Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 511

ตอนที่ 511

ค่ายกลเวทเกิดขึ้นอีกครั้ง

ผู้คนสองหมื่น ต่อสู้กับ สองแสน!

นี่คือการต่อสู้ที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างสองกองกำลังอันยิ่งใหญ่ สำหรับพวกที่มุงดูอยู่ ต่างก็คิดว่ามันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นการบดขยี้

ถึงแม้ว่าเผ่าเฮยหลงและเผ่าอูเสินจะผ่านการต่อสู้มานับร้อย การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับเผ่ากองโจรที่มีกำลังคนมากกว่าถึงสิบเท่า ก็ทำให้โอกาสที่จะได้รับชัยชนะน้อยมาก สิ่งที่พวกมันสามารถทำได้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือ สังหารกลุ่มโจรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนที่จะถูกกลุ่มโจรสังหารไป

ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นแค่ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่

แต่…เท่าที่เผ่าอูเสินและเผ่าเฮยหลงคิด พวกมันยังมีทางเลือกอื่นอีกก็คือ…เมิ่งฮ่าว เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าอูเสิน ผู้มีความสามารถอันน่าประหลาดใจ ในการควบคุมและดึงดูดใจสัตว์ปีศาจ เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ได้เริ่มต้นด้วยกองกำลังเพียงแค่หนึ่งพันคนเท่านั้น แต่ได้เติบโตขึ้นจนมีความกล้าหาญอยู่ในตอนนี้ เป็นเพราะว่าในแต่ละการต่อสู้ สัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวจะเป็นเสาหลักแห่งชัยชนะ

สัตว์ปีศาจสี่แสนตัว เป็นพลังที่เผ่าใดๆ ก็ตามไม่สามารถมีได้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะเป็นตัวแปรที่จะตัดสินการต่อสู้ครั้งนี้

เสียงกระหึ่มกึกก้องอย่างน่าตกใจเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่การเข่นฆ่าสังหารเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายในสนามรบ เพียงชั่วพริบตา เผ่าอูเสินและเผ่าเฮยหลง ก็เหมือนกับเป็นใบมีดอันแหลมคม กรีดเฉือนเข้าไปในกลุ่มพันธมิตรเผ่าโจรทั้งยี่สิบเผ่า

เสียงของการต่อสู้ทำให้สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน กลยุทธ์การต่อสู้ของเผ่าอูเสิน ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากช่วงการต่อสู้จากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกมันมักจะจัดตำแหน่งเป็นระยะ ราวกับว่าพวกมันกำลังต่อสู้อยู่ในค่ายกลรูปแบบเดียวกัน

สายลมกระพือพัดเป็นเสียงแหลมเล็ก และท้องฟ้าก็มืดสลัวลง กลุ่มเมฆแตกกระจายลอยไปมา ราวกับว่ามีการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่บางอย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่บนสวรรค์

พื้นดินสั่นสะเทือน และภูเขาก็สั่นสะท้าน เสียงร้องตะโกนทำให้ท้องฟ้าสั่นกระเพื่อม ฝนม่วงตกลงมายังภาพของการเข่นฆ่าอันโหดเหี้ยมนี้!

เผ่าเฮยหลงอันยิ่งใหญ่ดูเหมือนจะบ้าคลั่ง สมาชิกของเผ่ามากกว่าหนึ่งหมื่นคนระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง ไม่มีแม้แต่คนเดียวของกลุ่มโจรจะสามารถทำสิ่งใดๆ เพื่อต่อต้านพวกมันได้

สำหรับสมาชิกของเผ่าอูเสิน รังสีสังหารของพวกมันพุ่งขึ้นไปถึงสวรรค์ ดวงตาแดงก่ำไปด้วยโลหิต นี่เป็นสงครามครั้งสุดท้าย ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่าพวกมันจะมีชีวิตอยู่หรือตายไป ถ้าพวกมันไม่อาจมีชีวิตรอด…แล้วจะต้องหวาดกลัวกับความตายไปทำไม!?!?

โอกาสเดียวของพวกมันก็คือการเข้าไปในโม่เหมินที่อยู่เบื้องหน้า มิเช่นนั้น พลังลมปราณของพวกมันก็จะสูญหายไปในฝนม่วง และพวกมันก็จะแห้งเหี่ยวลงเหมือนกับเป็นมนุษย์ธรรมดา ดังนั้นพวกมันจึงระเบิดเปลวไฟแห่งพลังชีวิตทั้งหมดที่สามารถรวบรวมได้ออกมา ถึงแม้ต้องตายไป พวกมันก็ยังหัวเราะอย่างเบิกบานใจ

เสียงระเบิดได้ยินมา ขณะที่วิชาเวทระเบิดออก เสียงกระหึ่มกึกก้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ทั้งหมดนี้หลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นบทเพลงแห่งความเบิกบานของการต่อสู้ ไม่มีเสียงดนตรี มีเพียงเสียงอันน่ากลัวของการต่อสู้เท่านั้น ไม่มีเนื้อร้อง มีเพียงเสียงสนั่นหวั่นไหวและเสียงกระหึ่มกึกก้องเท่านั้น

สวี่ไป๋แหงนหน้าขึ้นไปในท้องฟ้าและหัวเราะเป็นเสียงดังออกมา ขณะที่มันพุ่งตรงเข้าไปในสนามรบ ไม่มีใครหยุดมันได้ เสื้อผ้าเปื้อนไปด้วยโลหิต บางส่วนก็เป็นโลหิตของมันเอง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นของศัตรู เสียงหัวเราะของมันบางส่วนเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ แต่ก็ยังมีความหวังอันดื้อรั้นอยู่ด้วยเช่นกัน มันกล่าวด้วยเช่นกันว่า “ถ้าข้าไม่อาจมีชีวิตรอด ข้าก็จะขอตายในการต่อสู้!”

เมิ่งฮ่าวมองไปยังภาพที่เห็น และจิตใจก็สั่นสะท้าน โลหิตในเส้นเลือดของเขาเดือดพล่าน และดวงตาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย นี่เป็นสงครามครั้งสุดท้าย และมันได้ทำให้พลังชีวิตของเขาเดือดพล่าน

สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าของโม่เหมินก็เหมือนกับการละเล่น…คนทั้งหมดที่อยู่บนกำแพงเมืองเป็นผู้ชม กำลังมองลงมายังการละเล่นนี้ มันมองมายังผู้สังหารของยี่สิบชนเผ่า ผู้ฝึกตนนับแสนที่รวมตัวกันอย่างหนาแน่น จนยากที่จะมองเห็นจุดจบของพวกมัน พวกมันราวกับเป็นกระแสน้ำแห่งการขุดรากถอนโคน เดือดพล่านด้วยรังสีสังหารขณะที่พวกมันพุ่งทะยานเข้าไปทำการต่อสู้

ฝนม่วงตกลงมาอย่างไม่จบไม่สิ้น โปรยปรายลงมายังร่างของทุกคนในที่แห่งนั้น

“ไม่สำคัญว่าเจ้ากำลังมองดูการละเล่นหรือแสดงเอง…มันก็ไม่มีอะไรนอกไปจากการต่อสู้” รังสีสังหารระเบิดออกมาจากดวงตาเมิ่งฮ่าว เขาโบกสะบัดมือ และสัตว์ปีศาจสี่แสนตัวก็ส่งเสียงคำรามแผดร้อง พุ่งตรงไปยังเผ่ากองโจร

มีซือหลงมากกว่าหนึ่งร้อยคนในท่ามกลางเผ่ากองโจร พวกมันลอยตัวอยู่กลางอากาศ ภายใต้การป้องกันอย่างแน่นหนา ใช้พลังทั้งหมดควบคุมฝูงสัตว์ปีศาจสี่แสนตัวของพวกมัน ต่อสู้กลับไปยังฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าว

ในตอนนี้เองที่ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งทั้งหมดของยี่สิบเผ่ากองโจรเริ่มบินออกมา พวกมันแผ่กระจายความโหดเหี้ยมดุร้ายออกมา ขณะที่พุ่งตรงมายังเผ่าเฮยหลงและเผ่าอูเสิน

พวกมันเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วจนกลายเป็นความเลือนลาง แทบจะในทันทีที่พวกมันปรากฏขึ้น พวกมันก็มาอยู่ในท่ามกลางการสู้รบ เสียงของการเข่นฆ่าสังหารดังพุ่งขึ้นไป ตามมาด้วยเสียงระเบิดของพลังเวทและวิชาเวท ผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งของเผ่าอูเสินและเผ่าเฮยหลง มีทั้งหมดไม่ถึงสามสิบคน เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งจากยี่สิบเผ่ากองโจร พวกมันก็เสียเปรียบเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม…ฝูงสัตว์ปีศาจของเมิ่งฮ่าวก็มีขนาดใหญ่เพียงพอ ที่เขาจะสามารถส่งสัตว์ปีศาจอันแข็งแกร่งมากที่สุดเข้าไปร่วมการต่อสู้ได้ ทันใดนั้น พวกมันก็เริ่มทำให้เกิดความเสียหายในสนามรบ

ต่อมา เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์จากยี่สิบเผ่ากองโจรก็แหวกฝ่าอากาศเข้ามาต่อสู้ พวกมันมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดก็กระจายกลิ่นอายอันน่าตกใจออกมา ขณะที่พวกมันมาถึง เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเฮยหลงและเผ่าอูเสินต่างก็ปรากฏขึ้น ตามมาด้วยสัตว์อสูรเทียมสวรรค์ พวกมันพุ่งเข้าต่อสู้กลับไป

การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มขึ้น แต่ก็น่าตกใจอย่างถึงที่สุด

สี่เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ และผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งยี่สิบคน ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นห้อมล้อมไปรอบๆ เมิ่งฮ่าวและสวี่ไป๋ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมิ่งฮ่าว สามเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ และเจ็ดผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้ง ได้มุ่งเป้ามาที่เขาเป็นพิเศษ พวกมันรู้ว่าเขาคือใคร และรู้ด้วยว่าถ้าสังหารเขาไปได้ ฝูงสัตว์ปีศาจของเขาก็จะกระจัดกระจายไป ถ้าเกิดขึ้นเช่นนั้น…พวกมันก็จะชนะการต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้ ดวงตาเมิ่งฮ่าวก็สาดประกายด้วยรังสีสังหาร เขาโบกสะบัดมือขวาและมองเห็นแสงของสายฟ้าแวบขึ้น ขณะที่วิญญาณของปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ฉับพลันนั้นก็ถูกเมิ่งฮ่าวปลดปล่อยออกมา

ทันทีที่วิญญาณปรากฏขึ้น สายฟ้าสีแดงก็ปะทุออกมา โดยมีปรมาจารย์ตระกูลหลี่เป็นจุดศูนย์กลาง สายฟ้าอันไร้ขอบเขต พุ่งออกไปทั่วทุกทิศทาง ทันใดนั้นก็ปกคลุมทุกสิ่งทุกอย่างภายในรัศมีหนึ่งร้อยจ้างไว้ สร้างเป็นทะเลสาบแห่งสายฟ้า

ภายในสายฟ้านั้น เจ็ดผู้ฝึกตนวิญญาณแรกก่อตั้งซึ่งตั้งใจจะสังหารเมิ่งฮ่าว รวมถึงสี่เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง นี่ไม่ใช่สายฟ้าธรรมดาทั่วไป นี่เป็นสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ ซึ่งถูกดูดซับเข้าไปโดยปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ในฐานะวิญญาณแห่งสายฟ้า

เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินมา ขณะที่ร่างกายศัตรูของเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน ฉับพลันนั้น เขาก็กลายเป็นกลุ่มควันสีเขียวและดวงจันทร์สีดำ พุ่งตรงไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อเข้าไปใกล้ผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ซึ่งอยู่ในกองกำลังของเผ่าโจร เข้าไปถึงมันเพียงชั่วพริบตา หอกปีศาจปรากฏขึ้นในมือ และกลุ่มหมอกปีศาจที่เดือดพล่านก็ม้วนตัวไปมา เต็มไปด้วยใบหน้าที่ดุร้ายมากมายนับไม่ถ้วน

เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องออกมา ขณะที่หอกปีศาจแทงเข้าไปในหน้าอกของผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง กลุ่มหมอกปกคลุมมันไว้ และใบหน้าที่กำลังหัวเราะอย่างโหดเหี้ยมก็เริ่มกัดกินมัน เมิ่งฮ่าวหายตัวไปอีกครั้ง

เสียงกู่ร้องได้ยินมา ขณะที่เจ็ดผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง ตามมาด้วยสี่เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ขณะที่พวกมันเข้ามาใกล้เมิ่งฮ่าวเป็นครั้งที่สอง ใบหน้าสีโลหิตก็ปรากฏขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์ข้างกายเมิ่งฮ่าว ขณะที่พลังเวทของเซียนโลหิตพุ่งทะยานออกไป พิรุณโลหิตก็เต็มอยู่ในพื้นที่แถบนั้น ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าปะทะกัน ร่างเมิ่งฮ่าวสั่นสะท้าน พ่นโลหิตออกมาจากปาก ลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ไปหยุดอยู่และกระอักโลหิตออกมาอีก คู่ต่อสู้ของเขาหยุดนิ่งในทันที ใบหน้าพวกมันซีดขาว ชั่วขณะต่อมา พวกมันก็ไล่ตามต่อไป

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกาย ไม่มีเวลาแม้แต่จะกวาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก ร่างกลายเป็นกลุ่มหมอกสีเขียว และใช้ร่วมกับวิชาระเบิดโลหิตในพริบตา เมื่อเขาปรากฎขึ้นอีกครั้ง ก็ไปอยู่ที่ด้านหลังของผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้ง มือขวาเขากำเป็นหมัดกระแทกเข้าไป ร่างของมันสั่นสะท้านและสิ่งของทั้งหมดที่มันใช้ต่อต้านแตกกระจาย ขณะที่หมัดของเมิ่งฮ่าวกระแทกลงไปยังร่าง และบดขยี้วิญญาณแรกก่อตั้งของมัน

“เมิ่งฮ่าว!!” หนึ่งในผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้งที่กำลังไล่ตามเขาแผดร้องออกมา สายตามันเต็มไปด้วยรังสีสังหาร “เจ้ากล้ามาต่อสู้กับพวกข้าหรือไม่?!”

“ข้าไม่ได้โง่เขลา” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ท่าทางดูถูกเล็กน้อยแวบขึ้นอยู่ในแววตา “เจ็ดผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง ต่อสู้กับข้าเพียงคนเดียว? และเจ้าก็ถามว่าข้ากล้าสู้กับพวกเจ้าหรือไม่? ทำไมพวกเจ้าไม่ดูก่อนว่า จะสามารถหยุดข้าได้หรือไม่?” อีกครั้งที่เขาใช้วิชาระเบิดโลหิตในพริบตา หายตัวไป

ในเวลาเดียวกับที่เขาหายตัวไป สองเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นในจุดที่เขาเคยอยู่ แม้ในขณะที่เมิ่งฮ่าวหลบหนีไป พวกมันก็ร่วมกับกลุ่มของเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ไล่ติดตามเขาไป

ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เมิ่งฮ่าวแวบไปมาทั่วทั้งสนามรบ หลบหนีการโจมตีอันร้ายแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้เขาจะถูกโจมตีบ้าง แต่หลังจากที่กระอักโลหิตออกมา ก็จะกลืนเม็ดยาลงไป ความรวดเร็วของเขาไม่ลดลงไปแม้แต่น้อย

ศัตรูที่อ่อนแอขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้งใดๆ ก็ตามที่เขาเห็น ก็จะถึงวาระแห่งความตาย

อย่างช้าๆ ผู้ฝึกตนขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้ง เข้ามาร่วมกับกลุ่มที่พยายามจะสังหารเมิ่งฮ่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีทั้งหมดสิบเก้าคน รวมถึงเก้าเซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์ พวกมันพุ่งมายังเมิ่งฮ่าวจากทั่วทุกทิศทาง ที่ห่างไกลออกไป หนึ่งในผู้ฝึกตนที่เป็นศัตรูซึ่งแข็งแกร่งมากที่สุดเริ่มเข้ามาใกล้พร้อมกับความต้องการสังหารด้วยเช่นกัน

รอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามมองเห็นได้จากใบหน้าเมิ่งฮ่าว เขาแวบออกไป ปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ด้านข้างของผู้ฝึกตนขั้นต้นวิญญาณแรกก่อตั้งเผ่าโจร สีหน้ามันสลดลง และก่อนที่มันจะทันได้กระทำสิ่งใดๆ เมิ่งฮ่าวก็โบกสะบัดมือ ทำให้ธวัชสามแฉกปรากฏขึ้น ทันใดนั้นมันก็พันไปรอบๆ ร่างคนผู้นั้นและเริ่มเหวี่ยงมันออกไป

ในขณะที่ธวัชคลี่สะบัด ร่างของคนผู้นั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย!

ด้วยเหตุการณ์เช่นนั้นในส่วนของเมิ่งฮ่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปรากฏขึ้นของสัตว์ปีศาจสี่แสนตัว ฉับพลันนั้นก็ทำให้เกิดเป็นผลกระทบในสนามรบเป็นอย่างมาก ผู้ฝึกตนรวมพลังกันพยายามมาสังหารเมิ่งฮ่าวมากขึ้นไปเรื่อยๆ

ในเวลาเดียวกันนั้น เพราะว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งมากที่สุดของศัตรูได้มุ่งเป้าโจมตีมาที่เมิ่งฮ่าว ทำให้แรงกดดันของเผ่าอูเสินและเผ่าเฮยหลงลดน้อยลง ในช่วงการปะทะกันครั้งแรกเมื่อครู่นี้ ทั้งสองเผ่าต่างก็สูญเสียไปมากกว่าสามในสิบส่วน แม้แต่ผู้เฒ่าวิญญาณแรกก่อตั้งก็ถูกสังหารไปเช่นเดียวกัน พันธมิตรเผ่ากองโจรก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมหาศาล พวกมันต้องสูญเสียคนในเผ่าไปเกือบสามหมื่นคนที่ตกตายไป

ในตอนนี้ ก็เริ่มเห็นได้ชัดมากขึ้นว่ากลุ่มคนเผ่าอูเสินกำลังก่อตั้งค่ายกล จริงๆ แล้วในตอนนี้ก็เริ่มมองเห็นกลุ่มหมอกก่อตัวอยู่ภายในขบวนค่ายกลของพวกมัน!

“เมิ่งฮ่าว อย่าบอกข้านะว่าสิ่งที่เจ้าทำได้ก็คือการหลบหนีเท่านั้น!? ถ้าเจ้ายังหลบหนีและสังหารคนในเผ่าข้าอีกต่อไป ข้าก็จะไปสังหารผู้ฝึกตนธรรมดาเผ่าอูเสินของเจ้าบ้าง!”

“ถูกต้อง! พวกเราจะไปสังหารผู้คนเช่นเดียวกับเจ้า!”

เมิ่งฮ่าวไม่สนใจเสียงตะโกนของกลุ่มคนที่ไล่ล่าติดตามมาโดยสิ้นเชิง ร่างเขาแวบขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปยังกำแพงเมืองบนโม่เหมิน ผู้ฝึกตนของพันธมิตรศาลสวรรค์ และเผ่าอันยิ่งใหญ่อื่นๆ กำลังส่งเสียงหัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน

“คนผู้นั้นสามารถควบคุมสัตว์ปีศาจได้ถึงสี่แสนตัว! ช่างมีพรสวรรค์อะไรเช่นนี้! แต่ก็ช่างโง่เขลายิ่งนักที่มีคนควบคุมสัตว์ปีศาจมากมายเช่นนั้นเพียงแค่คนเดียว”

“อีกไม่นานมันต้องตายอย่างแน่นอน”

ขณะที่เสียงพูดคุยเช่นนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลัวชงยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับกำหมัดจนแน่น มันมีความรู้สึกสับสนเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเมิ่งฮ่าว…

ตั่วหลันขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่กล่าวอะไรออกมา ด้านข้างนาง จางเหวินสู่กำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลาเหมือนเช่นเคย ผู้คนที่ต่อสู้กันอย่างวุ่นวายที่ด้านล่าง ไม่มีอะไรนอกไปจากเป็นมดแมลงสำหรับมัน

ขณะเดียวกันนั้น ที่ด้านล่างของสนามรบ ผู้แข็งแกร่งขั้นสุดท้ายวิญญาณแรกก่อตั้งได้ตระหนักว่า เมิ่งฮ่าวไม่สนใจพวกมันโดยสิ้นเชิง จึงเกิดความเดือดดาลกราดเกรี้ยวจนใกล้จะไปสังหารกลุ่มคนทั่วไปของเผ่าอูเสิน เพื่อบังคับให้เมิ่งฮ่าวมาต่อสู้กับพวกมัน

ตอนนี้ เจ็ดพันคนที่ยังเหลืออยู่ของเผ่าอูเสินได้จัดเตรียมค่ายกลเวทเรียบร้อยแล้ว พวกมันไม่ได้กระจายรังสีสังหารออกมาอีกต่อไป แต่เริ่มวิ่งไปมา ขณะที่ทำเช่นนั้น กลุ่มหมอกก็กระจายออกมาม้วนตัวออกไปทั่วทุกทิศทาง

ในตอนนี้ นกแก้วพุ่งทะยานผ่านท้องฟ้าขึ้นไป ใบหน้ามันเปล่งประกายความเย่อหยิ่งและความอิ่มเอมใจ ขณะที่ส่งเสียงร้องแหลมเล็กออกมา

“มา มา มาท่องตามอู่เหยีย…”

“เชื่อมั่นในอู่เหยีย, มีชีวิตนิรันดร์! เมื่ออู่เหยียปรากฏ, ผู้ใดกล้ามาต่อกร!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version