Skip to content

King of Gods 1069

King Of Gods

บทที่ 1069 ร่างเทพ

“นี่มันอะไรกัน?”

จ้าวเฟิงมองไปยังภาพน่าหวาดหวั่นเบื้องหน้า ส่งเสียงร้องอย่างตะลึงงัน

เบื้องหน้าของเขา ผืนแผ่นดินแยกออกเป็นหุบเหวลึกกว้างถึงหมื่นลี้ แสงเทพสีขาววาวแววสาดส่องออกมาจากในนั้น พลังต้องห้ามน่าพรั่นพรึงที่จะทำลายทุกสิ่งปกคลุมทั่วพื้นที่นับหมื่นลี้

ตรงที่แสงเทพต้องห้ามนี้ลอยอบอวล ทุกสรรพสิ่งดับดิ้นสูญสลาย

จ้าวเฟิงอยู่ห่างจากกลิ่นอายแสงเทพนี้หลายหมื่นลี้ กายของเขากลับยังคงไม่อาจทนรับแรงกดดันจากกลิ่นอายของมันได้

“ซินอู๋เหินเขา?”

จ้าวเฟิงนึกถึงซินอู๋เหินทันใด

จากการสังเกต ณ ขณะนั้นของจ้าวเฟิง ปรากฏการณ์ประหลาดทั่วฟ้าดิน เหมือนจะเป็นซินอู๋เหินที่นำมา

แต่ซินอู๋เหินตัวอยู่ในใจกลางของหุบเหวน่าหวาดหวั่นนั่น จะต้านทานการโจมตีจากพลังเทพได้อย่างไร?

วู้ม! ลายคลื่นสีทองอ่อนชั้นหนึ่งแผ่ซ่านในตาซ้ายของจ้าวเฟิง

สายตาของเขามองไปยังหุบเหวขนาดใหญ่มโหฬารที่ยังคงเปล่งแสงเทพ

“แม้กระทั่งพลังเทพก็สามารถมองทะลุได้!”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงลิงโลด ในใจสั่นสะท้าน

ยามนี้เขานับว่าเข้าใจจุดแข็งของดวงตาซ้ายสีทองของตนแล้ว

ฟู่! สายตาของจ้าวเฟิงมองทะลุลงไปยังเบื้องล่าง แต่หุบเหวใหญ่มโหฬารนี้ราวกับยืดขยายไปยังใต้พื้นที่ลึกที่สุด ลึกนับหมื่นลี้

จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังมองทะลุของตาซ้ายจนถึงขีดจำกัด

ในที่สุด สายตาของจ้าวเฟิงก็มองทะลุไปยังใต้พิภพนับแสนลี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้สายตาจะค่อนข้างเลือนราง แต่จ้าวเฟิงก็ยังคงมองเห็นอะไรบ้าง สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเกินความคาดหมาย

“นี่มัน?” จ้าวเฟิงลมหายใจติดขัด

ในครรลองสายตาของเขา เค้าโครงฝ่ามือข้างหนึ่งที่ใหญ่มหึมาปรากฏขึ้น ข้างฝ่ามือเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นร่างคน

แต่ทว่า ลำพังแค่ขนาดของมือข้างหนึ่งก็ใหญ่จนทำให้ตกใจ ไม่ต้องพูดถึงว่าร่างนั้นจะใหญ่ขนาดไหน

“นี่จะใหญ่เพียงใดกัน!”

จ้าวเฟิงยืนอยู่ที่เดิม สูดหายใจเข้าลึก

ใต้พื้นพิภพลึกลงไปแสนลี้ มีร่างร่างหนึ่งนอนอยู่ และขนาดของร่างนี้แม้กระทั่งตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็ไม่อาจประมาณได้ บางทีอาจจะถึงล้านจั้งหรือสิบล้านจั้ง…

สำหรับร่างที่ใหญ่ขนาดนี้ จ้าวเฟิงนึกถึงได้แต่เพียงเผ่าพันธุ์เทพยักษ์ที่อยู่ในอันดับสิบห้าของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ

แต่ใต้พื้นดินของดินแดนทวีป ทำไมจึงมีร่างของพลังตำแหน่งเทพอยู่ได้

“ร่างเทพ อีกทั้งไม่ใช่ร่างเทพแท้จริงทั่วไปอีกด้วย!”

สายตาของจ้าวเฟิงเคร่งขรึมเล็กน้อย

สำหรับเขาที่เข้าใจในพลังของเทพแท้จริงไม่ถ่องแท้พอ ไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าพลังที่แผ่กระจายออกมาจากร่างผลึกแก้วใต้พื้นดินลึกนั่นอยู่ในขั้นไหน

แต่ว่า สิ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือพลังกลุ่มนี้เกินกว่าเทพแท้จริงทั่วไป อยู่สูงกว่าทุกสรรพสิ่งในดินแดนทวีป

สามารถพูดได้ว่า นี่เป็นความลับที่น่าพรั่นพรึงที่สุดนับตั้งแต่ดินแดนทวีปก่อกำเนิดขึ้นมา ความลับที่สามารถทำให้ทุกคนในดินแดนแห่งนี้บ้าคลั่งเพราะมันได้ ต่อให้เป็นราชาเซียนหรือครึ่งเทพก็ล้วนแต่ไม่อาจต้านทานความเย้ายวนนี้ได้ ต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าต้องตายแปดถึงเก้าส่วน พวกเขาก็คิดอยากจะกระโจนเข้าไปโดยไม่ลังเลแม้เพียงนิด

แต่ในยามนี้ แม้กระทั่งหุบเหวบนพื้นดินนั่น จ้าวเฟิงก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงร่างผลึกแก้วที่ฝั่งอยู่ใต้พื้นดินลึกเกือบแสนลี้

จ้าวเฟิงรีบเหนี่ยวนำตราผนึกดวงใจทมิฬ เปลี่ยนครรลองสายตาไปที่เฒ่าประหลาดสวี

“จริงๆ ด้วย เขตสงครามครึ่งเทพก็แตกตื่นกันแล้วเช่นกัน!”

จ้าวเฟิงจิตใจสั่นสะท้าน

บนพื้นถนนพลันเกิดรอยแยกพาดผ่านมณฑลหลาน มณฑลหลิง ยาวนับล้านล้านลี้…

ในตอนนี้ บนสนามรบครึ่งเทพที่มณฑลหลิง ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดของสองราชวงศ์ล้วนถอยจากไป แม้กระทั่งราชาเซียนกับครึ่งเทพก็ไม่เว้น

ผู้แข็งแกร่งของทั้งสองราชวงศ์ที่กำลังต่อสู้บนสนามรบก็รีบหยุดสงคราม ถอยจากไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนผู้แข็งแกร่งที่ขอบเขตพลังค่อนข้างต่ำ ความเร็วค่อนข้างช้าบางส่วน สุดท้ายแล้วก็ดับสลายเป็นเถ้าถ่านไปภายใต้กลิ่นอายพลังเทพนั่น

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ในฝั่งต้าเฉียน ครึ่งเทพผู้หนึ่งของตำหนักไท่หวงรู้สึกถึงพลังเทพที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน จิตใจสั่นสะท้าน

บนพื้นดิน ทำไมจู่ๆ ถึงทะลักพลังเทพที่น่ากลัวถึงเพียงนี้ได้!

“ใต้พื้นดินของสนามรบเหมือนจะมีอะไรอยู่!”

‘ครึ่งเทพโยวไห่’ แห่งวังเก้านิรยใบหน้าทะมึน ตาทั้งสองข้างส่องประกายแสงเย็นเยือกสีม่วง

อีกด้านหนึ่ง พวกต่างเผ่าพันธุ์ก็ถอยจากไปอย่างรวดเร็วนับแสนลี้

ในกลุ่มฝูงชน ต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งที่มีเกล็ดสีดำทั่วทั้งร่าง กายกึ่งโปร่งแสง ยืนตระหง่านกลางท้องฟ้า แรงกดดันจิตวิญญาณที่น่าหวาดหวั่นสะเทือนไปทั่วทุกทิศ

คนผู้นี้ก็คือผู้แข็งแกร่งที่สุดของลัทธิเมืองมืดแห่งราชวงศ์จันทราทมิฬ…ครึ่งเทพโยวหลง

แต่ในยามนี้ เมื่อเทียบเขากับกลิ่นอายแสงเทพเลือนรางตรงใจกลางสนามรบ เห็นได้ชัดว่าออกจะเล็กน้อยด้อยค่า

“หรือว่านี่คือเหตุผลที่มังกรวารีล้างโลกาปลุกปั่นข้าให้โจมตีต้าเฉียน?”

ดวงตาของครึ่งเทพโยวหลงคร่ำเคร่ง

สำหรับมังกรวารีล้างโลกา ครึ่งเทพโยวหลงระวังเอาไว้มาโดยตลอด

ครึ่งเทพโยวหลงปลดปล่อยประสาทสัมผัสจิตวิญญาณกวาดไปยังพื้นดิน แต่ยังกวาดลึกลงไปได้เท่าไหร่ ก็ถูกแสงเทพสีขาวที่น่าหวั่นเกรงทำลายไป

“ข้างใต้นี่มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่?”

ครึ่งเทพจากขั้วอำนาจสามดาวขั้นสุดยอดอีกผู้หนึ่งของราชวงศ์จันทราทมิฬถามขึ้นอย่างประหลาดใจ

ช่วงสุดท้ายของสงครามสองราชวงศ์ถูกขัดจังหวะด้วยสถานการณ์กระทันหันนี้

ขณะนี้ ผู้คนทั้งหมดบนสนามรบ ทั้งกายและใจล้วนมุ่งไปยังพลังเทพที่แข็งแกร่งนั่น ไม่ได้คิดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสงครามแต่อย่างใด

อีกฝั่งหนึ่งของขอบฟ้าไกล

ครึ่งเทพหลงหวงที่กำลังไล่ตามมังกรวารีล้างโลกาก็พลันหยุดลงเช่นกัน

ไม่ไกลจากเบื้องหน้าเขา ร่างของมังกรวารีล้างโลการุ่งริ่งน่าอนาถยิ่งนัก

“เป็นไปได้อย่างไรกัน? พลังในร่างเทพรั่วไหลออกมางั้นรึ!”

ดวงตาทั้งสองข้างของมังกรวารีล้างโลกาสั่นสะท้าน คิดไม่ตกเล็กน้อย

ตามที่เขาสังเกตมาก่อนหน้านี้ ร่างเทพที่ฝังซ่อนอยู่ลึกนับแสนลี้ใต้พื้นดินของต้าเฉียน พลังชีวิตดับไปแล้วโดยสิ้นเชิง ควรจะเป็นซากศพเท่านั้น

แต่ในยามนี้ พลังในร่างเทพร่างนี้กลับรั่วไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ!

เขาพยายามยุยงให้ราชวงศ์จันทราทมิฬรุกรานราชวงศ์ต้าเฉียนสุดกำลัง ก็เพราะหวังจะชิงพื้นที่ผืนนี้กลับมา จากนั้นมังกรวารีล้างโลกาก็จะหาโอกาสดำลงไปใต้ผืนดินเพียงลำพัง

หากสามารถได้พลังในร่างเทพนั้น การฟื้นฟูพลังยุคที่เฟื่องฟูที่สุดก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรอีก

แต่ตอนนี้พลังร่างเทพรั่วไหล แทบทั้งดินแดนทวีปรู้สึกถึงการมีอยู่ของร่างเทพ

ฟิ้ว ฟู่!

มังกรวารีล้างโลกาฉวยโอกาสในขณะที่ครึ่งเทพหลงหวงอึ้งตะลึง แปลงเป็นกลุ่มควันสีดำสายหนึ่งหายไปจากท้องฟ้า

“พลังของตำแหน่งเทพ!”

ครึ่งเทพหลงหวงสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว ไม่สนใจมังกรวารีล้างโลกาอีกต่อไป

หลงหวงหยุดอยู่ที่ขั้นครึ่งเทพนานแปดหมื่นปีแล้ว จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจพิสูจน์ตำแหน่งเทพได้

แต่ในวันนี้ แสงเทพสีขาววาววับที่ล้นทะลักออกจากผืนดินไกลๆ ก็คือพลังของตำแหน่งเทพมิใช่รึ!

นี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเขา!

ครึ่งเทพหลงหวงเห็นมังกรวารีล้างโลกาหนีไปแล้วก็ไม่ได้ไปสนใจอะไร นึกอยากจะกลับไปยังทัพของต้าเฉียนเสียตอนนั้นให้ได้

“บัดซบ!”

มังกรวารีล้างโลกาที่หนีรอดความตายมาได้ ในใจมีไฟโทสะคุกรุ่น

แผนที่วางไว้แต่เดิมล้มเหลว ซ้ำในยามนี้ยังถูกครึ่งเทพหลงหวงของราชวงศ์ต้าเฉียนทำให้บาดเจ็บหนัก ทว่าเขายังมีหวังจะได้แก้แค้น นั่นก็คือร่างเทพลึกใต้พื้นดิน แต่ร่างเทพถูกเปิดเผยออกมา

ราชวงศ์จันทราทมิฬก็รู้ถึงความตั้งใจของมังกรวารีล้างโลกาแล้ว ตอนนี้ไม่วาจะเป็นราชวงศ์จันทราทมิฬหรือราชวงศ์ต้าเฉียนก็จะลงมือทันใดหากพบมังกรวารีล้างโลกา

มังกรวารีล้างโลกาปวดหัวเป็นอย่างมาก สถานการณ์เช่นนี้ เขาจะดำดิ่งลงไปใต้พื้นพิภพแล้วเข้าใกล้ร่างเทพได้อย่างไร? ยามนี้เขาบาดเจ็บสาหัสนัก หากพบผู้แข็งแกร่งชั้นสุดยอดอื่นๆ ของทั้งสองราชวงศ์อาจจะดับดิ้นจริงๆ ก็เป็นได้

“นั่นคือ?

มังกรวารีล้างโลกาที่กายบาดเจ็บหนัก สีหน้าแฝงไว้ด้วยความประหลาดใจขณะมองลงไปยังเบื้องล่าง

ที่นี่ยังคงเป็นพื้นที่สนามรบ แต่กลับมีหญิงสาวผอมบางเรียบง่ายผู้หนึ่งยืนอยู่ ขอบเขตพลังแค่ประมาณแก่นก่อกำเนิดระดับสูงเท่านั้น

ต้องรู้ก่อนว่า ยามนี้เป็นช่วงสุดท้ายของสงคราม ต่อให้เป็นราชันทั่วไปก็ไม่กล้ามายังสนามรบง่ายๆ นับประสาอะไรกับผู้สูงศักดิ์ในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูง

“มังกรวารีล้างโลกา?”

ไป๋หลินก็ตะลึงไปเช่นกัน

ตามการพยากรณ์จากโชคชะตา นางมายังที่แห่งนี้ กลับคิดไม่ถึงว่าผู้ที่รอคอยจะเป็นมังกรวารีล้างโลกา

แต่เสี้ยวขณะต่อไป นางเผยรอยยิ้มบางออกมา

“เนตรทำนาย?”มังกรวารีล้างโลการอบรู้เป็นอย่างยิ่ง สามารถวิเคราะห์ฐานะที่แท้จริงของเด็กสาวเบื้องหน้าได้อย่ารวดเร็ว

“จะร่วมมือกันหรือไม่?”

ไป๋หลินเผยรอยยิ้มน้อยๆ ที่แสนจะเรียบง่าย

มังกรวารีล้างโลกาอึ้งไปเล็กน้อย ต่อให้ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก แต่สังหารขอบเขตแก่นก่อกำเนิดทั่วไปก็เป็นเรื่องเพียงแค่ชั่วประเดี๋ยวเท่านั้น

แต่ว่ามังกรวารีล้างโลกากลับคิดอย่างจริงจังอยู่ชั่วขณะ

“ไปเถอะ!”

มังกรวารีล้างโลกาโคจรพลังอันยิ่งใหญ่ ม้วนตัวไป๋หลินหายไปในท้องฟ้า

……

สนามรบแนวหน้า ข่าวพลังของตำแหน่งเทพทะลักจากใต้พื้นดินแพร่สะพัดไปทั่วทั้งสองราชวงศ์ทันใด และจุดศูนย์กลางของการปะทุพลังก็ยังคงเป็นเขตต้องห้ามที่แม้กระทั่งครึ่งเทพก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้

เขตแดนต้องห้ามผืนนี้พาดผ่านสนามรบนับร้อยล้านลี้ ราวกับร่องสวรรค์ที่แบ่งแยกทั้งสองราชวงศ์ออกจากกัน

ณ พื้นที่ห่างไกลไปจากเขตต้องห้ามนี้ สองราชวงศ์ต่างส่งผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนไปเฝ้าเอาไว้

อีกด้านหนึ่ง ทั้งสองราชวงศ์ก็ตั้งสมาชิกตรวจสอบโดยเฉพาะ หวังว่าจะสามารถขุดความลับใต้พื้นดินลึกได้!

ขณะนี้ทั้งสองราชวงศ์จะยังมีเวลาที่ไหนมาเปิดศึกอีก

ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงของทั้งสองราชวงศ์ล้วนเป็นบุคคลขั้นครึ่งเทพ และความปรารถนาตลอดชีวิตของผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพ ก็คือได้รับการรับรองตำแหน่งเทพเพื่อเข้าไปยังดินแดนเทพรกร้าง

ยามนี้ดินแดนทวีปทะลักพลังเทพมหาศาลที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ออกมา ยากที่จะจินตนาการได้ว่า ลึกลงไปในใต้ดินซ่อนความลับอะไรเอาไว้กันแน่

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ราชาเซียนทั้งหมดอีกทั้งครึ่งเทพล้วนเชื่อมั่นว่า ลึกลงไปใต้ดินจะต้องมีโอกาสช่วยทะลวงตำแหน่งเทพอย่างแน่นอน

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือรอให้พลังเทพในหุบเหวลึกค่อยๆ จางลงไป ทั้งสองราชวงศ์จึงจะสามารถยืนยันสถานการณ์ข้างในหรือเข้าไปข้างในนั้นได้

……

สนามรบมณฑลหลานก็มีพื้นที่ขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งเป็นขอบเขตที่ปกคลุมด้วยพลังเทพ

ส่วนจ้าวเฟิงที่รู้ว่าสงครามระหว่างสองราชวงศ์หยุดลงกลางคัน ณ วันนั้น ก็กลับมายังมณฑลหลานทันที

จ้าวเฟิงกำลังเดินไปมาอยู่บนสนามรบมณฑลหลาน ตรงจุดที่อยู่ห่างจากอาณาเขตซึ่งถูกปกคลุมด้วยแสงต้องห้าม

วู้ม! ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมีลายคลื่นสีทองอ่อนชั้นหนึ่งลอยขึ้น

จ้าวเฟิงกวาดมองแสงเทพสีขาวทองหนาแน่นที่อยู่ไกลออกไป

“เป็นพลังชั้นสูงที่ซับซ้อนจริง!”

เดิมทีจ้าวเฟิงคิดจะทำการวิเคราะห์พลังเทพ

แต่โครงสร้างจุดของพลังเทพ จ้าวเฟิงมองแล้วขนหัวลุก ไม่อาจจัดการความคิดได้เลย ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มทำความเข้าใจจากจุดไหนก่อน

ไม่อาจทำความเข้าใจในพลังเทพได้อย่างลึกซึ้ง จ้าวเฟิงก้มหน้าลงไปอีกครั้ง มองทะลุผ่านพื้นดินและพลังเทพในระยะห่างแสนลี้ มองลงไปในจุดที่ลึกที่สุดใต้พื้นดิน

ถึงแม้ว่าจ้าวเฟิงจะสามารถมองทะลุผ่านพลังเทพและพื้นดิน เห็นภาพวัตถุใต้พื้นดินลึกล้านลี้ได้ แต่สิ่งที่เขามองเห็นก็มีขีดจำกัดเป็นอย่างมาก อีกทั้งภาพวัตถุที่เห็นก็รางเลือนยิ่งนัก แต่ถึงแม้ทัศนวิสัยจะรางเลือน จ้าวเฟิงก็พอใจมากแล้ว

ต้องรู้ว่าในสองราชวงศ์นี้ เกรงว่าจะมีเพียงจ้าวเฟิงเท่านั้นที่รู้ว่าใต้พื้นดินนับแสนลี้คือสิ่งใด สำหรับเรื่องนี้ แน่นอนว่าจ้าวเฟิงไม่มีทางพูดออกไป

“นี่คือกะโหลกของร่างเทพ!”

สายตาของจ้าวเฟิงเพียงกวาดมอง ทะลุผ่านสิ่งกีดขวางจำนวนมากอย่างลำบาก อาศัยภาพอันรางเลือนมากมายคาดเดาออกมา และกะโหลกของศพเทพร่างนี้ยิ่งมีขนาดใหญ่มหึมา ทำให้ยากที่จะจินตนาการได้ว่า บนโลกนี้มีเผ่าพันธุ์ที่ร่างใหญ่โตถึงเพียงนี้ด้วย

สายตาของจ้าวเฟิงจ้องเขม็งไปยังกะโหลกของร่างเทพ ในลูกทรงกลมสีทองลึกลับ ลายคลื่นสีทองแต่ละกลุ่มๆ ทะลักออกมาไม่ขาดสาย ตลบอบอวลไปยังพื้นผิวตาซ้ายของจ้าวเฟิง ณ ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของจ้าวเฟิงมองทะลุผ่านไปยังพื้นผิวของกะโหลกร่างเทพแบบผ่านๆ

“ข้างในมีการเคลื่อนไหว!”

จ้าวเฟิงส่งเสียงร้องตกใจ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version