

จอภาพสีโลหิตขนาดใหญ่นั้นดูราวกับเป็นกระจกโลหิตขนาดใหญ่ เมื่อมันปรากฎขึ้น พื้นผิวของกระจกก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่นมากมายจนนับไม่ถ้วน รวมถึงเสียงคำรามซึ่งดังออกมาจากด้านใน

เสียงคำรามนั้นทำให้สวรรค์สั่นสะท้านพื้นดินสั่นสะเทือน และทำให้ใบหน้าของชายชราสิบกว่าคนนั้นหมองคล้ำลงในทันที เป็นเสียงที่เหมือนกับอ๋าวเฉี่ยนได้พบกับศัตรู และกำลังข่มขู่มัน เสียงนั้นดังก้องไปทั่วในอากาศ กระจายผ่านกลุ่มหมอกสีดำไปยังโลกด้านนอกของบึงน้ำ

ผู้ฝึกตนขั้นตัดวิญญาณของตระกูลจี้ ซึ่งถูกกักโดยปรมาจารย์ตระกูลหวัง ทันใดนั้น ก็ลืมตาขึ้นมา ม่านตามันหรี่เล็กลง ที่เบื้องหน้ามันปรมาจารย์ตระกูลหวังหอบหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาด้วยความประหลาดใจ

เสียงแผดร้องอย่างบ้าคลั่งจนสะเทือนไปถึงสวรรค์ ดังออกมาจากภายในจอภาพสีโลหิตนั้น มันเป็นเสียงแผดร้องของสัตว์อสูร ซึ่งเต็มไปด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้นและบ้าคลั่ง ขณะที่เสียงแผดร้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ชายชราสิบกว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเมิ่งฮ่าว ก็รู้สึกถึงความเป็นตายอันวิกฤตถึงแก่ชีวิต พุ่งขึ้นมาจากจิตใจของพวกมันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในทันที

ในตอนนี้เองที่พื้นผิวของจอภาพสีโลหิตบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่า…มีบางสิ่งกำลังพยายามทะลวงออกมา!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version