ตอนที่ 765
ภัยพิบัติปีที่เจ็ด!
ชนเผ่าอันยิ่งใหญ่ในดินแดนสีดำ ต่างก็มุ่งความสนใจไปที่ดินแดนด้านใต้ในตอนนี้ เรื่องที่สี่กองกำลังพันธมิตรโอบล้อมสำนักเซี่ยเยา และเหตุการณ์ต่อมาที่สำนักเซี่ยเยารวมดินแดนด้านใต้จนกลายเป็นหนึ่งเดียว พวกมันต่างก็รับรู้กันไปทั่ว
เมื่อชื่อเสียงของเมิ่งฮ่าวโด่งดังขึ้น เผ่าจินอู (อีกาทองคำ) ในดินแดนสีดำรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ เมื่อข่าวงานวิวาห์อันยิ่งใหญ่ของเมิ่งฮ่าวมาถึง หัวหน้าเผ่าก็นำสมาชิกของชนเผ่าบางคนออกมาจากดินแดนสีดำด้วยตนเอง เพื่อเดินทางไปเข้าร่วมงานพิธีและส่งมอบของขวัญวันวิวาห์
เผ่าอันยิ่งใหญ่อื่นๆ ต่างก็กระทำเช่นเดียวกัน
สุดท้ายวิหารจินกวง (แสงสีทอง) ก็ร้องตะโกนคำขวัญของพวกมัน ขณะที่วิ่งตรงมายังดินแดนด้านใต้ พร้อมด้วยกลุ่มหมอกที่ม้วนตัวไปมาปกคลุมไปทั่ว
เวลาเดียวกันนั้น ในคฤหาสน์ตระกูลฟางแห่งดินแดนตะวันออก ที่เป็นหอสูง ซึ่งดูคล้ายกับเป็นเจดีย์แห่งถัง ถึงแม้ว่ามันจะมีความสูงเพียงแค่สิบจ้างเท่านั้น
แต่ก็เป็นความสูงสิบจ้างที่สูงกว่าเจดีย์แห่งถังใดๆ ในดินแดนด้านใต้
ภายในเจดีย์ยืนไว้ด้วยบุรุษและสตรี ซึ่งอยู่ในท่ามกลางการโต้เถียงที่ดุร้าย หยดน้ำตาไหลลงมาจากใบหน้าของสตรี ขณะที่นางมองออกไปยังทิศทางของ…ดินแดนด้านใต้ และเมิ่งฮ่าว
“พวกเราจากมันมา ก่อนที่มันจะมีอายุครบเจ็ดขวบ…มันต้องเผชิญกับอันตรายอันร้ายแรงมากมายหลายครั้งในดินแดนด้านใต้ และพวกเราก็ไม่ได้ไปช่วยมันเลย พวกเราไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้มัน…ข้าไม่ควรจะไปดูมันที่ตระกูลซ่ง แต่…มันคือบุตรชายข้า! มันเป็นบุตรชายของพวกเรา!”
“พื้นฐานเต๋าของมันถูกขโมยไปในทะเลเทียนเหอ และข้าก็รู้ว่าพวกเราไม่ควรจะไปช่วยมัน แต่นั่นก็ไม่อาจจะทำให้ความเจ็บปวดราวถูกแทงอยู่ในใจข้าต้องบรรเทาลงไปแม้แต่น้อย จากนั้นสวี่ชิงก็ยอมตายเพื่อมันในถ้ำกำเนิดใหม่ ข้าเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่าง! ข้าชอบเด็กหญิงนั้น…”
“ตอนนี้ มันกำลังจะแต่งงาน และข้าก็ต้องไป!” สตรีนางนั้นมองไปยังบุรุษ ดวงตาแวบขึ้นด้วยความมุ่งมั่น
บุรุษสั่นสะท้าน และความเศร้าเสียใจก็เต็มอยู่ในดวงตา จิตใจมันก็รู้สึกเจ็บปวดราวถูกแทงเช่นเดียวกัน แต่ก็ไม่มีอะไรที่มันสามารถจะทำได้นอกจากอดทนต่อไป และฝากความหวังทั้งหมดไว้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“อดทนอีกไม่นาน ลี่ลี่” บุรุษผู้นั้นพึมพำ ร่างสั่นสะท้าน คว้าจับเสาที่อยู่ด้านข้างไว้จนกระทั่งนิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีขาว “ท่านไม่อาจจะอดทนได้อีกสักเล็กน้อย…? พวกเรายอมทุกข์ยากลำบากนับไม่ถ้วนเพื่อนำมันมายังที่แห่งนี้ ทำให้มันมีโอกาสรอดชีวิต เมื่อไหร่ที่มันบรรลุถึงขั้นค้นหาเต๋า อันตรายต่างๆ ก็จะผ่านไป”
“แค่อดทนต่ออีกไม่นาน วันที่มันผ่านเข้าไปในขั้นค้นหาเต๋า พวกเราจะไปด้วยกัน พวกเราจะไปอธิบายเรื่องทั้งหมดด้วยกัน!” ความรักอันลึกล้ำมองเห็นได้ในดวงตาของบุรุษ ขณะที่มันมองออกไปยังที่ห่างไกล
“พวกเราไม่อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดใดๆ ขึ้น” มันกล่าวต่อ “ถ้าพวกเราล้มเหลวในครั้งนี้…ลี่ลี่, ชีวิตที่สี่ ภัยพิบัติปีที่เจ็ด ท่านจะแบกรับความเจ็บปวดเช่นนั้นได้อีกครั้งจริงๆ?”
“ข้าคือบิดาของมัน และมันก็คือบุตรของพวกเรา เพื่อมันแล้ว เราทั้งสองได้ให้คำสาบานแห่งเต๋าว่าจะคอยเฝ้าพิทักษ์ประตูแห่งดาวหนานเทียนเป็นเวลาหนึ่งแสนปี และจะไม่ก้าวเท้าออกจากดาวหนานเทียนตลอดไป ทั้งหมดนี้ก็เพื่อโอกาสเดียวนี้เท่านั้น แค่อดทนรออีกไม่นาน…” บุรุษหลับตาลง เพื่อบุตรชายแล้ว มันยินดีเสียสละชีวิตตนเอง ทุกสิ่งทุกอย่างของมัน
“ภัยพิบัติปีที่เจ็ด…” หยดน้ำตาไหลลงมาบนใบหน้าของสตรีนางนั้น ขณะที่นางหวนรำลึกถึงความทรงจำอันขมขื่นเมื่อในอดีตที่ผ่านมา “แต่ได้ผ่านไปแล้วนานหลายปี…”
“ตัดวิญญาณทำให้จิตวิญญาณมั่นคง และค้นหาเต๋าก็ทำให้โลหิตสงบลง” บุรุษพึมพำ ยากที่จะบอกได้ว่ามันกำลังพูดกับสตรีนางนั้น หรือกล่าวกับตนเองอยู่ “ทุกวันก่อนค้นหาเต๋าก็คืออีกวันแห่งภัยพิบัติปีที่เจ็ด…ไม่อาจจะลบล้างไปได้ ร่างกายของมันอยู่ในขั้นค้นหาเต๋าแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมดก็คือพื้นฐานฝึกตนของมัน…อีกไม่ช้า วันนั้นก็จะมาถึง…อีกไม่ช้า”
วันวิวาห์ใกล้เข้ามาแล้ว พิธีจะถูกจัดขึ้นในอีกแค่ห้าวันนับจากนี้ ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือมากกว่าหนึ่งล้านคน ได้มารวมตัวกันอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลเทียนเหอ
สัตว์อสูรอันดุร้าย, วิญญาณที่ชั่วร้าย, ผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลัง…ทั้งหมดนี้กลายเป็นสิ่งที่คล้ายกับเป็นลมพายุ ที่สามารถม้วนกวาดไปทั่วยังทุกสรรพสิ่งได้อย่างน่าประหลาดใจ
ปรมาจารย์ค้นหาเต๋าจากตระกูล, ชนเผ่า และสำนักต่างๆ บินขึ้นไปในอากาศ สิบเอ็ดเงาร่างที่น่าประหลาดใจ จ้องมองออกไปยังทะเลเทียนเหอ ตรงไปยังดินแดนด้านใต้ที่อยู่ห่างไกลออกไปในเส้นขอบฟ้า
“โอกาสแห่งการกลายเป็นเซียน อยู่ในดินแดนด้านใต้!”
“ดินแดนด้านใต้เพิ่งจะเผชิญหน้ากับโชคชะตาอันเลวร้าย พวกมันอ่อนแอมากที่สุดแล้วในตอนนี้ และคงจะคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะไปปรากฏกายขึ้น!”
“นี่คือโอกาสที่หาได้ยากเย็นยิ่ง!”
“ในสงครามครั้งนี้ พวกเราต้องกำจัดผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋า, ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณของพวกมันไป กวาดล้างขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งให้หมดสิ้น! สำหรับขั้นสร้างแกนลมปราณ พวกมันไม่มีความหมายใดๆ”
“ทำให้รากฐานพวกมันแตกกระจายไป ตัดโอกาสการกลายเป็นเซียนของพวกมัน และจากนั้นพวกเราก็จะสามารถครอบครองดินแดนด้านใต้! พวกเราจะได้รับความรู้แจ้งเกี่ยวกับโชคชะตาแห่งเซียน และพวกเราก็จะสามารถกลายเป็นเซียน!”
“สงครามนี้ พวกเรา, กองกำลังพันธมิตรแห่งดินแดนทางเหนือ ด้วยความช่วยเหลือของดอกปี่อ้าน จะต้องยึดครองทุกสรรพสิ่งได้อย่างแน่นอน!”
“โจมตีให้รวดเร็วและรุนแรง! อย่าเปิดโอกาสให้ดินแดนตะวันออกสอดมือเข้ามาได้!”
ผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าทั้งสิบเอ็ดคนเหล่านี้ ต่างก็สวมใส่เสื้อผ้าที่ตกแต่งด้วยเครื่องประดับที่แตกต่างกัน บางคนก็เต็มไปด้วยรอยสัก บางคนก็ประดับตกแต่งด้วยกระดูกที่เรืองแสงสีดำออกมา บางคนก็สวมใส่ชุดนักพรต อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดต่างก็มีพลังอันน่าเหลือเชื่อทั้งสิ้น
พวกมันลอยตัวอยู่กลางอากาศ มองออกไปยังทะเลเทียนเหอ ทันใดนั้น เสียงกระหึ่มกึกก้องก็ดังเต็มอยู่ในอากาศ ไม่มีสายลมแต่คลื่นขนาดใหญ่ก็ยังคงม้วนตัวออกไปทั่วทั้งท้องทะเล
วงแหวนที่สอง, วงแหวนที่สาม, วงแหวนที่สี่ แห่งทะเลเทียนเหอ อาณาเขตทั้งหมดในทะเลด้านนอกของวงแหวนด้านใน ต่างก็เต็มไปด้วยคลื่นขนาดใหญ่ ศิษย์ของสามสำนักอันยิ่งใหญ่ในวงแหวนที่สาม ต่างก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจโดยสิ้นเชิง
ผู้ฝึกตนที่อาศัยอยู่บนเกาะต่างๆ ในทะเลเทียนเหอ ได้ยินเสียงกระหึ่มกึกก้องนั้น ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน
นี่ไม่ใช่เสียงกระหึ่มธรรมดาทั่วไปของทะเล แต่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการฆ่าฟันอันน่ากลัว น้ำทะเลพุ่งขึ้นไป ราวกับว่าสิ่งมีชีวิตอันใหญ่โต กำลังพยายามจะลุกขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเล!
ขณะที่คนทั้งหมดมองไปรอบๆ ด้วยความประหลาดใจ ลึกลงไปในซอกหลืบที่ดำมืดของวงแหวนที่สอง ดอกปี่อ้านขนาดใหญ่มโหฬารกำลังส่ายไหวไปมาราวกับบ้าคลั่ง นี่คือ…แหล่งกำเนิดของเสียงกระหึ่มที่เต็มอยู่ในทะเลเทียนเหอนี้
เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ดอกปี่อ้านยักษ์จู่ๆ ก็เริ่มขยายขนาดใหญ่โตขึ้นจนแทบจะไร้ขีดจำกัด เพียงแค่สิบลมหายใจ กิ่งก้านจำนวนมากมายของมัน แต่ละก้านมีความหนาถึงสิบจ้าง พุ่งออกมาจากภายในวงแหวนที่สอง น้ำทะเลไหลลงมา ขณะที่พวกมันพุ่งขึ้นไปเหนือทะเล
กิ่งก้านเหล่านั้นกระจายกลิ่นอายอันน่าตกใจออกมา ขณะที่พวกมันพุ่งผ่านอากาศไป ในเวลาเดียวกันนั้น กิ่งก้านขนาดเล็กมากมายนับไม่ถ้วนก็กระจายออกไปตามพื้นทะเล เมื่อพวกมันไปถึงน้ำทะเลในเขตวงแหวนที่สาม ก็พุ่งขึ้นไปในอากาศเช่นเดียวกัน
กิ่งก้านมากมายกระจายออกไป แทงทะลุเข้าไปในกำแพงลมพายุ ที่แบ่งแยกวงแหวนที่สามและวงแหวนที่สี่
ถ้าไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้นไปในท้องฟ้า ซึ่งมองเห็นทะเลเทียนเหอได้ทั้งหมด ก็จะเห็นว่ากิ่งก้านมากกว่าแสน กำลังกระจายออกไป ราวกับว่า…มีสิ่งที่น่าหวาดกลัวซุกซ่อนอยู่ใต้น้ำทะเลในตอนนี้
แน่นอนว่า มันไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นดอกปี่อ้าน!
ดอกปี่อ้านขยายขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งในที่สุด ก็เป็นที่ประหลาดใจต่อผู้ฝึกตนทั้งหมด มันพุ่งขึ้นมาจากน้ำ กิ่งก้านรวมตัวถักทอเข้าด้วยกัน
ก่อตัวเป็น…สะพาน!
มันเป็นสะพานที่ด้านหนึ่งก่อตัวขึ้นมาจากกิ่งก้านห้าหมื่นก้าน มีความยาวมากกว่าสามพันหลี่ อย่างน่าตกใจยิ่งที่สะพานส่วนนี้อยู่ใกล้กับดินแดนด้านใต้ แต่ก็ไม่ได้ไปอยู่ติดกับพื้นชายหาด
อีกด้านของสะพานโค้งออกไปเชื่อมต่อกับดินแดนทางเหนือ!
ตรงจุดกึ่งกลางของสะพานทั้งสองด้านเป็นดอกปี่อ้านยักษ์ ที่ใหญ่โตจนแทบจะมองไม่เห็นอีกด้านได้ น้ำทะเลจำนวนมากมายมหาศาลไหลลงมา ขณะที่มันลอยตัวขึ้นไป
ภาพที่เห็นนี้ช่างน่าตกใจและประหลาดใจอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาได้ ดอกไม้ยักษ์พุ่งขึ้นมาเพื่อก่อตัวเป็นสะพานด้วยกิ่งก้านและใบของมัน เป็นสะพานที่เชื่อมต่อสองทวีปอันยิ่งใหญ่เข้าด้วยกัน!
ความยากลำบากมากที่สุดในการทำสงครามระหว่างสองอาณาเขตนี้ก็คือ ปัญหาของการเคลื่อนย้ายกำลังพล แต่ตอนนี้ ปัญหานั้นได้ถูกแก้ไขแล้ว และสงครามใหญ่ก็อาจจะเริ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ
เสียงกระหึ่มกึกก้องดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่สะพานดอกปี่อ้านปรากฏขึ้น ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือมากกว่าหนึ่งล้านคนเงยหน้าขึ้นส่งเสียงกู่ร้องออกมา สิบเอ็ดผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าโบกสะบัดมือ และเหล่าผู้ฝึกตนก็มุ่งหน้าตรงไปยังสะพานดอกปี่อ้าน
วิญญาณปีศาจร้ายอยู่ด้านหลังผู้ฝึกตน ตามมาด้วยยักษ์ที่ดูคล้ายภูเขา รวมทั้งสัตว์อสูรมากมายนับไม่ถ้วน พวกมันทั้งหมดพุ่งตรงไปยังสะพานดอกปี่อ้าน ทำให้สามารถเร่งความเร็วเท่าที่พวกมันจะสามารถรวบรวมได้ทั้งหมดออกไป รวมทั้งใช้ความสามารถเคลื่อนย้ายทางไกลของสะพานเพื่อมุ่งหน้าตรงไปได้ ในที่สุด ช่องว่างระหว่างพวกมันและดินแดนด้านใต้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว
อีกเพียงแค่ไม่กี่วัน พวกมันก็จะไปถึงดินแดนด้านใต้
วันวิวาห์ก็ใกล้เข้ามาแล้ว
ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เคยเป็นแคว้นจ้าวมาก่อน ในตอนนี้ถูกตกแต่งด้วยโคมไฟและสิ่งประดับที่มีสีสันสดใส โต๊ะถูกจัดวางไว้อยู่รอบๆ บริเวณนั้นทั้งหมด และศิษย์สำนักเซี่ยเยาก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปรับรองแขก
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขและร่าเริง แทรกซึมไปทั่วในอากาศ
เฉินฝานมาถึงเช่นเดียวกับเจ้าอ้วน ตามมาด้วยสหายคนอื่นๆ ของเมิ่งฮ่าวจากสำนักจื่อยิ่น คนทั้งหมดต่างก็เร่งมายังที่แห่งนี้อย่างรวดเร็วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รอยยิ้มของสวี่ชิงยิ่งงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนางมองไปยังเมิ่งฮ่าว ความอบอุ่นในแววตานางดูเหมือนแทบจะสามารถละลายได้แม้แต่น้ำแข็งอันเย็นเยียบ
เมิ่งฮ่าวก็ยิ้มออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าบางครั้งดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกจนปัญญา ไม่แน่ใจว่าต้องทำอะไรหรือไปที่ไหนดี โชคดีที่ผู้เฒ่าตัดวิญญาณแห่งสำนักเซียเยา คุ้นเคยกับงานวิวาห์ และพวกมันก็สามารถจัดงานได้อย่างถูกต้องดีที่สุด ยังมีเจ้าอ้วนอีกด้วยที่คุ้นเคยกับงานพิธีเช่นนี้กับภรรยามากกว่าหนึ่งร้อยคนของมัน ด้วยคำแนะนำและความช่วยเหลือทั้งหมดของพวกมัน ทำให้เมิ่งฮ่าวค่อนข้างจะวุ่นวายกับงานพิธีต่างๆ ทั้งหมด
สุดท้ายในที่สุดฉู่อวี้เยียนก็มา นางมาถึงพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเหมือนว่า จะรู้สึกยินดีด้วยความจริงใจ อย่างไรก็ตามลึกลงไปในจิตใจนาง ก็รู้สึกขุ่นมัวและผิดหวัง เมื่อเมิ่งฮ่าวไปพบนาง เขาก็อ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่…ถอนหายใจออกมา
สวี่ชิงดึงฉู่อวี้เยียนออกไปที่ด้านข้าง จากนั้นคนทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันอย่างเงียบๆ
หานเสวี่ยซานและซ่งเจี๋ยก็มาด้วยเช่นกัน ในที่สุดหญิงสาวทั้งหมด พร้อมกับภรรยาของเจ้าอ้วน ก็ไปที่เกาะกลางทะเลสาบ หลังจากนั้นเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็มักจะได้ยินลอยมาตามสายลม
ไม่กี่วันต่อมา แขกผู้มีเกียรติมากมายนับไม่ถ้วนก็บินมาจากสำนักและตระกูลต่างๆ ทั้งหมดทั่วทั้งดินแดนด้านใต้ ในที่สุดก็พบว่าโต๊ะจัดเลี้ยงมีไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะถูกจัดเตรียมไว้มากกว่าหนึ่งแสนตัวก็ตามที ได้แต่ต้องยืนเท่านั้น และคนทั้งหมดก็อัดแน่นกันไกลสุดลูกหูลูกตา แม้แต่ต้องลอยตัวอยู่กลางอากาศในที่ห่างไกลออกไปก็ยังมีให้เห็น ถึงแม้ว่าพวกมันจะไม่มีที่นั่ง แต่ก็ยังต้องการจะได้เห็นพิธีวิวาห์ในครั้งนี้ และร่วมแสดงความยินดีด้วยความสนุกสนานร่าเริง
ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณและผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าต่างก็มาปรากฏตัวขึ้นทั้งหมด ขณะที่เสียงระฆังงานวิวาห์ดังขึ้น ริ้วสีม่วงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ เป็นชายชราที่อยู่ในชุดยาวสีม่วง ดูสง่างามและเก่าแก่โบราณ อย่างไรก็ตาม บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เมตตา กลิ่นหอมของเม็ดยากระจายออกมาจากร่างท่าน ทันทีที่เมิ่งฮ่าวมองเห็นท่าน แรงสั่นสะเทือนก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง และเขาก็บินขึ้นไปในอากาศ ที่เบื้องหน้าของผู้ฝึกตนทั้งหมดในที่แห่งนั้น เขาประสานมือและโค้งตัวลงต่ำ
“ขอคารวะ ท่านอาจารย์!”
ชายชราผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นตานกุ่ย ท่านมองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความพึงพอใจและเต็มไปด้วยความรัก หัวเราะออกมาใช้สองมือประคองให้เมิ่งฮ่าวยืดตัวตรงขึ้น
“วันนี้เป็นงานวิวาห์อันยิ่งใหญ่ของเจ้า และข้าก็มาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานอย่างเป็นทางการ”