Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 480

ตอนที่ 480

ความพ่ายแพ้อย่างราบคาบของเผ่าเหิงอวี่

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งเหมือนเช่นเคย ขณะที่เผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนนับหมื่นคน และสัตว์ปีศาจนับหมื่นตัว ที่ด้านหลัง ป้อมปราการหนามปกคลุมคนในเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองพันคนไว้ราวกับเป็นกระโจมรูปทรงกลม เขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ จากนั้นก็กดฝ่ามือลงไปที่พื้นดิน

“ข้าเฝ้ารอพวกเจ้ามานานแล้ว” เขากล่าวเสียงราบเรียบ “ผนึกความเที่ยงธรรม!” ทันใดนั้น พื้นดินที่ถูกตัดขาดจากพลังลมปราณในบริเวณนี้ จู่ๆ ก็เดือดพล่านด้วยปราณอสูร ขณะที่เมิ่งฮ่าวโบกสะบัดมือ ปราณอสูรก็ระเบิดออกไป

ปราณอสูรทำให้สัตว์ปีศาจที่กำลังใกล้เข้ามาเริ่มตัวสั่นสะท้านในทันใด สีหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่จู่ๆ พวกมันก็หยุดเคลื่อนที่ และเริ่มเปล่งเสียงร้องอย่างโหยหวนออกมาการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้ ทำให้สีหน้าที่ก้าวร้าว ดุร้ายของคนในเผ่าเหิงอวี่เริ่มเปลี่ยนไปในทันใด

นี่เป็นครั้งแรกที่เมิ่งฮ่าวปลดปล่อยพลังของปราณอสูร ที่เขาจัดการได้ทั้งหมดออกมาโดยไม่ลังเล นี่เป็นพลังที่ไม่ใช่เป็นของต้าซือหลง แต่เป็นของผู้ผนึกอสูร นี่เป็นพลังที่สำคัญยิ่งของสวรรค์อย่างแท้จริง!

ผู้ฝึกตนไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงปราณนี้ แต่สำหรับสัตว์ปีศาจ พวกมันรับรู้ได้อย่างชัดเจน

สิ่งที่สัตว์ปีศาจเห็นก็คือเมิ่งฮ่าว กำลังกระจายปราณอสูรอันน่าตกใจให้เดือดพล่านออกมา ปราณอสูรพุ่งทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า แม้แต่ฝนม่วงก็ดูเหมือนจะบิดเบี้ยวไปด้วยปราณนี้ เมิ่งฮ่าวกลายเป็นจุดศูนย์กลางของลมพายุแห่งปราณอสูร ซึ่งระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง

ในโลกที่มีแต่สัตว์ปีศาจเท่านั้นที่สามารถมองเห็น ปราณอสูรพุ่งขึ้นมาจากร่างเมิ่งฮ่าว กลายเป็นเงาร่างขนาดใหญ่ นี่เป็นเงาร่างที่ประกอบขึ้นมาจากปราณอสูรโดยสิ้นเชิง และมีหน้าตาเหมือนกับ…เมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวในสายตาของพวกมันไม่ได้ดูเหมือนผู้ฝึกตน แต่เป็นอสูรอันยิ่งใหญ่ของสวรรค์และปฐพี!

อสูรตนนี้สามารถทำให้โลกสั่นสะเทือน และมีปราณอสูรอยู่เป็นจำนวนมาก ราวกับเป็นราชันที่เดินผ่านมา ทำให้ดินแดนใดๆ ก็ตามที่เขาย่างก้าวเดินผ่านไป กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของเขา

สัตว์ปีศาจในฝูงกำลังสั่นสะท้านอย่างเลวร้าย แม้แต้วิญญาณของพวกมันก็สั่นระรัวไปด้วย ทันใดนั้น ความทรงจำที่อยู่ภายในสายเลือดของพวกมันก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา สัตว์ปีศาจจู่ๆ ก็เริ่มส่งเสียงแผดร้องออกมา เสียงร้องของพวกมันเต็มไปด้วยความเคารพและจงรักภักดี

พวกมันยอมจำนนต่อเจ้านายของสัตว์ปีศาจ, ต่อกลิ่นอายของอสูรผู้ยิ่งใหญ่ กลิ่นอายที่เหมือนกับเป็นบรรพบุรุษของพวกมัน!

สัตว์ปีศาจนับหมื่นของเผ่าเหิงอวี่ ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ในระดับไหน ทั้งหมดต่างก็ส่งเสียงแผดร้องคำรามอย่างต่อเนื่อง สีหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส พวกมันไม่ได้พุ่งผ่านพื้นดินอีกต่อไป แต่หมอบกราบอยู่ที่นั่น สัตว์ปีศาจที่กำลังบินอยู่ในท้องฟ้าก็ลงมาที่พื้นด้วยเช่นเดียวกันไม่ว่าเจ้านายของพวกมันจะพยายามควบคุมบังคับอย่างไร พวกมันทั้งหมดต่างก็แสดงความจงรักภักดีต่อเมิ่งฮ่าวโดยไม่มีข้อยกเว้น

ภาพที่เห็นนี้ทำให้กลุ่มคนของเผ่าเหิงอวี่อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง ก่อนที่พวกมันจะมีเวลาได้กระทำการใดๆ เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ ทำให้ปราณอสูรอันน่าตกใจ พรั่งพรูตรงไปยังสัตว์ปีศาจแต่ละตัว

ขณะที่ปราณอสูรผ่านเข้าไปในร่าง พวกมันก็เริ่มส่งเสียงแผดร้องคำรามอย่างบ้าคลั่งขึ้น ร่างของพวกมันเริ่มมีขนาดใหญ่โตและดุร้ายมากขึ้น กลิ่นอายของพวกมันในตอนนี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าจากก่อนหน้านี้ พวกมันทั้งหมดเริ่มแสดงสัญญาณของการตื่นจากหลับใหลของบรรพบุรุษ!

หนึ่งในสัตว์ปีศาจที่อยู่ในฝูง เป็นสัตว์ปีศาจภูติผีที่มีใบหน้าสีน้ำเงิน มันเงยหน้าขึ้นไปในท้องฟ้าเพื่อส่งเสียงแผดร้อง ขณะที่ในตอนนี้ มันไม่ได้ยืนด้วยขาทั้งสี่อีกต่อไป แต่ยืนด้วยสองขา ร่างของมันที่เป็นสีน้ำเงินไร้ขนปกคลุม กระจายระลอกคลื่นอันน่าตกใจออกมา ดวงตาเริ่มกลายเป็นสีแดงจ้า และสูงขึ้นเกือบสามจ้าง ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้น จู่ๆ ก็มีเขางอกออกมาจากหน้าผากของมัน

เขาที่ขดงอเป็นเกลียวปะทุประจุสายฟ้า และกระจายกลิ่นอายอันน่าตกใจออกมา รูปร่างหน้าตาของสัตว์ปีศาจตัวนี้ใกล้เคียงกับรูปปั้นทั้งเก้า ซึ่งอยู่ในเมืองของเผ่าเหิงอวี่เป็นอย่างมาก

ภาพลักษณ์ของมันทันใดนั้นก็ทำให้กลุ่มคนเผ่าเหิงอวี่เต็มไปด้วยความตกตะลึง จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน และร้องตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจ ดังเต็มไปทั่วในอากาศ

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณ! มัน…มันดูเหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณเป็นอย่างยิ่ง!!”

“คนผู้นี้เป็นใคร? มันทำให้สัตว์ปีศาจของพวกเรากลายพันธุ์ และหลุดพ้นจากการควบคุม…”

ท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงอันเยือกเย็นแปลกประหลาดของเมิ่งฮ่าวก็ดังก้องออกมา “นับจากนี้ไป พวกเจ้ามาติดตามข้า เข้าต่อสู้!” สัตว์ปีศาจนับหมื่นตอบรับด้วยเสียงแผดร้องคำราม สะบัดตัวให้หลุดออกมาจากเจ้านายพวกมัน และเปลี่ยนเป็นมีท่าทีอันดุร้าย ดูเหมือนว่า…พวกมันกำลังเปลี่ยนข้างไปแล้วจริงๆ

ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ ทำให้สัตว์ปีศาจของเขาเองทั้งสองหมื่นตัวปรากฎขึ้นในฉับพลัน ส่งเสียงแผดร้องคำรามขึ้นไปในท้องฟ้า พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนเผ่าเหิงอวี่ในทันที

สัตว์ปีศาจทั้งหมดเกือบหกหมื่นตัวดูดซับปราณอสูรเข้าไป ทำให้พวกมันเกิดการกลายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป พวกมันไปรายล้อมอยู่รอบๆ ผู้ฝึกตนแปดพันคนที่กำลังตัวสั่นสะท้านอย่างรวดเร็ว คนทั้งหมดสูญเสียความคิดที่จะต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิง ทำให้ใครๆ ก็สามารถขบคิดได้ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร

เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าสงบนิ่งขณะที่เขามองไปยังการสังหารอันโหดร้ายที่ได้ปะทุขึ้นมา เสียงระเบิดและเสียงแผดร้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ในเวลาเดียวกันนั้น ห้าผู้ฝึกตนขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งก็พุ่งตรงมาที่เขา กระจายรังสีสังหารออกมา

คนกลุ่มนี้ทั้งหมดอยู่ในขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง เมื่อต้องจัดการกับบุคคลเช่นนี้ เมิ่งฮ่าวไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากสีโลหิตอีกต่อไป เขาขยับมือร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และชี้ตรงไป ทันใดนั้นพลังของดินยะเยียบก็พุ่งออกไป ตามติดไปด้วยทะเลแห่งเปลวไฟอันร้อนแรง, ต้นไม้ยักษ์และพิรุณทองคำ ภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ของห้าธาตุระเบิดออกขณะที่เขาชี้นิ้วตรงไป

ก่อนที่ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งห้าจะทันได้เข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว ร่างของพวกมันก็สั่นสะท้านภายใต้การโจมตีของสี่ภาพศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ของเขา

โลหิตพุ่งกระจายออกมาจากปากพวกมัน สีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในตอนนี้เองที่สองเงาร่างส่งเสียงดังกระหึ่ม พุ่งฝ่าอากาศตรงมายังเมิ่งฮ่าวในทันที ส่งผลให้เกิดเป็นระลอกคลื่นกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง สัตว์ปีศาจใดๆ ก็ตามที่ขวางทางมันก็จะกลายเป็นกลุ่มเมฆโลหิต ไม่มีตัวใดจะสามารถขัดขวาง ทำให้สองเงาร่างนี้หยุดชะงักลงได้แม้แต่น้อย

เป็นชายชราสองคน เต็มไปด้วยรังสีสังหารอันเข้มข้น ขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าว“มันคือต้าซือหลง! สังหารมัน ฝูงสัตว์ปีศาจก็จะกระจัดกระจายไปเอง!”

ขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวก็วางหน้ากากสีโลหิตลงบนใบหน้า ทันใดนั้น ปราณโลหิตก็ระเบิดออก เปลี่ยนกลิ่นอายเขาไปโดยสิ้นเชิง กระจายรังสีสังหารอันเข้มข้นออกมา ร่างแวบขึ้นขณะที่เขากลายเป็นดวงจันทร์สีดำ มองเห็นเป็นกลุ่มควันขณะที่จู่ๆ เขาก็ไปปรากฎขึ้นที่เบื้องหน้าของชายชราทั้งสอง

การที่เขาไปปรากฎกายขึ้นเช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาดและน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง พวกมันแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังมองเห็นด้วยสายตาของตัวเอง และจิตใจพวกมันก็เต็มไปด้วยลางสังหรณ์อันเลวร้าย

ขณะที่สีหน้าของชายชราสลดลง เมิ่งฮ่าวก็กำมือขวาเป็นหมัด จากนั้นก็กระแทกลงไป!

ตูม!

หนึ่งในชายชราลอยละลิ่วปลิวไปด้านหลัง มันรีบเรียกอาวุธเวทเจ็ดถึงแปดชิ้นออกมา พยายามจะป้องกันตัวเอง แต่อาวุธเวทเหล่านั้นก็แตกกระจายไป เศษชิ้นส่วนกระแทกเข้าไปในหน้าอกของมัน โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และรอยสักภาพศักดิ์สิทธิ์บนร่างของมันก็ริบหรี่ลง

ในเวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็หันร่าง ดวงจันทร์สีดำสาดประกายอยู่ในดวงตา และทันใดนั้น ดวงจันทร์สีดำที่คล้ายกับดวงตา ก็ปรากฎขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์บนหน้าผาก ขณะที่เขามองไปยังชายชราอีกคน ชายชราผู้นั้นรีบใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างเร่งด่วน และภูติผีก็มาห้อมล้อมมันไว้ในทันที คนผู้นี้แท้จริงแล้วก็คือหัวหน้าเผ่าเหิงอวี่ ชายชราที่เมิ่งฮ่าวกระแทกหมัดลงไปเมื่อครู่นี้ก็คือผู้เฒ่าสูงสุด

เมื่อสายตาของหัวหน้าเผ่าประสานกับสายตาเมิ่งฮ่าว สีหน้ามันก็เปลี่ยนไป และจิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่ม ขณะที่ทันใดนั้น ภาพสะท้อนของดวงจันทร์สีดำก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของมัน มันเกิดความรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกแทงอยู่ในใจ ราวกับว่ามีใบมีดที่มองไม่เห็นกำลังแทงทะลุผ่านเข้าไป

มันส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ไม่อาจจะโจมตีกลับไปได้ จิตใจเต็มไปด้วยเสียงหึ่งๆ ขณะที่มันพุ่งถอยหลบหนีไปทางด้านหลัง

ดวงตาจันทราดำนี้ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นของวิเศษช่วยชีวิตของอี้เฉินจื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ในมือของเมิ่งฮ่าว ก็ทรงพลังมากเกินกว่าที่อยู่ในมือของอี้เฉินจื่อ ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะไม่ได้ฝึกวิชาเวทสังเวยโลหิตมาก็ตามที หลังจากที่สวมใส่หน้ากากเซียนโลหิต พลังของปราณโลหิตของเขาก็ไกลเกินกว่าพลังของอี้เฉินจื่อ

เขาไม่จำเป็นต้องใช้การสังเวยโลหิต ทุกครั้งที่เขาสังหารผู้คน สีแดงของหน้ากากก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น

เสียงแผดร้องอย่างน่ากลัวจนทำให้โลหิตต้องแข็งตัว ได้ยินออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สัตว์ปีศาจหกหมื่นตัว โจมตีไปอย่างโหดร้ายและสังหารคนของเผ่าเหิงอวี่ไป

สิ่งที่น่าตกใจสำหรับกลุ่มคนเผ่าเหิงอวี่มากที่สุดก็คือ ภายในฝูงสัตว์ปีศาจเป็นกลุ่มอีกาสีดำที่แปลกประหลาดอย่างถึงที่สุด พวกมันไม่ได้โจมตีใคร แต่บินไปรอบๆ ดูเหมือนกำลังดูดซับอะไรบางอย่าง แต่ไม่นานนักซากศพที่อยู่บนพื้นดินก็เริ่มบิดตัวไปมา และลุกขึ้นมายืน

ผู้ที่ตายไปเริ่มกลับมามีชีวิตและยืนขึ้นมา ภายในดวงตาของซากศพแต่ละซาก มองเห็นเป็นภาพของอีกา ทันใดนั้น ซากศพก็พุ่งตรงไปยังอดีตสหายร่วมเผ่าของมันเพื่อโจมตี

ที่น่าประหลาดใจมากไปกว่านั้นก็คือ ซากศพทั้งหมดนี้…ต่างก็ยังคงมีพื้นฐานฝึกตน!

ถึงแม้ว่าพวกมันจะใช้พื้นฐานฝึกตนได้ตามสัญชาตญาณเพียงเท่านั้น แต่ซากศพเหล่านี้ก็ไม่ได้เกรงกลัวต่อความตาย ถึงพวกมันจะเหลือเพียงแค่ส่วนศีรษะ พวกมันก็ยังคงพยายามจะกัดไปที่ฝ่ายศัตรู ทั่วทั้งสนามรบเต็มไปด้วยความโหดร้ายมากขึ้นในทันที

สถานการณ์ในตอนนี้เริ่มไร้ความหวังอย่างรวดเร็ว ทำให้สมาชิกบางคนของเผ่าเหิงอวี่กัดลิ้นของตัวเอง พ่นโลหิตออกมา หลังจากที่ร่ายเวทอย่างรวดเร็ว พวกมันก็ชี้ขึ้นไปในท้องฟ้า

“ขออัญเชิญเซิ่งจู่ต้าเหริน!”

ผู้เฒ่าสูงสุด, ห้าผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง และคนในเผ่าที่เหลือทั้งหมด ต่างก็กัดลิ้นและพ่นโลหิตออกมา ทีละคน ทีละคน ส่งเสียงกระหึ่มขึ้นไปในท้องฟ้า “ขออัญเชิญเซิ่งจู่ต้าเหริน!”

เสียงของคนในเผ่านับพันประสานเข้าด้วยกัน กลายเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้อง ม้วนตัวออกไปเป็นระลอกคลื่น สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน ทันใดนั้น เสียงแผดร้องคำรามก็ได้ยินมาจากท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไป

เป็นกลุ่มเมฆสีดำ ซึ่งภายในเป็นภูติผีที่มีชีวิต!

ผิวของมันเป็นสีน้ำเงิน และมีความยาวถึงหนึ่งร้อยจ้าง มีเขาที่ขดงอเป็นเกลียว ร่างกายปกคลุมไปด้วยเกล็ด กลิ่นอายของสัตว์ปีศาจศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้ พุ่งออกมาอย่างรุนแรง เมื่อมันปรากฎตัวขึ้น ก็จ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยดวงตาสีแดงจ้า

“กลิ่นอายของเจ้าคล้ายคลึงกับของข้า…” สิ่งมีชีวิตนั้นส่งเสียงแผดร้อง จากนั้นก็พุ่งกรงเล็บที่คล้ายมือตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ในเวลาเดียวกับที่ภูติผีนั้นส่งเสียงแผดร้อง เสียงคำรามอีกเสียงก็ได้ยินมา “เทียนฟาง!”

ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นสัตว์อสูรเทียมสวรรค์ ทันใดนั้นมันก็พุ่งฝ่าอากาศกระแทกเข้าไปที่ภูติผีตนนั้น

ท่ามกลางเสียงระเบิดดังกึกก้อง นกแก้วกระพือปีกของมัน และส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมา ดวงตาสาดประกายด้วยความรังเกียจและชิงชัง

“บัดซบ! ไม่มีขน! เจ้า, เจ้า, เจ้า…ทำไมเจ้าถึงไม่มีขน!?!? อ้ายเฟย (สนมรัก) จัดการมันให้ตายไปเลย! เจ้าสารเลวบัดซบนี้ไม่มีขน นั่นเป็นความผิดอย่างชั่วร้ายใหญ่หลวงนัก! ไม่ต้องมีความเมตตา! อา! เจ้าบังอาจไม่มีขน!”

สัตว์อสูรเทียมสวรรค์กระแทกลงไปเต็มแรงเป็นการตอบรับ ภูติผีตนนั้นส่งเสียงแผดร้องและถอยไปด้านหลัง สัตว์อสูรเทียมสวรรค์พุ่งฝ่าอากาศเป็นเสียงแหลมเล็ก กระแทกไปที่ร่างมันอีกครั้ง นกแก้วอยู่ที่ด้านข้าง ส่งเสียงตะโกนออกไปด้วยความตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง

บนพื้นดิน เมิ่งฮ่าวส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาเฝ้ารอคอยเพื่อให้เผ่าเหิงอวี่มาถึงชั่วเวลาหนึ่ง แล้ว ทำไมเขาถึงไม่เตรียมตัวเพื่อความมั่นใจ? เขายกมือขวาขึ้นมาขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้น ใบหน้าสีโลหิตก็ปรากฎขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์อยู่รอบๆ ตัว กระจายออกเป็นวงกว้าง และจากนั้นก็พุ่งตรงไปโจมตี

การโจมตีนี้กระแทกเข้าไปยังผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งอื่นๆ ในทันที ทำให้โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก พวกมันล่าถอยไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในตอนนี้เองที่ต้นหนามจู่ๆ ก็เริ่มแยกออก จากภายใน กลุ่มคนของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงทาสอีกนับร้อย ทั้งหมดต่างก็ปรากฎกายขึ้น ส่งเสียงตะโกนร้องต่อสู้ออกมา

ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวก็รู้ว่าเผ่าเหิงอวี่ได้พ่ายแพ้ไปอย่างราบคาบแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version