บทที่ 1068 แสงเทพ
บนท้องฟ้า สองราชวงศ์ต่างส่งกำลังครึ่งเทพมาสามคน
ฝั่งต่างเผ่าพันธุ์ มีครึ่งเทพพั่วเมี่ยจากวังเวหามาร มังกรวารีล้างโลกา และครึ่งเทพผู้หนึ่งจากลัทธิเมืองมืด
ส่วนราชวงศ์ต้าเฉียน ผู้ที่ออกรบคือครึ่งเทพไท่จี๋ ครึ่งเทพหลิงซวีจากวังลอยฟ้า ส่วนคนสุดท้ายก็คือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตำหนักไท่หวง ครึ่งเทพหลงหวง
“ฮ่าๆ วันนี้จะเป็นวันที่พวกเจ้าเหล่ามนุษย์ดับสูญ!”
มังกรวารีล้างโลกาใบหน้าเหี้ยมเกรียมอำมหิต หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ฟู่!
กรงเล็บของชายเกล็ดดำเพียงสะบัด คลื่นเปลวเพลิงสีดำมืดกลุ่มหนึ่งก็ทำลายการโจมตีไร้รูปร่างของครึ่งเทพหลงหวงทันที
ในขณะเดียวกัน คลื่นเปลวเพลิงกลุ่มนั้นม้วนบิดเป็นเพลิงมังกรดำลุกไหม้ กระโจนไปยังครึ่งเทพหลงหวง
“ต่อให้ราชวงศ์จันทราทมิฬมีปลาหนีชิวตัวดำเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว ก็ไม่อาจเป็นคู่มือของต้าเฉียนได้หรอก!”
ครึ่งเทพหลงหวงหน้าเปลี่ยนสี โบกสะบัดไม้เท้าหัวมังกรทองในมือเบาๆ
คมคลื่นรูปร่างมังกรสีทองสายหนึ่งโจมตีออกไปทันที เสวียนอ้าวพลังมหึมาน่าหวาดหวั่น ทำลายเพลิงมังกรดำของมังกรวารีล้างโลกาในชั่วพริบตา
โฮก! คมคลื่นรูปมังกรทองส่งเสียงคำรามของมังกรที่ทรงอำนาจ ฟาดฟันไปยังมังกรวารีล้างโลกา
“หึ หากข้าฟื้นฟูพลัง เพียงเพลิงมังกรล้างโลกาครั้งเดียวก็สามารถทำลายพวกเจ้าเหล่ามนุษย์ให้สูญสิ้นได้!”
แววตาของมังกรวารีล้างโลกาเหี้ยมโหด ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ หากแต่เผชิญหน้ากับการโจมตีของครึ่งเทพหลงหวง มังกรวารีล้างโลกาก็รีบโคจรพลังเทพปราณมังกรขึ้นทันใด ปลดปล่อยแสงสีแดงดำทำลายฟ้าดินขึ้นชั้นหนึ่ง
ครืน บึ้ม!
มังกรวารีล้างโลกาสัมผัสได้ถึงการโจมตีจากพลังเทพอันน่าหวาดหวั่น สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“นี่คือครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์!”
เผชิญหน้ากับครึ่งเทพหลงหวง มังกรวารีล้างโลกาจำเป็นต้องทุ่มสุดกำลัง
หากไม่ใช่เพราะต้องเพิ่มความเร็วให้กับจังหวะของสงครามแล้วละก็ มังกรวารีล้างโลกาไม่มีทางออกศึกในเวลานี้เด็ดขาด
ในตอนแรก เขาถูกมนุษย์ขั้นครึ่งเทพล้อมสังหาร กายได้รับบาดเจ็บหนัก พลังลดไปอย่างมาก แม้กระทั่งแหล่งพลังดั้งเดิมก็ได้รับการบาดเจ็บสาหัส
เมื่อไร้ซึ่งหนทาง มังกรวารีล้างโลกาจึงมุ่งหน้าไปหาพวกต่างเผ่าพันธุ์ ตกลงร่วมมือกับลัทธิเมืองมืด
ลัทธิเมืองมืดมอบทรัพยากรช่วยให้มังกรวารีล้างโลกาฟื้นฟูพลัง
ส่วนมังกรวารีล้างโลกาก็ช่วยราชวงศ์จันทราทมิฬทำลายราชวงศ์ต้าเฉียน
ในยามนี้ ขอบเขตพลังของมังกรวารีล้างโลกายังไม่ถึงระดับครึ่งเทพ แต่กลับมีกำลังรบครึ่งเทพแล้ว แต่เขากับครึ่งเทพหลงหวงผู้แข็งแกรงที่สุดของตำแหน่งไท่หวง ยังคงแตกต่างกันในระดับหนึ่ง
ครืน บึ้ม!
อีกสองฝั่งฟากฟ้า ผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพของสองราชวงศ์ก็เริ่มลงมือแล้ว
เบื้องล่างไกลออกไปจากเขตสู้รบของครึ่งเทพ กำลังรบปฐมเซียนและเซียนของทั้งสองฝั่งเข้าโรมรันกัน
ครืน บึ้ม!
ท้องฟ้าผันเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เสวียนอ้าวพลังที่น่าหวาดหวั่นทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนแปลง ตะวันจันทราหมุนกลับ
หากไม่ใช่จุดที่ครึ่งเทพสู้รบกัน ห่างจากภาคพื้นดินไกลลิบ เพียงแค่เศษเสี้ยวพลังที่เหลือก็สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งปฐมเซียนและเทวาเร้นลับชั้นแรกเริ่มได้
เขตสงครามภาคพื้นดิน ก็มีเพียงผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียนเท่านั้นที่สามารถสอดแนมการสู้รบอันน่าหวาดหวั่นบนท้องฟ้าไกลได้เป็นครั้งคราว
ในขณะเดียวกัน เบื้องหน้าและเบื้องหลังเขตสนามรบมณฑลหลิง ผู้เเข็งแกร่งชั้นยอดของราชวงศ์ต้าเฉียนและราชวงศ์จันทราทมิฬ ทุกคนต่างสนใจการต่อสู้ที่สามารถส่งผลต่อชะตาของทั้งสองราชวงศ์
ฝั่งมนุษย์ ตำหนักไท่หวงส่งครึ่งเทพหลงหวงซึ่งเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดมาเพื่อรับมือกับมังกรวารีล้างโลกา แต่ครึ่งเทพโยวหลง ผู้กุมอำนาจสุงสุดของลัทธิเมืองมืดแห่งราชวงศ์จันทราทมิฬ จนถึงบัดนี้กลับยังไม่ปรากฏกาย
ฝั่งราชวงศ์ต้าเฉียน ทุกคนต่างกระวนกระวาย มีความรู้สึกที่ไม่เป็นมงคลสักเท่าใด
แต่ทว่า หากครึ่งเทพหลงหวงสามารถใช้ข้อได้เปรียบ จัดการโจมตีมังกรวารีล้างโลกาจนแพ้พ่ายได้ เช่นนั้นสถานการณ์ก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
……
ในยามนี้ จ้าวเฟิงที่โบยบินอย่างรีบร้อนก็ออกจากมณฑลหลานมาถึงยังชายแดนมณฑลหลิง
จ้าวเฟิงถ่ายทอดเจตจำนงดวงตาไปยังเฒ่าประหลาดสวีผ่านตราผนึกดวงใจทมิฬ ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงเห็นทุกอย่างได้ผ่านการมองเห็นของเฒ่าประหลาดสวี
“เกินพลังขอบเขตเทวาเร้นลับ พลังเทพ!”
จ้าวเฟิงจิตใจสั่นสะท้าน ร้อนรนเล็กน้อย
จากสายตาของเฒ่าประหลาดสวี จ้าวเฟิงสามารถมองเห็นได้เพียงการสู้รบของครึ่งเทพ แต่ไม่อาจใช้ความสามารถวิเคราะห์ของตาซ้าย ไม่อาจเก็บภาพเหตุการณ์การสู้รบของครึ่งเทพได้
จากการต่อสู้ของครึ่งเทพทั้งหกบนสนามรบของทั้งสองราชวงศ์
จ้าวเฟิงกายใจสั่นสะท้าน ความคิดลอยไปถึงสนามรบอันห่างไกล เขาราวกับยืนอยู่ที่ตำแหน่งของเฒ่าประหลาดสวี มองไปยังการต่อสู้ของครึ่งเทพบนท้องฟ้า
“ครึ่งเทพหลงหวง ครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์ต้าเฉียน!”
จ้าวเฟิงบัญชาเฒ่าประหลาดสวี ให้จับจ้องสายตาไปยังการต่อสู้ของครึ่งเทพหลงหวงและมังกรวารีล้างโลกา
เป็นใครก็สามารถมองออก การต่อสู้ครั้งนี้ต่างหากที่เป็นจุดสำคัญของสองราชวงศ์ ในเมื่อผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์จันทราทมิฬอย่างครึ่งเทพโยวหลงยังไม่ปรากฏกาย หากมังกรวารีล้างโลกาได้รับบาดเจ็บใดๆ ระหว่างสู้รบกับครึ่งเทพหลงหวง
ครึ่งเทพโยวหลงผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์จันทราทมิฬก็จะลงมือทันที!
ทว่า ครึ่งเทพหลงหวงไม่เสียทีที่เป็นครึ่งเทพผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์ต้าเฉียน เห็นได้ชัดเลยว่ามังกรวารีล้างโลกาไม่ใช่คู่มือของเขา ไม่นานนักก็ตกอยู่ในสถานการณ์ถูกจู่โจม
“พลังของมังกรวารีล้างโลกาเพิ่งจะฟื้นคืนถึงระดับครึ่งเทพ!”
จ้าวเฟิงพลันเกิดความสงสัยขึ้น
มังกรวารีล้างโลกาไยจึงไม่รอไปอีกสักหน่อย รอจนพลังของเขาฟื้นฟูจนถึงขั้นสูงสุดค่อยลงมือ!
“บางทีราชวงศ์จันทราทมิฬก็ไม่ไว้ใจมังกรวารีล้างโลกากระมัง!”
จ้าวเฟิงพูดกับตนเอง
เผ่าพันธุ์มังกรวารีล้างโลกาเป็นเผ่าพันธุ์น่าสะพรึงที่เกิดมาเพื่อทำลาย ทุกที่ที่ไปถึงจะสูญสิ้น และความเชื่อของเผ่าพันธุ์มังกรวารีล้างโลกาก็คือทำลายมิติผืนพสุธาทั้งหมด เผ่าพันธุ์นี้จึงถูกมองเป็นศัตรูจากเผ่าพันธุ์บรรพกาลทั้งหมดที่เหลือ
ราชวงศ์จันทราทมิฬก็รู้ถึงพิษภัยของมังกรวารีล้างโลกาดี จึงไม่มีทางไว้ใจ ปล่อยให้เขายกระดับพลังได้ตามใจชอบ
แน่นอน นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของจ้าวเฟิงเท่านั้น
“นี่ก็คือเงาโลกมิติส่วนตัวของครึ่งเทพ!”
จิตใจของจ้าวเฟิงสั่นสะท้านเป็นระลอกๆ
จากการมองเห็นของเฒ่าประหลาดสวี จ้าวเฟิงพบว่าโลกมิติส่วนตัวของครึ่งเทพเกือบจะแฝงไว้ด้วยเสวียนอ้าวห้าธาตุทั้งหมด
นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าการคาดเดาในตอนแรกของจ้าวเฟิงนั้นไม่ผิดเลย หากคิดอยากสร้างโลกมิติส่วนตัวให้เป็นมิติที่แท้จริง โลกมิติส่วนตัวจะต้องแฝงด้วยพลังของห้าธาตุ
“มันเกิดอะไรขึ้น นี่คือ?”
จ้าวเฟิงที่กำลังโบยบินอยู่หยุดการเคลื่อนไหวทันใด สายตาตะลึงงัน ความคิดลอยไปอีกที่
“ครึ่งเทพหลงหวงเขา?”
“นั่นมันศรสังหารเทพ!”
“ครึ่งเทพหลงหวง สังเวยศรสังหารเทพแล้ว!”
เขตสังเกตการณ์สงครามของราชวงศ์ต้าเฉียนโกลาหลฮือฮากันชั่วขณะ
ในตำหนักขนาดใหญ่ ครึ่งเทพผู้หนึ่งของตำหนักไท่หวงทอดสายตาลึกล้ำมองไปยังท้องฟ้า
“หลงหวงวางแผนใช้ศรสังหารเทพดอกนี้สร้างความบาดเจ็บให้กับมังกรวารีล้างโลกาตั้งนานแล้ว!”
ครึ่งเทพผู้นี้ยิ้มน้อยๆ
ครึ่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์จันทราทมิฬยังไม่ปรากฏกาย ครึ่งเทพหลงหวงจะไม่รู้หนักเบา ออกศึกตามอารมณ์ได้อย่างไร
แท้ที่จริง ครึ่งเทพหลงหวงมีแผนเอาไว้แล้ว
บนท้องฟ้า ในมือของครึ่งเทพหลงหวงถือคันธนูโบราณไร้รูปที่มีโครงสร้างจากพลังเทพ บนสายธนูมีลูกธนูแสงสีแดงทองที่ปกคลุมด้วยแสงเทพประกายทองขึ้นสายไว้
อาวุธเทพชั้นรองศรสังหารเทพ
ผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพเท่านั้นจึงจะสามารถดึงพลังสูงสุดของมันออกมาได้ ในยามนี้ อาวุธเทพชั้นรองศรสังหารเทพที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวอยู่ในมือของครึ่งเทพหลงหวง ส่องประกายเจิดจ้าน่าหวาดหวั่นออกมา เสวียนอ้าวสีทองที่ทำลายล้างทุกสิ่งโอบล้อมฟ้าดินเอาไว้
แสงเทพสีทองที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน พุ่งทะลุทุกสรรพสิ่ง ทำลายเสวียนอ้าวกฏเกณฑ์ทุกอย่างบนท้องฟ้า ขับไล่ทุกสิ่งดุจแสงอาทิตย์สว่างไสวท่ามกลางความมืด
“นี่มันศรสังหารเทพ!”
มังกรวารีล้างโลกาสั่นสะท้านไปทั้งตัว ดวงตาตื่นกลัว
“ใช่แล้ว!”
ใบหน้าของครึ่งเทพหลงหวงเรียบนิ่ง ห้วงคิดเซียนจับจ้องที่มังกรวารีล้างโลกา
ศรสังหารเทพดอกนี้ ก็คือศรที่เหล่าองค์ชายของราชวงศ์ต้าเฉียนได้มาอย่างยากลำบากในมิติเทพลวงตา
ด้วยพลังของครึ่งเทพ เมื่อโคจรศรสังหารเทพดอกนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้มังกรวารีล้างโลกาได้รับบาดเจ็บหนัก หากมีโอกาสแล้วละก็ ครั้งนี้เขาจะสังหารมังกรตัวนี้ให้สิ้นซากเสีย
“เจ้าเฒ่านี่ เจ้าควรจะเก็บอาวุธเทพชั้นรองไว้จัดการครึ่งเทพโยวหลงสิ!”
มังกรวารีล้างโลกาสบถขึ้นมาทันใด
สำหรับข่าวที่ว่าราชวงศ์ต้าเฉียนมีศรสังหารเทพ เขาได้ยินมาตั้งนานแล้ว แต่เขามั่นใจว่าราชวงศ์ต้าเฉียนจะเก็บศรดอกนี้เอาไว้จัดการกับผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์จันทราทมิฬอย่างครึ่งเทพโยวหลง
หากเป็นมังกรวารีล้างโลกาในยามที่เฟื่องฟูที่สุด เผชิญหน้ากับศรสังหารเทพก็ไม่ระคายผิวด้วยซ้ำ แต่ยามนี้เขาไม่อาจต้านทานพลานุภาพของศรสังหารเทพได้
ทั่วร่างของมังกรวารีทมิฬพลันห้อมล้อมด้วยประกายเพลิงแดงดำ จากนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นมังกรยักษ์สีดำที่ยาวหลายร้อยลี้
วู้ม วู้ม!
รอบกายมังกรวารีล้างโลกามีเงาโลกมิติส่วนตัวที่เต็มไปด้วยเพลิงมังกรแดงดำชั้นหนึ่งผุดขึ้น หลังสะบัดหางก็ลากเพลิงมังกรล้างโลกที่น่ากลัวเป็นทางยาว ก่อนจะหายไปจากฟ้าในพริบตา
ฉัวะ!
และยามนี้เอง ครึ่งเทพหลงหวงปล่อยสายธนู เงาแสงธนูสีทองที่ยาวร้อยลี้ มีแสงเทพประกายทองมหาศาลกะพริบวูบวาบ พุ่งพาดผ่านฟ้าทำลายทุกสรรพสิ่ง
ในขณะเดียวกัน ครึ่งเทพหลงหวงก็แหวกผืนฟ้าไล่ตามมังกรวารีล้างโลกาไป
ชายแดนมณฑลหลิง จ้าวเฟิงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ชั่วเสี้ยวขณะที่ครึ่งเทพหลงหวงยิงศรสังหารเทพออกไปลอยอยู่ในหัว
“นี่ถึงจะเป็นพลังที่แท้จริงของศรสังหารเทพ มากเพียงพอจะทำให้ผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพบาดเจ็บหนัก!”
จ้าวเฟิงตื่นตะลึงอยู่นาน ก่อนจะส่งเสียงออกมาอย่างเนิบช้า
เทียบกับครึ่งเทพหลงหวงแล้ว พลังศรสังหารเทพของจ้าวเฟิงในตอนแรกไม่อาจเทียบได้เลย
และตอนนี้เอง
สายตาของจ้าวเฟิงมองผ่านไปยังที่ไกลหลายหมื่นลี้ มองเห็นร่างที่คุ้นตาร่างหนึ่ง
“ซินอู๋เหิน? เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
จ้าวเฟิงประหลาดใจเล็กน้อย
ยามนี้ผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพของสองราชวงศ์สู้รบกัน ซินอู๋เหินไม่อยู่ในเขตสังเกตการณ์สงคราม แต่กลับมาที่พื้นที่ชายขอบของมณฑลหลิง
แววตาของซินอู๋เหินส่องประกายสีขาววาววับ เขายื่นแขนออกมา คว่ำฝ่ามือลง
แม้แต่จ้าวเฟิงก็ไม่เห็นว่าบนฝ่ามือของซินอู๋เหินมีลวดลายสีขาวซับซ้อนก่อเค้าโครงขึ้น
“เป็นที่นี่รึ? เป็นใครที่เรียกข้ากัน?”
สีหน้าของซินอู๋เหินสับสนเล็กน้อย
ตูม! ซินอู๋เหินซัดฝ่ามือไปยังผืนดินทันที
จ้าวเฟิงที่อยู่ไกลออกไปนับหมื่นลี้มองท่าทางของซินอู๋เหินด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่
ตุบ ตุบ!
ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงพลันเต้นตุบๆ ลางสังหรณ์ถึงอันตรายที่ไม่เคยมีมาก่อนลอยขึ้นในหัวเขา
ดวงตาซ้ายที่มีลายคลื่นสีทองอ่อนลอยอบอวลมองไปยังเบื้องล่าง
“ไม่ดีแล้ว!”
จ้าวเฟิงใจหายวูบ เผยสีหน้าหวาดกลัว
ครืน ตูม!
จ้าวเฟิงสำแดงปีกอัสนีผ่านฟ้าทันที แปลงเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์สีแดงชาดโบยบินไปยังด้านหลัง เพียงชั่วพริบตาก็หายไปในท้องฟ้า
แต่หลังจากที่จ้าวเฟิงสำแดงปีกอัสนีผ่านฟ้าข้ามผ่านไปได้หลายหมื่นลี้แล้วก็ยังคงไม่หยุด แต่ยังหนีต่อไปเรื่อยๆ เหมือนข้างหลังมีภัยแห่งความตายที่สลัดไม่หลุด
บึ้ม บึ้ม บึ้ม!
ขณะนี้เอง ลึกลงไปใต้พื้นดินเกิดเสียงสะเทือนน่าพรั่นพรึงดังสนั่น ดั่งเสียงคำรามอันเคืองแค้นของสัตว์ยักษ์บรรพกาลนับไม่ถ้วน
ผืนปฐพีแยกออกดั่งหุบเหวยักษ์แห่งห้วงอวกาศ แสงเทพเลือนรางสีขาววาววับพุ่งไปยังท้องฟ้าพร้อมกลิ่นอายที่ทำลายทุกสรรพสิ่ง
ในเสี้ยวขณะนั้น สรรพสิ่งทุกอย่างทั่วบริเวณหมื่นลี้ดับสูญทันใด
คล้อยหลังการสาดส่องของแสงเทพสีขาววาววับ ท้องฟ้าบิดเบี้ยว มวลอากาศแหลกสลาย แรงดึงดูดแห่งความตายที่ชวนให้คนหวาดหวั่นลอยออกมาจากรอยแยกที่เยือกเย็นมืดมิด
จ้าวเฟิงในยามนี้ ในที่สุดก็หยุดพักลง รู้สึกถึงพลังทำลายล้างที่สามารถสังหารครึ่งเทพได้ในชั่วเสี้ยวขณะจากข้างหลัง
ตุบ ตุบ!
จ้าวเฟิงใบหน้าซีดเผือด หัวใจของเขายังคงเต้นระรัว
ในยามนั้น หากช้าไปอีกเพียงครึ่งชั่วอึดใจ ต่อให้มีดวงตาเทพเจ้า ศรสังหารเทพ หรือมนตราอากาศไพ่ตายพวกนี้ จ้าวเฟิงก็วิญญาณแตกดับสูญสลายเป็นแน่
“นี่มันเรื่องอะไรกันนี่?”
จ้าวเฟิงมองภาพเหตุการณ์แปลกประหลาดเบื้องหน้า เอ่ยออกมาอย่างตื่นตะลึง