Skip to content

King of Gods 1120

King Of Gods

บทที่ 1120 สงสารวัฏสุดท้าย

“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน?”

ราชาเซียนสังสารวัฏตกใจหน้าซีด

เขามีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยพบเหตุการณ์เช่นนี้เลย

ขณะนี้ เขาที่ไม่มี ‘กายวัฏสงสาร’ คุ้มกันจะเป็นคู่มือของจ้าวเฟิงได้อย่างไร

หากราชาเซียนสังสารวัฏอยู่ในช่วงยุคเฟื่องฟู มีราชาเซียนและเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงมากมาย ผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับอื่นๆ นับไม่ถ้วน ทั้งยังมีอาวุธเทพชั้นรองสองชิ้น ต่อให้เป็นครึ่งเทพก็ไม่มีทางสังหารเขาได้

อีกทั้งราชาเซียนสังสารวัฏมีเนตรสังสารวัฏ พลังที่ช่วยคุ้มครองชีวิตสูงยิ่ง มิฉะนั้นแล้วเขาล่วงเกินขั้วอำนาจของสองราชวงศ์มากมายขนาดนั้น จะอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร

แต่ตอนนี้ราชาเซียนสังสารวัฏมองไปยังจ้าวเฟิง ในใจเกิดความหวาดกลัวขึ้น

“จ้าวเฟิง เจ้าฆ่าข้าไม่ตายหรอก เจ้าช่วยหลิ่วฉินอินไปแล้ว อาวุธเทพชั้นรองก็เป็นของเจ้าแล้ว ศัตรูเพิ่มมากขึ้นคนหนึ่งมิสู้มีสหายเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน!”

ราชาเซียนสังสารวัฏมองจ้าวเฟิง กัดฟันพูด

สีหน้าของจ้าวเฟิงเย็นชา จิตสังหารต่อราชาเซียนสังสารวัฏไม่ลดลง

หลอกลวงตนนั้นเป็นเรื่องรอง แต่ราชาเซียนสังสารวัฏหลอกลวงหลิ่วฉินอิน คิดจะสังหารนางเพื่อทะลวงขอบเขตพลัง

จุดนี้จ้าวเฟิงไม่อาจรับได้แน่

ไม่ง่ายเลยกว่าหลิ่วฉินซินจะแก้ชะตาชีวิตและได้รับชีวิตใหม่มาได้ แต่กลับเกือบจะถูกราชาเซียนสังสารวัฏสังหารโดยที่ยังไม่ทันรู้อะไร

“จุดเริ่มต้นสังสารวัฏ!”

ราชาเซียนสังสารวัฏเห็นจ้าวเฟิงไม่สะทกสะท้าน จึงสำแดงวิชาดวงตาสังสารวัฏอีกครั้ง

ครั้งนี้ สิ่งที่ราชาเซียนเรียกมาคือกายวัฏสงสารที่เหลือทั้งหมด

เสี้ยวขณะต่อมา ในตาซ้ายของราชาเซียนสังสารวัฏมีเงาคนสีดำแต่ละร่างบินออกมา กายวัฏสงสารเหล่านี้มีมากถึงเจ็ดแปดสิบร่าง

ในนั้นมีผู้แข็งแกร่งขอบเขตเทวาเร้นลับยี่สิบกว่าร่าง ส่วนที่เหลือล้วนเป็นขอบเขตปราณเทวะ

ในบรรดากายวัฏสงสารเหล่านี้ มีจำนวนมากที่ถูกแมวขโมยน้อยและเซียนหมื่นปรากฏการณ์ควบคุมไว้เมื่อครู่ มีทั้งที่ต่อสู้อยู่กับวานรทองสะท้านฟ้า และยังมีส่วนที่ปฏิบัติภารกิจบางอย่างแทนราชาเซียนสังสารวัฏอยู่โลกภายนอก

ในหมู่คนเหล่านี้ จ้าวเฟิงเห็นจักรพรรดิแห่งความตายกับเซียนฉลามดำที่ลอบสังหารองค์ชายเก้าในตอนแรก…

“เจ้าคนชั่ว!”

จ้าวเฟิงมองไปยังราชาเซียนสังสารวัฏ

ยากจะจินตนาการได้ว่า ในชาตินี้ราชาเซียนสังสารวัฏสังหารผู้แข็งแกร่งไปมากน้อยเพียงใด

แต่ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็เพิ่มความระมัดระวัง

ถึงแม้จ้าวเฟิงจะไม่เกรงกลัวลูกสมุนพวกนี้ แต่ราชาเซียนสังสารวัฏต้องไม่ทำเรื่องที่ไม่มีความหมายอย่างแน่นอน

“พันธนาการสังสารวัฏ!”

ราชาเซียนสังสารวัฏโคจรดวงตาทั้งสอง ปลดปล่อยเสวียนอ้าวสังสารวัฏอันแข็งแกร่งออกมา ไหลทะลักเข้าไปในร่างของกายวัฏสงสารเหล่านั้น

ฟู่ ฟู่!

กายวัฏสงสารทั้งหมด ร่างกายและวิญญาณเริ่มแตกกระจายออก แปรเปลี่ยนเป็นหมอกมืดหม่นล้อมจ้าวเฟิงเอาไว้

“บัดซบ ความพยายามของข้าตลอดหลายหมื่นปีมานี้!”

ราชาเซียนสังสารวัฏเสียดายยิ่งนัก

ในขณะเดียวกับที่สำแดง ‘พันธนาการสังสารวัฏ’ เพื่อพันธนาการศัตรู ก็ทำให้วิญญาณที่ถูกเขากักขังได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์

“เงาหลบหลีก!”

ราชาเซียนสังสารวัฏสำแดงเคล็ดวิชาหลีกหนี แปลงเป็นเส้นแสงสีเทาหายวับไปในท้องฟ้า

“พลังกลุ่มนี้…”

รอบกายของจ้าวเฟิงถูกหมอกมืดหม่นที่ขจัดไปไม่หมดล้อมรอบไว้

หมอกมืดหม่นกลุ่มนี้สกัดกั้นทุกสิ่ง พันธนาการทั้งพลัง ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณ และเจตจำนงของจ้าวเฟิงเอาไว้ภายใน

ฝ่ามือสายฟ้าทลายนภา!

จ้าวเฟิงซัดเงาฝ่ามือศักดิ์สิทธิ์อัสนีสีชาดออกมา กลับพบว่าการโจมตีของตน เมื่อตกลงไปในหมอกมืดหม่นนั่นแล้วก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

เสี้ยวขณะต่อมา เบื้องหลังจ้าวเฟิงก็มีเงาฝ่ามืออัสนีสีชาดโผล่มาโจมตี

จ้าวเฟิงรีบโคจรพลังทันใด ระงับอาการบาดเจ็บเอาไว้

“พลังสังสารวัฏไม่จัดอยู่ในชั้นวิญญาณและชั้นวัตถุ เหมือนกับพลังแห่งโชคชะตา เป็นพลังอันน่าอัศจรรย์ที่ยากจะสัมผัสได้”

จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย

“หึ เช่นนั้นข้าก็จะใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดทำลายพันธนาการทุกสิ่ง!”

วันนี้จ้าวเฟิงต้องสังหารราชาเซียนสังสารวัฏให้ได้ เขาจะไม่ยอมถูกขังอยู่ที่นี่เด็ดขาด

จ้าวเฟิงยกมือขึ้น ยื่นนิ้วสีม่วงทองโลหิตออกมา บนนิ้วมือมีความเย็นจางๆ หุ้มล้อม

ฟู่! จ้าวเฟิงปลดพลังที่แช่แข็งออกบางส่วน แล้วชี้นิ้วจู่โจมทันใด

ครืน บึ้ม!

สายเลือดพลังเทพทรงอำนาจที่เก่าแก่บรรพกาล แปรเป็นเสาแสงเลือนรางสีม่วงโลหิตต้นหนึ่ง ดุจนิ้วมือยักษ์ที่ทะลุทะลวงทุกสรรพสิ่ง

หมอกมืดหม่นรอบกายจ้าวเฟิงถูกขจัดออกไปในชั่วพริบตา!

จ้าวเฟิงปวดใจเล็กน้อย การโจมตีเมื่อครู่ เขาใช้พลังเลือดเทพไปหนึ่งส่วนกว่าๆ แล้ว

“ปีกอีสนีผ่านฟ้า!”

จ้าวเฟิงปลุกพลังศักดิ์สิทธิ์วายุอัสนี แปลงเป็นเส้นโค้งอัสนีสีชาดสายหนึ่งหายวับไปในอากาศ

ในท้องฟ้า ราชาเซียนสังสารวัฏหนีสุดชีวิต

“ผู้แข็งแกร่งที่ตายไปในร่างเทพมากมายถึงเพียงนั้น รอให้ข้าฟื้นฟูไอสวรรค์เสียก่อนเถอะ ไม่นานนักก็จะสามารถสร้างกายวัฏสงสารที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ถึงตอนนั้นต้องนำคนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับจ้าวเฟิงมาทำเป็นกายวัฏสงสารให้หมด ให้พวกมันไม่อาจหลุดพ้นไปได้ตลอดกาล….”

ราชาเซียนสังสารวัฏรู้สึกอัปยศและถูกเหยียดหยามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ในฐานะที่เป็นทายาทผู้ครอบครองเนตรเทพเจ้า ราชาเซียนเทวาเร้นลับระดับสุดยอดของแผ่นดินใหญ่ เขาเคยอเนจอนาถแบบนี้ที่ไหนกัน

แต่เสี้ยวขณะต่อมา ราชาเซียนสังสารวัฏที่หนีไปเกือบแสนลี้ เรือนกายหนาวเหน็บ ราวกับถูกพลังไร้รูปร่างเล็งเป้าหมายเอาไว้

ฟิ้ว ฉึก!

ลูกศรแสงสีทองแดงดอกหนึ่ง เหมือนพุ่งออกมาจากรอยแยกระหว่างมิติ ทะลุกายของราชาเซียนสังสารวัฏไปทันที

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

ราชาเซียนสังสารวัฏมีสีหน้าตื่นตะลึง

ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!

เสวียนอ้าววายุอัสนีที่ทรงพลังและบ้าอำนาจบดขยี้มายังเขา

“เพลิงอัสนีวายุเนตรเทพเจ้า!”

เสี้ยวขณะที่จ้าวเฟิงเข้ามาใกล้ก็สำแดงวิชาดวงตา

ครืน ฉึก!

เปลวเพลิงพลังอัสนีสีม่วงทองกลุ่มหนึ่งฟาดผ่ามายังหัวของราชาเซียนสังสารวัฏ ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้เขาชะงักลงชั่วขณะ

“เจ้าหนีออกมาได้แล้วรึ!”

ราชาเซียนสังสารวัฏหน้าซีดโดยพลัน

จ้าวเฟิงทำลายพันธนาการสังสารวัฏของเขาได้ในเวลาอันสั้นเพียงนี้!

“หนามจิตวิญญาณ!”

“โจมตีวิญญาณมายา!”

จ้าวเฟิงเห็นว่าวิชาดวงตาวิญญาณของตนส่งผลกับราชาเซียนสังสารวัฏค่อนข้างจำกัด จึงโคจรเจตจำนงดวงตา สำแดงวิชาดวงตาวิญญาณอื่นๆ ไม่หยุดหย่อน

“อ๊าก…จ้าวเฟิง คนล้มเจ้าอย่าข้าม!”

ราชาเซียนสังสารวัฏถูกวิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงทรมานจนอยากตายไปเสีย ไม่อาจหลีกหนีได้เลย

แต่วิชาดวงตาวิญญาณของจ้าวเฟิงก็ยากจะสังหารเขาได้ เขาครอบครองเนตรสังสารวัฏ เป็นกายวัฏสงสาร พลังป้องกันและพลังฟื้นฟูชั้นวิญญาณเกินขอบเขตของราชาเซียน

“สังหารยากจริงๆ ด้วย!”

ถึงแม้พลังป้องกันวิญญาณของราชาเซียนสังสารวัฏจะไม่สู้จ้าวเฟิงที่ครอบครองดวงตาเทพเจ้า แต่พลังฟื้นฟูของวิญญาณกลับแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง

วู้ม แซ่ด แซ่ด!

จ้าวเฟิงผสานพลังอัสนีเทวะที่เหลือเข้าไปในตาซ้าย

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

ในตาซ้ายของจ้าวเฟิงปรากฏกลุ่มตราประทับอัสนีเทวะขึ้น บนตราอัสนีทุกเส้นมีเพลิงดวงตาวิญญาณลอยเอ่อ สุดท้ายก่อร่างเป็นเพลิงวิญญาณอัสนีเทวะสีม่วงแวววาวกลุ่มหนึ่ง

ครืน บึ้ม!

ตราประทับอัสนีเทวะบิดเบี้ยว ลุกไหม้คดงอดุจเปลวเพลิง โจมตีไปยังหัวของราชาเซียนสังสารวัฏพร้อมด้วยกลิ่นอายวิญญาณน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง

“อ๊าก!” ราชาเซียนสังสารวัฏร้องเจ็บปวดอย่างไม่อยากจะมีชีวิตอยู่

เขาที่สูญเสียของวิเศษป้องกันวิญญาณ รับการโจมตีจากพลังอัสนีเทวะทั้งหมดของจ้าวเฟิง ต่อให้เป็นพลังฟื้นฟูของกายวัฏสงสารของเขาก็ไม่อาจต้านทานได้

หลังจากราชาเซียนสังสารวัฏรับ ‘เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ’ เข้าไปเต็มๆ แล้ว ร่างกายก็ขาดวิ่น อ่อนแอเป็นที่สุด

“จ้าวเฟิง ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายินดีที่จะมอบวิธีรวมพลังทายาทเนตรเทพเจ้าให้เจ้า!”

ราชาเซียนสังสารวัฏเชื่อว่าจ้าวเฟิงจะต้องไม่ปฏิเสธเงื่อนไขนี้อย่างแน่นอน

ในยามนี้ จ้าวเฟิงมีเซียนหมื่นปรากฏการณ์และเนตรมรณะ ขอเพียงเขาได้รับสายเลือดของทายาทเนตรเทพเจ้าอีกชนิดหนึ่ง ก็สามารถใช้เคล็ดวิชาชนิดนั้นได้

พลังน่าสะพรึงที่ทำลายฟ้าดินชนิดนั้น ผู้แข็งแกร่งคนใดในดินแดนทวีปก็ไม่มีทางปฏิเสธ

จ้าวเฟิงที่มีใจคิดจะสังหารราชาเซียนสังสารวัฏ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หึ ตายไปซะ!” สีหน้าของจ้าวเฟิงเย็นเยียบดุดัน

ถึงแม้จะอยากได้เคล็ดวิชาลับในมือของราชาเซียนสังสารวัฏ

แต่เขาก็เป็นคนที่มีหลักการ คนที่จะฆ่าก็ต้องฆ่า!

ครืน ครืน!

จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาวิญญาณไม่หยุดหย่อน ทรมานและทำลายวิญญาณของราชาเซียนสังสารวัฏ

หากเป็นคนทั่วไป เวลานี้จ้าวเฟิงคงสามารถสำแดงเนตรเพ่งเทพเจ้าดูดวิญญาณออกไปได้

แต่คู่มือเป็นราชาเซียนสังสารวัฏ มีเนตรสังสารวัฏ พลังวิญญาณแข็งแกร่ง หากยามที่ฉุดดึงวิญญาณราชาเซียนสังสารวัฏแล้วอีกฝ่ายระเบิดพลีชีพ ในระยะที่ใกล้ถึงเพียงนี้ แม้แต่จ้าวเฟิงก็อาจตายได้

“ย้าก…ตายไปซะ!”

ใบหน้าของราชาเซียนสังสารวัฏบิดเบี้ยว เสวียนอ้าวสังสารวัฏ วิญญาณ และพลังศักดิ์สิทธิ์ทั่วร่างไหลทะลักเข้าไปในเนตรสังสารวัฏทั้งหมด

ครืน!

ราชาเซียนสังสารวัฏผสานพลังที่บีบอัดเข้ากับเนตรสังสารวัฏ ก่อนระเบิดออกมา

ในฟ้าดิน พลังเสวียนอ้าวอันน่าหวาดหวั่นม้วนตัวมา ฟ้าดินสั่นสะเทือน ภูเขาแม่น้ำถล่มทลาย

ฟิ้ว! จ้าวเฟิงเตรียมป้องกันเอาไว้นานแล้ว เขาสำแดงวิชาปีกอัสนีโบยบิน หลบหลีกขอบเขตการระเบิด

“หึ คิดจะหนีไปไหน!”

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงเล็งวัตถุหนึ่งเอาไว้ ไล่ตามไปทันที

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ก่อนแล้วว่าราชาเซียนสังสารวัฏแค่เพียงระเบิดดวงตาข้างหนึ่งในนั้น

เนตรสังสารวัฏแบ่งเป็นวัฏสงสารแห่งชีวิตและวัฏสงสารแห่งความตาย ส่วนที่ระเบิดคือเนตรวัฏสงสารแห่งความตาย ส่วนเนตรวัฏสงสารแห่งชีวิตนำพลังวิญญาณบางส่วนของราชาเซียนสังสารวัฏหลบหนีไปในช่วงเวลาสำคัญ

จ้าวเฟิงนำธนูเหนือนภาออกมา ยิงธนูออกไปติดๆ กันหลายดอก

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ระหว่างวายุอัสนีสีทองแดงแต่ละดอก จะมาพร้อมพลังวิญญาณกลุ่มหนึ่ง ทะลุผ่านกายวิญญาณที่มืดหม่นกลุ่มนั้น

“จ้าวเฟิง ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าฆ่าข้าไม่ตายหรอก!”

ราชาเซียนสังสารวัฏเห็นจ้าวเฟิงไล่ตามมา ก็พลันเอ่ยอย่างบ้าคลั่ง

“สังสารวัฏ กลับชาติเกิดใหม่!”

พลังวิญญาณของราชาเซียนสังสารวัฏไหลทะลักเข้าไปในเนตรสงสารวัฏแห่งชีวิต

ราชาเซียนสังสารวัฏทั้งเคียดแค้นทั้งเสียใจ เขาแค้นจ้าวเฟิงที่บีบเขาจนไร้ซึ่งหนทาง แต่ก็เสียใจว่าตนเองไม่ควรไปตอแยกับจ้าวเฟิง

ยามนี้เขากระตุ้นเคล็ดวิชาสุดท้ายของเนตรสังสารวัฏ เริ่มต้นทุกสิ่งที่สูญเสียไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง กลับชาติมาเกิดใหม่

“เจ้าคนชั่วร้ายเช่นนี้ ยังคิดอยากจะเกิดใหม่รึ!”

จ้าวเฟิงใกล้เข้ามา โคจรเจตจำนงดวงตา

“เนตรเพ่งเทพเจ้า!”

ในตาซ้ายของจ้าวเฟิง แผ่คลื่นวนสีม่วงลึกไม่เห็นก้นบึ้งออกมา เชื่อมต่อไปยังเขาวงกตลวงตาไร้จุดสิ้นสุดที่หมอกสีม่วงลอยวน

ราชาเซียนสังสารวัฏในยามนี้ เหลือเพียงแค่พลังวิญญาณอ่อนแอทรุดโทรม ต่อให้เขาระเบิดพลีชีพ ก็ไม่มีทางสร้างพลังมากมายอะไรได้ ดังนั้น จ้าวเฟิงสำแดงเนตรเพ่งเทพเจ้าทันที

นอกจากนั้น เนตรเพ่งเทพเจ้าที่จ้าวเฟิงสำแดงในยามนี้ ผสานกับ ‘เขตแดนคุกมายา’ พลังดวงตามายา พลังลวงตาและควบคุมยิ่งแข็งแกร่ง!

“ไม่นะ!”

พลังวิญญาณของราชาเซียนสังสารวัฏ เพิ่งจะเข้าไปในสังสารวัฏแห่งชีวิต สูญเสียพลังต้านทาน

ซ่า! เนตรสังสารวัฏแห่งชีวิตถูกจ้าวเฟิงดูดเข้าไปในมิติตาซ้าย

ส่วนพลังวิญญาณอ่อนแอทรุดโทรมของราชาเซียนสังสารวัฏ ในช่วงเวลาที่สำคัญของการเกิดใหม่สังสารวัฏ สูญเสียการเชื่อมต่อกับเนตรสังสารวัฏแห่งชีวิต สุดท้ายแล้ว การเกิดใหม่ล้มเหลว ถูกกฎเกณฑ์สังสารวัฏของฟ้าดินทำลาย

“อันตรายจริง!” จ้าวเฟิงค่อนข้างยินดี

หากเมื่อครู่เขาช้าไปอีกนิดหนึ่ง หรือพลังของดวงตาเทพเจ้าลดลงไปอีกส่วน ราชาเซียนสังสารวัฏอาจจะเกิดใหม่ตามสังสารวัฏสำเร็จไปแล้วก็ได้

ดีที่ทำลายราชาเซียนสังสารวัฏได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งยังได้รับเนตรสังสารวัฏของสังสารวัฏแห่งชีวิต

แต่ในยามนี้ ความคิดของจ้าวเฟิงขยับเล็กน้อย สัมผัสกับอะไรบางอย่างได้ มองไปยังเบื้องหลังที่ห่างไกล

เห็นเพียง ขอบฟ้าที่ไกลๆนั่น มีสตรีนางหนึ่งที่งดงามราวกับดอกบัวในภาพวาดยืนอยู่

“เจ้าฆ่าอาจารย์ของข้า!”

ใบหน้าของหลิ่วฉินอินไร้จิตวิญญาณ ดวงตาสุกสกาวหยดน้ำไหลริน แฝงด้วยความโศกเศร้าและขาดที่พึ่งพิง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version