Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 894

ตอนที่ 894

สายโลหิตที่ทำให้ตระกูลสั่นสะเทือน!

ทันใดนั้นเสียงพูดคุยก็ดังขึ้น ในท่ามกลางกลุ่มพวกที่มุงดูอยู่ที่ด้านนอกของประตูสวรรค์ตะวันออก

“คนผู้นี้ช่างบ้าบิ่นนัก…”

“ถ้ามันไม่มีสายโลหิตของตระกูลฟาง มันก็ต้องตายไปอย่างแน่นอน แต่ถ้ามันมีสายโลหิตของตระกูลฟาง แล้วทำไมถึงได้เข้าแถวรอและยังได้จ่ายภาษีหินลมปราณไปอีกด้วย?”

“บางทีมันอาจจะมีวิธีอื่น ในการที่ผ่านเข้าไปในประตูของตระกูลฟาง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้! ไม่ว่ามันจะทำอะไร ถ้ามันมาจากตระกูลฟางจริงๆ ก็ไม่อาจจะปกปิดสายโลหิตของมันได้ ใครก็ตามที่ไม่ได้มาจากตระกูลฟาง ก็จะถูกประตูนั้นสังหารไปอย่างแน่นอน”

สมาชิกตระกูลฟางสายนอกนับร้อยคน ที่กำลังยืนพิทักษ์คุ้มกันอยู่ที่ด้านนอกประตู มองไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ฝึกตนที่มีปานสีดำ ดวงตามันสาดประกายด้วยแววตาที่ดูถูกมากเป็นพิเศษ

“เมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง ก็ไม่อาจจะตำหนิใครได้ทั้งสิ้น สหายเต๋าเฝิง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้หน้าท่าน ข้าได้มอบสิทธิ์ให้มันผ่านประตูสวรรค์ตะวันออกไปแล้ว แต่มันก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายเอง”

เฝิงสวินกระทืบเท้า จากนั้นสีหน้ากระวนกระวายใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า แต่มันก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

ในตอนนี้เองที่เมิ่งฮ่าวเริ่มก้าวเท้าเข้าไปในประตูของตระกูลฟาง แค่เขายื่นเท้าเข้าไปเพียงครึ่งเก้าเท่านั้น ประตูก็เริ่มสั่นสะท้านขึ้น

“ประตูกำลังจะบดขยี้มันจนตายไป!” ผู้ฝึกตนที่มีปานดำกล่าว รอยยิ้มอันเย็นชาที่ดูน่ากลัวกระจายเต็มใบหน้า ไม่นานต่อมารอยยิ้มนั้นจู่ๆ ก็นิ่งแข็งไป จากนั้นก็กลายเป็นสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ คนทั้งหมดที่กำลังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็หยุดชะงักนิ่งด้วยเช่นกัน ดวงตาพวกมันเริ่มเบิกกว้างขึ้น

ศิษย์ตระกูลฟางสายนอกทั้งหนึ่งร้อยกว่าคน ที่กำลังเฝ้าคุมกันประตูสวรรค์ตะวันออกอยู่ จ้องมองไปด้วยปากที่อ้าค้าง

ดวงตาเฝิงสวินแวบขึ้นด้วยความตื่นตระหนก และจิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มขณะที่มันอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

คนทั้งหมดมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ขณะที่เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น ประตูสั่นสะท้านและ…เริ่มสาดประกายแสงออกมา

เพียงไม่นานลำแสงหนึ่งร้อยจ้างก็พุ่งขึ้นไป ทำให้ม่านตาของพวกที่มุงดูอยู่ทั้งหมดสาดประกายขึ้นด้วยแสงสะท้อนนั้นโดยสิ้นเชิง

“เป็นไปไม่ได้!” ผู้ฝึกตนที่มีปานดำกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง เริ่มสั่นสะท้านขึ้นในทันที

ผู้ฝึกตนหนึ่งร้อยกว่าคนที่กำลังยืนคุ้มกันประตูสวรรค์ตะวันออกอ้าปากค้าง จิตใจพวกมันหมุนคว้าง

ฉับพลันนั้นกลุ่มฝูงชนเริ่มตกอยู่ในความปั่นป่วน

“ลำแสงหนึ่งร้อยจ้าง! สวรรค์! มันเป็นคนของตระกูลฟาง และไม่ใช่ธรรมดาทั่วไปด้วย การที่มันมีลำแสงหนึ่งร้อยจ้าง ก็แสดงให้เห็นว่าสายโลหิตของมันสูงเกินกว่าสมาชิกทั่วไปของตระกูล!”

“ถ้ามันเป็นคนของตระกูลฟาง แล้วทำไมถึงได้พยายามผ่านเข้าไปในประตูสวรรค์ตะวันออก?”

จากนั้นกลุ่มฝูงชนก็ตกอยู่ในความเงียบ

ทันทีที่เท้าของเมิ่งฮ่าวแตะสัมผัสลงไปบนพื้นดิน และร่างครึ่งตัวผ่านเข้าไปในประตู ลำแสงก็พุ่งขึ้นไป…จากหนึ่งร้อยจ้างเป็นหนึ่งพันจ้าง ตามมาด้วยเสียงกระหึ่มดังกึกก้องขึ้น

ลำแสงหนึ่งพันจ้างช่างดูน่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง และผู้ฝึกตนทั้งหมดที่ด้านนอกของประตูสวรรค์ตะวันออก ก็รู้สึกราวกับว่าพวกมันแทบจะไม่ได้หายใจ จ้องมองไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อ จิตใจกำลังหมุนคว้าง

“ลำแสงหนึ่งพันจ้าง…สวรรค์! มันคือผู้ถูกเลือกแห่งตระกูลฟาง!!”

“มันเป็นใคร? ผู้ฝึกตนที่มีลำแสงสายโลหิตหนึ่งพันจ้างต้องไม่ใช่คนไร้นามอย่างแน่นอน! มันต้องมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งอยู่ในตระกูลฟาง!”

ผู้ฝึกตนที่มีปานสีดำโซเซถอยไปทางด้านหลังสองสามก้าว ใบหน้าซีดขาวดูน่ากลัว ความรู้สึกเสียใจอย่างลึกล้ำได้พุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจ และเริ่มรู้สึกไม่พอใจด้วยเช่นเดียวกัน

“มะ-มะ-มัน…มันคือคนในตระกูลฟาง!” มันคิดหอบหายใจออกมาอย่างต่อเนื่อง “ด้วยสายโลหิตเช่นนั้น ทำไมมันถึงได้เดินผ่านเข้าไปในประตูสวรรค์ตะวันออก!? ทำไมมันถึงได้สร้างปัญหาให้กับข้า…? แต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีลำแสงสายโลหิตหนึ่งพันจ้าง ข้าก็แค่ทำตามกฎอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นการกระทำของข้าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง!” แม้จะคิดเช่นนั้น แต่จิตใจมันก็เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างรุนแรง

เฝิงสวินยืนอ้าปากค้างมองไปยังเมิ่งฮ่าว ไม่อาจจะพูดออกมาได้แม้แต่น้อย

ถ้านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ก้าวเท้าเข้าไปในประตูจนเสร็จสิ้น ทำให้เกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องดังมากขึ้นกว่าเดิม และลำแสงที่พุ่งขึ้นไปในอากาศก็สูงมากขึ้น

หนึ่งพันจ้าง, หนึ่งพันห้าร้อยจ้าง, สองพันจ้าง, สองพันห้าร้อยจ้าง…

ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ ลำแสงก็พุ่งสูงขึ้นไปสามพันจ้าง!

เสียงตกกระทบได้ยินมา ขณะที่ผู้ฝึกตนที่มีปานสีดำ จู่ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะสูญเสียพื้นฐานฝึกตนและความแข็งแกร่งทั้งหมดไป มันลงไปนั่งกองอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดขาวราวซากศพ ไร้สีสันไปโดยสิ้นเชิง

“สะ-สะ-สามพันจ้าง!! จบสิ้นแล้ว ข้าต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน! ถ้า…ถ้ามันสูงเพียงแค่หนึ่งพันจ้าง ข้าก็อาจจะกล่าวได้ว่าเพียงแค่ปฏิบัติตามกฎ แต่มัน…มันมีลำแสงสายโลหิตถึงสามพันจ้าง สมาชิกของตระกูลเช่นนี้ ข้า…ข้า…”

ไม่ใช่มันเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีการแสดงออกเช่นนี้ กลุ่มคนของตระกูลฟางสายนอก ที่อยู่รอบๆ ตัวมันก่อนหน้านี้ และได้เยาะเย้ยเขาด้วยความเย็นชา ในตอนนี้ก็มองไปด้วยสีหน้าที่สลดลง หนังศีรษะพวกมันเริ่มด้านชา และรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง

กลุ่มคนที่เหลือซึ่งกำลังยืนอยู่ที่ด้านนอกประตู กำลังมองมาด้วยดวงตาที่เบิกกว้างและตื่นตระหนก จิตใจพวกมันสั่นสะท้าน

“สาม…สามพันจ้าง…นั่นคือสายโลหิตอะไรกัน? นั่นเป็นรองจากผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งในตระกูลฟาง, เว่ยกงจื่อเท่านั้น เมื่อเว่ยกงจื่อผ่านประตูเข้าไป ลำแสงของมันก็พุ่งขึ้นไปถึงแปดพันจ้าง!!”

“คนผู้นี้คือใครกัน…?”

ไม่เพียงแต่กลุ่มคนที่อยู่ด้านนอกประตูเท่านั้นที่ตื่นตระหนก ในคฤหาสน์โบราณของตระกูลฟางบนดาวตงเซิ่ง เกิดเป็นเสียงระฆังขนาดใหญ่ดังขึ้น ก่อนหน้านี้ระฆังได้เริ่มส่งเสียงดังขึ้นมา เป็นเสียงที่ดังก้องออกไปทั่วสาขาทั้งหมดของตระกูล บุคคลภายนอกไม่อาจจะได้ยินเสียงระฆังนี้ มันดังก้องอยู่ภายในจิตใจของสมาชิกตระกูลฟางเท่านั้น

ในห้องโถงหลักของคฤหาสน์โบราณ ชายชราที่ศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมที่ขาวโพลนนั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ สีหน้ามันเคร่งขรึม เมื่อลืมตาขึ้นมา สายตามันดูลึกล้ำ และแวบแสงขึ้นคล้ายกับสายฟ้า ที่กำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ามันมีอยู่แปดคน ทั้งหมดกำลังส่งเสียงพูดคุยกัน

เมื่อเสียงระฆังดังก้องขึ้น สีหน้าของคนทั้งหมดในห้องโถงหลักได้เปลี่ยนไป และพวกมันก็มองขึ้นไป

“มีใครบางคนที่มีสายโลหิตอันเข้มข้น เพิ่งจะผ่านประตูตระกูลฟางเข้ามา ทำให้ระฆังเกิดเป็นเสียงดังขึ้น!!”

“ระฆังเต๋านี้ดังขึ้นในตอนที่สมาชิกของตระกูลผ่านเข้ามาในประตูแค่ครั้งแรกเท่านั้น และลำแสงสายโลหิตหนึ่งพันจ้างหรือสูงไปกว่านั้นก็จะปรากฏขึ้น!”

“รุ่นเยาว์ผู้ใดไปทดสอบสายโลหิตของมัน?”

คนทั้งหมดต่างก็ตกตะลึง และชายชราที่กำลังนั่งอยู่ที่เบื้องหน้าก็มองขึ้นไป แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยแวบขึ้น

เมื่อสมาชิกของตระกูลฟางมีอายุที่เหมาะสม พวกมันก็จะผ่านประตูตระกูลฟางเพื่อทดสอบสายโลหิตของตนเอง ระฆังเต๋าจะดังขึ้นแค่ครั้งแรกที่พวกมันกระทำเช่นนั้น

ในตอนนี้ สถานที่ต่างๆ มากมายภายในตระกูลฟาง ได้ยินเสียงร้องอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้นมา ตอนนี้สือจิ่วซู (อาสิบเก้า) ของเมิ่งฮ่าวกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ข้างทะเลสาบ กำขวดน้ำเต้าสุราอยู่ในมือ ด้วยใบหน้าที่หม่นหมองและหงุดหงิด เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น ท่านก็แทบดูเหมือนจะไม่ได้ยิน และนั่งดื่มสุราต่อไป ที่ด้านข้างออกไป บุรุษหนุ่มที่มีสีหน้าขมขื่นกำลังห้อยศีรษะลงมาจากกลางอากาศ

ตรงสถานที่อีกแห่งซึ่งเป็นดินแดนสีดำที่ยืดยาวออกไปจากปล่องภูเขาไฟที่พุ่งสูงขึ้นไป ที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ลึกลงไปภายในปล่องภูเขาไฟนั้นเป็นบุรุษวัยกลางคน ที่จู่ๆ สองตาก็ลืมขึ้นมาในทันทีและเริ่มสาดประกายด้วยแสงอันเจิดจ้า

อีกแห่งหนึ่งเป็นทะเลทรายที่มีสีแดงราวโลหิต มองเห็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่นั่น ทันใดนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นมาและมองขึ้นไปในท้องฟ้า

ในสถานที่อื่นๆ ที่แตกต่างกันออกไป สมาชิกของตระกูลเริ่มได้ยินเสียงระฆังที่ดังขึ้นมานี้ เมื่อดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง ผู้คนเริ่มขยับตัวเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม ผู้คนที่ตกตะลึงยิ่งมีมากขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม…มันก็ยังไม่ยอมหยุด!

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่นในประตูของตระกูลฟาง ไม่ขยับตัวเคลื่อนไหว ถูกห้อมล้อมด้วยกลิ่นอายที่อ่อนโยน หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ตัวเขา กำลังกระตุ้นสายโลหิตของเขาขึ้นมา ใบหน้าเมิ่งฮ่าวสงบนิ่งเยือกเย็น เมื่อเขาเลือกเส้นทางสายนี้ เขาก็จะทำให้สวรรค์ต้องสั่นสะท้านปฐพีต้องสั่นสะเทือนต่อไป

เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ และปลดปล่อยพลังสายโลหิตของตนเองออกมาอย่างเต็มกำลัง ปล่อยให้พลังที่อ่อนโยนของประตู ประเมินความเข้มข้นสายโลหิตของเขาไปทั่ว

ในชั่วพริบตาลำแสงก็ระเบิดขึ้นไป พุ่งทะลุจากสามพันจ้างไปจนถึงสี่พันจ้าง ทำให้เสียงระฆังดังออกมาเป็นครั้งที่สี่!

เสียงระฆังครั้งที่สี่นี้ได้ยินไปทั่วทั้งสมาชิกของตระกูลฟาง ที่อยู่บนดาวตงเซิ่งทั้งหมด ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แต่ถึงกระนั้นลำแสงของประตูตระกูลฟางก็ยังพุ่งสูงขึ้นไปอีก บรรลุถึงระดับห้าพันจ้าง เสียงระฆังครั้งที่ห้าดังก้องออกมา สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตระกูลฟาง

“เสียงระฆังครั้งที่ห้า! ใครกำลังไปทดสอบสายโลหิตอยู่? มันช่าง…เข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง!”

“ในกลุ่มผู้เยาว์ของตระกูลฟาง มีอยู่ไม่ถึงห้าสิบคนที่ลำแสงสามารถจะบรรลุถึงระดับห้าพันจ้างได้! เมื่อถึงระดับหกพันจ้าง ก็มีไม่ถึงสิบคน สำหรับลำแสงเจ็ดพันจ้าง…มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น! และจากนั้นก็เป็น…เว่ยกงจื่อที่มีลำแสงแปดพันจ้าง!!”

ตระกูลฟางตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย เมิ่งฮ่าวยืนอาบไล้อยู่ภายในแสงของประตูตระกูลฟาง ลำแสงนั้นเจิดจ้าจนไม่มีใครมองเห็นเขาอยู่ด้านใน เมิ่งฮ่าวสูดลมหายใจเข้าไปอีกครั้ง และดวงตาก็สาดประกายขณะที่ลำแสง…พุ่งขึ้นไปอีกครั้ง!!

ลำแสงนั้นพุ่งขึ้นจากห้าพันจ้างไปจนถึงหกพันจ้าง ประกายแสงนั้นดูเหมือนว่าจะไร้ขีดจำกัด ผู้คนทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกของประตูสวรรค์ตะวันออกต่างก็ไร้คำพูดใดๆ ที่จะกล่าวออกมา

เมื่อเสียงระฆังครั้งที่หกดังขึ้นมา ทั่วทั้งตระกูลฟางก็ตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย

เงาร่างมากมายพุ่งขึ้นมาจากสถานที่ที่แตกต่างกันในตระกูล และมุ่งหน้าตรงไปยังประตูสวรรค์ตะวันออก แม้แต่ผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องโถงหลักของคฤหาสน์โบราณ ก็ยังได้บินออกมา และจากนั้นก็เริ่มเคลื่อนย้ายทางไกลตรงไปยังประตูสวรรค์ตะวันออก

ผู้คนนับหมื่นต่างก็บินออกมาในเวลาเดียวกันทั้งหมด รวมทั้งผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังนับไม่ถ้วน ในชั่วพริบตาผู้คนมากมายได้โผล่ออกมาจากประตูสวรรค์ตะวันออก และมองไปยังประตูของตระกูลฟาง

ผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่อยู่ด้านนอกของประตูสวรรค์ตะวันออกเริ่มถอยไปทางด้านหลัง ร่างกายพวกมันสั่นสะท้าน สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินออกมาจากประตูสวรรค์ตะวันออก และตระหนักว่าพวกมันทั้งหมดเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งทรงพลังจากตระกูลฟาง

กลุ่มคนเหล่านั้นเพ่งมองไปยังประตูของตระกูลฟาง แต่ก็ไม่อาจจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีใครอยู่ที่ด้านใน

“ข้าอยากรู้นักว่าผู้เยาว์ของสาขาไหน ที่สามารถบรรลุได้ถึงระดับนี้!!”

“ฮา ฮา ฮา! ทวยเทพกำลังอวยพรส่งเสริมตระกูลฟางแล้ว ผู้ถูกเลือกอีกคนได้ปรากฏกายขึ้นแล้ว!”

“มันคือใคร? ใช่เทาเอ๋อร์หรือไม่? หรือว่าเป็นเสียวไห่? หรืออาจจะเป็นหงเอ๋อร์?”

กลุ่มคนตระกูลฟางที่เพิ่งจะมาถึงทั้งหมดต่างก็เฝ้ารอคอยด้วยความมุ่งหวัง ในตอนนี้เองที่กลุ่มเงาร่างแปดคนได้ปรากฏขึ้น นำหน้ามาโดยชายชราผมขาว ซึ่งเคยนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ตำแหน่งผู้นำในห้องโถงหลักของคฤหาสน์โบราณ

ทันทีที่มันปรากฏกายขึ้น กลุ่มคนตระกูลฟางอื่นๆ ต่างก็มองมาด้วยความตกตะลึง และจากนั้นก็ประสานมือ

“ขอคารวะ ท่านผู้เฒ่าสูงสุด!”

ชายชราผู้นี้คือผู้นำที่ยังเหลืออยู่ที่คอยจัดการดูแลงานของตระกูลฟาง หลังจากที่เหล่าปรมาจารย์ได้เข้าไปนั่งเข้าฌาณตามลำพัง มันคือ…ผู้เฒ่าสูงสุด ฟางตงเทียน! (เชื่อมสวรรค์แซ่ฟาง)

เช่นเดียวกับนามของมัน ฟางตงเทียนมีพื้นฐานฝึกตนที่สูงส่งเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ ขณะที่มันเดินออกมาจากประตูสวรรค์ตะวันออก ก็มองไปยังประตูของตระกูลฟาง แต่กระนั้นแม้แต่มันก็ยังไม่อาจจะมองเห็นได้ว่าเป็นใครที่อยู่ด้านใน สิ่งที่มันสามารถมองเห็นได้ทั้งหมดก็คือ เงาร่างที่ดูคลุมเครือเลือนลาง

ฟางตงเทียนหัวเราะเป็นเสียงดังออกมาและกล่าวว่า “ลำแสงหกพันจ้างคือเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับตระกูลฟาง ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม…คนในตระกูลที่มีสายโลหิตเช่นนี้ก็หมายความว่าตระกูลฟางจะต้องมีผู้ถูกเลือกคนใหม่อย่างแน่นอน!”

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนตระกูลสายนอก ที่เป็นผู้พิทักษ์คอยคุ้มกันประตู ต่างก็รู้สึกหวาดกลัวจนร่างกายแทบจะกลายเป็นวุ้น ดูเหมือนว่าพวกมันแทบจะคุกเข่าลงไปด้วยความตกใจกลัว สำหรับผู้ฝึกตนที่มีปานสีดำ มันกำลังนอนอยู่บนพื้นด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านอย่างที่ไม่อาจจะควบคุมตนเองได้

เฝิงสวินก็กำลังสั่นสะท้านด้วยเช่นเดียวกัน มันมองไปรอบๆ ยังกลุ่มคนที่แข็งแกร่งเหล่านั้น จากนั้นก็มองกลับไปยังประตูตระกูลฟาง ใบหน้าปกคลุมไปด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

ในตอนนี้เองที่เสียงกระหึ่มอีกเสียงก็ดังก้องออกมา ขณะที่ลำแสงระเบิดพุ่งขึ้นไปอีกครั้ง จากระดับหกพันจ้างไปจนถึงเจ็ดพันจ้าง ทำให้ตระกูลฟางและคนทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกประตูตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง

ดวงตาของผู้เฒ่าสูงสุดฟางตงเทียน สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version