Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 700

ตอนที่ 700

ปรมาจารย์หกเต๋า

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวใช้เวทกลืนภูเขา เพื่อเรียกภาพของขุนเขาที่เก้ามา ไกลออกไปในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ที่ด้านนอกของดาวหนานเทียน ขุนเขาที่เก้าอันโอ่อ่าเกรียงไกรอย่างไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ก็สั่นสะท้านขึ้นในทันใด

ตามมาด้วยแรงสั่นสะเทือนนั้น เป็นเจตจำนงแห่งภูเขา ราวกับว่าเพื่อตอบรับกับเสียงเรียกอันลึกลับ เจตจำนงนั้นก็เข้าไปใกล้กับดาวหนานเทียน และตกลงไปในฝ่ามือของเมิ่งฮ่าว ซึ่งภาพของขุนเขาที่เก้าได้ขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วที่ด้านบน

มันเป็นเพียงแค่เจตจำนงอันเล็กน้อยเท่านั้น แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวและวิญญาณไร้ร่างที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น ก็รู้สึกว่าน่าตื่นตระหนกอย่างถึงที่สุด

ความประหลาดใจของวิญญาณไร้ร่าง พุ่งขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด

“ภาพสะท้อน!!”

“มัน…ก่อให้เกิดเป็นภาพสะท้อนของขุนเขาที่เก้าได้อย่างแท้จริง!!”

วิญญาณไร้ร่างสั่นสะท้าน และดวงตาเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรอื่นนอกจากเป็นความว่างเปล่า ทันใดนั้นเขาก็โบกสะบัดมือขวา และขุนเขาที่เก้าในมือก็พุ่งตรงไป

ขณะที่มันกดทับลงไปบนวิญญาณไร้ร่างที่เรียกตนเองว่าเป็นดวงจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณไร้ร่างนั้นก็ต่อสู้กลับมาด้วยพลังทั้งหมดที่มันสามารถรวบรวมขึ้นมาได้ ร่างสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นล้อมรอบตัวมัน และพุ่งตรงไปขัดขวางภูเขา

ปัง!

ร่างสวรรค์พังทลายลง และวิญญาณไร้ร่างดวงจันทร์ศักดิ์สิทธิ์ก็ส่งเสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังออกมา ขณะที่ขุนเขาที่เก้ากระแทกเข้าไป ทำลายร่างทั้งหมดของมันไปโดยสิ้นเชิง…

จากนั้นขุนเขาที่เก้าก็กระแทกเข้าไปในกระแสน้ำวนขนาดใหญ่ ทำให้แตกกระจายออกไป ราวกับว่าภูเขานั้นไม่อาจจะหยุดได้ สามวิญญาณไร้ร่างอื่นๆ ที่อยู่บนแท่นบูชา ต่างก็หลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว แต่พวกมันก็ช้าเกินไปสำหรับขุนเขาที่เก้า

ท่ามกลางเสียงกระหึ่ม หนึ่งในสามวิญญาณหลบหนีไปทางด้านข้าง อีกสองส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าสังเวชออกมา พวกมันปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์และอาวุธเวททั้งหมดออกมา แต่สุดท้าย…พวกมันก็ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง

ในตอนนี้ เมิ่งฮ่าวมีสีหน้าซีดขาว กระอักโลหิตออกมา ขุนเขาที่เก้าเริ่มจางหายไปอย่างช้าๆ

ขณะที่ขุนเขาที่เก้าหายไป ความเหนื่อยล้าก็พุ่งขึ้นมาเต็มร่างเมิ่งฮ่าว เขาไม่เคยจะคาดคิดว่าภาพของขุนเขาที่เก้าจะมีพลังอย่างน่าตกใจเช่นนี้มาก่อน เมื่อครู่นี้เขาได้ใช้ให้มันต่อต้านกับค้นหาเต๋า!

โชคร้ายที่การจ่ายค่าตอบแทนสำหรับการใช้วิชานี้ เป็นสิ่งที่พื้นฐานฝึกตนของเขาไม่อาจจะจัดการได้ ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะมีวิญญาณที่ประกอบด้วยเจตจำนงที่ไม่มีวันตายไป แต่พลังที่สะท้อนกลับมาก็ยังคงทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอยู่ดี ตอนนี้เขารู้ว่าถ้าใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นเวลานานมากเกินไป ก็จะทำให้วิญญาณเหี่ยวแห้งลงไปได้!

สำหรับวิญญาณไร้ร่างที่หนีรอดไปได้ ตอนนี้มันกำลังหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว จนแทบจะใกล้บ้าไปแล้วโดยสิ้นเชิง มันรู้สึกขวัญหนีดีฝ่ออันเนื่องมาจากเมิ่งฮ่าว

เมิ่งฮ่าวไม่สนใจมันโดยสิ้นเชิง ขณะที่ก้าวตรงไปบนแท่นบูชา ยกมือขวาขึ้น และกำลังจะคว้าจับไปที่ลูกผลึก แต่ทันใดนั้น มือที่ผอมแห้งก็ปรากฏออกมาจากที่ไหนสักแห่ง มาอยู่ที่ตรงหน้าเขา

มันชี้นิ้วมาที่เขา และขณะที่ทำเช่นนั้น เมิ่งฮ่าวก็มองเห็นความเก่าแก่โบราณอย่างน่าเหลือเชื่อ กระจายออกมาจากนิ้วและเล็บนิ้วที่เป็นสีเหลืองเข้มของมัน

นิ้วนั้นไม่ได้ส่งระลอกคลื่นใดๆ ออกมา และไม่ได้กระจายพลังแห่งสวรรค์และปฐพีใดๆ ออกมาด้วยเช่นกัน แต่ก็ทำให้เมิ่งฮ่าวรู้สึกได้ถึงเต๋าอันยิ่งใหญ่ แทบจะคล้ายกับเป็นกฎธรรมชาติแห่งสวรรค์และปฐพี

เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะหลบหลีกหรือเลี่ยงพ้น ได้แต่มองไปขณะที่นิ้วนั้นมาแตะที่หน้าอกเขาอย่างแผ่วเบา

จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระหึ่มอย่างน่าเหลือเชื่อ และโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก หมุนคว้างขึ้นไปในอากาศอย่างรุนแรง ราวกับว่าเขาถูกส่งออกไปด้วยระเบิดขนาดใหญ่ กระแทกเข้าไปยังหนึ่งในวิหารขนาดใหญ่ ซึ่งจากนั้นก็แตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ ไม่อาจจะรองรับพลังที่เมิ่งฮ่าวกระแทกเข้าไปได้

เขาพุ่งผ่านวิหารที่พังทลายลงไป และจากนั้นก็กระแทกเข้าไปที่หลังคาของถ้ำที่อยู่ด้านบน พื้นดินสั่นสะเทือนและเสียงกระหึ่มก็ดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง แผ่นดินแยกออก และเมิ่งฮ่าวก็พุ่งขึ้นไปในอากาศเหนือสำนักชิงหลัว แทบจะราวกับว่าเขากำลังพุ่งผ่านความมืดมิดของหยิน เข้าไปสู่ความสว่างเจิดจ้าของหยาง เมื่อเขาพุ่งไปจนสุดวงโคจร ในที่สุดหน้าอกเขาก็ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มเมฆโลหิต

ทันใดนั้น วิญญาณที่ไม่มีวันตายไปของเขาและอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ก็มีปฏิกิริยาพุ่งขึ้นมา ทำให้บาดแผลเริ่มถูกรักษาในทันที แต่ถึงแม้ว่าหลังจากที่รักษาไปแล้ว มันก็ระเบิดออกอีกครั้ง กลายเป็นวงจรอันชั่วร้าย เมิ่งฮ่าวกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งชุดยาวสีเขียวของเขาได้กลายเป็นสีม่วงไป

ที่ด้านล่าง ศิษย์สำนักชิงหลัวมองมาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงไอก็ได้ยินมาจากส่วนลึกภายในพื้นดิน

กลุ่มหมอกสีดำเริ่มพุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง จากนั้นก็ปกคลุมไปทั่วทั้งสำนักชิงหลัว

เสียงไอนั้นเริ่มดังมากขึ้น ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังเซถลาออกมาจากภายในส่วนลึกของพื้นดิน

ทันใดนั้นเสียงเก่าแก่โบราณก็ได้ยินมา “เหล่าฟูเพิ่งจะหลับไปแค่ไม่นาน และเจ้าก็มาทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น!”

ชายชราที่ผอมแห้งปรากฏขึ้น สวมใส่ชุดยาวและหมวกสีดำ หน้าตามันเหี่ยวย่นและดูเก่าแก่โบราณ ซีดขาวจนน่าตกใจ ดวงตาว่างเปล่าดูเหม่อลอย และทั่วทั้งร่างก็กระจายกลิ่นอายแห่งความตายออกมา แทบจะดูคล้ายกับเป็นผีดิบ

ขณะที่มันเดินออกมา ทุกสรรพสิ่งรอบๆ ร่างมันหนาวเย็นจนถูกแช่แข็งไป และเกล็ดหิมะสีดำก็เริ่มลอยไปมา

เมื่อผู้ฝึกตนตัดวิญญาณครั้งที่สามมองเห็นชายชราที่คล้ายกับผีดิบปรากฏตัวขึ้น มันเริ่มสั่นสะท้านและมีเหงื่อไหลออกมาในทันที โดยไม่แม้แต่จะต้องขบคิด มันคุกเข่าลงไปและโขกศีรษะให้ “ผู้เยาว์ขอแสดงความคารวะ ท่านปรมาจารย์หกเต๋า!”

ในเวลาเดียวกันนั้น วิญญาณไร้ร่างที่รอดชีวิตมาจากการโจมตีของเมิ่งฮ่าวก่อนหน้านี้ ก็บินออกมาพร้อมกับอาการสั่นสะท้านในทันที มันคุกเข่าลงไปและโขกศีรษะด้วยเช่นเดียวกัน

“ผู้เยาว์ของแสดงความคารวะ ท่านปรมาจารย์หกเต๋า!”

ย้อนกลับไปยังชั้นใต้ดิน วิญญาณไร้ร่างทั้งหมดนับไม่ถ้วน ต่างก็คุกเข่าลงไปโขกศีรษะ ใบหน้าพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและสะพรึงกลัว ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงแสดงความเคารพของพวกมันก็ดังก้องออกมา สำหรับศิษย์สำนักชิงหลัวที่กำลังยืนอยู่บนพื้น ร่างพวกมันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจจะควบคุมตัวเองไว้ได้ ถึงแม้พวกมันจะไม่รู้ว่าชายชราผู้นี้คือใคร แต่กระนั้นพวกมันก็ยังคุกเข่าโขกศีรษะด้วยเช่นกัน

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวน่าเกลียดอย่างถึงที่สุด และรับรู้ได้ว่าบาดแผลที่หน้าอกกำลังต่อสู้กับอาณาจักรความเป็นนิรันดร์ของเขาอย่างต่อเนื่อง เขาจ้องนิ่งไปยังชายชราชั่วครู่ ก่อนที่จะตระหนักว่าพื้นฐานฝึกตนของมัน…

อยู่ในขั้นสูงสุดของค้นหาเต๋า!

เมิ่งฮ่าวยังบอกได้อีกด้วยว่า ชายชราผู้นี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งกว่าปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังอยู่เล็กน้อย

นี่ก็คือผู้พิทักษ์เต๋าแห่งสำนักใหญ่ ทั้งห้าสำนักใหญ่หรือสามตระกูลดังในดินแดนด้านใต้ ต่างก็มีผู้พิทักษ์เต๋าเช่นเดียวกันนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะเช่นนั้น แล้วพวกมันจะส่งมอบมรดกตกทอดมานานนับหมื่นปีได้อย่างไรกัน?

ชายชราไอออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นมือออกไปทำท่าคล้ายกรงเล็บตรงไปยังพื้นดิน แม่น้ำสีขุ่นข้นที่ใต้ดินทันใดนั้นก็พลุ่งพล่านปั่นป่วน และจากนั้นก็ลอยขึ้นมาบนพื้น ขณะที่เป็นเช่นนั้น มันก็หดเล็กลงจนกระทั่งสามารถหมุนวนอยู่ในอากาศรอบๆ ร่างชายชรา

ในเวลาเดียวกันนั้น ชายชราก็ชี้นิ้วตรงไปยังกระถางธูปบนยอดเขาแรก ทำให้กระถางสั่นไปมา และจากนั้นก็ลอยผ่านอากาศตรงมาที่มัน กระถางธูปหดเล็กลงจนกระทั่งมีขนาดเท่ากำปั้น และจากนั้นก็เปิดออก หลังจากที่แม่น้ำสีขุ่นข้นไหลเข้าไป ในที่สุดกระถางธูปก็ไปหยุดอยู่บนฝ่ามือของชายชรา

ตอนนี้มันไม่ได้ดูคล้ายกับกระถางธูปอีกต่อไป แต่กลายเป็นขวดน้ำเต้าสุรา

ชายชรายกขวดน้ำเต้าขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากมัน และจิบดื่มไปเล็กน้อย จากนั้นดวงตามันก็สาดประกายด้วยแสงแปลกๆ มองไปยังเมิ่งฮ่าว

“เจ้ามีพื้นฐานฝึกตนที่ค่อนข้างดี ถ้าไม่ใช่มีเหล่าฟูอยู่ พื้นฐานนับหมื่นปีของสำนักชิงหลัวก็คงจะถูกทำลายลงไปอย่างแท้จริง” จากนั้นชายชราก็ชี้นิ้วตรงไปยังพื้นดิน ทำให้ลูกผลึกที่มีวิญญาณของสวี่ชิงลอยออกมา มันใช้สองนิ้วจับไว้ “เจ้าต้องการนาง?”

กลุ่มหมอกสีดำจากมือชายชรา หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ลูกผลึก กลายเป็นวิญญาณอันชั่วร้าย เพ่งมองเข้าไปในลูกผลึกด้วยความโลภอยากได้ ราวกับว่าพวกมันต้องการจะพุ่งเข้าไปที่ด้านใน

วิญญาณสวี่ชิงทันใดนั้นก็เริ่มสั่นสะท้าน ราวกับว่ากำลังตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างรุนแรง

จิตใจเมิ่งฮ่าวก็เริ่มสั่นสะท้านไปด้วยเช่นเดียวกัน

“เหล่าฟูรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมของการกำเนิดใหม่” ชายชรากล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง “ศิษย์และทายาทต้องกลั่นสกัดนางให้เหล่าฟู นางเป็นอะไรกับเจ้า? คนรักของเจ้า?”

เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังชายชรา แต่ก็ไม่กล่าวตอบ ความเจ็บปวดเสียดแทงผ่านเข้าไปในจิตใจ และทั่วทั้งร่างก็เริ่มสั่นสะท้าน

“จะไม่กล่าวอะไรบ้าง?” ชายชราบีบนิ้วลงไปเบาๆ เสียงแตกร้าวก็ได้ยินมา ขณะที่รอยแตกปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของลูกผลึก

“นางเป็นคนรักของข้า!” เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และจ้องมองไปยังชายชราต่อไป

“ถ้าเช่นนั้นก็เป็นเรื่องสมควรที่เจ้าจะมา” ชายชรากล่าวเสียงราบเรียบ กลิ่นอายแห่งความตายรอบๆ ร่างมันเริ่มเข้มข้นมากขึ้น “ถ้าเจ้าไม่แสดงตัวขึ้น วิญญาณของนางก็จะกลายเป็นอาหารของเหล่าฟู และร่างนางก็จะถูกกลั่นสกัดเป็นเม็ดยาเพื่อกลายเป็นหนึ่งในสิ่งที่เหล่าฟูรวบรวมเก็บไว้”

ตอนนี้ ท้องฟ้าได้มืดสนิทไปโดยสิ้นเชิง และดวงจันทร์กำลังโผล่ขึ้นมา ขณะที่แสงของมันสาดส่องลงมา ชายชราก็มองขึ้นไปชั่วขณะ จากนั้นก็ทำให้กลุ่มหมอกสีดำไปปกคลุมมันไว้

“โชคร้ายที่การมายังที่นี่ของเจ้ามันไร้ประโยชน์ แต่ถึงกระนั้นเหล่าฟูก็จะให้โอกาสเจ้า” ดวงตาที่หมองมัวของมันเริ่มส่องประกายด้วยแสงแปลกๆ “ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวทที่ดีที่สุดของเจ้าพุ่งเข้ามา ถ้าเจ้าสามารถทำให้หนึ่งในพวกมันโจมตีเหล่าฟูได้ เหล่าฟูก็จะให้เจ้าจากไปพร้อมกับวิญญาณของนาง เจ้าคิดว่าอย่างไร?”

เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปยังปรมาจารย์ที่แท้จริงของสำนักชิงหลัวผู้นี้ มันเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งมากที่สุดในสำนักนี้ ภายในใจเขายิ้มอย่างขมขื่นออกมา อันที่จริงเขาก็รู้ดีก่อนที่จะมายังที่นี่ว่า เรื่องราวคงจะไม่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องมาอยู่ดี

ถ้าไม่มาก็จะเป็นการล่วงละเมิดเต๋าของตนเอง!

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็มาโดยที่ไม่ตั้งใจจะจากไป!

“ท่านอยู่ ข้าอยู่, ท่านตาย ข้าตาย…นี่ก็คือคำสัญญา” เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และจากนั้นก็ยกมือขึ้น ในดวงตาข้างซ้าย แสงเจิดจ้าคล้ายกับยามกลางวันค่อยๆ ปรากฏขึ้น ในดวงตาข้างขวามองเห็นความมืดที่คล้ายกับเป็นยามราตรี

นี่ก็คือความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมากที่สุดของเขา ซึ่งได้รับมาหลังจากที่รู้แจ้งเกี่ยวกับความมืดและแสงสว่างจากชายชราในชุดเกราะบนเรือยมโลก

ในมือขวา กลุ่มหมอกสีดำปรากฏขึ้น ตามมาด้วยกลุ่มหมอกสีขาว

ทันทีที่สองกระแสแห่งหมอกปรากฏขึ้น ปรมาจารย์หกเต๋าของสำนักชิงหลัวก็จ้องมองไปด้วยความตกตะลึงกล่าวว่า

“มันคือ…”

เหตุผลที่มันไม่ได้สังหารเมิ่งฮ่าวไปในทันที เป็นเพราะว่ามันรู้สึกได้ถึงโชควาสนาบางอย่างบนร่างเขา เพื่อพิจารณาถึงระดับพื้นฐานฝึกตนของปรมาจารย์หกเต๋า ก็ทำให้มันรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่มีทั้งอันตรายและโชควาสนาอยู่รวมกัน

ตอนนี้มันกำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าว เหมือนกับที่ปรมาจารย์รุ่นสิบตระกูลหวังได้มองมายังเมิ่งฮ่าวเพราะพื้นฐานสมบูรณ์ของเขา มันรู้สึกได้อย่างเลือนลางว่าเมิ่งฮ่าวมีบางสิ่งที่อาจจะถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อโชควาสนาอันยิ่งใหญ่

รอยยิ้มที่แข็งทื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของปรมาจารย์หกเต๋า ดวงตามันแวบขึ้นขณะที่มองดูกลุ่มหมอกสีดำและขาวที่เริ่มหนาแน่นมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งในที่สุดพวกมันก็ก่อตัวขึ้นมาเป็นไข่มุกสองลูก

ไข่มุกสีดำ!

ไข่มุกสีขาว!

ทันทีที่สองไข่มุกปรากฏขึ้น ม่านตาของปรมาจารย์หกเต๋าก็หดเล็กลง ถึงแม้ว่าจะด้วยระดับพื้นฐานฝึกตน และระดับพลังของมัน ก็ยังคงทำให้ใบหน้ามันเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“นี่ก็คือ…เต๋า!”

“มันไม่ใช่เต๋าธรรมดา แต่ไข่มุกดำและขาวนี้ก็ทำให้เหล่าฟูรู้สึกได้ถึงสิ่งที่ไร้ขอบเขต ราวกับว่าพวกมันประกอบด้วย…”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวแวบขึ้น และทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือขวาออกไป อันที่จริงเขาไม่รู้ว่าจะใช้สองไข่มุกนี้ได้อย่างไร แต่คิดว่าพวกมันต้องเป็นวิชาเวทที่ทรงพลังมากที่สุดของเขาอย่างแน่นอน

ขณะที่เขาโบกสะบัดมือ ไข่มุกทั้งสองก็กลายเป็นลำแสงสองสาย หนึ่งดำ หนึ่งขาว พุ่งตรงไปยังปรมาจารย์หกเต๋า

ในทันใดนั้นเอง ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปในทันที ทั่วทั้งโลกแห่งนี้กลายเป็นสีดำและสีขาว ไม่มีสีที่สามคงอยู่อีกต่อไป!

“เต๋าสวรรค์!”

“นี่ก็คือเต๋าสวรรค์ ไม่ใช่เต๋าสวรรค์แห่งขุนเขาที่เก้า แต่มาจากเต๋าสวรรค์แห่งด้านนอกของจิ่วต้าซานไห่!! (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่)”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version