Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 997

ตอนที่ 997

สังหารฟางซิ่วซาน!

หนึ่งร้อยยี่สิบสามชีพจรเซียนของเมิ่งฮ่าวระเบิดเป็นพลังออกไป รวมเข้ากับพลังของสวรรค์ทั้งสามสิบสามชั้น ส่งเข้าไปยังสุดยอดสะพานเพื่อปิดกั้นฟางเว่ยและฟางซิ่วซานไว้

ในขณะที่เขาล่าถอยออกไปด้วยความรวดเร็วสูงสุด ดวงตาก็แวบขึ้นด้วยแสงอันเย็นเยียบ เขากำลังมองไปยังฟางเว่ยและฟางซิ่วซานด้วยสายตาที่ราวกับว่า พวกมันคือคนที่ตายไปแล้ว

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกไปทั่ว และสวรรค์ก็สะท้านปฐพีสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง ผลเนี่ยผานในมือเมิ่งฮ่าวสาดประกายเป็นแสงระยิบระยับออกมา

นี่คือผลเนี่ยผานของท่านปรมาจารย์รุ่นแรก!

มันกระจายกลิ่นอายอันเก่าแก่โบราณ ซึ่งดูเหมือนจะบ่งบอกว่ามันได้คงอยู่มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน และในทันทีที่มันปรากฏขึ้น ความรู้สึกถึงกาลเวลาที่อยู่ด้านในของผลไม้นี้ ก็ดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อทุกสรรพสิ่งในบริเวณนั้น ทำให้อาณาเขตที่อยู่รอบๆ กายเมิ่งฮ่าว ดูคล้ายกับว่ากำลังตกอยู่ในยุคที่แตกต่างกันออกไป

ฟางซิ่วซานสบตากับเมิ่งฮ่าว และจิตใจมันก็ต้องเต้นรัว มองไปยังผลเนี่ยผานอยู่ชั่วขณะ จากนั้นแววตามันก็ดูน่ากลัวขึ้น ริมฝีปากบิดขึ้นเป็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย “นั่นคือ…”

“ถ้าดูดซับมันเข้าไป ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือ เจ้าก็จะตายไปโดยไม่ต้องสงสัย!”

พลังของฟางเว่ยพุ่งทะยานขึ้นไป แต่เมื่อมันมองไปยังเมิ่งฮ่าว จิตใจก็เริ่มเต้นรัวขึ้น สายตามันเลื่อนมองไปยังผลเนี่ยผาน และทันใดนั้นความรู้สึกถึงอันตรายอันร้ายแรงก็พุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจ

มันไม่ใช่ฟางเว่ยจริงๆ มันคือหุ่นเชิดของปรมาจารย์รุ่นหก เนื่องจากเช่นนี้ทำให้มันจดจำผลไม้นี้ได้ และทันทีที่มองเห็นมันก็ตระหนักว่าผลไม้นั้น…แตกต่างไปจากผลเนี่ยผานที่มันเคยจดจำได้อย่างสิ้นเชิง!

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวหยิบเอาผลเนี่ยผานนั้นออกมา ผู้เฒ่าสูงสุด ที่กำลังต่อสู้อยู่กับฟางเฮ่อซานก็มองมา เมื่อมันเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้สีหน้ามันก็สลดลงไป

“ฮ่าวเอ๋อร์ เจ้าไม่อาจดูดกลืนของสิ่งนั้นเข้าไปได้!!” มันร้องตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ ขณะที่เสียงของมันดังก้องออกไป ความรู้สึกเสียใจอย่างลึกล้ำก็พุ่งขึ้นมาในจิตใจต่อสิ่งที่มันได้ตัดสินใจทำลงไป

ในเวลาเดียวกับที่ผู้เฒ่าสูงสุดร้องตะโกนออกไป ดวงตาของฟางเว่ยก็เบิกกว้าง และความรู้สึกถึงอันตรายที่อยู่ในจิตใจก็พุ่งขึ้นไปจนถึงขีดสุด จิตใจมันเต้นรัวจนถึงจุดที่ว่า ถ้าเมิ่งฮ่าวดูดซับผลเนี่ยผานนั้นเข้าไป เหตุการณ์อันร้ายแรงและน่าตกใจก็จะเกิดขึ้น ฉับพลันนั้นมันก็ร้องตวาดขึ้น “หยุดมัน!”

ฟางเว่ยก้าวเดินตรงไป และโบกสะบัดมือ สามสิบสามสวรรค์และสามร้อยสามสิบชีพจรเซียนได้กลายเป็นพลังแห่งน้ำพุเหลือง ระเบิดออกไปจนทำให้สุดยอดสะพานสั่นสะเทือน

ในเวลาเดียวกันนั้น ถึงแม้ว่าฟางซิ่วซานจะยังคงลังเลอยู่ก็ตามที แต่มันก็ยังโจมตีออกไป ระเบิดพลังของพื้นฐานฝึกตนอาณาจักรโบราณ ที่ตะเกียงวิญญาณดับลงไปสองดวงออกมา การโจมตีอันน่าตกใจได้ก่อตัวขึ้นมา ซึ่งประกอบไปด้วยหัตถ์ภาพลวงตาขนาดใหญ่ตบฟาดลงไปบนสุดยอดสะพาน

สุดยอดสะพานสั่นสะเทือน และจากนั้นก็เริ่มพังทลายลงไปทีละชั้น มันคือเวทแห่งเต๋าที่แข็งแกร่งมากที่สุดในฐานะที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่…ด้วยพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าวในตอนนี้ เขาสามารถจะบังคับให้มันปรากฏขึ้นได้เท่านั้น เมื่อฟางเว่ยและฟางซิ่วซานรวมพลังเข้าด้วยกัน ก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่สะพานไม่อาจจะต่อต้านได้อีก และเริ่มพังทลายลงไปโดยสิ้นเชิง

อีกครั้งที่มันหายไป ไม่มีอะไรมากีดขวางฟางเว่ยและฟางซิ่วซานได้อีก ซึ่งคนทั้งสองได้โจมตีไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความโหดเหี้ยมในทันที

เมิ่งฮ่าวพุ่งถอยไปทางด้านหลังด้วยความรวดเร็วสูงสุด ดวงตาเย็นชา ขณะที่ฟางเว่ยและฟางซิ่วซานโจมตีไปยังสุดยอดสะพานอย่างต่อเนื่อง เมิ่งฮ่าวก็ยกผลเนี่ยผานขึ้นมา และกดลงไปบนหน้าผากของตนเอง

ผลเนี่ยผานหลอมละลายและจมลงไปในหน้าผากของเขา ทำให้เกิดเป็นความอบอุ่นไหลผ่านไปทั่วร่าง ร่างกายและจิตใจเริ่มสั่นสะท้าน รู้สึกราวกับว่ากำลังจะถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ เส้นเลือดเขียวปะทุขึ้นมาบนใบหน้า โลหิตไหลซึมออกมาจากดวงตา, หู, จมูกและปาก

ขณะที่ฟางเว่ยและฟางซิ่วซานโจมตีไปยังสุดยอดสะพาน จิตใจของฟางเว่ยก็เต้นรัวขึ้นอย่างรุนแรง มันทุ่มความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมากที่สุดออกไปทั้งหมด เสียงกระหึ่มดังก้องออกมาและในที่สุดมันก็…ทำลายสะพานลงไปได้โดยสิ้นเชิง เศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

ทันใดนั้น ฟางเว่ยก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นดาวตก

“ตาย!” ความรู้สึกของฟางเว่ยเลวร้ายมากขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเมิ่งฮ่าว ดังนั้นมันจึงผลักดันตัวเองให้เร็วมากขึ้น จนรังสีสังหารของมันพุ่งทะยานขึ้นไป

รังสีสังหารของฟางซิ่วซานก็พุ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน และความต้องการที่จะสังหารเมิ่งฮ่าวของมันก็มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม พื้นฐานฝึกตนของมันระเบิดเป็นพลังออกไป ทำให้หัตถ์ยักษ์ฟาดลงไปยังเมิ่งฮ่าว ด้วยความต้องการจะบดขยี้และลบล้างเขาไป เพื่อกวาดล้างความเกลียดชังที่มีอยู่ในจิตใจมัน

ขณะที่ฟางเว่ยและฟางซิ่วซานเข้ามาใกล้ เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้านไปทั้งร่าง และดวงตาก็กลายเป็นสีแดงจ้า ฉับพลันนั้นกลิ่นอายอันดุร้ายและทรนงก็กระจายออกมาจากภายในร่าง

กลิ่นอายนั้นทำให้ฟางเว่ยต้องจ้องมองไปด้วยความตื่นตระหนก และใบหน้าของฟางซิ่วซานก็ต้องสลดลง

จากนั้นเมิ่งฮ่าวก็ส่งเสียงกู่ร้องอันน่าตกใจออกมา ฉับพลันนั้นร่างกายเขาก็เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น และในเวลาเดียวกันนั้นชีพจรเซียนของเขา…จู่ๆ…ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!!!

เขาไม่ได้มีหนึ่งร้อยยี่สิบสามชีพจรอีกต่อไป จำนวนของชีพจรเพิ่มขึ้นด้วยความรวดเร็ว เช่นเดียวกับมังกรเซียนที่อยู่รอบๆ ตัว พวกมันแผดร้องคำรามขณะที่มังกรตัวที่ หนึ่งร้อยสามสิบเก้า, หนึ่งร้อยห้าสิบสอง, หนึ่งร้อยเจ็ดสิบเอ็ด ปรากฏขึ้น…

สีสันมากมายแวบขึ้นไปในท้องฟ้า สายลมกรีดร้องระงม และท้องฟ้าก็สั่นสะท้าน!

ในชั่วพริบตา เขาก็มีชีพจรเซียนสองร้อยจุด!

กลิ่นอายของเมิ่งฮ่าวพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างบ้าคลั่ง แทบจะราวกับว่า…เขาอยู่เกินกว่าอาณาจักรเซียนขึ้นไป!

ตูมมมมมมม!

สองร้อยชีพจรไม่ใช่ขีดจำกัด ยังคงเพิ่มขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง! สองร้อยสิบสาม, สองร้อยสามสิบห้า…จนกระทั่งถึงสองร้อยสี่สิบหกชีพจร!

ซึ่งก็คือมีจำนวนเป็นสองเท่าของขีดจำกัดก่อนหน้านี้ของเขา!!

ถ้านั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แต่ในตอนที่ชีพจรเซียนของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สวรรค์ทั้งสามสิบสามชั้นของเมิ่งฮ่าวก็มีจำนวนเกินไปกว่าเซียน พวกมันพุ่งผ่านวงจรอันยิ่งใหญ่ไป ปะทุขึ้นมาจนพวกที่มองดูอยู่ต้องงุนงงเมื่อมองขึ้นไปเห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นเป็น…หกสิบหกสวรรค์!

แต่ถ้ามองดูให้ละเอียด ก็จะพบว่าพวกมันไม่ใช่สวรรค์หกสิบหกชั้นจริงๆ พวกมันมีอยู่สองชนิด หนึ่งเป็นสวรรค์สามสิบสามชั้นที่อยู่ด้านบนขึ้นไป อีกหนึ่งเป็นปฐพีสามสิบสามชั้นที่อยู่ด้านล่างลงไป ตรงกลางของทั้งสองคือเมิ่งฮ่าว!

พลังของเขาพุ่งทะยานขึ้น และกลิ่นอายอันน่ากลัวก็ระเบิดออกไป ใบหน้าของฟางเว่ยและฟางซิ่วซานสลดลงไปในทันที แม้แต่ฟางซิ่วซานก็ยังรู้สึกได้ถึงอันตรายอันร้ายแรงที่พุ่งขึ้นมาในทันที

อันตรายนี้…ทำให้มันรู้สึกถึงได้ถึงความตายอันน่ากลัว!

จิตใจฟางซิ่วซานหมุนคว้าง ขณะที่มันกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “เป็นไปไม่ได้! ถึงแม้ว่าพลังของมันจะเพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังคงเป็นแค่เซียน ข้าอยู่ในอาณาจักรโบราณ! แล้วข้าจะรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!?!?”

ใบหน้าของฟางเว่ยซีดขาว และดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นขณะที่มันหอบหายใจออกมา

“มีเซียนบางอย่างที่สามารถสังหารคนที่อยู่ในอาณาจักรโบราณได้…จากตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา เซียนแท้ไม่ใช่ขีดจำกัดของอาณาจักรเซียน ในสมัยโบราณก่อนที่สวรรค์และปฐพีอื่นในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจะพังทลายลงไป มันคือยุคที่ไม่เหมือนกับยุคปัจจุบันนี้ของเก้าขุนเขา…”

“เหนือเซียนแท้ยังมีอีกระดับหนึ่ง นั่นคือระดับของ…จักรพรรดิเซียน!!”

“ถ้าพวกมันมองขึ้นไปและโบกสะบัดมือ สามสิบสามสวรรค์ก็จะถูกทำลายไป! ถ้าพวกมันมองลงมาและชี้นิ้วออกไป สามสิบสามปฐพีก็จะพังพินาศ…จักรพรรดิเซียน!”

หนังศีรษะฟางเว่ยด้านชาและจิตใจก็เต็มไปด้วยเสียงกระหึ่มกึกก้อง ถ้ามันอยู่ที่นี่ด้วยร่างกายของตนเอง ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวจะกลายเป็นจักรพรรดิในท่ามกลางหมู่เซียน อาณาจักรโบราณก็ยังคงเหนือกว่าสามสิบสามสวรรค์และสามสิบสามปฐพี มันสามารถจะสังหารเมิ่งฮ่าวไปได้อย่างง่ายดายราวกับพลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้…นี่เป็นแค่หุ่นเชิด และเป็นเพียงแค่ร่างกายที่มีขีดจำกัด ซึ่งสามารถจะรองรับได้แค่พลังเซียนเท่านั้น มัน…ไม่อาจจะเทียบได้กับเมิ่งฮ่าวอย่างแท้จริง

จิตใจมันหมุนคว้าง และโดยไม่ลังเลใดๆ ฟางเว่ยหมุนตัวเพื่อหลบหนีจากไป

ฟางซิ่วซานไม่เข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้ดีเท่ากับฟางเว่ย ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือปรมาจารย์รุ่นที่หก มันลังเล และด้วยเช่นนั้นจึงทำให้ตกอยู่ด้านหลังนานขึ้นเล็กน้อย ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจนี้เองที่เมิ่งฮ่าว…ขยับร่างเคลื่อนไหว!

เขามองขึ้นไป และเสียงกระหึ่มก็ดังก้องเต็มอยู่ในอากาศ ความรู้สึกที่กำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทำให้ดวงตาเมิ่งฮ่าวกลายเป็นสีแดงไปโดยสิ้นเชิง เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย ร่างกายมีขนาดใหญ่โตขึ้น และในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าเขากำลังมีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นแค่อาการของการเกิดประสาทหลอนหรือไม่ แต่พลังทั้งหมดนั้นจู่ๆ ก็ทำให้เขาเต็มไปด้วย…ความรู้สึกที่เชื่อมั่น

ราวกับว่าเขาได้บรรลุถึงขั้นที่ได้กลายเป็นสิ่งที่สูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ในโลกแห่งเซียน

ในตอนนั้นเองที่จิ่วต้าซานไห่ (เก้าขุนเขาทะเลอันยิ่งใหญ่) ได้สั่นสะเทือนขึ้นเล็กน้อย และระลอกคลื่นก็ได้ปรากฏขึ้นโดยที่ไม่มีผู้ฝึกตนคนใดสามารถรับรู้ได้ ระลอกคลื่นเหล่านี้กระจายออกไปทั่วทั้งเขตด้านนอกของจิ่วต้าซานไห่ หมุนวนเป็นวงกลมไปรอบๆ ทำให้ดวงตะวันและจันทราต้องหยุดชะงักนิ่งจากวงโคจรตราบชั่วนิรันดร์ของพวกมันไป

ถ้าจิ่วต้าซานไห่มีเจตจำนงแล้วละก็ เช่นนั้นในตอนนี้ก็ราวกับว่าเจตจำนงนั้นกำลังมองไปยังเมิ่งฮ่าว และทำให้เกิดเป็นระลอกคลื่นเหล่านี้กระจายออกไป ดวงตะวันและจันทราหยุดการโคจรหมุนวนไปชั่วหนึ่งลมหายใจ ราวกับว่าได้ต้อนรับ…บางสิ่งที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่การก่อตั้งจิ่วต้าซานไห่เป็นต้นมา…จักรพรรดิเซียน!

ภายในถ้ำแห่งเซียนในเศษซากเซียนของขุนเขาทะเลที่เก้า หญิงสาวในชุดสีขาวลุกขึ้นมายืน มองตรงไปยังดาวตงเซิ่ง และสีหน้าที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตลอดกาลของนางจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป

“ด้วยดวงชะตาเช่นนี้, ด้วยโชควาสนาเช่นนี้…มันคู่ควรที่จะอยู่ในพันธมิตรแห่งผู้ผนึกอสูรในจิ่วต้าซานไห่…” นางพึมพำขึ้นมา เมื่อพูดถึงคำว่าผู้ผนึกอสูร ดวงตานางก็แวบขึ้นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดและความทรงจำเมื่อในอดีต

“เซียนกู่, จิ่วเฟิง พวกท่านยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่? หรือว่าข้า…เป็นเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ เพียงคนเดียวเท่านั้น…” เสียงของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด และจริงๆ แล้ว หยดน้ำตาก็ได้ไหลลงมาบนแก้มของนาง ในที่สุดนางก็โบกสะบัดมือ ทำให้ดวงตะวันและจันทราเริ่มโคจรหมุนวนอีกครั้ง และจิ่วต้าซานไห่ก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

ในเวลาเดียวกันนั้น หยดน้ำตาก็ลอยออกไปในที่ห่างไกล ไปยังดินแดนที่ไม่มีใครรู้จักบางแห่ง บางทีมันอาจจะไปเป็นส่วนหนึ่งของทะเลม่วง หรือบางทีอาจจะไปเป็นหยดน้ำตาที่อยู่ในท่ามกลางพายุฝน

ถ้ามันมีวิญญาณ บางทีหยดน้ำตานั้นอาจจะตื่นขึ้นมา ด้วยความโหยหาและความมุ่งมั่นที่จะกลายเป็นทะเล

ในเวลาเดียวกันนั้นบนดาวตงเซิ่ง บนหลังของปรมาจารย์เอกะเทวะ เป็นหญิงสาวเยาว์วัยผู้หนึ่ง จู่ๆ นางก็มองขึ้นไป และความงุนงงก็สาดประกายอยู่ในแววตาของนาง ราวกับว่านางเพิ่งจะคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง

เมิ่งฮ่าวไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในจิ่วต้าซานไห่ ในตอนนี้เขาเพิ่งจะอดทนต่อความเจ็บปวดราวกับร่างจะถูกฉีกกระชากออกไปได้ ทำให้พลังอันน่ากลัวกระจายเต็มไปทั่วร่าง เขารู้ว่าสามารถจะอยู่ในขั้นนี้ได้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นและชี้ตรงไปยังฟางซิ่วซานอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเองชีพจรเซียนเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็ปะทุขึ้นมา ทำให้ทะเลแห่งเปลวไฟปรากฏขึ้น ปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่ง สามสิบสามสวรรค์และสามสิบสามปฐพีถูกโอบล้อมด้วยเปลวไฟแห่งการทำลายล้างอย่างไร้จุดสิ้นสุด

โลกแห่งเปลวไฟขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังฟางซิ่วซานในทันที

สีหน้าฟางซิ่วซานสลดลง และความรู้สึกถึงอันตรายอันร้ายแรง ได้พุ่งขึ้นมาอยู่ในจิตใจจนบรรลุถึงจุดสูงสุด ทำให้จิตใจมันต้องเต้นรัว รีบพุ่งถอยไปทางด้านหลังด้วยความรวดเร็วสูงสุด ขยับสองมือร่ายเวทขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น และโลหิตก็ถูกพ่นกระจายออกมาจากปากมัน ตะเกียงวิญญาณของมันปรากฏขึ้น หมุนวนไปมาอยู่รอบๆ ร่าง เช่นเดียวกับของวิเศษนับไม่ถ้วน ทั้งหมดนี้ได้ต่อสู้กลับไปยังเมิ่งฮ่าว

ในทันทีที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และของวิเศษพุ่งออกไป ทะเลแห่งเปลวไฟก็กลายเป็นหัตถ์ยักษ์ ซึ่งได้ปกคลุมไปทั่วร่างฟางซิ่วซานโดยสิ้นเชิงในชั่วพริบตา

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของมันพังทลายลงไป และของวิเศษทั้งหมดต่างก็หลอมละลายไป แม้แต่ตะเกียงวิญญาณของมันก็ยังต้องระเบิดขึ้นกลายเป็นเปลวไฟไป!

เมื่อตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วนั้นจู่ๆ ก็เกิดเป็นประกายไฟขึ้นมา ฟางซิ่วซานก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างโหยหวนออกมา ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อและประหลาดใจ ตะเกียงวิญญาณของมันหลอมละลายไป และฟางซิ่วซานก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมาขณะที่มัน…ถูกเปลวไฟปกคลุมไปทั่วร่าง

ไม่นานหลังจากนั้น สิ่งเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ของมันก็คือเถ้าธุลีที่กำลังลอยไปตามสายลม

มันถูกสังหารไปทั้งร่างกายและวิญญาณ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version