Skip to content

King of Gods 1070

King Of Gods

บทที่ 1070 จากไป

“ข้างในมีการเคลื่อนไหว!”

จ้าวเฟิงส่งเสียงตกใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ

พลังเทพต้องห้ามกลุ่มนั้นบนสนามรบ สามารถโจมตีสังหารผู้แข็งแกร่งขั้นครึ่งเทพในดินแดนทวีปได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจุดกำเนิดพลังเทพใต้แผ่นดินลึก เกรงว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้

แต่ในยามนี้ จ้าวเฟิงค้นพบว่ากลางศีรษะของร่างเทพกลับมีการเคลื่อนไหว

“เป็นไปไม่ได้!” จ้าวเฟิงส่ายหน้า

ผู้แข็งแกร่งในตำแหน่งเทพไม่อาจอยู่ในมิติแผ่นดินใหญ่ได้

หรือก็คือร่างเทพร่างนี้ตายไปแล้วอย่างแน่นอน

เช่นนั้นการเคลื่อนไหวอันรางเลือนเมื่อครู่ที่จ้าวเฟิงเห็นมันคืออะไรกันแน่?

อาวุธวิเศษชั้นเลิศ? สมบัติล้ำค่า?

ในใจจ้าวเฟิงตื่นเต้น เกิดความประหลาดใจและปรารถนาต่อร่างเทพลึกใต้พื้นดินแสนลี้เป็นที่สุด

“พลังเทพค่อยๆ อ่อนลง!”

จ้าวเฟิงมองเห็นการปรากฏขึ้นของพลังตำแหน่งเทพด้วยตนเอง

ในยามนี้ พลังเทพที่ทะลักล้นออกบนสนามรบเทียบกับในตอนแรกแล้วอ่อนลงอย่างชัดเจน

ต้องมีสักวันที่แสงเทพสีขาววาววับต้องห้ามกลุ่มนี้จะหายไปโดยบริบูรณ์ ถึงยามนั้น ผู้แข็งแกร่งในแผ่นดินใหญ่จะสามารถดำไปใต้พิภพเพื่อสำรวจได้

เหมียว เหมียว!

แมวขโมยน้อยโยนเหรียญทองแดงโบราณออกมาจำนวนหนึ่ง โบกอุ้งเท้าไปมาเพื่อเล่าเรื่อง

“โอกาส? ในด้านดี?”

จ้าวเฟิงใจสั่นสะท้าน เลือดพลุ่งพล่าน

แม้กระทั่งการทำนายจากแมวขโมยน้อยก็ยังบอกอย่างชัดเจนว่าร่างเทพใต้พื้นดินเป็นโอกาสล้ำค่าที่ซ่อนเอาไว้อย่างแน่นอน

“แต่ว่า ด้วยพลังของข้าในตอนนี้…”

จ้าวเฟิงส่ายหน้า

ตอนพลังของตำแหน่งเทพกลุ่มนี้ล้นทะลักออก ก็ทำให้สงครามของสองราชวงศ์หยุดลงกลางคันทันที

จ้าวเฟิงรู้ว่าราชาเซียนและครึ่งเทพปรารถนาในความลับใต้พื้นดินรุนแรงกว่าตนหลายเท่านัก

หากวันหนึ่ง พลังของตำแหน่งเทพกลุ่มนี้หายไป ผู้แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถดำไปใต้พิภพได้จะต้องกรูกันเข้ามาสำรวจ รวมทั้งครึ่งเทพและราชาเซียนของทั้งสองราชวงศ์ด้วย ด้วยพลังของจ้าวเฟิง หากคิดอยากจะปกป้องตัวเองต่อหน้าราชาเซียน ก็ทำได้เพียงแค่พึ่งอาวุธชั้นรองศรสังหารเทพเท่านั้น

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับครึ่งเทพ ต่อให้จ้าวเฟิงสละศรสังหารเทพออกมาก็ไม่มีประโยชน์ จ้าวเฟิงไม่มีทางดึงพลังแท้จริงของศรออกมาได้ ยามอยู่ต่อหน้าครึ่งเทพ จ้าวเฟิงก็เหมือนเม็ดดินเม็ดหนึ่งที่เล็กน้อยด้อยค่า

ขวับ! เกราะแขนในมือของจ้าวเฟิงสะบัดขึ้น กายอยู่ในเงาซ้อนทับสีเงินก่อนจะจางลง แล้วหายวับไปทันใด

เสี้ยวขณะต่อมา จ้าวเฟิงกลับมายังเมืองฐานที่มั่นที่เขาอยู่

ในเวลานี้ ฐานที่มั่นใกล้กับสนามรบรวบรวมสมาชิกขั้วอำนาจไว้มาก ในนั้นหลักๆ ก็คือสมาชิกหน่วยข่าวกรอง

เพียงแค่แสงเทพต้องห้ามบนสนามรบมีการเปลี่ยนแปลงอะไร พวกเขาจะส่งข่าวไปยังขั้วอำนาจสำนักเบื้องหลังทันใด

แต่ก็มีผู้อาวุโสสูงสุดของขั้วอำนาจบางแห่งจับจ้องความลับที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นดิน ตั้งมั่นอยู่ใกล้ๆ กับสนามรบ

การปรากฏกายของจ้าวเฟิงดึงดูดความสนใจทันที

ถึงแม้ความคิดของคนส่วนใหญ่จะอยู่ที่พื้นที่ต้องห้ามบนสนามรบ แต่ชื่อเสียงของจ้าวเฟิงที่ไล่สังหารเซียนโม๋ยวนช่วงก่อนหน้านี้ก็ยังคงสะพัดไปทั่วแผ่นดินใหญ่

ฟุ่บ! จ้าวเฟิงไม่สนใจ กลับไปยังที่พักอาศัยทันที

“จ้าวเฟิง เจ้าสนใจความลับของพลังเทพใต้พื้นดินรึ?”

จ้าวเฟิงเพิ่งจะเข้ามา เสียงเย็นชาของหนานกงเซิ่งก็ลอยมา เห็นได้ชัดว่าหนานกงเซิ่งมารออยู่ที่นี่นานแล้ว

“แน่นอน!” จ้าวเฟิงตอบอย่างมั่นใจ

ยามนี้ ใครๆ ในดินแดนทวีปล้วนสนใจที่นั่น จ้าวเฟิงเข้าใจถึงความหมายประโยคนี้ของหนานกงเซิ่ง

“ต่อให้เจ้าและข้าร่วมมือกัน หากคิดจะสำรวจความลับใต้พื้นดินก็ยังยากเกินไป!”

หนานกงเซิ่งพูดขึ้นอีก

จ้าวเฟิงพยักหน้า จุดนี้หนานกงเซิ่งพูดได้ถูก

ช่วงนี้กลิ่นอายของหนานกงเซิ่งแข็งแกร่งขึ้น แต่เมื่อเผชิญหน้ากับราชาเซียนก็ยังคงไร้ซึ่งแรงต้านทาน

นับประสาอะไรกับการจะสำรวจความลับร่างเทพนั่น ไม่ใช่เพียงแค่ราชาเซียน ยังมีครึ่งเทพที่สุดยอดที่สุดของดินแดนทวีปอีก

“การสลายพลังตำแหน่งเทพนั่นยังต้องใช้เวลาอีกช่วงระยะหนึ่ง ข้ามั่นใจว่าในระยะนี้จะสามารถยกระดับพลังขึ้นได้อีกขั้น ไม่รู้ว่าเมื่อถึงยามนั้นจะมีโอกาสร่วมมือกับเจ้าหรือไม่?”

หนานกงเซิ่งเผยรอยยิ้มบ้าคลั่งเย็นชา

จ้าวเฟิงตกตะลึง หนานกงเซิ่งครอบครองพลังเทพปีศาจ การยกระดับพลังย่อมเร็วจนน่าอัศจรรย์ หากจะยกระดับขอบเขตถึงเทวาเร้นลับชั้นสูงได้ก่อนที่แสงเทพกลุ่มนั้นจะสลายไป น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร

แต่ก็จะมาพร้อมด้วยอันตรายในระดับหนึ่ง หนึ่งคือขอบเขตพลังไม่มั่นคง สองคือจิตใจจะบิดเบี้ยวขึ้นอีกขั้นอย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็ตกใจสงสัย

หนานกงเซิ่งยอมดูดซับพลังเทพปีศาจและยกระดับขอบเขตด้วยตนเองเพื่อสำรวจความลับใต้พื้นดิน ในระดับหนึ่งแล้วจะต้องเป็นเพราะการยุยงของจิตเทพปีศาจอย่างแน่นอน และเสียหยางนายคนเดิมของจิตเทพปีศาจคือเทพแท้จริงขั้นที่เก้า หรือเทพโบราณขั้นที่หกขึ้นไป แม้กระทั่งจิตเทพปีศาจก็ยังยุยงให้หนานกงเซิ่งไปสำรวจความลับใต้พื้นดิน

เห็นได้ว่าร่างเทพที่ฝังอยู่ใต้ดินไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน กระทั่งเกินกว่าการคาดเดาของจ้าวเฟิง

ในยามนี้ ความหมายประโยคนั้นของหนานกงเซิ่งชัดเจนมาก

หนานกงเซิ่งมั่นใจว่าสามารถยกระดับพลังได้อีกขั้นหนึ่ง แต่พลังของจ้าวเฟิง หากไม่ได้รับการพัฒนาค่อนข้างมากแล้วละก็ กระทั่งโอกาสที่จะร่วมมือกับหนานกงเซิ่งก็ไม่มี

จ้าวเฟิงนิ่งงันไปชั่วขณะ

เขาสามารถมองทะลุใต้พื้นดินได้ มองเห็นร่างเทพที่อยู่ใต้พื้นดินแสนลี้ รวมกับการทำนายของแมวขโมยน้อย การยุยงของจิตเทพปีศาจในกายของหนานกงเซิ่ง นี่ก็พิสูจน์แล้วว่าร่างเทพใต้พื้นดินไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

หากให้จ้าวเฟิงทิ้งโอกาสของร่างเทพนี้ไป จะเป็นไปได้อย่างไรกัน!

อีกทั้งขณะนี้สงครามของสองราชวงศ์หยุดลงกลางคันชั่วขณะครึ่งเทพวังเก้านิรยก็ออกมาแล้ว จ้าวเฟิงรู้สึกว่าวันที่ครึ่งเทพจากวังเก้านิรยจะลงมือกับตำหนักราชันก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

โอกาสของร่างเทพ อาจจะเป็นโอกาสของจ้าวเฟิง โอกาสที่จะเอาคืนวังเก้านิรย

“ข้าจะต้องไปสำรวจร่างเทพให้ได้!”

สายตาของจ้าวเฟิงเด็ดเดี่ยว ตอบออกมาทันใด

ด้วยทรัพยากรในมือของจ้าวเฟิง รวมกับพลังลอกเลียนแบบของตาซ้าย คิดอยากจะยกระดับของเขตพลังก็ไม่นับว่ายากเกินไป

อีกทั้งเพื่อสำรวจความลับของร่างเทพ จ้าวเฟิงยินดีจะเร่งยกระดับขอบเขตพลัง ต่อให้รากฐานไม่มั่นคงก็ไม่เป็นไร

แต่ทว่า ต่อให้ขอบเขตพลังของจ้าวเฟิงยกระดับขึ้นอีกขั้นเล็กๆ หากคิดอยากจะสำรวจความลับของร่างเทพก็ยังคงไม่เพียงพอ

ดังนั้น จ้าวเฟิงจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับหนานกงเซิ่ง และได้โอกาสของร่างเทพมาร่วมกัน

หนานกงเซิ่งตะลึงไปเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะตอบอย่างมั่นใจเช่นนี้

“ดี!” หนานกงเซิ่งยิ้มอย่างชั่วร้าย

เมื่อทำลายวังเก้านิรยลงได้ ก็จะเป็นเวลาของศึกระหว่างเขาและจ้าวเฟิง

หากจ้าวเฟิงไม่อาจตามเขาได้ทัน ศึกชี้ชะตาก็จะไม่มีความหมายใดๆ

ฟู่! หนานกงเซิ่งทิ้งกลิ่นอายชั่วร้ายไว้ จากนั้นก็หายไปจากตำหนักของจ้าวเฟิง

“ฮี่ๆ เจ้าเด็กนี่ก็ช่างคุยโวเสียจริง มันมีความมั่นใจอะไรจะมาตามเจ้าทันได้!”

จิตเทพปีศาจในกายของหนานกงเซิ่งหัวเราะเยาะ

เมี้ยว เมี้ยว!

หลังจากที่หนานกงเซิ่งจากไปแล้ว แมวขโมยน้อยก็ปรากฏกายขึ้น แล้ววาดไม้วาดมือกับจ้าวเฟิง

“ได้ เรื่องทรัพยากรไม่ใช่ปัญหา!”

จ้าวเฟิงตกปากรับคำขอทรัพยากรที่ต้องการของแมวขโมยน้อยอย่างไม่ลังเล

ในร่างเทพ คาดเดาได้ยากว่าจะเจออันตรายหรือความยากลำบากอะไร แมวขโมยน้อยยกระดับพลังขึ้นย่อมเป็นการช่วยเหลือจ้าวเฟิงได้อย่างไม่ต้องสงสัย

คิดถึงในตอนแรก โอกาสบางอย่างของจ้าวเฟิงในมิติเทพลวงตา หลักๆ แล้วก็ล้วนพึ่งพาแมวขโมยน้อยนี่เอง

“ถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปสักรอบแล้ว!”

จ้าวเฟิงพึมพำ จากสถานการณ์ในตอนนี้ แสงเทพต้องห้ามแห่งนี้ ไม่มีทางสลายไปในชั่วประเดี๋ยวเดียวแน่

สองราชวงศ์ไม่มีกะจิตกะใจจะเปิดสงคราม สงครามจบลงอย่างกลายๆ หรือก็คือเปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่ง เปลี่ยนเป็นการสู้เพื่อแย่งชิงร่างเทพใต้พื้นดินแทน

สิ่งที่สองราชวงศ์ได้รับโดยพื้นฐานสามารถตัดสินแพ้ชนะในท้ายที่สุดได้

ดังนั้นจ้าวเฟิงอยู่ที่สนามรบต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร อีกทั้งอาจจะได้รับอันตรายอะไรบางอย่างก็เป็นได้

ในยามนี้ สำหรับสาเหตุการตายขององค์ชายสิบสาม องค์จักรพรรดิและฮองเฮายังคงพยายามสร้างความสัมพันธ์ทำการตรวจสอบ อีกทั้งครึ่งเทพของวังเก้านิรยก็อยู่บนสนามรบอีกด้วย

ยิ่งรวมกับที่จ้าวเฟิงใช้มนตราอากาศข้ามสนามรบกลับไปกลับมาก็ง่ายแสนง่าย เขาจึงตัดสินใจกลับไปยังตำหนักราชัน

ก่อนจากไป จ้าวเฟิงมายังที่พำนักของจ้าวหยูเฟย

คลื่นร่างเทพมหาศาลบนสนามรบ ทำให้หนานกงเซิ่งและจ้าวหยูเฟยที่ปิดด่านอยู่ตกใจตื่นขึ้น

“พี่เฟิง!”

จ้าวหยูเฟยสัมผัสได้ถึงการมาเยือนของจ้าวเฟิงทันที

จ้าวเฟิงเข้าไปในตำหนัก พบว่าอาจารย์ตวนมู่ชิงก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

“หยูเฟย ข้ามีธุระจะต้องกลับไปยังตำหนักราชันสักหน่อย!”

จ้าวเฟิงพูดออกมา

“ข้าจะไปกับท่าน!”

จ้าวหยูเฟยหยุดคิดไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยทันที

“ไม่ได้ ยามนี้ตำหนักราชันเป็นปรปักษ์กับวังเก้านิรย เจ้าอยู่ที่นี่จะดีกว่า!”

จ้าวเฟิงพูดทันใด

ตามที่จ้าวเฟิงรู้มา ตระกูลตวนมู่ตกอับจนถึงตอนนี้ สาเหตุหลักก็เพราะวังเก้านิรย

วังเก้านิรยน่าจะไม่อยากให้จ้าวหยูเฟยผงาดขึ้น ทว่าสำหรับราชวงศ์ต้าเฉียนแล้ว สายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณของจ้าวหยูเฟยมีความหมายเป็นอย่างมาก วังเก้านิรยจึงยังไม่กล้าลงมือ

“นอกจากนั้น หากข้าเดาไม่ผิดแล้วละก็ อยู่ที่นี่ความเร็วในการฝึกฝนของหยูเฟยน่าจะยิ่งเร็วขึ้นใช่หรือไม่!”

จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ

สายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณใช้ไอสวรรค์ในฟ้าดินเป็นอาหาร ยิ่งอยู่ในพื้นที่ชั้นยอด ความเร็วในการฝึกฝนก็ยิ่งสูง

สนามรบในยามนี้เป็นเพราะพลังของตำแหน่งเทพนั่น ไอสวรรค์ในฟ้าดินจึงเปลี่ยนไปเข้มข้นมากกว่าปกติ สามารถพูดได้ว่าเป็นสถานที่ฝึกฝนสุดยอดที่สุดสำหรับหยูเฟย พลังเทพโบราณกลุ่มนี้ บางทีอาจจะสามารถเร่งการย้อนคืนสายเลือดของหยูเฟยได้ในระดับหนึ่ง

หากหยูเฟยตัวอยู่ในขอบเขตเทพ ด้วยสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณของนาง ตอนนี้อย่างน้อยๆ ก็เป็นราชาเซียน หรือไม่ก็ได้พิสูจน์ตำแหน่งเทพไปแล้ว

“หยูเฟย นี่คือทรัพยากรบางอย่างที่ข้าได้มาโดยบังเอิญ”

จ้าวเฟิงหยิบแหวนเก็บของออกมา

ข้างในบรรจุน้ำในสระของห้วงฝันบรรพกาล เลือดของวัวคลั่งพสุธาทลายบางส่วน และยังมีวัตถุดิบล้ำค่าที่เขารู้จักต้นหนึ่ง จ้าวเฟิงเชื่อว่าทรัพยากรล้ำค่าพวกนี้จะมีประโยชน์ต่อการฝึกฝนของจ้าวหยูเฟยเป็นอย่างมากแน่นอน

นอกจากนั้น จ้าวเฟิงนำทรัพยากรพวกนี้ออกมา เทียบกับทรัพยากรมากมายในมือของเขาแล้วช่างเล็กน้อย เพียงแต่จ้าวเฟิงไม่สะดวกเอาออกมามากเกินไป

จากนั้น หลังจ้าวเฟิงบอกลาจ้าวหยูเหยและตวนมู่ชิงแล้วก็จากสนามรบไป

“ศิษย์น้องหญิงหยูเฟย เจ้าตั้งใจฝึกฝนเถิด ด้วยสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณของเจ้า การพิสูจน์ตำแหน่งเทพเป็นเพียงแค่ปัญหาด้านเวลาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปเสี่ยงอะไรแบบนี้!”

หลังจากจ้าวเฟิงจากไป ตวนมู่ชิงก็เตือนขึ้นทันที

บนสนามรบ พลังเทพต้องห้ามกลุ่มนั้นค่อยๆ อ่อนลง ทุกคนล้วนรู้ว่าพลังเทพกลุ่มนี้จะหายไปสักวันหนึ่ง และเมื่อถึงยามนั้น ก็จะเป็นเวลาที่ผู้แข็งแกร่งของดินแดนทวีปไปสำรวจสิ่งล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นดินสนามรบแห่งนี้

แต่เมื่อถึงตอนนั้น แม้กระทั่งครึ่งเทพของทั้งสองราชวงศ์ก็ยังออกโรงด้วยตนเอง ระดับความอันตรายสูงมากเกินไป

ตระกูลตวนมู่ไม่มีผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทวาเร้นลับมากเพียงพอจะปกป้องจ้าวหยูเฟย

ดังนั้นตวนมู่ชิงถึงไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของจ้าวหยูเฟยอย่างเด็ดขาด

“ไม่ ข้าจะต้องเข้าไปให้ได้!”

จ้าวหยูเฟยปฏิเสธทันที น้ำเสียงแน่วแน่

นางรู้ดี ถึงเวลานั้นจ้าวเฟิงจะต้องเข้าไปอย่างแน่นอน นางอยากจะช่วยจ้าวเฟิงอีกสักแรง

“หยูเฟย เจ้าจะทำไปเพื่ออะไร!”

เสียงของเซียนจื่อเย่ดังขึ้นในชั้นดวงวิญญาณ

“ช่วงนี้ข้าจะขยันฝึกฝน ถึงเวลาจะได้มีพลังปกป้องตัวเอง!”

ทั่งร่างของจ้าวหยูเฟยโปร่งใส ประกายผลึกแก้วสีม่วงอ่อนกะพริบวูบวาบ ไอสวรรค์ฟ้าดินไร้รูปร่างหลอมเข้ามาในกายของนาง

สายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณ สายเลือดที่น่าหวาดหวั่นอันดับที่สิบเก้าในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ความเร็วในการฝึกฝนเหนือกว่าใครจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ขอเพียงมีไอสวรรค์ฟ้าดินที่เพียงพอ เผ่าพันธุ์วิญญาณก็จะเข้าดูดกลืนในทันที และยกระดับพลังของชั้นกายเนื้อได้อย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version