Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 553

ตอนที่ 553

อู่เหยียเกิดมาเพื่อความรักในฝัน

ในเวลาเดียวกับที่ กลุ่มคนจากเผ่าเทียนฉงจบความทุกข์ทรมานลง อยู่ภายในแผ่นผืนแห่งแสงสีดำ ย้อนกลับไปยังวิหารหลักแห่งเผ่าเทียนฉง ปรมาจารย์ฮูเหยียนนั่งขัดสมาธิอยู่ในบริเวณที่มีเกราะป้องกันอย่างแน่นหนา เมื่อสมาชิกคนสุดท้ายของเผ่าตกตายไป ดวงตามันก็ลืมขึ้นมา

มองเห็นแสงอันเย็นชาไร้ความรู้สึก อยู่ในดวงตาคู่นั้น

รอบๆ กายมัน วิญญาณที่ก่อตัวขึ้นมาจากความโศกเศร้าเสียใจก็เริ่มปรากฏขึ้น เหล่านี้ก็คือวิญญาณไร้ร่าง วิญญาณหลักของพวกมันถูกทำลายไปแล้ว เหลืออยู่เพียงแค่เศษเสี้ยวแห่งเจตจำนงในวิหารแห่งนี้

ขณะที่วิญญาณเหล่านั้นลอยอยู่รอบๆ ร่างปรมาจารย์ฮูเหยียน พวกมันก็ส่งเสียงร้องไห้อย่างไร้เสียงออกมา ปรมาจารย์ฮูเหยียนมองไปยังวิญญาณเหล่านั้นอย่างเยือกเย็น เสียงของมันราบเรียบขณะที่พูดพึมพำออกมา “การตายของพวกเจ้าไม่ได้ไร้ความหมาย แท้จริงแล้วก็มีความสำคัญกับข้ามาก”

“อย่ามองว่าข้าไม่ได้ไปช่วยพวกเจ้า แต่…พวกเจ้าจำเป็นต้องตายไป ยิ่งพวกเจ้าตายไปอย่างน่าสังเวชมากเท่าใด ข้าก็จะยิ่งไร้ความรู้สึกมากขึ้นเท่านั้น สมาชิกทั้งแปดหมื่นคนของเผ่าเทียนฉง…ไม่มีใครจะมาแทนที่ได้”

“ข้ามองดูพวกเจ้าตายไป ถึงแม้จะสามารถช่วยได้ แต่ข้าก็เลือกที่จะไม่ช่วย ข้ามองพวกเจ้าตกตาย มองพวกเจ้าส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ทำให้จิตใจข้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวถูกแทง แต่ลึกลงไปในความเจ็บปวดนั้น อารมณ์ความรู้สึกก็จะถูกลบล้างไปมากยิ่งขึ้น”

“พวกเจ้าไม่ได้ตายไปอย่างสูญเปล่า พวกเจ้าจะทำให้เต๋าของข้า…บรรลุถึงจุดสูงสุดของการตัดครั้งแรก!”

“ตราบเท่าที่ข้า…ยังมีชีวิตอยู่ เผ่าก็จะคงอยู่ตลอดไป” ปรมาจารย์ฮูเหยียนหลับตาลง

ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาในทุกย่างก้าวของเจ็ดยักษ์ทะเลม่วง ขณะที่พวกมันวิ่งผ่านเข้าไปในดินแดนสีดำ เมื่อมองจากที่ห่างไกล ก็ดูราวกับว่าทะเลม่วงกำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วน กระจายพลังอันไร้ขอบเขตออกมา เมิ่งฮ่าวยืนอยู่บนอ๋าวเฉี่ยน พุ่งฝ่าอากาศไป ห้อมล้อมไปด้วยแสงสีแดงเข้ม

จุดหมายปลายทางของพวกเขาไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากเป็นวิหารเผ่าเทียนฉงในดินแดนสีดำ!

สีหน้าเมิ่งฮ่าวบึ้งตึงอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าตรงไป หนังตาเมิ่งฮ่าวกระตุก และโดยไม่รู้สึกตัว เขากำมือเป็นหมัดจนเกิดเป็นเสียงดังกรอบแกรบขึ้น เหตุผลทั้งหมดนี้จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับปรมาจารย์ฮูเหยียนแม้แต่น้อย แต่เป็น…นกแก้ว

“ฮาย สบายดีหรือไม่ เจ้าเรียกข้าว่าอู่เหยียก็ได้นะ พวกเรามาทำความรู้จักกัน ดีหรือไม่?” นกแก้วกำลังบินอยู่เบื้องหน้าอ๋าวเฉี่ยน พยายามที่จะแสดงท่าทางให้ดูสง่างามและเป็นสุภาพบุรุษ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ดูเหมือนเป็นพวกที่ผิดปกติทางเพศ ตอนนี้มันกำลังมองไปยังอ๋าวเฉี่ยนด้วยท่าทีอ่อนโยน

อ๋าวเฉี่ยนมีแววตาแปลกๆ เกิดขึ้น ขณะที่มองกลับไปยังนกแก้วด้วยความสงสัย

ขณะที่สายตามันตกกระทบไปบนร่างนกแก้ว ฉับพลันนั้นก็ดูเหมือนว่านกแก้วไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เอาปีกไปกอดไว้ที่หน้าอก และส่งเสียงร้องด้วยความเร่าร้อนออกมา

“ใช่แล้ว นี่ก็คือรักแท้ที่ข้าเฝ้ารอมาตลอดชีวิต!! ดูขนของมันสิ! ช่างดึงดูดใจเป็นอย่างยิ่ง! ดูสีหน้าของมันสิ! ช่างใสซื่อบริสุทธิ์จริงๆ! ดูรูปร่างของมันสิ! ช่างมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง!”

“นี่ก็คือรักแท้ในชีวิตของข้า!” น้ำตาปรากฏขึ้นในดวงตานกแก้ว ขณะที่มันมองไปยังอ๋าวเฉี่ยนโลหิต ด้วยสีหน้าคลั่งไคล้ไหลหลง

“เสี่ยวไกว้ไกว้ (เด็กน้อยที่เชื่อฟัง) ที่สวยงาม โปรดให้ข้าได้แนะนำตัวเองอีกครั้ง” มันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกังวาน ดวงตาสาดประกายเจิดจ้า “เจ้าสามารถเรียกข้าว่าอู่เหยีย นับจากนี้ไป เจ้าก็คือเสี่ยวเม่ยเหม่ย (น้องสาว) ของข้า เจ้า…”

ในตอนนี้เองที่เสียงอันบึ้งตึงของเมิ่งฮ่าวก็ได้ยินรอดออกมาจากไรฟัน

“ไสหัวไป!!”

เสียงนี้ทำให้นกแก้วต้องถอยไปด้านหลังด้วยความตกใจ แต่มันก็รีบบินกลับมาอย่างรวดเร็ว จ้องไปยังเมิ่งฮ่าวอย่างมีโทสะ ผ้าสีดำไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนปรากฏขึ้นในกรงเล็บ ซึ่งมันรีบพันไปรอบๆ ดวงตาข้างหนึ่งอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นพลังของมันก็ระเบิดออกมา

“เจ้าต้องการจะต่อสู้กับข้า?!?!” นกแก้วเริ่มคลุ้มคลั่ง “เสี่ยวฮ่าวจื่อ (เด็กน้อยฮ่าว) พวกเรามาต่อสู้กัน เสี่ยวไกว้ไกว้ที่สวยงามนี้จะตกเป็นของผู้ชนะ!” ความบ้าคลั่งที่ปรากฏขึ้นของนกแก้ว เป็นหนึ่งในความเย่อหยิ่งอย่างสูงสุด ปรากฏขึ้นมาเพื่อความรักอย่างงมงาย มันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยการท้าทายเมิ่งฮ่าว จะไปดึงดูดความสนใจของสิ่งที่มันกล่าวอ้างว่าเป็นเสี่ยวไกว้ไกว้ที่สวยงาม

เมิ่งฮ่าวรู้สึกว่าหว่างคิ้วกำลังเต้นตุบๆ รู้สึกปวดหัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาต้องยอมรับว่าได้ลืมไปเกี่ยวกับอาการเสพติดที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของนกแก้ว หลังจากที่มองไปยังอ๋าวเฉี่ยน เขาก็ต้องยอมรับโดยเช่นกันว่า นกแก้วต้องรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์อย่างน่าเหลือเชื่อ

“มันเป็นตัวผู้” เขาอธิบายพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา

นกแก้วมีท่าทางเสียใจ “ตัวผู้, ตัวเมีย ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อู่เหยียมีชีวิตอยู่เพื่อความรักที่แท้จริง!” มันแผดร้องออกมา เส้นขนหลากสีของมันลุกขึ้นตั้งชี้ชัน ทำให้แทบจะดูเหมือนกับเป็นไก่ชน อันที่จริงมันรู้สึกพึงพอใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ในความคิดของมัน ตอนนี้มันดูหล่อเหลาและดูห้าวหาญเป็นอย่างยิ่ง จนต้องแอบมองสีหน้าของอ๋าวเฉี่ยนด้วยหางตาอย่างช่วยไม่ได้

เมิ่งฮ่าวไม่กล่าวว่าอะไร รู้สึกปวดหัวอย่างต่อเนื่อง เท่าที่เขาคิดเจ้านกแก้วจำเป็นต้องโดนตบสั่งสอนเสียบ้าง เขาโบกสะบัดมือขวา ทำให้สายลมอันรุนแรงกวาดพัดออกไปอยู่รอบๆ ร่างมัน

ภายในสายลม นกแก้วดิ้นรนต่อต้าน และจากนั้นก็ส่งเสียงแผดร้อง “นี่ก็คือรักแท้! รักแท้ที่ไม่อาจจะทำลายลงไปได้!”

“ไสหัวไป!” เมิ่งฮ่าวร้องตะโกน โบกสะบัดชายแขนเสื้ออีกครั้ง พยายามที่จะไม่สนในความเจ็บปวดในศีรษะ สายลมส่งเสียงหวีดหวิว แต่เสียงยืนกรานของนกแก้วก็ดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง

“เมิ่งฮ่าวเจ้าคนไร้ยางอาย! เจ้ามาสอดแทรกเป็นมือที่สาม ต้องการที่จะทำลายความสัมพันธ์ของพวกข้า!!”

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวเริ่มหมองคล้ำลงมากขึ้น กำหมัดแน่นต่อยออกไปจนเกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง คำตอบที่ได้ก็คือเสียงแผดร้องอย่างบ้าคลั่งจากนกแก้ว

“ความรักของอู่เหยียจะไม่มีทางเปลี่ยนไป! ความรักของอู่เหยียจะคงอยู่ตลอดไป!” นกแก้วทุ่มสุดตัวขณะที่มันแผดร้องออกมาจนสุดเสียงเพื่อพิสูจน์ตัวเอง จากนั้นก็ส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมา ขณะที่พุ่งถอยไปด้านหลังสองสามก้าว หลังจากที่มองไปยังอ๋าวเฉี่ยนอย่างคลั่งไคล้และตะโกนออกมา “เสี่ยวไกว้ไกว้ อู่เหยียจะเดินทางไปจนสุดขอบโลกเพื่อความรัก! พวกเรามาหนีตามไปกันเถอะ! เจ้าว่าอย่างไร?” ดวงตามันลุกโชนด้วยความคลั่งไคล้

อ๋าวเฉี่ยนมีพื้นฐานฝึกตนอยู่ที่ขั้นตัดวิญญาณ และค่อนข้างจะชาญฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกมันรู้สึกสับสนในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แต่ตอนนี้อ๋าวเฉี่ยนโลหิตที่องอาจ ก็สั่นสะท้านขณะที่มองไปยังนกแก้ว ทันใดนั้น โทสะของมันก็ระเบิดพุ่งขึ้นไปจนถึงสวรรค์ มันรู้สึกว่ากำลังถูกตอแยหาเรื่องและถูกลบหลู่ ในการที่มันถูกมองว่าเป็นตัวเมีย ด้วยการยั่วเย้าเช่นนั้นทำให้อ๋าวเฉี่ยนเต็มไปด้วยโทสะในทันที

มันร้องคำรามออกมา และพุ่งตรงไปยังนกแก้ว จากนั้นก็ต่อสู้กันด้วยอุ้งเท้าขนาดใหญ่โตของมันพร้อมกับเสียงระเบิด นกแก้วลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ไม่นานต่อมา มันก็บินกลับมาอีกครั้ง

“ข้าจะไปจนสุดขอบโลกเพื่อความรัก! ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อความรักในฝันของข้า!! ข้าคือผู้คลั่งไคล้อันยิ่งใหญ่ ซึ่งมีแต่อู่เหยียเพียงผู้เดียวเท่านั้น!!”

ขณะที่นกแก้วประกาศเป็นเสียงดังก้อง ที่มันจะทำทุกอย่างเพื่อความรัก อ๋าวเฉี่ยนก็หายตัวไป ปรากฏขึ้นอีกครั้งอยู่ตรงหน้านกแก้ว จับนกแก้วไว้ด้วยอุ้งเท้า บังคับให้มันหุบปาก และจากนั้นก็อ้าปากอันกว้างใหญ่ ส่งเสียงคำรามเพื่อข่มขวัญออกมา เมื่อเทียบกับศีรษะขนาดใหญ่ยักษ์ของอ๋าวเฉี่ยนแล้ว นกแก้วตัวน้อยก็ช่างเล็กกระจ้อยร่อยจนไม่อาจจะเทียบได้

นกแก้วพยายามดิ้นรน แต่แรงกดดันบดขยี้ของขั้นตัดวิญญาณ ก็ทำให้มันต้องตัวนิ่งแข็งในทันที ดวงตาเบิกกว้าง ขณะที่ใบหน้าขนาดใหญ่ของอ๋าวเฉี่ยนเข้ามาใกล้ สำหรับนกแก้ว มันแทบจะมองดูอย่างเคลิบเคลิ้ม จนไม่อาจจะควบคุมความคลั่งไคล้ได้ มันยื่นจงอยปากออกไปและ…จูบอ๋าวเฉี่ยนอย่างแผ่วเบา

อ๋าวเฉี่ยนจ้องมองไปด้วยความประหลาดใจ เมิ่งฮ่าวจ้องไปด้วยความตกตะลึง แม้แต่ผีโต้งก็ยังต้องอ้าปากค้าง

ทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบราวความตาย

ดวงตานกแก้วสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่มันมองไปยังอ๋าวเฉี่ยน “อู่เหยียรักพลังของเจ้า, เสี่ยวไกว้ไกว้” มันกล่าวเสียงดัง “ยิ่งเจ้าแข็งแกร่งมากเท่าใด ยิ่งเจ้าต่อสู้กลับมามากแค่ไหน อู่เหยียก็ยิ่งรักเจ้ามากขึ้นเท่านั้น”

อ๋าวเฉี่ยนเงยหน้าขึ้นร้องคำรามออกมา โทสะของมันบรรลุถึงจุดสูงสุด ดวงตาเปล่งแสงอันดุร้าย ขณะที่มันกัดลงไป ฉีกกระชากนกแก้วออกเป็นชิ้นๆ ไม่นานต่อมา นกแก้วก็ก่อตัวขึ้นมาใหม่ และเริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความไร้ยางอายขึ้นอีกครั้ง

“ข้าจะไปจนสุดขอบโลกเพื่อความรัก!” มันประกาศออกมา “ข้ามีชีวิตอยู่เพื่อความรักในฝันของข้า!! ถึงแม้เจ้าจะสังหารอู่เหยียเป็นพันครั้ง มันก็เหมือนกับการทุบตีเหล็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า! ความรักของข้าที่มีต่อเจ้า…จะคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์!”

อ๋าวเฉี่ยนร้องคำราม พุ่งไปฉีกกระชากนกแก้วให้กลายเป็นชิ้นๆ อีกครั้ง และจากนั้น ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง และอีกครั้ง…

เมิ่งฮ่าวเอามือลูบจมูก และหัวเราะหึๆ ด้วยความขมขื่นออกมา บางครั้งผีโต้งที่อยู่บนไหล่เขา ก็กระทำเช่นเดียวกับเมิ่งฮ่าว มือของมันปรากฏขึ้น และยกขึ้นมาลูบจมูกด้วยเช่นกัน มีสีหน้าเหมือนกับเมิ่งฮ่าวอย่างไม่ผิดเพี้ยน

“ตอนนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่าทำไมถึงทำให้ซานเหยีย ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อจะเปลี่ยนแปลงมัน?” ผีโต้งพูดอย่างเศร้าหมอง มันมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยสีหน้าลึกลับ และกล่าวว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าหมายถึงอะไร…”

“ใช่แล้ว ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว” เมิ่งฮ่าวกล่าวตอบ ถอนหายใจออกมา ในตอนนั้นเอง ที่แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง ขณะที่เขาตระหนักว่าเพิ่งจะทำความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ จริงๆ แล้วเขา…เพิ่งจะเริ่มพูดคุยกับผีโต้ง!

ดวงตาผีโต้งสว่างจ้าขึ้น ความตั้งใจที่จะพูดคุยของมัน ทันใดนั้นก็ถูกปลุกเร้าขึ้นมา

“เจ้าเข้าใจ? เจ้าเข้าใจจริงๆ? อา สวรรค์! เจ้าเข้าใจอย่างแท้จริง! ตอนนี้เจ้าเข้าใจข้าแล้ว! ถ้าเช่นนั้นพวกเรามาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวบางอย่าง ที่เกิดขึ้นเมื่อสามหมื่นปีก่อนกันเถอะ มันช่างมีเรื่องราวมากมายเป็นอย่างยิ่ง ช่างน่าขุ่นเคืองใจนัก! ใช่แล้ว ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องเหล่านั้น พวกเรามาพูดเกี่ยวกับอากาศเมื่อเจ็ดหมื่นปีก่อนกัน…”

ผีโต้งตัวสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มันเริ่มพูดคุย กลายเป็นเสียงหึ่งๆ อยู่ในหูเมิ่งฮ่าว เขามองไปยังการต่อสู้ระหว่างอ๋าวเฉี่ยนและนกแก้ว พร้อมทั้งรับฟังผีโต้งที่ช่างพูด

ทันใดนั้น ความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาในจิตใจเมิ่งฮ่าว ทำให้เขาคิดว่าคงจะใกล้บ้าไปแล้ว บุคคลธรรมดาทั่วไปใดๆ ก็ตาม ถ้ามาใช้เวลาส่วนใหญ่กับนกแก้วและผีโต้ง ก็คงต้องกลายเป็นคนวิกลจริตไปอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกเห็นใจต่อปรมาจารย์ตระกูลหลี่ ที่อยู่ในหน้ากากสีโลหิตขึ้นมาในทันที

เมิ่งฮ่าวถอนหายใจ และพยายามรักษาความเงียบไว้ ไม่กล่าวอะไรออกมา แต่ปล่อยให้ผีโต้งพูดไปอย่างไม่รู้จบ ปล่อยให้นกแก้วปะทะกับอ๋าวเฉี่ยนต่อไป ทุกครั้งที่นกแก้วถูกกระแทกออกไป มันก็จะกลับเข้ามาและกล่าวด้วยคำพูดทั้งหมด ที่เมิ่งฮ่าวได้แต่ต้องทนฟังไปอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดเขาก็เริ่มหนังศีรษะด้านชา

และด้วยเช่นนั้นจึงทำให้มีความรู้สึกว่า เวลาได้ผ่านไปอย่างแสนจะเชื่องช้าเป็นอย่างยิ่ง…

ครึ่งวันต่อมา ขณะที่นกแก้วกำลังโอ้โลมอ๋าวเฉี่ยนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอ๋าวเฉี่ยนก็ปฏิเสธไปด้วยความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา วิหารเผ่าเทียนฉงก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า

วิหารนั้นเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างเหมือนขวดน้ำเต้า ดูคล้ายกับเป็นขวดน้ำเต้าศิลาขนาดยักษ์ ซึ่งถูกนำมาวางอยู่บนพื้นดิน รอบๆ ภูเขาดูว่างเปล่าแห้งแล้ง ทางเข้าเพียงแห่งเดียว อยู่ที่ด้านบนสุดของภูเขา ตรงปากขวดน้ำเต้า

เมื่อได้เห็นภูเขาขวดน้ำเต้า ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกถึงความโล่งใจอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ พุ่งตรงไปยังปากขวดน้ำเต้า ขณะที่เข้าไปใกล้ ก็รับรู้ได้ถึงเวทป้องกันที่แข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อปากขวดน้ำเต้าคล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ และมีความกว้างประมาณหนึ่งร้อยจ้าง

มองเห็นสัญลักษณ์เวทมากมาย ลอยไปมาทั่วทางเข้านั้น อยู่ในกลางอากาศ ป้องกันไม่ให้สิ่งใดๆ ผ่านรอดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นตัวคน หรือกระแสแห่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ อย่างน่าตกใจ ตรงปากขวดน้ำเต้านั้นมีภาพลวงตาที่ดูเลือนลาง ซึ่งเมิ่งฮ่าวมองเห็นเป็นโลกอื่นอยู่

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version