ตอนที่ 820
ใครมาแย่งการค้าของข้า?
เพียงไม่นานกลุ่มคนจากสำนักและตระกูลต่างๆ ทั้งหมดแห่งตี้จิ่วซานไห่ (ขุนเขาทะเลที่เก้า) ต่างก็กลายเป็นภาพอันเลือนลางไป พวกมันใช้วิชาเวทที่แตกต่างกัน เพื่อควบคุมเขตพื้นที่ในเทือกเขาไว้ พวกมันใช้เจตจำนงศักดิ์สิทธิ์อันน่าตกใจ, เวทลับ และความสามารถศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ขณะที่กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง เพื่อค้นหาเมิ่งฮ่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝานตงเอ๋อร์ ซึ่งกรีดร้องเป็นเสียงแหลมเล็กออกมา ขณะที่นางพุ่งฝ่าอากาศไป ปกติแล้วนางจะถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและสูงส่งสง่า แต่ตอนนี้ทุกอย่างนั้นได้หายไปจนหมดสิ้น หญิงสาวที่งดงามใดๆ ก็ตาม ต่างก็ไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้ เมื่อต้องถูกซากศพติดตามไปอยู่ตลอดเวลา
นางแทบจะคาดคิดได้ว่าในที่สุดข่าวคราวนี้ จะถูกเผยแพร่กระจายออกไปทั่วทั้งตี้จิ่วซานไห่ จนทำให้นางรู้สึกเกลียดชังเมิ่งฮ่าวมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับผู้ถูกเลือกจากสำนักและตระกูลที่เหลือ พวกมันมักจะเย่อหยิ่งและไม่ชอบที่จะแสดงให้เห็นว่าตนเองด้อยกว่าคนอื่นๆ ถึงแม้ว่าพวกมันจะคุ้นเคยกับการแข่งขัน และต่อสู้กับผู้ถูกเลือกคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลาโดยที่มีอันตรายติดตามมาด้วยอยู่เสมอ พวกมันไม่คุ้นเคยที่สองมือจะว่างเปล่าหลังจากที่ได้พยายามมาแล้ว แต่พวกมันมักจะทำการเปรียบเทียบอยู่ในท่ามกลางพวกเดียวกัน เพื่อดูว่าใครจะได้รับโชควาสนามากกว่ากัน
แต่ครั้งนี้…ในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน เมื่อมาพบกับเมิ่งฮ่าวเป็นครั้งแรก พวกมันก็ต้องประสบพบเจอเป็นครั้งแรก ในขณะที่ได้เผชิญหน้ากับโชควาสนา แต่ก็ไม่อาจจะหยิบฉวยไปได้แม้แต่น้อย
และเมื่อพวกมันครุ่นคิดถึงวิธีที่เมิ่งฮ่าวได้ทำการหลอกลวง เอาเปรียบพวกมันอย่างร้ายกาจมาทั้งหมด ก็ทำให้ต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง
“ช่างไร้ยางอายนัก! คนผู้นั้นชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง!”
“คนที่ร้ายกาจเช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นผู้ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม! มันต้องเป็นผู้ฝึกตนจากดาวหนานเทียนอย่างแน่นอน!”
“ไม่ว่ามันจะเป็นใคร! พวกเราจะทำให้มันคายโชควาสนาที่มันขโมยไปจากพวกเราออกมา!”
เสียงหวีดหวิวดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่ผู้ฝึกตนนับร้อยเร่งความเร็วพุ่งผ่านเทือกเขาที่เหยียดยาวไร้จุดสิ้นสุด พวกมันก่อตัวกันเป็นบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นเครือข่ายใยแมงมุมขนาดใหญ่ ขณะที่ทำการค้นหาเมิ่งฮ่าว
เมิ่งฮ่าวเดินทางไปด้วยความระมัดระวังตัว ถึงแม้จะใช้วิธีการแตกต่างกันมากมาย เขาก็ยังไม่อาจจะใส่ตะเกียงสัมฤทธิ์เข้าไปในถุงสมบัติได้ จึงถูกบังคับให้ต้องอยู่ร่วมกับมัน ซึ่งกำลังลอยอยู่ที่นั่น ส่องแสงอยู่เหนือศีรษะของเขา
พื้นดินรอบๆ ตัวสั่นสะเทือน และสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ม้วนกวาดไปมา เมิ่งฮ่าวเร่งความเร็วขึ้น เทือกเขานี้กว้างใหญ่เป็นอย่างยิ่ง และมีเวทป้องกันอยู่เป็นระยะ ถ้าบังเอิญทำงานขึ้นมา ก็แทบจะสังหารเขาไปได้ เนื่องด้วยเช่นนั้น จึงทำให้เขาไม่อาจจะใช้ความเร็วอย่างสูงสุดได้
ขณะที่เมิ่งฮ่าวเดินทางไปด้วยความระมัดระวังตัว ดวงตาก็สาดประกายเจิดจ้า ก่อนหน้านี้ เขาเคยแต่ท่องไปอยู่รอบๆ อาณาเขตที่อยู่ด้านหน้าของวิหารเท่านั้น แต่ตอนนี้เทือกเขาที่เหยียดยาวนี้ได้เปิดออกให้กับเขาแล้ว
“ตอนนี้พวกมันถูกบังคับให้ต้องมาหาข้าทีละคน ข้าอยากรู้นักว่าผู้ถูกเลือกจากด้านนอกเหล่านี้จะแข็งแกร่งมากแค่ไหน!”
เวลาผ่านไป ในที่สุดก็เป็นยามเที่ยงวัน เมิ่งฮ่าวอยู่ในเขตผืนป่า ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไป และพุ่งถอยไปทางด้านหลัง ลูกธนูสีดำปักลงไปบนพื้น ตรงที่เขาเพิ่งจะยืนอยู่เมื่อครู่นี้ พื้นดินระเบิดออก ส่งผลให้ก้อนหินดินทรายและต้นไม้ใบหญ้าลอยขึ้นไปในอากาศ จากนั้นเสียงแค่นอย่างเย็นชาก็ได้ยินมา
“เจ้าแอบมาหลบซ่อนอยู่ที่นี่เอง!” ใครบางคนพูดออกมา บุรุษหนุ่มที่สวมใส่ชุดยาวสีม่วง พร้อมกับลายปักลวดลายมังกรที่สวยงามปรากฏตัวขึ้น มันสวมใส่ที่รัดเกล้าอยู่บนศีรษะ และมีพื้นฐานฝึกตนที่น่าเหลือเชื่อ เกินกว่าขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า ทันทีที่มันปรากฏกายขึ้น สายตาก็จ้องนิ่งไปยังตะเกียงสัมฤทธิ์ที่อยู่เหนือศีรษะเมิ่งฮ่าว
“ถ้าสามารถปราบเจ้าได้ ข้า, ซุนไห่ก็จะมีชื่อเสียงมากขึ้นกว่าเดิม! โชควาสนาของวิหารพิธีเต๋าเซียนโบราณจะต้องเป็นของข้า!”
ข้างกายซุนไห่เป็นชายชราที่กระจายกลิ่นอายที่เก่าแก่โบราณออกมา ดูเหมือนว่ามันจะแก่ชราอย่างถึงที่สุด ถึงแม้ว่าในตอนแรกมันจะดูไม่โดดเด่นสะดุดตาเท่าใดนัก แต่ดวงตาของมันทันใดนั้นก็เริ่มสาดประกายเจิดจ้าราวกับเป็นดวงตะวันสองดวง
ซุนไห่หันหน้าไปหาชายชราและกล่าวว่า “จัดการมัน!”
ชายชรามองไปยังเมิ่งฮ่าวและยิ้มออกมา จากนั้นร่างกายมันก็เต็มไปด้วยพลัง แทบจะราวกับว่ามีเซียนกำลังนั่งเข้าฌาณอยู่ภายในร่างมัน ขณะที่ก้าวเท้าตรงมา ระลอกคลื่นก็กระจายออกไป ทำให้อากาศรอบๆ ตัวมันบิดเบี้ยวไปมา
เมิ่งฮ่าวหันหน้าไปยังคนทั้งสองอย่างเงียบๆ และดวงตาก็หดเล็กลง เขาจำคนทั้งสองนี้ได้ บุรุษหนุ่มเป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกที่เขาเห็นตอนอยู่ที่ด้านนอกวิหาร หนึ่งในกลุ่มเจ็ดถึงแปดคนที่โจมตีมาที่เขา
“มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถสะกดข่มเมิ่งโหม่วได้หรือไม่” เขากล่าวพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ออกมา
ขณะที่ชายชราก้าวตรงมา โลกที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าวก็ดูเหมือนจะยืดยาวออกไป และทันใดนั้นก็หดตัวกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เมื่อการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ชายชราก็มายืนอยู่ที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว
“ตาย!” มันกล่าวเสียงราบเรียบ ยื่นมือขวาออกมา บางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกับเป็นดวงตะวันปรากฏขึ้นในมือของมัน และเริ่มกระจายแสงอันเจิดจ้าออกมา ขณะที่แสงนั้นปกคลุมไปทั่วร่างเมิ่งฮ่าว เขาก็แค่นเสียงเย็นชา ไม่เพียงแต่จะไม่ล่าถอยออกไปเท่านั้น แต่กลับเดินตรงไป และขณะที่เขาก้าวเท้าออกไป เงาซึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังก็ได้กลายเป็นร่างจริงที่สอง กระจายกลิ่นอายฆ่าฟันออกมา ขณะที่มันมุ่งหน้าตรงไปยังซุนไห่ที่สวมชุดสีม่วง
“สังหารผู้เฒ่าก่อน แล้วค่อยไปจัดการผู้เยาว์!” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ภาพแห่งธรรมปรากฏขึ้น ระเบิดพลังของพื้นฐานฝึกตนที่ห่างจากเซียนแท้แค่ครึ่งก้าวออกมา มือของภาพแห่งธรรมยกขึ้นและกระแทกลงไปยังชายชรา
เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ และแขนของชายชราก็สั่นสะท้าน แสงอันเย็นชาที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของมัน เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการฆ่าฟัน ฉับพลันนั้นดูเหมือนว่าร่างของมันจะผอมแห้งและอ่อนแอลง แต่พลังอันน่าเหลือเชื่อได้พุ่งขึ้นมาจากภายในร่าง กำหมัดจนแน่นและต่อยออกมายังเมิ่งฮ่าว
ที่ด้านข้าง ร่างจริงที่สองของเมิ่งฮ่าวกำลังต่อสู้อยู่กับซุนไห่ชุดม่วง เสียงระเบิดดังก้องออกมา และระลอกคลื่นก็กระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง
ในช่วงเวลาสั้นๆ สิบลมหายใจเข้าออก เมิ่งฮ่าวและชายชราปะทะกันมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง ทันใดนั้นกระแสน้ำวนสีโลหิตก็ปรากฏขึ้นอยู่ที่ด้านล่างเมิ่งฮ่าว และสีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนไป จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็พุ่งถอยไปทางด้านหลัง และกระแสน้ำวนก็เริ่มกระจายตรงไปยังชายชรา เห็นได้ชัดว่าสามารถจะดูดซับสิ่งของต่างๆ ในบริเวณนั้นได้ทั้งหมด
ดวงตาของชายชราแวบขึ้น และมันก็รีบขยับมือร่ายเวท อย่างน่าตกใจยิ่ง ภาพลวงตาของจักรพรรดิได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังชายชรา ซึ่งจากนั้นก็โบกสะบัดมือตรงมายังเมิ่งฮ่าว
สีหน้าดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมิ่งฮ่าว และในชั่วพริบตา เขาก็กลายร่างเป็นวิหคยักษ์ พร้อมกับความเร็วอย่างน่าตกใจ บินผ่านชายชราตรงไปยังร่างจริงที่สอง และซุนไห่ชุดม่วง
สีหน้าชายชราสลดลง และรีบพุ่งไล่ตามเขาไปในทันที
สีหน้าซุนไห่เปลี่ยนไป และมันก็แผดร้องออกมา “ไม่ว่าจักรพรรดิจะยืนอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็คืออาณาจักรของราชัน!” สองมือมันขยับร่ายเวทอย่างรวดเร็ว และพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ จักรพรรดิที่อยู่ด้านหลังชายชรา มาปรากฏขึ้นที่ด้านหลังมันและเดินออกมาหนึ่งก้าว ทำให้ทั่วทั้งบริเวณนั้นถูกปิดกั้นไป
เมิ่งฮ่าวไม่พูดอะไรออกมา ตบไปที่ถุงสมบัติด้วยมือขวา ทำให้กรงเล็บอสูรปรากฏขึ้น เขาใช้ความรู้ที่มีอย่างผิวเผินเกี่ยวกับวิธีการใช้งานของมัน บังคับให้กรงเล็บนั้นกรีดเฉือนตรงไป
แผ่นฟ้ามืดสลัวผืนดินหมองมัว เสียงกรีดร้องของวิฬาร์ดังเต็มอยู่ในอากาศ ภาพลวงตาของวิฬาร์สีดำปรากฏขึ้น จากนั้นตะปบลงไปยังพลังที่ผนึกบริเวณนั้นไว้ เสียงระเบิดดังเต็มอยู่ในอากาศ ขณะที่พลังผนึกแตกกระจายไป
ทันใดนั้น เมิ่งฮ่าวที่อยู่ในรูปแบบของวิหคยักษ์ ก็เคลื่อนที่ราวกับเป็นสายฟ้าไปปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าซุนไห่ ซึ่งมีดวงตาที่หดเล็กลง ขณะที่มันถอยไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็เข้ามาใกล้และตวัดมือที่คล้ายกรงเล็บกรีดเฉือนลงไปที่มัน และคนทั้งสองก็เริ่มต่อสู้กันไปมา
ขุนเขาที่เก้าปรากฏขึ้นที่ด้านข้างเมิ่งฮ่าว ปิดกั้นการโจมตีจากชายชราไว้ ในเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ปลดปล่อยเวทปลิดดาวออกมา มือขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นไปคว้าจับซุนไห่ไว้ โลหิตกระจายออกมาจากปาก มันพยายามดิ้นรนจนสุดความสามารถ แต่เมิ่งฮ่าวก็เข้าไปใกล้และกดฝ่ามือลงไปที่หน้าอกมัน เวทยิ่งใหญ่อสูรโลหิตพุ่งขึ้นมา และซุนไห่ก็แผดร้องขณะที่ร่างกายมันแห้งเหี่ยวลงไป จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ผนึกมันไว้อย่างรวดเร็ว และจับมันโยนเข้าไปในถุงสมบัติ
ขณะที่เขาหมุนตัวมา ชายชราก็แผดร้องออกมาด้วยโทสะ ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่มองเห็นเมิ่งฮ่าวจับนายน้อยซุนไห่ไว้ได้ มันตกอยู่ในเพลิงโทสะอย่างรุนแรงขึ้นในทันที
“แผดร้องไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงเย็นชา “เจ้าไม่แข็งแกร่งพอที่จะสะกดข่มข้าได้ แล้วเจ้ายังจะมาตอแยข้าอีก? ช่างรนหาที่ตายโดยแท้” ขณะที่เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลัง ชายชราก็พุ่งตรงมา ส่งเสียงแผดร้องอย่างมีโทสะ ภาพจักรพรรดิที่ด้านหลังมันกระจายแรงกดดันอันน่าตกใจออกมา ทำให้สีหน้าเมิ่งฮ่าวเปลี่ยนไป ชายชราผู้นี้เป็นผู้พิทักษ์เต๋า ถึงแม้ว่ามันจะผนึกพื้นฐานฝึกตนไว้ แต่ก็ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ
เมิ่งฮ่าวแค่นเสียงเย็นชา และดวงตาก็แวบขึ้น ในตอนนี้เองที่ทันใดนั้นหวังมู่ก็พุ่งออกมาจากผืนป่าที่อยู่ด้านหลังเมิ่งฮ่าว มันอยู่ในบริเวณนั้นพอดีในตอนที่ระลอกคลื่นจากการต่อสู้กระจายออกมา ทันทีที่มันปรากฏกายขึ้น ภาพของมันทันใดนั้นก็กระเพื่อมไปมา และประจุไฟฟ้าก็แวบขึ้นมารอบๆ ตัว ในอึดใจต่อมา มันและเมิ่งฮ่าวก็สับเปลี่ยนตำแหน่งกัน
“ขอบคุณมากหวังเสี่ยวตี้ (น้องชายหวัง)” เมิ่งฮ่าวหัวเราะ ทันใดนั้นก็หายตัวเข้าไปในผืนป่า ร่างจริงที่สองกลายเป็นเงาจากนั้นก็แวบหายไป
หวังมู่และชายชราที่มีโทสะกระแทกเข้าหากัน ทำให้เกิดเป็นเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้น จากนั้นพวกมันก็หันหน้ามองไปยังทิศทางที่เมิ่งฮ่าวหายลับไป และรังสีสังหารก็พุ่งขึ้น โดยไม่พูดจาพวกมันพุ่งไล่ติดตามไปในทันที
เมิ่งฮ่าวบ่นกับตัวเองด้วยความฉุนเฉียว จากนั้นก็กัดฟันแน่นและพุ่งตรงไป
หนึ่งชั่วยามแวบผ่านไป นอกจากความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อของเขาแล้ว เมิ่งฮ่าวก็ยังมีกระถางสายฟ้าอีกด้วย ขณะที่พุ่งทะยานผ่านผืนป่า เขาก็ส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไป ผืนป่าบริเวณนั้นมีพื้นที่อันกว้างใหญ่ ถึงแม้ว่าเขากำลังถูกไล่ล่าอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะหลบหนีไปตามต้นไม้ได้อย่างว่องไว
หลังจากผ่านไปสักพัก เมิ่งฮ่าวก็ตบไปที่ถุงสมบัติด้วยมือขวา ทำให้ซุนไห่ซึ่งสวมใส่ที่รัดเกล้าปรากฏขึ้น
“ข้ามาจากนิกายตี้เซียน (เซียนจักรพรรดิ)…”
ผัวะ!
เมิ่งฮ่าวตบไปที่ใบหน้ามัน
ซุนไห่มองมายังเมิ่งฮ่าวดวงตากลายเป็นสีแดง หอบหายใจออกมา แต่มันก็ไม่กล่าวอะไรอีก เมิ่งฮ่าวไม่สนใจมันโดยสิ้นเชิง แต่ตรวจสอบดูถุงสมบัติของมันแทน จากนั้นก็ตบเบาๆ ไปที่ซุนไห่ สุดท้ายดวงตาเขาก็ต้องเบิกกว้างขึ้น
“เจ้าไม่มีอะไรแม้แต่น้อย?” เมิ่งฮ่าวกล่าวด้วยโทสะ “เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตอนที่มายังที่นี่ เจ้าถูกปล้นหรืออย่างไร?” เขารู้สึกราวกับว่าถูกหลอกให้มาลักพาตัวใครบางคนที่จริงๆ แล้วก็ยากจนกว่าตัวเอง
ถุงสมบัติของซุนไห่ ไม่มีอะไรอยู่ในนั้นโดยสิ้นเชิง…
ซุนไห่ต้องการจะแผดร้องด้วยโทสะออกมา ในฐานะที่เป็นผู้ถูกเลือกจากนิกายตี้เซียน มันได้มายังดาวหนานเทียนพร้อมกับอาวุธเวท และของวิเศษที่หายากจำนวนมากมาย อันที่จริงอาวุธเวทบางอย่างก็มีประโยชน์มากเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากลักษณะพื้นฐานฝึกตนของมัน สามารถจะช่วยผลักดันให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของมันมีพลังอยู่ในขั้นสูงสุดได้ แต่…ก่อนที่จะมาพบกับเมิ่งฮ่าว มันก็ถูกปล้นไปด้วยความอัปยศเป็นอย่างมากจริงๆ
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไม มันถึงได้ถูกเมิ่งฮ่าวจับตัวไว้ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
“พวกเจ้าเหล่าคนจากดาวหนานเทียนต่างก็เป็นโจรกันทั้งหมด!?” ซุนไห่กล่าวผ่านร่องฟัน จิตใจมันกำลังมีโลหิตไหลหยดหยาด
เมิ่งฮ่าวจ้องมองไปด้วยความตกตะลึง แค่คำถามเดียวซุนไห่ก็เปิดเผยความจริงออกมา เมิ่งฮ่าวครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็นึกไม่ออกว่าในดินแดนแห่งดาวหนานเทียน จะมีใครมาแย่งชิงการค้าไปจากเขาได้ อย่างไรก็ตามได้มีคู่แข่งเกิดขึ้นแล้วในตอนนี้ เขาตระหนักว่าจำเป็นต้องระมัดระวังตัวไว้บ้าง
“ช่างมันเถอะ ช่างมัน ข้าคงจะโชคร้ายเอง เจ้าช่วยเขียนตั๋วสัญญามาให้ข้าก็แล้วกัน!” เมิ่งฮ่าวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจออกมาเล็กน้อย
“เจ้า…ไม่มีทาง! ข้าจะไม่เขียนตั๋วสัญญาให้กับเจ้า!”
“เจ้าไม่มอบอาวุธเวทใดๆ ให้กับข้า แล้วยังจะไม่ยอมเขียนตั๋วสัญญาอีก?! เจ้ามันไร้ประโยชน์แม้แต่น้อย! ถ้าข้าไม่อยากจะทำให้เตียเหนียงต้องเกิดปัญหาขึ้นโดยไม่จำเป็นแล้วละก็ ข้าก็จะสังหารเจ้าทิ้งไป!” เมิ่งฮ่าวจ้องเขม็งนิ่ง ยื่นมือออกคว้าจับไปที่เส้นผมของมัน จากนั้นก็ปิดปากและผนึกพื้นฐานฝึกตนของมันไว้ ในที่สุดก็ใช้วิชาเวทรองที่เขาได้เรียนรู้มาจากตอนที่อยู่ในสำนักเซียนอสูรโบราณออกมา จากนั้นก็พุ่งออกไป ดึงผมของซุนไห่ลากมันไปตามพื้นอยู่ที่ด้านหลัง…
ซุนไห่ร่างกายสั่นสะท้าน พื้นฐานฝึกตนของมันถูกผนึกไว้ เช่นเดียวกับปากของมัน ไม่รู้ว่าเมิ่งฮ่าวได้ใช้วิชาเวทอะไรมาบนร่างมัน ทำให้มันรู้สึกเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า การที่มันถูกลากไปบนพื้นทำให้รู้สึกราวกับว่าร่างกายกำลังถูกตัดขาดออกไปนับพันครั้ง…