บทที่ 1177 ป่าวิหคสวรรค์
“…ห่างจากวายุอัสนีธาตุทองสมบูรณ์ไม่ไกลแล้ว!”
แววตาของจ้าวเฟิงส่องประกายลิงโลด
เมื่อวายุอัสนีธาตุทองสมบูรณ์ จ้าวเฟิงก็จะสามารถทะลวงขั้นครึ่งเทพได้ทันที ถึงยามนั้น ‘วายุอัสนีห้าธาตุ’ ก็จะถึงขั้นที่สิบเอ็ด ห้าธาตุกลับเป็นหนึ่ง
การรับรู้ห้าธาตุกลับเป็นหนึ่ง จ้าวเฟิงก็เท่ากับว่าสัมผัสถึงพลังเทพของเทพแท้จริง สามารถก่อกำเนิดพลังเทพที่เป็นของตัวเองได้ อัสนีเพลิงทำลายล้างถึงแม้จะแข็งแกร่ง แต่ช่วงเวลาการพัฒนามีจำกัด อย่างไรก็สู้พลังเทพไม่ได้
อีกข้อหนึ่งคือจ้าวเฟิงรับรู้พลังห้าธาตุได้ลึกล้ำ ยังมีประโยชน์ต่อการสร้างโลกมิติส่วนตัวให้แข็งแกร่งขึ้น
“มีคนมา!”
จ้าวเฟิงพบว่ามีเงาร่างสองเงาบินผ่านที่ที่ตนอยู่ไปยังทิศทางหนึ่ง
ทันใดนั้น เงาสองเงาหยุดอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็บินมายังที่ที่จ้าวเฟิงอยู่
“ห่างไกลถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่มีสายเลือดดวงตา เหตุใดจึงหาข้าเจอได้?”
จ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย ตนเองมีสายเลือดดวงตา ทั้งยังควบคุมห้วงฝันบรรพกาลได้บางส่วน จึงสามารถมองเห็นคนทั้งสองที่อยู่ไกลโพ้นได้
อีกทั้งคนทั้งสองมีเป้าหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่จู่ๆ กลับบินมุ่งมายังจ้าวเฟิงจากที่ไกลๆ
ขวับ!
มือซ้ายของจ้าวเฟิงสะบัด เก็บเอากระดูกของต่างเผ่าพันธุ์สีทองข้างๆ ลงไป
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ไม่นานนัก ทั้งสองก็มาถึงบริเวณใกล้ๆ จ้าวเฟิง
“ไม่ต้องซ่อนแล้ว มอบของที่เจ้าเพิ่งเก็บลงไปในมิติเก็บของมาซะ!”
ชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่ง ใบหน้าหยิ่งยโส หัวเราะเย้ยหยันพลางจ้องจ้าวเฟิง
ก่อนหน้าที่จะมายังพื้นที่ลับโบราณ อาจารย์ผู้ก่อตั้งของเขามอบอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งให้ สามารถรับรู้ถึงวัตถุดิบล้ำค่าและของวิเศษที่แฝงด้วยพลังอันแข็งแกร่งได้อย่างเบาบาง
เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ว่าทางด้านนี้มีของวิเศษปรากฏขึ้น ดังนั้นจึงเตรียมมาดูสักหน่อย จากนั้นก็เจอจ้าวเฟิงเข้า
ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ ของวิเศษจะต้องอยู่ในมือจ้าวเฟิงเป็นแน่
ชายชราอีกคนที่ยืนอยู่ข้างชายหนุ่มชุดขาวคือเทพแท้จริงขั้นสอง กำลังมองประเมินจ้าวเฟิงอย่างละเอียด
หากอยู่โลกภายนอก ชายชราผู้นี้จะไม่แยแสเทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์เลย แต่เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ปรากฏขึ้นในพื้นที่ลับรกร้างโบราณก็ออกจะประหลาดไปหน่อย
สายตาของจ้าวเฟิงกวาดมองไปยังคนทั้งสองเบื้องหน้า จากรูปลักษณ์ของพวกเขา จ้าวเฟิงยังเดาไม่ออกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ใด แต่ว่าดวงตาทั้งสองของชายหนุ่มชุดขาวส่องประกายวาววับ กลิ่นอายในกายแข็งแกร่งมั่นคง พลังน่าจะน่ากลัวกว่าชายชราผู้นี้
“นี่คือของของข้า ไยจึงต้องเอาออกมา?”
ใบหน้าของจ้าวเฟิงเรียบนิ่ง ไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย
ทั้งสองคนบุกเข้ามาในเขตของจ้าวเฟิง แต่กลับกล้าโอหังเช่นนี้ แค่เพียงพวกเขาลงมือ จ้าวเฟิงก็จะสังหารทั้งสองโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
“หากข้าถูกใจ มันก็คือของของข้า!”
ชายหนุ่มชุดขาวอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างระราน
เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ไม่อยู่ในสายตาเขาแม้แต่น้อย เดิมเขาคิดว่าจ้าวเฟิงจะส่งของวิเศษออกมา และถือโอกาสขอร้องเข้าร่วมกลุ่มของเขา แต่จ้าวเฟิงกลับปฏิเสธทันใด นี่ทำให้เขาผิดคาดเล็กน้อย
แต่ว่าของที่เขาถูกใจแล้ว ก็จะต้องได้มันมา
“ผู้เยาว์ ส่งของวิเศษออกมาแล้วไสหัวไปเสีย!”
ในที่สุดชายชราก็เอ่ยปากขึ้น สีหน้ารำคาญเล็กน้อย
ต่อให้จ้าวเฟิงน่าสงสัยเพียงใด เขาที่เป็นเทพแท้จริงขั้นสอง รวมกับคุณชายโหวชิ่ง เทวาเร้นลับระดับบริบูรณ์ที่อยู่เบื้องหน้าจะมีพลังต้านทานได้งั้นหรือ?
“พวกเจ้าทั้งสองกำลังรนหาที่ตาย!”
สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนทันที ดวงตาเปล่งประกายจิตสังหาร ในขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยแรงกดดันแก่นแท้พลังออกมา หากทั้งสองยังไม่รู้จักดีชั่ว เช่นนั้นก็จะโทษตนไม่ได้แล้ว
“หืม?”
ชายชราขมวดคิ้วน้อยๆ ระดับขั้นชีวิตของจ้าวเฟิงไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งกลิ่นอายพลังยังแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงส่งกระแสเสียงไปทันใด “คุณชายโหวชิ่ง คนคนนี้ค่อนข้างแปลก!”
“หึ บนร่างของคนพิลึกจะต้องมีของวิเศษเป็นแน่!”
โหวชิ่งเมินคำเตือนของชายชราโดยสิ้นเชิง จ้าวเฟิงกล้าข่มขู่เขา อีกทั้งพูดว่าเขารนหาที่ตาย เช่นนั้นเขาโหวชิ่งก็จะทำให้จ้าวเฟิงตายทั้งเป็น
วู้ม วู้ม!
โหวชิ่งยกฝ่ามือขึ้น กระแสน้ำวนกลุ่มหนึ่งถูกควบคุมไว้ในมือของเขา
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
ใบหน้าของจ้าวเฟิงดุดันเย็นชา ยกมือขึ้นเช่นกัน
พรึ่บ!
ผู้เฒ่าชุดเขียวปรากฏขึ้นข้างกายจ้าวเฟิง ปลดปล่อยพลังอำนาจเทพแท้จริงขั้นสามออกมาทันใด
ในขณะเดียวกัน เผ่าพันธุ์บรรพกาลที่มีกลิ่นอายแข็งแกร่งหลายสิบตัวปรากฏขึ้นทั่วทุกทิศ
“ฆ่ามัน!”
ผู้เฒ่าชุดเขียวไม่พูดพร่ำทำเพลง ซัดสัตว์ร้ายอัสนีสองสายโจมตีไปยังคนทั้งสองเบื้องหน้า
“เทพแท้จริงขั้นสาม สัตว์วิเศษบรรพกาล!”
หน้าตาของโหวชิ่งเคร่งเครียด ส่วนชายชราที่อยู่ข้างๆ ค่อนข้างลนลาน
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะหน้าด้านไร้ยางอายซ่อนคู่หูเอาไว้ อีกทั้งรอบด้านยังมีสัตว์วิเศษที่จ้าวเฟิงฝึกเอาไว้อีกด้วย
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ บุกสังหารไปยังโหวชิ่งทันที
จ้าวเฟิงยังไม่ทันเข้าใกล้โหวชิ่ง โหวชิ่งก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดอัสนีอันหนักหน่วง
“พลังกายของคนคนนี้แข็งแกร่งเพียงนี้เชียว…”
สีหน้าของโหวชิ่งเผยอาการลนลาน
ตำแหน่งของเขาในตระกูลสูงส่ง ครั้งนี้มายังพื้นที่ลับรกร้างโบราณ ท่านผู้ก่อตั้งมอบกลวิชาโจมตีหรือวิชารักษาชีวิตให้มากมาย เขากับชายชรารับมือกับเทพแท้จริงขั้นสามไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ว่าในยามนี้ พลังที่จ้าวเฟิงแสดงออกมาไม่ธรรมดาเลย อีกทั้งดูแล้วเทพแท้จริงขั้นสามนั่นจะฟังคำพูดของจ้าวเฟิงด้วย
ถึงแม้โหวชิ่งจะหยิ่งทะนงกำเริบเสิบสาน แต่ก็พึ่งพลังและไพ่ตาย ไม่ใช่คนไร้สมอง
“ไป!” โหวชิ่งเอ่ยเสียงต่ำ ถอยหลังไปพร้อมกับชายชรา
“ฆ่า!” จ้าวเฟิงเผยจิตสังหารน่าหวาดกลัว บุกสังหารไปกับผู้เฒ่าชุดเขียว
“ทัณฑ์ประหารม่านวารี!”
สองฝ่ามือของโหวชิ่งสะบัดออก ลมในฟ้าดินและเสวียนอ้าวน้ำถูกควบคุม ก่อเป็นคลื่นวนพายุวารีมหึมาเบื้องหน้า ทั้งยังมาพร้อมด้วยแรงดูดอันน่าหวาดหวั่น ฉุดกระชากจ้าวเฟิงและผู้เฒ่าชุดเขียวไม่หยุด
“เขตแดนคุกมายา!”
ในเมื่อมีจิตคิดจะสังหาร จ้าวเฟิงก็จะไม่ออมมือ สำแดงวิชาดวงตามายาทันใด
ทันใดนั้น โหวชิ่งและชายชราอีกคนหนึ่งได้รับผลกระทบจากวิชาดวงตามายา ยืนอึ้งอยู่กับที่ วิญญาณตกเข้าสู่เขาวงกตสีม่วงทอง
แต่ว่าในขณะนั้นเอง โหวชิ่งหลุดออกจากวิชาดวงตามายาของจ้าวเฟิง เหงื่อท่วมจนเปียกชื้นทั้งร่าง มองจ้าวเฟิงอย่างหวาดหวั่น
เขามีของวิเศษป้องกันวิญญาณ กลับยังคงถูกผลกระทบจากวิชาดวงตามายาของจ้าวเฟิง นี่แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจในวิชามายาของอีกฝ่าย
ในยามนี้ เผ่าพันธุ์บรรพกาลรอบด้านก็กระโจนมา ทั้งสองถูกล้อมโดยทันที
“หนี!”
โหวชิ่งไม่สนใจชายชราที่อยู่ข้างๆ ป้ายหยกชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ เขาบีบมันแตกทันที
ฟิ้ว ฟู่! ทันใดนั้น เสวียนอ้าวลมและน้ำพันล้อมอยู่ใต้เท้าโหวชิ่ง
ฟุ่บ! โหวชิ่งหายไปจากท้องฟ้าทันใดด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง
“เจ้าไปสังหารมันให้ตาย!”
จ้าวเฟิงกำชับ แล้วไล่ตามไป
วู้ม แซ่ด แซ่ด!
ปีกแสงอัสนีสีขาววาววับคู่หนึ่งที่มีประกายสายฟ้าสอดประสานหนาแน่น ก่อตัวขึ้นด้านหลังของจ้าวเฟิง
“แสงอัสนีหลบหลีก!”
ครืน ตูม!
จ้าวเฟิงแปลงเป็นแสงอัสนีสายหนึ่ง พร้อมด้วยเสียงอัสนีบาตสะเทือนเลื่อนลั่น กะพริบวูบวาบแล้วหายไปหลายหมื่นลี้ในชั่วพริบตา จ้าวเฟิงได้รับการจำกัดจากห้วงฝันบรรพกาลค่อนข้างน้อย ด้านความเร็วจึงได้เปรียบกว่าคนทั่วไป
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
โหวชิ่งที่กำลังหลบหนี ด้านหลังพลันเกิดเสียงอัสนีกัมปนาทพร้อมด้วยพลานุภาพน่าหวาดหวั่น ทำให้เขาตกใจไม่น้อย
ประสาทสัมผัสเทพเพียงกวาดผ่าน ใบหน้าของโหวชิ่งเปลี่ยนสีทันใด
“เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กนี่ตามมาทันแล้ว เขายังเป็นขอบเขตเทวาเร้นลับอยู่งั้นรึ?”
โหวชิ่งตกใจเป็นอย่างยิ่ง
ต้องรู้ว่า กลวิธีหลบหนีที่เขาใช้เมื่อครู่ล้วนเป็นสิ่งที่ท่านอาจารย์ผู้ก่อตั้งคิดค้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นสี่ที่ไม่ถนัดเรื่องความเร็วก็ไม่มีทางไล่ตามเขาได้ทัน
ถึงแม้เขาจะยังมีกลอุบายอีกมากมาย แต่ก็ล้วนเตรียมเอาไว้เพื่ออันตรายร้ายแรงข้างหน้า หากใช้กับจ้าวเฟิงจะเป็นการสิ้นเปลืองอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าจ้าวเฟิงก็ตกใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าตนเองสำแดงแสงอัสนีหลบหลีกอยู่ในห้วงฝันบรรพกาล แม้กระทั่งปฐมเทพคนหนึ่งก็ไล่ตามไม่ทัน
พรึ่บ! คันธนูยาวที่เปล่งแสงสีทองระยิบระยับปรากฏขึ้นในมือของจ้าวเฟิง
อัสนีเพลิงทำลายล้างแทรกผ่านเข้าไปข้างใน หลังจากเสียงดัง ‘ผึง ฟิ้ว’ ธนูแสงอัสนีสีทองกะพริบแล้วหายวับ พุ่งไปยังโหวชิ่ง
“บัดซบ!”
โหวชิ่งโคจรเสวียนอ้าวลมและน้ำรอบด้าน เคลื่อนย้ายร่างกาย แต่ที่ไหล่ก็ยังคงถูกลูกธนูดอกนี้ทำร้ายบาดเจ็บ
ป่าโบราณเบื้องล่างในยามนี้ เงาของคนสามคนบินไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ท้องฟ้าไกลทะลักคลื่นพลังอันแข็งแกร่งขึ้นมา เผ่าพันธุ์บรรพกาลที่แข็งแกร่งทั้งหลายพากันตกใจเพราะพลังนี้
“นั่นคือโหวชิ่งไม่ใช่รึ?”
ชายหนุ่มใบหน้าสง่างามคนหนึ่ง สายตาลึกซึ้งมองไปยังที่ไกล
“มีคนไล่สังหารโหวชิ่ง?”
เสียงสตรีใสเสนาะหูดังขึ้น น้ำเสียงค่อนข้างตกใจ
ครืน เปรี้ยง เปรี้ยง!
อัสนีอันน่าหวาดหวั่นฟาดผ่า ชายผมทองใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาที่มีอัสนีหุ้มล้อมกายคนหนึ่งเข้าประชิดโหวชิง
“ตายไปซะ!”
ใบหน้าของโหวชิ่งค่อนข้างโกรธแค้น ผลึกลูกแก้วสีฟ้าลูกหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของเขา
ปึง กร๊อบ!
ผลึกแก้วแหลกละเอียด คลื่นวนพายุวารีมหาศาลที่น่าหวาดหวั่นปรากฏขึ้นในฟ้าดิน แรงรัดสังหารและแรงดูดอันน่าสะพรึงนั้น ถึงเป็นเทพแท้จริงขั้นสามก็ตายอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่าตาซ้ายของจ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกตินานแล้ว ในยามที่โหวชิ่งหยิบเอาผลึกลูกแก้วสีฟ้าออกมาเขาก็ถอยหลังไป
ครั้นเห็นจ้าวเฟิงหลบอุบายของเขาได้ โหวงชิ่งก็ไม่รีรอ หนีไปทันที ในยามนี้เขาเหลือตัวคนเดียว แน่นอนว่าไม่อาจสู้กับจ้าวเฟิงได้
“หนีไปแล้ว!” ใบหน้าของจ้าวเฟิงคร่ำเคร่งเล็กน้อย
แต่ว่ากลอุบายของอีกฝ่ายมีมากเกินไป รวมกับพลังที่ไม่ธรรมดา จ้าวเฟิงคิดอยากสังหารเขา บางทีอาจจะต้องนำไพ่ตายบางอย่างออกมาจึงจะได้ แต่ประเด็นสำคัญก็คือใกล้ๆ นี้ยังมีคนอื่นอีก จ้าวเฟิงจึงไม่สะดวกที่จะเปิดเผยไพ่ตายออกมา
จ้าวเฟิงไม่ได้ไปสนใจคนทั้งสามในป่าโบราณ และเตรียมตัวกลับไป
ทว่ายามนี้คนทั้งสามเบื้องล่างกลับบินขึ้นมา
“สหายท่านนี้ช่างเก่งกาจยิ่งนัก ไล่สังหารโหวชิ่งมาจนถึงที่นี่ได้”
ชายหนุ่มสง่างามผู้มีใบหน้าเป็นมิตรเอ่ยขึ้น
“ไม่ทราบว่าคุณชายคือขั้วอำนาจใด แม้กระทั่งโหวชิ่งยังต้องเกรงกลัวท่าน!”
สตรีผอมสูงในชุดชาววังสีชมพูยิ้มบางๆ เสียงเสนาะชวนหลงใหลดังมา
“โหวชิ่ง?” จ้าวเฟิงรู้ชื่อของชายหนุ่มผู้กำเริบเสิบสานเมื่อครู่นั่นแล้ว
หากสู้ตัวต่อตัว โหวชิ่งไม่เกรงกลัวจ้าวเฟิงอย่างแน่นอน เพียงแต่โหวชิ่งรู้ว่าจ้าวเฟิงมีเทพแท้จริงขั้นสามผู้หนึ่งช่วยเหลือ และยังมีสัตว์อสูรเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่น่าหวาดกลัวอีกเกือบสิบตัว ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าหยุดสู้กับจ้าวเฟิง
ฟุ่บ!
ผู้เฒ่าชุดเขียวเพิ่งจะตามมาในยามนี้ สายตากวาดไปยังคนทั้งสามข้างจ้าวเฟิง เขาส่งกระแสเสียงให้จ้าวเฟิงทันใด “นายท่าน คนทั้งสามนี้คือคนของเผ่าพาหาทอง เป็นขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาขั้วอำนาจสี่ดาวครึ่ง กระทั่งว่ามีหวังจะกลายเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอด!”
“ข้าน้อยอวี๋เฮิ่น เผ่าพาหาทองของเขาเป็นขั้วอำนาจปฏิปักษ์กับเผ่าปีศาจวารีสวรรค์ ไม่สู้ท่านเดินทางไปกับพวกข้าเถอะ!”
อวี๋เฮิ่นมองไปยังผู้เฒ่าชุดเขียวแวบหนึ่ง ก่อนเชื้อเชิญคนทั้งสอง
ข้างกายอวี๋เฮิ่นยังมีชายวัยกลางคนร่างกายสูงใหญ่ที่ปิดปากเงียบมาโดยตลอดอีกคนหนึ่ง
“ขอโทษด้วย ข้ายังมีธุระอื่น!”
จ้าวเฟิงปฏิเสธทันที พลังของหนึ่งชายหนึ่งหญิงนี้อาจจะไม่สู้โหวชิ่ง แต่ก็แข็งแกร่งนัก อีกทั้งชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่นั่นก็คือเทพแท้จริงขั้นสาม กลุ่มเช่นนี้ไยจึงเชื้อเชิญตน หรือเป็นเพราะจ้าวเฟิงไล่สังหารโหวชิ่ง?
“คุณชายเตรียมมุ่งไปยัง ‘ป่าวิหคสวรรค์’ ใช่ไหม? ได้ยินมาว่า ‘ป่าวิหคสวรรค์’ ก็เป็นเป้าหมายสำคัญของเผ่าปีศาจวารีสวรรค์เช่นกัน!”
สตรีสง่างามซึ่งสวมชุดชาววังสีชมพูคนนั้นอมยิ้มพูดขึ้น คำพูดนางอ่อนโยนน่าฟัง
เผ่าปีศาจวารีสวรรค์ที่เผ่าพาหาทองพูดถึง แน่นอนว่าหมายถึงเผ่าพันธุ์ที่โหวชิ่งอยู่ แต่ว่าจ้าวเฟิงกลับสนใจป่าวิหคสวรรค์มากกว่า ถึงแม้เขาจะสามารถเข้าออกที่นี่ได้ตามใจ แต่พื้นที่ที่สำรวจก็มีน้อยมาก
ส่วนขั้วอำนาจเหล่านี้ในดินแดนเทพรกร้าง ไม่รู้ว่ากี่ร้อยล้านปีก่อนก็เริ่มสำรวจพื้นที่ลับรกร้างบรรพกาลแล้ว ในมือของพวกเขาล้วนมีแผนที่ฉบับหนึ่ง กำข้อมูลของสถานที่ซึ่งมีโอกาสบางแห่งไว้ ป่าวิหคสวรรค์จะต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ของโอกาสที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าคงต้องทำตามนั้นแล้ว!”
จ้าวเฟิงไม่ได้บอกปัดอีก
หากไปถึงป่าวิหคสวรรค์แล้วพบกับโหวชิ่งได้จริงๆ จ้าวเฟิงจะหาโอกาสสังหารเขาลงเสีย