Skip to content

King of Gods 1312

King Of Gods

บทที่ 1312 คลายผนึกเนตรเทพเจ้า

“ยังเหลือพลังอีกไม่น้อย มากพอที่จะจัดการพวกเจ้าทุกคนได้!”

ใบหน้าเย็นชาของเทพโบราณเฮยจี๋เผยรอยยิ้มชั่วร้าย

ตอนนี้เทพโบราณจวี้หลิงขั้นแปดถูกสังหาร ส่วนเจ้าแมวขโมยตัวน้อยที่มากความสามารถและลึกลับเกินคาดเดายังถูกจับไปอีก อีกทั้งเมื่อฟังน้ำเสียงของฝ่ายตรงข้ามแล้วก็รู้ได้ว่าไม่น่าจะปล่อยใครให้รอดไปทั้งสิ้น

“เจ้าแมวขโมยน้อย!” สีหน้าจ้าวเฟิงเคร่งขรึมลงไปเล็กน้อย

ก่อนที่เจ้าแมวขโมยตัวน้อยจะถูกพวกเทพโบราณเสวียนหมัวจับขังเอาไว้ เขาได้รับสารจากมันว่าไม่ต้องกังวล แต่ในตอนนี้ จ้าวเฟิงต้องเป็นห่วงตนเองก่อนว่าจะหนีเอาตัวรอดไปได้อย่างไร

“จับเป็นทายาทเนตรเทพเจ้า ส่วนคนอื่นสังหารให้สิ้น!”

เทพโบราณเสวียนหมัวเอ่ยเสียงต่ำ

จากนั้นทั้งหกคนจึงกระตุ้นวิชาออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อควบคุมพลังมายาเหนือศีรษะเอาไว้

วู้ม วู้ม! ลำแสงมายาสามสายและโซ่สามเส้นพุงออกจากสองด้าน

“จับทายาทเนตรเทพเจ้า?”

สีหน้าเหล่าทายาทเนตรเทพเจ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ในที่สุดตอนนี้พวกเขาก็ได้รู้ พวกเทพโบราณเสวียนหมัวพาพวกเขามาที่นี่ก็เพราะอยากจะจับตัวเอาไว้ แต่จะจับด้วยเป้าหมายใดนั้น พวกเขาไม่อาจรู้ได้ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่

“สังหารให้หมด!”

พวกเผ่าเปลวทองสั่นเทิ้มทั่วร่าง ในดวงตาฉายแววหวาดกลัวออกมา

เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ…

โซ่สามเส้นกับลำแสงสามสายที่พุ่งออกมาจากพลังมายา แยกกันตรงไปหาพวกเผ่าเปลวทองและทายาทเนตรเทพเจ้า

“รีบหนี!”

ชายเผ่าเปลวทองที่ถูกโซ่มายาเส้นหนึ่งไล่ตามร้องเสียงหลง ก่อนจะรีบหนีไป

“ไม่ได้ รีบหาวิธีเร็ว!”

หลินเฉิงอู่กดเสียงเอ่ย ร่างกายสว่างวาบหลบลำแสงหนึ่งไป

ถ้าหากทุกคนเอาแต่หลบหนี สุดท้ายต้องถูกพวกเทพโบราณเสวียนหมัวสังหารสิ้นแน่ แต่ตอนนี้ไม่มีใครสามารถรับมือกับพวกเทพโบราณเสวียนหมัวได้นานอย่างเทพโบราณจวี้หลิงและเจ้าแมวขโมยน้อย

พรึ่บ! ลำแสงสายหนึ่งหมุนกวาดไปหาจ้าวเฟิงด้วยองศาที่แม่นยำ

จ้าวเฟิงสัมผัสได้ เขาสำแดงประกายมิติออกมาเพื่อหลบหนีไป แต่ในจุดที่เขาปรากฏตัวนั้น แสงมายาก็ไปถึงพร้อมๆ กัน

“จ้าวเฟิงยอมให้จับซะดีๆ ตามพวกข้าไปพร้อมกับสัตว์วิเศษของเจ้าซะ!”

เทพโบราณเฮยจี๋เอ่ยเสียงเหี้ยมเกรียม ที่แท้ผู้ควบคุมลำแสงสายนั้นให้จับจ้าวเฟิงก็คือเทพโบราณเฮยจี๋

“ที่เมื่อครู่ไม่มอบตัวเจ้าให้เผ่าเปลวทอง นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของพวกเรา จะปล่อยให้เจ้ามาตายง่ายๆ ไม่ได้…”

เทพโบราณเฮยจี๋เอ่ยสำทับ

“ทำไมถึงต้องจับข้า? ข้าไม่ใช่ทายาทเนตรเทพเจ้าเสียหน่อย!”

จ้าวเฟิงถาม

เขายังพอจะเข้าใจเหตุผลที่พวกเขาต้องการจับทายาทเนตรเทพเจ้า แต่คนพวกนั้นจะจับตนเองเพราะเหตุใดกัน

“เจ้าไม่ใช่ทายาทเนตรเทพเจ้า แต่กลับฝึกตนจนดวงตาไปถึงขั้นเนตรปฐมเทพ อีกทั้งเจ้ายังเป็นเจ้านายของแมวความลับสวรรค์ มูลค่าของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าทายาทเนตรเทพเจ้าพวกนั้นเลย!”

เทพโบราณเฮยจี๋เอ่ยด้วยท่าทีแน่วแน่ บอกเล่าเรื่องพวกนี้ออกมาอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ

“อะไรกัน? เนตรปฐมเทพ?”

ทายาทเนตรเทพเจ้าที่เหลือมีสีหน้าตื่นตะลึงอย่างยิ่ง

“เป็นไปไม่ได้!” หลินเฉิงอู่และสตรีโฉมงามส่ายศีรษะ สีหน้าเหลือเชื่อ

จ้าวเฟิงอายุน้อยนัก แถมยังไม่ใช่ทายาทแปดเนตรเทพเจ้า แล้วเขาฝึกฝนสายเลือดดวงตาธรรมดาไปจนแตะขั้นเนตรปฐมเทพได้อย่างไรกัน? ก่อนนี้พวกเขาร่วมกลุ่มกับจ้าวเฟิง ยังสัมผัสถึงระดับขั้นสายเลือดดวงตาของจ้าวเฟิงไม่ได้เลย

“ดวงตาระดับเนตรปฐมเทพ?”

จ้าวเฟิงชะงักไปนิด

ในตอนนี้ จู่ๆ เขาก็นึกถึงตอนที่พวกราชาเซียนสังสารวัฏปลดปล่อยวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่งในดินแดนทวีป ก่อนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงขึ้นจากการเข้าร่วมอย่างกะทันหันของเนตรเทพเจ้าตนเอง

บางทีในตอนนี้เวลานี้ ดวงตาเทพเจ้าของเขาก็คงจะพอทำอะไรได้บ้าง…

พรึ่บ! ตราประทับที่ล้อมรอบลูกกลมสีเงินมายาในมิติดวงตาเทพเจ้าถูกจ้าวเฟิงฉีกทึ้งออก

ในเวลาเดียวกัน ประกายในดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นทันที ประกายแสงพร่างพรายส่องสะท้อนออกมา เส้นผมกลับคืนเป็นสีเงินมายาพลิ้วไหวราวสายน้ำในอากาศ

“เขาผนึกพลังดวงตาไว้!” หลินเฉิงอู่ตื่นตะลึงอย่างมาก

ก่อนนี้พลังดวงตาของจ้าวเฟิงก็สูสีกับเขาได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจ้าวเฟิงจะผนึกพลังบางส่วนของสายเลือดดวงตาเอาไว้

“เป็นเนตรปฐมเทพจริงหรือ?”

ทายาทเนตรเทพเจ้าที่เหลือต่างจ้องดวงตาข้างซ้ายของจ้าวเฟิง รวมถึงพวกเทพโบราณเสวียนหมัวด้วย

บางทีทุกคนอาจจะเคยเห็นบุคคลที่มีเนตรปฐมเทพ แต่ไม่เคยเห็นสายเลือดดวงตาที่ไม่ใช่ทายาทแปดเนตรเทพเจ้าไปถึงเนตรปฐมเทพมาก่อน

และอีกทางหนึ่งในเวลาเดียวกันนั้นเอง

“อ๊าก…” ทายาทเนตรเทพเจ้าผู้หนึ่งไม่ทันระวัง จึงถูกลำแสงเส้นหนึ่งรัดร่างเอาไว้

จากนั้นลำแสงมายาสายนั้นจึงกลายเป็นของเหลวปกคลุมทั่วร่างเขาเอาไว้

ทันใดนั้น ทายาทเนตรเทพเจ้าผู้นั้นกระดิกตัวไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่ได้ และโดนฉุดลากไป

“บัดซบ!” ชายชราชุดเขียวสบถออกมา

ทันทีที่พวกเขาชะล่าใจก็จะถูกลำแสงลึกลับนั้นรัดร่างเอาไว้ และยังไม่สามารถสลัดให้หลุดได้ด้วย

ฟากทายาทเนตรเทพเจ้าและเผ่าเปลวทอง มีคนถูกสังหารไปแล้วสองคน

“จ้าวเฟิง ยอมให้จับเถอะ ต่อให้เจ้าสำแดงพลังที่แท้จริงของดวงตาออกมาในตอนนี้ ยังจะมีประโยชน์อันใดอีก?”

เทพโบราณเฮยจี๋หัวเราะเยาะ

ฟุ่บ! ถึงแม้จะกำลังพูดอยู่ แต่เทพโบราณเฮยจี๋ก็ไม่หยุดควบคุมลำแสงมายา ยังเพียรพยายามจับตัวจ้าวเฟิงเอาไว้ แต่ท่าร่างของจ้าวเฟิงสูงส่งล้ำเลิศ อาศัยเพียงแค่ลำแสงที่เขาควบคุมจึงไล่ตามจ้าวเฟิงไม่ทัน

“บางทีอาจจะมีประโยชน์ก็ได้?”

จ้าวเฟิงกดสียงต่ำ เขาเองก็เพียงแค่อยากทดสอบเท่านั้น ต่อให้ไร้ประโยชน์ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

“หึ โง่งมนัก!” เทพโบราณเฮยจี๋หัวเราะเสียงเย็น

ฝึกตนมาจนถึงตอนนี้ วิชารวมเนตรเทพเจ้าที่พวกเขาร่วมแรงกันปลดปล่อยออกมาไม่เคยพ่ายแพ้ต่อสิ่งใดมาก่อน นอกเสียจากว่าจะมียอดฝีมือในระดับขั้นเหนือกว่าพวกเขาไปมาก

“เอาพลังเจ้ามาให้ข้ายืม!”

เทพโบราณเฮยจี๋เอ่ยปากบอกสหายร่วมทางผู้ครอบครองเนตรมิติ

จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังเสวียนอ้าวมิติลึกล้ำกลุ่มหนึ่งทะลักออกมาเหนือลำแสงที่ตนเองควบคุมอยู่

“ฮ่าๆ คราวนี้มาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้!” เทพโบราณเฮยจี๋จ้องเขม็ง

เปรี๊ยะ! ลำแสงมายาเส้นหนึ่งเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว หนำซ้ำยังหลอมรวมกับความว่างเปล่าและพุ่งผ่านไปในอากาศ มาหยุดลงที่ด้านหน้าจ้าวเฟิงในพริบตา

“เจ้าเด็กจ้าวเฟิงนั่นแย่แล้ว!”

บุรุษหนุ่มชุดเหลืองจากแดนศักดิ์สิทธิ์ชีวิตเอ่ยเสียงเบา

ศัตรูควบคุมลำแสงสามสายให้จับทายาทเนตรเทพเจ้า ส่วนเขากลายเป็นคนที่ถูกมองข้ามไปชั่วคราว ลำแสงมายากำลังจะรัดร่างจ้าวเฟิงเอาไว้แล้ว และในตอนนี้นี่เอง วิชาดวงตาข้างซ้ายของจ้าวเฟิงก็ก่อร่างสำเร็จพอดี

“เพลิงเนตรดั้งเดิม!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงจดจ้องไปที่ลำแสงด้านหน้า เพลิงสีม่วงเงินมายากลุ่มหนึ่งหมุนวนออกมา

“ฮ่าๆ โง่งมเหลือเกิน พลังของพวกเจ้าไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ!”

เทพโบราณเฮยจี๋ขำขันกับการกระทำของจ้าวเฟิงอย่างยิ่ง

แต่ในวินาทีต่อมา เขากลับชะงักอยู่กับที่ ใบหน้าค้างแข็ง

วูบ! กลุ่มเพลิงสายฟ้าอัสนีสีม่วงเงินราวภาพความฝันระเบิดออกเหนือลำแสงเบื้องหน้าจ้าวเฟิง ลำแสงมายานั้นบิดเบี้ยวขยายใหญ่ขึ้นในพริบตา จนในที่สุดก็กลายเป็นพลังเสวียนอ้าวที่แกร่งกล้าหลายกลุ่มแล้วสลายหายไปในฟ้าดิน

“ใช้ได้จริงๆ ด้วย!”

ดวงตาจ้าวเฟิงพลันสว่างวาบ

เขารู้ดีว่าการโจมตีทั่วไปไม่มีผลใดต่อพลังลึกลับกลุ่มนั้น

ดังนั้นเมื่อคลายผนึกแล้ว จ้าวเฟิงจึงจัดการหลอมรวมพลังดั้งเดิมกลุ่มหนึ่งเข้าไปในวิชาดวงตา

ตอนแรกที่อยู่ในดินแดนทวีป ทันทีที่พลังดั้งเดิมในดวงตาเทพเจ้าของเขาปรากฏขึ้น ก็กดพลังดั้งเดิมของทายาทเนตรเทพเจ้าคนอื่นๆ ในทันที จนกลายเป็นผู้นำของพลังที่แข็งแกร่งกลุ่มนั้น แต่ครั้งนี้ วิชาดวงตาที่หลอมรวมพลังดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้าเอาไว้ก็ส่งผลดีอย่างยิ่งต่อพลังลี้ลับเช่นกัน

“เป็นไปได้อย่างไร!” เทพโบราณเฮยจี๋ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

พวกเขาสร้างพลังโดยใช้วิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง ไยจึงโดนทำลายไปเสียได้

“กลิ่นอายเนตรเทพเจ้า…”

เทพโบราณเสวียนหมัวและพวกก็หน้าถอดสี

พวกเขาเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก

อีกอย่าง ในพลังที่จ้าวเฟิงเพิ่งปลดปล่อยออกมามีกลิ่นอายที่ไม่แตกต่างไปจากพลังเหนือศีรษะพวกเขาแม้แต่น้อย

ทางฝั่งพวกทายาทเนตรเทพเจ้าและเผ่าเปลวทอง เมื่อเห็นการโจมตีของจ้าวเฟิงมีผลต่อพลังมายา ใบหน้าพวกเขาพลันฉายแววตื่นเต้นดีใจ เดิมความหวังของพวกเขาสูญสิ้นไปแล้ว แต่ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนี้ก็เกิดประกายความหวังขึ้นมาอีก

“จ้าวเฟิง คิดไม่ถึงเลยว่าสายเลือดดวงตาของเจ้าจะมีผลกับเคล็ดวิชาของพวกเขา!”

“จ้าวเฟิง รีบช่วยพวกเราเร็ว!”

ทุกคนต่างร้องขอความช่วยเหลือจากจ้าวเฟิงอย่างรวดเร็ว

ในวินาทีนี้ จ้าวเฟิงกลายเป็นความหวังของทุกคนที่นี่ เป็นความหวังสุดท้ายที่จะมีชีวิตรอดต่อไป

โครม ตูม! ร่างจ้าวเฟิงสั่นเทาน้อยๆ กระตุ้นวิชาดวงตาขึ้นในฉับพลัน

ไม่ไกลนัก สตรีโฉมงามที่เกือบโดนลำแสงสายนั้นจับฉวยโอกาสนี้สลัดหนีออกมา

อันที่จริงจ้าวเฟิงไม่อยากจะช่วยคนเหล่านี้นัก อย่างไรก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร หนำซ้ำพวกเขาอาจยังแพร่งพรายความลับของตนเองออกไปด้วย ดังเช่นเรื่องแมวความลับสวรรค์ เรื่องที่เจ้าแมวขโมยตัวน้อยมอบสมบัติให้จ้าวเฟิงก่อนที่มันจะโดนจับ และความลับเรื่องดวงตาเทพเจ้า…

แต่ตอนนี้การมีชีวิตรอดกลับไปเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้นจ้าวเฟิงจึงเลือกช่วยเหลือคนพวกนี้เพื่อเพิ่มกำลังรบให้กับฝั่งตนเอง

“ขอบใจมาก!”

สตรีโฉมงามรีบเข้าไปใกล้จ้าวเฟิงเพื่อความปลอดภัย

ในครั้งนี้ทุกคนที่นั่นต่างเห็นด้วยตาของตนเองว่าจ้าวเฟิงทำลายพลังมายากลุ่มนั้นได้

“กลิ่นอายเนตรเทพเจ้า…”

ทายาทเนตรเทพเจ้าจำนวนมากใจสั่น สีหน้าเคร่งขรึม

ก่อนนี้เผชิญหน้ากับอันตรายใหญ่หลวง หนำซ้ำสถานการณ์ยังโกลาหลวุ่นวาย พวกเขาจึงไม่ได้ใส่ใจในข้อนี้ แต่ครั้งนี้ทุกคนจับจ้องจ้าวเฟิง ดังนั้นจึงต่างสัมผัสได้ชัดเจนถึงกลิ่นอายเนตรเทพเจ้าที่สาดซัดออกมาในยามที่เขาปลดปล่อยวิชาดวงตา

แต่ต่อให้พวกเขาไม่พอใจในตัวจ้าวเฟิงสักเท่าไหร่ หรือจะอยากได้สมบัติในครอบครองของอีกฝ่าย ประหลาดใจในสายเลือดดวงตาของเขา

ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องอาศัยพลังของจ้าวเฟิงถึงจะมีชีวิตรอดไปได้ คนอื่นที่เหลือต่างค่อยๆ เข้าไปใกล้จ้าวเฟิง

แต่ในตอนนี้ ทางฟากทายาทเนตรเทพเจ้าเหลือเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น ส่วนเผ่าเปลวทองยังมีอีกสี่คน

“เปลี่ยนแผน จับจ้าวเฟิงก่อน!”

เทพโบราณเสวียนหมัวเอ่ยด้วยใบหน้าเดือดดาล จ้องจ้าวเฟิงด้วยสายตาเย็นชาเหลือประมาณ

“รับทราบ!” คนอื่นที่เหลือผงกศีรษะทันที

พวกเขาต่างคาดคิดไม่ถึงว่าภารกิจนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ขึ้น แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ล้มเหลวไม่ได้ และจะไม่ยอมล้มเหลวด้วย!

วู้ม โครม! ลำแสงสองสายที่ถูกจ้าวเฟิงทำลายลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง ลำแสงมายาสามสายพุ่งตรงไปหาจ้าวเฟิงจากสามทิศทางอย่างรวดเร็ว!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version