บทที่ 1231 เคลื่อนย้ายหลบหนี
จ้าวเฟิงกำกลุ่มแสงห้าสีไว้ในมือ ในวินาทีนี้เขารู้สึกเลยว่าตำหนักทั้งหลังนี้อยู่กำมือเขา ห้วงความคิดของเขาสามารถท่องไปทั่วตำหนัก เช่นเดียวกัน พลังเสวียนอ้าวมหาศาลในตำหนักก็โอนอ่อนต่อจ้าวเฟิง ทว่าพลังฝึกตนของจ้าวเฟิงต่ำจนเกินไป จึงยังคงไม่สามารถใช้พลังกลุ่มนี้ได้
ฟิ้ว! ฟิ้ว! เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีจากทุกคน จ้าวเฟิงจึงย้ายพลังเสวียนอ้าวในตำหนัก ให้มารวมตัวล้อมรอบเขาอีกครั้ง
โครม! การโจมตีของผู้แข็งแกร่งทั้งหมดถูกหมอกแสงห้าสีรอบตัวจ้าวเฟิงต้านเอาไว้
“แย่ล่ะ เขายึดครองใจกลางตำหนักได้แล้ว!”
ดวงตาปฐมเทพเทียนเสวี่ยตื่นตะลึงเล็กน้อย พุ่งออกไปด้านนอกทันใด
จ้าวเฟิงที่ยึดครองตำหนักผลึกห้าสีแห่งนี้สามารถใช้พลังของที่นี่ได้ ต่อให้เขาไม่รู้วิธีการใช้ แต่จะรับมือพวกเขาก็ง่ายดายอย่างยิ่ง
“รีบไป ปฐมเทพจื่อเฟิง เจ้าเด็กนี่ยึดครองใจกลางตำหนักได้แล้ว เมื่ออยู่ในตำหนักแห่งนี้ใครก็ทำอะไรเขาไม่ได้!”
เทพแท้จริงขั้นห้าของตำหนักรัตติกาลม่วงรีบบอกปฐมเทพจื่อเฟิง แต่ถึงจ้าวเฟิงจะยึดครองตำหนักหลังนี้แล้ว ก็ยังไม่อาจรักษามันไว้ได้อยู่ดี
ในตอนที่พื้นที่ลับปรากฏตัวออกมา ข่าวสารได้แพร่กระจายไปทั่ว ทำให้แต่ละขั้วอำนาจส่งผู้แข็งแกร่งมา
“อะไรกัน? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?”
ปฐมเทพจื่อเฟิงตื่นตะลึง
เมื่อมาถึงช่วงสำคัญสุดท้าย คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะยึดครองใจกลางตำหนักได้สำเร็จ นี่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“หนีไป!” การล่าถอยของขั้วอำนาจจำนวนหนึ่ง ทำให้สมาชิกในกลุ่มที่เหลือต่างรู้สึกกระวนกระวาย แต่เมื่อครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ พวกเขาถึงเข้าใจเหตุผล
ก่อนนี้พวกเขาไม่สามารถทำร้ายจ้าวเฟิงได้เลย ในตอนนี้จ้าวเฟิงยังยึดครองตำหนักผลึกห้าสีแห่งนี้สำเร็จ พวกเขาก็ยิ่งไม่อาจทำอะไรอีกฝ่ายได้ กลายเป็นว่าต้องกังวลความปลอดภัยของตนเองแทน
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ผู้แข็งแกร่งทุกคนในโถงลับหนีออกไปด้านนอกทันที
ทันใดนั้น โถงลับที่จ้าวเฟิงอยู่เหลือแค่พวกเขาสามคนเท่านั้น
แน่นอนว่าตำหนักผลึกห้าสีหลังนี้มีขนาดใหญ่โตมาก ส่วนภายในห้องและตำหนักอื่นๆ ก็มีกลุ่มจำนวนไม่น้อยไปสำรวจตรวจตรา
ทว่าพวกเขามองเห็นกลุ่มของขั้วอำนาจอื่นรีบร้อนหนีไป จึงรู้สึกไม่ชอบมาพากล
“อยู่ที่นี่ต่อเถอะ!” จ้าวเฟิงยืนนิ่งไม่ไหวติง ระบายยิ้มออกมา
เมื่อห้วงความคิดทะลักเข้าไปในกลุ่มแสงห้าสี จ้าวเฟิงควบคุมตำหนักผลึกห้าสีเอาไว้ทั้งหมด
วู้ม! จ้าวเฟิงเปิดการป้องกันตำหนักหลังนี้
“บัดซบ รอผู้แข็งแกร่งของตำหนักรัตติกาลม่วงมาถึงก่อน จะต้องสับคนผู้นี้ให้แหลกละเอียดเป็นชิ้นๆ!”
ปฐมเทพจื่อเฟิงสบถออกมาอย่างกราดเกรี้ยว เตรียมตัวจะจากไป
แต่ทันใดนั้น ประตูด้านหน้าเขาก็เกิดเสียงดัง ‘โครม’ ปิดสนิทลงทันที ในเวลาเดียวกัน ประตูบานอื่นของตำหนักผลึกห้าสีก็ปิดสนิททั้งหมดเช่นกัน ทั้งตำหนักถูกปิดผนึกอย่างสิ้นเชิง!
ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งที่หนีรอดไปได้พอดีผ่อนลมหายใจทันที
“เขาคิดจะทำอะไร?” ปฐมเทพเทียนเสวี่ยถอยไปไกลหลายลี้ จ้องตำหนักผลึกห้าสีด้วยอารมณ์ที่ไม่มั่นคง
ในบรรดายี่สิบลำดับแรกของรายชื่อปฐมเทพ นอกจากนางที่หนีรอดออกมาได้ คนอื่นที่เหลือต่างโดนกักอยู่ในตำหนัก นอกจากนี้ยังมีสมาชิกและผู้ถูกเลือกของขั้วอำนาจจำนวนมากถูกกักเอาไว้ด้านในเช่นกัน
“เจ้าคนนี้คิดว่ายึดครองตำหนักแห่งนี้ก็ไร้เทียมทานแล้ว ถึงกับกล้ากักคนของตำหนักรัตติกาลม่วงเอาไว้ภายใน!”
เทพแท้จริงขั้นสี่ผู้หนึ่งข้างปฐมเทพเทียนเสวี่ยหัวเราะเสียงเย็น ตำหนักรัตติกาลม่วงเป็นถึงหนึ่งในสามขั้วอำนาจห้าดาวของเขตผาเก่า ปฐมเทพจื่อเฟิงเป็นผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งของขั้วอำนาจนี้ นอกจากนี้ ขั้วอำนาจที่มาถึงตำหนักผลึกห้าสีได้ล้วนแต่ไม่ใช่ขั้วอำนาจเล็กๆ
“เหอะ เจ้านี่ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยนอกจากว่าเขาจะหลบอยู่ในนี้ตลอดชีวิต!”
ไม่ไกลออกไป ปฐมเทพที่เสี่ยงชีวิตหนีรอดออกไปได้แค่นเสียงหยัน
สวบ! สวบ! ในเวลาเดียวกันนั้นเอง มีคนมายังใจกลางตำหนักใหญ่โอ่อาไม่หยุดหย่อน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
กลุ่มที่เพิ่งเดินทางมาถึงต่างจ้องตำหนักผลึกห้าสีที่ปิดผนึกด้วยสีหน้าตื่นตกใจ
ยามนั้น ไม่ไกลนักมีพลานุภาพที่ทรงพลังทะลักเข้ามา
ครืน! จู่ๆ ชายชราหน้าเหมือนม้าในชุดคลุมสีม่วงฟ้าก็มาเยือน
ในอากาศถูกปกคลุมไปด้วยระลอกแสงสีฟ้าเข้มชั้นหนึ่ง เหมือนว่าทั้งผืนฟ้าช่วยสำแดงอำนาจของชายชราคนนี้
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่ล้อมวงดูใจสั่นสะท้าน สูดลมหายใจถี่กระชั้น
“นี่คือผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณของหอดารา!”
เทพแท้จริงผู้หนึ่งร้องด้วยความตกใจ
เขาเบญจดาราอยู่ในพื้นที่ของหอดารา วินาทีที่มิติลับแห่งนี้ปรากฏขึ้นมา ผู้ที่ได้รับข่าวคนแรกก็ย่อมเป็นหอดารา และขณะนี้ ในที่สุดผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณของหอดาราก็มาถึง
ชายชราหน้าม้าคนนี้แววตาทอประกาย จ้องไปที่ตำหนักผลึกห้าสี สูดลมหายใจกระชั้น
ทั้งตำหนักประกอบขึ้นจากผลึกเสวียนอ้าวระดับสูง หนำซ้ำยังไม่รู้เลยว่าในตำหนักมีสมบัติอะไรบ้าง
ถ้าหอดาราได้ครอบครองตำหนักผลึก เกรงว่าใช้เวลาไม่ถึงพันปีก็จะกลายเป็นขั้วอำนาจสี่ดาวระดับสุดยอดลำดับหนึ่งของเขตผาเก่า แต่ชายชราหน้าม้าก็รู้ แม้มิติลับแห่งนี้จะถูกพบในพื้นที่ของหอดารา แต่หอดาราคิดจะครอบครองไว้เพียงคนเดียวก็ยากเย็นเอาการ
“ผู้อาวุโสห้า ตำหนักผลึกห้าสีแห่งนี้ถูกเจ้าคนผมทองยึดครองไปแล้ว ตอนนี้เขาผนึกตำหนักหลังนี้และกักคนของหอดาราเอาไว้ภายในด้วย…”
คนผู้หนึ่งในสังกัดของขั้วอำนาจหอดารารีบรายงานสถานการณ์
“เหอะ!” ชายชราหน้าม้าแค่นเสียงเย็นทันที
ทุกคนที่ดังกล่าวต่างรู้สึกว่าฟ้าดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังที่น่ากลัวทำให้เลือดลมในร่างพวกเขาปั่นป่วน ดวงวิญญาณสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“ผู้เยาว์ จงออกมาแต่โดยดี มอบตำหนักแห่งนี้ให้เรา แล้วหอดาราจะไว้ชีวิตเจ้า!”
ชายชราหน้าม้าสีหน้าขึงขัง ตะโกนลั่น คลื่นเสียงรุนแรงกลุ่มหนึ่งทะลักไปทางตำหนักห้าสี
คนในตำหนักที่ถูกจ้าวเฟิงกักตัวไว้มีจำนวนร้อยกว่าคน
“เจ้าหนุ่มขนทอง เจ้ากักพวกเราไว้ที่นี่ กล้าสังหารพวกเรารึ!”
“จากนี้จะมีผู้แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ มาที่นี่ รวมถึงเทพโบราณขั้นเจ็ดด้วย ทางที่ดีเจ้าปล่อยข้าไปเสีย เจ้าครอบครองสมบัติพวกนี้ไว้ไม่ได้อยู่แล้ว!”
ในตำหนักห้าสี คนที่จ้าวเฟิงขังไว้ทยอยกันพูด พวกเขาเชื่อว่าจ้าวเฟิงไม่กล้าทำร้ายพวกตนแน่
“สหายจ้าว ข้าว่ามอบสมบัติชิ้นนี้ให้กับขั้วอำนาจสักกลุ่ม เพื่อแลกกับการคุ้มกันจากพวกเขาจะดีกว่า เผือกร้อนแบบนี้เก็บไว้ไม่ได้!” ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงส่งกระแสจิตถึงจ้าวเฟิงด้วยน้ำเสียงร้อนรน
เผ่าหมอกสวรรค์อยู่ห่างจากที่นี่มากไป ปกป้องจ้าวเฟิงไม่ได้
ตอนนี้ด้านนอกมีเทพโบราณผู้หนึ่งมาถึงแล้ว ต่อไปจะมีผู้แข็งแกร่งมากมายรีบตามมา จ้าวเฟิงคงไม่อาจอยู่ที่นี่ไปได้ตลอดกระมัง
ถ้าหากเทพโบราณทำอะไรตำหนักแห่งนี้ไม่ได้ สักวันหนึ่งจอมเทพผู้แข็งแกร่งของตำหนักรัตติกาลม่วงอาจมาเอง
จนถึงตอนนั้น ต่อให้จ้าวเฟิงมอบตำหนักให้แต่โดยดีก็ยากจะมีชีวิตรอดแล้ว
พรึ่บ! ชุดคลุมสีเงินโบกสะบัด จ้าวเฟิงส่งจ้าวหวังและมังกรวารีล้างโลกาเข้าไปในมิติของชุดคลุม
วินาทีต่อมา จ้าวเฟิงพุ่งทะยานออกไปผ่านประตูบานหนึ่งของตำหนักผลึกห้าสี
“ออกมาแล้ว แปลว่าเขายึดครองตำหนักแห่งนี้สำเร็จแล้ว!”
ตอนจ้าวเฟิงบินออกมาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนเอาไว้ทันใด
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าเด็กนี่จะหาใจกลางตำหนักเจอและยึดครองได้สำเร็จ!”
เทพแท้จริงเฮยเต้าเอ่ยอย่างตกใจที่มุมอับแห่งหนึ่ง
“มอบมาซะดีๆ!” ชายชราหน้าม้าของหอดาราทำสีหน้าเคร่ง มองไปยังจ้าวเฟิง
ในสายตาเขา จ้าวเฟิงออกมาในตอนนี้ย่อมเพราะเตรียมจะมอบตำหนักเพื่อแลกกับการคุ้มกันจากหอดารา
‘เทพโบราณ!’ จ้าวเฟิงมองชายชราหน้าคล้ายม้าเบื้องหน้า ท่าทางจริงจังขึ้นเล็กน้อย
ครั้งแรกที่จ้าวเฟิงเจอเทพโบราณคือในห้วงฝันบรรพกาล
ในตอนนั้น กิเลนเพลิงแดงอยู่ไกลมาก จ้าวเฟิงจึงไม่สามารถประเมินฝ่ายตรงข้ามได้อย่างละเอียด แต่ในตอนนี้ เทพโบราณของหอดาราผู้นี้ยืนอยู่อย่างสงบนิ่ง แผ่พลังกดดันออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้จ้าวเฟิงรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
ฟิ้ว! ในมือจ้าวเฟิงปรากฏกลุ่มแสงห้าสีลูกหนึ่งขึ้น
“ตกลง!” ชายชราหน้าม้าผู้นั้นระบายยิ้มออกมา
ท่าทีของจ้าวเฟิงทำให้เขาพึงพอใจอย่างยิ่ง ตอนนั้นขอแค่ไม่มีขั้วอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าหมายหัวจ้าวเฟิง หอดาราก็คุ้มครองชีวิตให้ได้ ถึงแม้หอดาราจะไม่สามารถยึดครองตำหนักผลึกห้าสีแห่งนี้เพียงผู้เดียว แต่ถ้าได้มันมาก่อน หอดาราก็จะสามารถขุดค้นผลประโยชน์ออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ทันใดนั้น กลุ่มแสงในมือจ้าวเฟิงก็เปล่งประกายเจิดจ้าแสบตา
จากนั้นก็มีเงาร่างคนลอยออกจากตำหนักผลึกห้าสี
คนพวกนี้น่าจะมีประมาณสามสิบกว่าคน โดยรวมคนของเผ่าหมอกสวรรค์ด้วย
“เจ้าคนนี้มันทำอะไรอยู่?”
ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งแถวนั้นฉงนสงสัย
หากจ้าวเฟิงจะปล่อยคนไป ก็น่าจะปล่อยไปทุกคนไม่ใช่หรอกหรือ? เหตุใดจึงปล่อยคนแค่สามสิบกว่าคนเท่านั้น
“เมื่อครู่พวกเจ้าไม่ได้โจมตีข้า ดังนั้นข้าจะปล่อยไป!”
จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงเบา
โครม! ในวินาทีที่พูดจบ จู่ๆ ตำหนักผลึกห้าสีด้านหน้าเขาก็ขยายใหญ่ขึ้น
ภายในมิติ พลังเสวียนอ้าวห้าธาตุปั่นป่วนไม่สงบนิ่ง ทำให้ผู้คนมองไม่เห็นว่าที่สุดแล้วเกิดอะไรขึ้น ตำหนักผลึกห้าสีลอยขึ้นกลางอากาศ ค่อยๆ หดเล็กลงขณะหมุนรอบ จนสุดท้ายเข้าไปในกลุ่มแสงห้าสีดังกล่าว
“ผู้เยาว์ นี่เจ้าจะไม่มอบให้ข้าใช่หรือไม่?”
เมื่อชายชราหน้าม้าคนได้ยินคำพูดของจ้าวเฟิงก็กราดเกรี้ยวในทันที
ในฟ้าดิน พลังแกร่งกล้าไร้รูปร่างตรงดิ่งไปกดดันจ้าวเฟิง
“ข้าไม่มีทางมอบของชิ้นนี้ให้เจ้าหรอก!”
จ้าวเฟิงกำกลุ่มแสงในมือแน่นก่อนจะก้าวเท้าไปด้านหน้าทีละก้าว
ปฐมเทพเจี้ยนเฟิงส่ายศีรษะน้อยๆ หากจ้าวเฟิงไม่ยอมมอบให้ พวกนั้นจะทำอะไรได้?
คนจำนวนมากตรงนั้นอดจะหัวเราะในความโง่งมของจ้าวเฟิงไม่ได้ เขาไม่มีอำนาจอะไร แต่กลับคิดจะฮุบสมบัติทั้งหมดเอาไว้
“เจ้ารนหาที่เอง!”
ใบหน้าชายชราหน้าม้าของหอดาราเปลี่ยนสี กำลังจะลงมือ
ในวินาทีนี้ ทั้งมิติสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แรงกดดันเหนือสรรพชีวิตทำให้ทุกคนสั่นเทิ้ม คนที่ขอบเขตพลังต่ำกว่าเทพแท้จริงขั้นสามแทบจะกระดิกตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่ทันใดนั้น ใต้ฝ่าเท้าของจ้าวเฟิงเรืองแสงห้าสีเป็นประกาย ลวดลายค่ายกลสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนถักทอกลายเป็นค่ายกลขนาดใหญ่
“นี่มัน? แย่แล้ว!”
สีหน้าชายชราหน้าม้าเปลี่ยนไปทันที
เขาเอาแต่จดจ่ออยู่ที่ตำหนักผลึกห้าสีของจ้าวเฟิง ยามตำหนักถูกจ้าวเฟิงดูดเข้าไปในกลุ่มแสงเมื่อครู่นี้ เขากลับไม่เห็นเลยว่าจุดที่มันหายไปยังมีลวดลายค่ายกลที่ทรงพลังอยู่
ตูม! พลานุภาพรุนแรงมหาศาลพร้อมพลังเทพสูงพุ่งไปหาจ้าวเฟิง
ชายชราหน้าม้าอยากจะขัดขวางการขับเคลื่อนของค่ายกลส่งข้าม แต่ตอนที่พลังของเขาเข้าใกล้แสงห้าสีกลับถูกดีดออกไปทันที
วู้ม~ ร่างของจ้าวเฟิงพลันสลายไปในระลอกมิติรุนแรง
ทุกคนที่นี่นิ่งค้างราวท่อนไม้ ส่วนสีหน้าผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณของหอดาราเดือดดาลเกินจะเปรียบ
ใครก็ไม่อาจคาดคิดว่าใต้ดินของตำหนักจะยังมีค่ายกลส่งข้ามอีกแห่งหนึ่ง!
จ้าวเฟิงพร้อมหอบตำหนักผลึกห้าสีถูกส่งข้ามไปอย่างราบรื่น
“เหอะ ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะหนีไปที่ไหนได้!”
ชายชราหน้าม้าฝั่งหอดาราตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนที่ร่างจะหายวับไปอย่างรวดเร็ว ต่อให้จ้าวเฟิงสามารถใช้ค่ายกลส่งข้ามหนีออกจากที่นี่ แต่เขาไม่มีทางหนีออกไปจากเขตผาเก่าได้!