Skip to content

King of Gods 1325

King Of Gods

บทที่ 1325 ช่วยแมวขโมยน้อย

จ้าวเฟิงโคจรตาซ้าย สำแดงพลังมองทะลุผ่านกำแพงเหล็กพิเศษแต่ละชั้นออกไปข้างนอก เห็นเพียงที่ปากทางเข้าแห่งหนึ่งมีร่างของสองคนยืนอยู่ พวกเขากำลังสัมผัสค่ายกลประจำที่พักอาศัยของเทพโบราณเสวียนหมัว

จ้าวเฟิงรู้จักสองคนนี้ พวกเขาคือคู่หูสองคนของเทพโบราณเสวียนหมัวในซากปรักหักพังเมืองความลับสวรรค์

หนึ่งในนั้นยังเป็นหัวหน้ากองกำลังกลุ่มย่อยของจ้าวเฟิง…เทพโบราณเฮยจี๋

“ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าได้ข่าวของจ้าวหุย ก็ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเขา!”

เทพโบราณเสวียนหมัวอธิบาย

ท่าทางพวกเทพโบราณเฮยจี๋จะต้องสืบรู้ว่าเทพโบราณเสวียนหมัวจับจ้าวหุยได้สำเร็จแล้วแน่นอน และกลัวว่าอีกคนจะฮุบประโยชน์เป็นของตัวเองคนเดียว จึงมาดูสักหน่อย

“จะเผยช่องโหว่แหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ได้!”

จ้าวเฟิงจมอยู่ในภวังค์ความคิด ทันใดนั้นดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้น มุมปากยกเป็นรอยยิ้ม

“ยังไม่ออกมาอีก!” เทพโบราณเฮยจี๋มีสีหน้าเคร่งเครียด

“คงไม่ใช่ว่าเทพโบราณเสวียนหมัวคิดอยากหลบหน้าพวกเรา แล้วไปแบ่งประโยชน์กับคนอื่นที่ร่วมมือจัดการจ้าวเฟิงหรอกนะ!”

ทายาทเนตรมิติร่างผอมแห้งอีกคนหนึ่งซุบซิบเสียงเบา

ในเมื่อความลับของจ้าวเฟิงไม่ธรรมดา จะต้องดึงความสนใจจากผู้นำระดับสูงได้อย่างแน่นอน

เทพโบราณเสวียนหมัวเป็นไปได้มากว่าอาจจะใช้โอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์กับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในขั้วอำนาจ แต่ในตอนนี้เอง ปราการค่ายกลเบื้องหน้าคนทั้งสองก็พลันสลายไป ร่างของเทพโบราณเสวียนหมัวปรากฏขึ้นช้าๆ

“เข้ามาเถอะ” พูดประโยคนี้จบ เทพโบราณเสวียนหมัวก็หันหลังกลับไปทันที

พวกเทพโบราณเฮยจี๋ทั้งสองคนรีบตามไป

ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็มาถึงยังห้องลับแยกเดี่ยวห้องหนึ่ง ในห้องลับมีชายหนุ่มหน้าตาทรงภูมิและสง่างามคนหนึ่ง ร่างถูกพันธนาการไว้ด้วยพลังเทพที่แข็งแกร่ง ไม่อาจขยับเขยื้อนได้

“เป็นคนคนนี้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจ้าวเฟิงรึ?”

ดวงตาเย็นชาของเทพโบราณเฮยจี๋จ้องไปยังจ้าวหุย เนตรมรณะคู่นั้นเย็นเยียบน่าขนลุก

“ล้วงเบาะแสออกมาได้แล้วกระมัง!” อีกคนหนึ่งถามขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว

“กับอีแค่เทพแท้จริงขั้นสามเท่านั้น จะไปมีแรงต้านทานรึ?”

เทพโบราณเสวียนหมัวเผยรอยยิ้มบางออกมา

“รีบบอกข้อมูลที่มีค่าพวกนั้นมาเร็ว!” เทพโบราณเฮยจี๋ค่อนข้างคาดหวัง

“พวกเจ้าดูเอาเองก็แล้วกัน!”

เทพโบราณเสวียนหมัวเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง มือสะบัดไปในอากาศ จากนั้นม่านแสงหลากสีก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าคนทั้งสอง

พวกเทพโบราณเฮยจี๋รู้ว่าเทพโบราณเสวียนหมัวจะแสดงภาพในความทรงจำของจ้าวหุยออกมา

ในภาพคือทิวทัศน์งดงามที่แกะสลักขึ้นด้วยผลึกแก้ว ซึ่งก็คือเขตอิทธิพลของเผ่าพันธุ์วิญญาณนั่นเอง

ไม่นานนัก ในภาพก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เส้นผมสีเงินดุจความฝันปลิวไสวอย่างอิสระราวสายน้ำ

“ไม่ถูกต้อง!” สีหน้าชายผอมแห้งคนนั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย

เขาคือผู้ครอบครองเนตรมิติ เมื่อครู่นี้เองเขาเพิ่งจะสัมผัสได้ว่าในม่านแสงมีคลื่นมิติอยู่ด้วย

“เป็นอะไรไป?” เทพโบราณเฮยจี๋ทำหน้าสงสัย

ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงที่ปรากฏอยู่ในม่านแสงหลากสีนั้นพลันมองมายังคนทั้งสอง ในตาซ้ายแผ่กระจายพลังศาสตร์ลวงตาวิญญาณที่แข็งแกร่งออกมา

ร่างของจ้าวเฟิงค่อยๆ ก่อเค้าขึ้น ก่อนที่ม่านแสงนั้นจะหายไปทันใด

“เขตแดนคุกมายา!” วิชาลวงตาของจ้าวเฟิงหุ้มล้อมคนทั้งสองเอาไว้ในเวลาเดียวกัน

เสี้ยวขณะนั้น ทายาทเนตรเทพเจ้าทั้งสองเหมือนมาถึงยังโลกแห่งหมอกที่ราวกับความฝัน

“ฝ่ามือหมื่นปรากฏการณ์!”

เทพโบราณเสวียนหมัวยืนอยู่ข้างหลังพวกเทพโบราณเฮยจี๋ทั้งสอง โคจรเนตรหมื่นปรากฏการณ์ขึ้นในทันใด มือทั้งสองข้างซัดฝ่ามือแสงหลากสีที่มีพลังมหาศาลออกมาสองสาย

พวกเทพโบราณเฮยจี๋ไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยผลลัพธ์จากพลังศาสตร์ลวงตา

ครืน บึ้ม!

เทพโบราณเฮยจี๋ทั้งสองคนโดนซัดเข้าไปเต็มๆ ร่างกระแทกไปข้างหน้า

ใบหน้าของจ้าวเฟิงเผยยิ้ม มองไปยังคนทั้งสองที่เข้ามาใกล้ตน ชุดคลุมมิติเพียงสะบัดก็เก็บพวกเขาเข้าไปข้างในแล้ว

“ไป!” จากนั้นจ้าวเฟิงและเทพโบราณเสวียนหมัวก็เข้าไปข้างในชุดคลุมมิติ

“เนตรเพ่งเทพเจ้า!”

หลังจากเข้าไปข้างใน จ้าวเฟิงพลันโคจรดวงตาเทพเจ้า และสำแดงเนตรเพ่งเทพเจ้ากับชายผอมแห้งคนนั้น ควบคุมวิญญาณของเขาเอาไว้

ในเมื่อคนคนนี้คือทายาทเนตรมิติ ผลการยับยั้งของมิติแห่งนี้จึงค่อนข้างน้อย

“นี่มันอะไรกัน…วิญญาณของข้า!”

ชายผอมแห้งดิ้นรนสุดกำลัง แต่กลับพบว่าวิญญาณของเขาแทบจะไม่มีแรงต้านทานเลยภายใต้ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง

ส่วนเทพโบราณเฮยจี๋ถูกควบคุมจากการร่วมมือกันของเทพโบราณเสวียนหมัว มังกรวารีล้างโลกา และจ้าวหวาง

สายเลือดของมังกรวารีล้างโลกาควบคุมเขาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนไม้เท้าคำสาปมรณะของจ้าวหวางก็ยิ่งทำให้เนตรมรณะของเทพโบราณเฮยจี๋ไม่อาจใช้งานใดได้

“นี่คือไม้เท้าคำสาปมรณะ…มิน่าเล่า ครั้งที่แล้วเจ้าถึงได้ดูดซับวารีมรณะได้มากถึงเพียงนั้น!”

สีหน้าของเทพโบราณเฮยจี๋ตื่นตะลึง ในที่สุดเขาก็เข้าใจปัญหาที่กวนใจเขามาตลอดเสียที

ไม้เท้าคำสาปมรณะ ว่ากันว่าเป็นอาวุธซึ่งทายาทเนตรมรณะที่แข็งแกร่งคนหนึ่งสร้างขึ้นในสมัยบรรพกาล อีกทั้งทายาทเนตรมรณะคนนี้ยังบังเอิญได้รับมรดกคำสาปของเผ่าพันธุ์แม่มดโบราณที่อยู่ในอันดับสองของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณมาอีกด้วย

และเป็นเพราะเหตุนี้ บนไม้เท้าคำสาปมรณะจึงมีดวงตาประเภทคล้ายกับเนตรมรณะอยู่ข้างหนึ่ง สามารถใช้ร่วมกับเนตรมรณะ ทั้งยังแฝงด้วยพลังคำสาป

“ไม่…” วิญญาณของชายผอมแห้งดิ้นรนสุดกำลัง แต่วิญญาณกลับลอยไปในตาซ้ายของจ้าวเฟิงอย่างไม่อาจควบคุมได้

“รับมา!”

เนตรเพ่งเทพเจ้าของจ้าวเฟิงดูดวิญญาณของชายผอมแห้งเข้าไปในมิติเนตรเทพเจ้าทันที

หลังจากเนตรเทพเจ้าแปรสภาพ ตาซ้ายของเขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง ในระดับขั้นเดียวกันแทบจะไม่มีคนที่สามารถต้านทานพลังของเนตรเทพเจ้าได้

“ถึงตาเจ้าแล้ว!” จ้าวเฟิงเดินมาหาเทพโบราณเฮยจี๋ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

อีกฝ่ายไม่มีพลังต้านทานสักเท่าใดนัก เทพโบราณถูกดูดเข้ามาในมิติเนตรเทพเจ้าอย่างรวดเร็ว

จากการทรมานช่วงระยะหนึ่ง จ้าวเฟิงก็ตีตราผนึกดวงใจทมิฬลงไปในวิญญาณของพวกเขาได้สำเร็จ

“หากมีสมาชิกข้างในก็จะแฝงตัวเข้าไปในหอมารสวรรค์ได้ง่ายยิ่งขึ้น!”

ใบหน้าของจ้าวเฟิงฉายแววยินดี

คิดไม่ถึงว่าหลังจากจับเทพโบราณเสวียนหมัวเป็นทาสรับใช้ได้แล้ว ก็จะยังมีอีกสองคนเดินมาหาถึงหน้าประตู

ถึงแม้ทั้งสามคนนี้จะไม่อาจบอกข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวกับหอมารสวรรค์ให้จ้าวเฟิงได้

แต่จ้าวเฟิงสามารถใช้ครรลองสายตาของคนทั้งสามคนนี้ทำความเข้าใจสถานการณ์โดยรวมของหอมารสวรรค์ได้

“นายท่าน ท่านคิดจะช่วยแมวความลับสวรรค์ก็ไม่ง่ายเลย!”

เทพโบราณเฮยจี๋กังวลแทนจ้าวเฟิง

“ที่ที่แมวความลับสวรรค์อยู่มีผู้แข็งแกร่งรักษาดูแล!”

ชายผอมแห้งพูดได้เพียงเช่นนี้เท่านั้น

จากคำพูดของทั้งสอง จ้าวเฟิงสามารถเดาได้คร่าวๆ ว่าจุดที่แมวความลับสวรรค์อยู่มีการป้องกันแน่นหนา ข้างในยิ่งมีผู้แข็งแกร่งชั้นยอดคอยดูแล

ด้วยพลังของจ้าวเฟิง หากจะช่วยแมวขโมยน้อยก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการเอาไข่ไปกระแทกกับหิน

“เรื่องใดๆ ก็แล้วแต่ล้วนไม่แน่นอน บนโลกนี้ไม่มีความลับใดๆ ต่อให้เป็นที่ที่แน่นหนาเพียงใดก็มีช่องให้เล็ดลอดได้!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงสงบนิ่ง

อีกทั้งในตอนนี้เหมือนจะมีคนอื่นเข้ามาก่อความวุ่นวายที่นี่ด้วย

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาช่วยแมวขโมยตัวน้อย เขาจะต้องเตรียมตัวสักหน่อย

“ออกเดินทาง!” จ้าวเฟิงคำรามเสียงต่ำ สำแดงเสวียนอ้าวมิติหลบซ่อนเข้าไปข้างในกายของเทพโบราณเสวียนหมัว

“นายท่าน พวกเราควรจะทำอย่างไร?” เทพโบราณเสวียนหมัวถามเสียงเบา

ต่อให้เขาเคยเห็นไพ่ตายบางอย่างของจ้าวเฟิง ก็ไม่คิดว่าจ้าวเฟิงจะมีความสามารถช่วยแมวขโมยน้อยได้

“ไปหาคู่หูอีกคนนอกเหนือจากพวกเจ้าสามคนเสียก่อน!”

เสียงของจ้าวเฟิงดังออกมาอย่างค่อนข้างยินดี

“ขอรับ!”

ถึงแม้จะไม่รู้ว่านายท่านทำไปเพื่ออะไร แต่พวกเขาก็ไม่กล้าขัดขืน

หลังไปจากที่อาศัยแล้ว คนทั้งหมดก็เห็นเงาคนหลายร่างบินทะยานมาจากทางเดินไกลๆ อย่างรวดเร็ว

“ท่าทางผู้บุกรุกคนอื่นเหมือนจะแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!”

จ้าวเฟิงสังเกตทุกอย่างผ่านครรลองสายตาของบ่าวทั้งสาม

ฟุ่บ ฟุ่บ! เทพโบราณเสวียนหมัวทั้งสามบินทะยานไปในโครงสร้างที่แปลกประหลาดราวกับเขาวงกตแห่งนี้ ไม่นานเท่าใดนัก เทพโบราณเสวียนหมัวก็มาถึงห้องที่แยกเดี่ยวห้องหนึ่ง

“ข้าเอง เทพโบราณเสวียนหมัว!”

ไม่นานนัก ค่ายกลนอกห้องก็สลายออกไป ชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินออกมา “มีเรื่องอะไร?”

“พวกข้าสามคนมากันหมด แน่นอนว่าต้องมีเรื่องหารือกับเจ้า!”

เทพโบราณเสวียนหมัวท่าทางราวกับมีความลับสำคัญซ่อนอยู่

ชายกำยำคนนั้นไม่คิดให้มาก เดินเข้าไปข้างในกับคนทั้งสาม แต่ทว่าทันใดนั้นเอง คู่หูทั้งสามก็กลับลอบโจมตีเขา

ในขณะเดียวกันนี้ จ้าวเฟิงที่ซ่อนอยู่ในกายของเทพโบราณเสวียนหมัวก็ปรากฏขึ้นทันที

ภายใต้การร่วมมือของคนทั้งสี่ เทพโบราณขั้นเจ็ดคนนี้ไร้ซึ่งแรงต้านทานใดๆ

หลังจากนั้นระยะหนึ่ง พวกเทพโบราณเสวียนหมัวทั้งสี่เดินออกจากห้อง แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่เป้าหมายต่อไป

……

“เป็นข้าเอง เทพโบราณเสวียนหมัว!”

พวกเทพโบราณเสวียนหมัวมาถึงยังที่พักอาศัยของสตรีผอมบางคนนั้น แต่ผ่านไปนานก็ไม่มีการตอบรับใดๆ

“ท่าทางเนตรทำนายจะรับรู้ได้เลยหนีไปก่อนแล้ว!”

จ้าวเฟิงไม่สนใจเรื่องนี้

คนทั้งหกในซากปรักหักพังเผ่าความลับสวรรค์ตอนนั้น ยามนี้มีสี่คนที่กลายเป็นข้ารับใช้ของจ้าวเฟิงแล้ว

“เช่นนั้นข้าก็มีไพ่ตายอีกใบหนึ่ง!”

จ้าวเฟิงที่ซ่อนอยู่ในร่างของเทพโบราณเสวียนหมัวแอบดีใจ

จ้าวเฟิงไม่อาจได้วิธีรวมเนตรเทพเป็นหนึ่งมาจากพวกเขา แต่สามารถใช้ให้พวกเขาสำแดงวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง

ความแข็งแกร่งของวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง จ้าวเฟิงรับรู้ได้อย่างลึกซึ้ง หากปะทุพลังเต็มขั้นภายในพริบตา แม้เป็นเทพโบราณขั้นเก้า หากไม่ระวังก็ต้องผจญเคราะห์หนักเป็นแน่

และหากทำให้เป็นเคล็ดวิชาที่สำแดงพลังได้นานแล้วละก็ จะสามารถต้านทานเทพโบราณขั้นแปดได้หลายคนทีเดียว

“ต่อไป ไปหาที่ที่แมวขโมยน้อยอยู่!” จ้าวเฟิงออกคำสั่ง

……

ในส่วนลึกตรงใจกลางของหอมารสวรรค์มีโถงลับกว้างใหญ่แห่งหนึ่ง ที่นี่คือสถานที่ต้องห้ามของหอมารสวรรค์ ต่อให้เป็นเทพโบราณเสวียนหมัว หากไม่มีเหตุพิเศษอะไร แม้กระทั่งจะเข้าใกล้ก็ยังทำไม่ได้

ในโถงลับมีปราการเกราะแสงเล็กใหญ่มากมายนับไม่ถ้วน ในเกราะแสงทุกๆ อันมีอุปกรณ์กลไลแปลกประหลาดบางอย่าง ผลการวิจัย อีกทั้งร่างทดลอง

ลึกสุดในโถงลับมีกล่องผลึกแก้ว ข้างในกล่องมีของเหลวสีเงินทองไหลวน

ในน้ำมีแมวสีเทาตัวหนึ่งลอยอยู่

ในตอนนี้ อักขระสีเงินและตราประทับบนร่างของแมวขโมยน้อยบิดม้วน แผ่ขยายไปไม่หยุดราวกับมีชีวิต

เบื้องหน้าแมวขโมยน้อยมีคนควบคุมเครื่องกลไกคนหนึ่ง ทำให้เครื่องจักรขนาดมหึมาเชื่อมต่อกับแมวขโมยน้อย และเบื้องหลังคนควบคุมเครื่องจักรคนนี้ มีผู้อาวุโสหน้าตาชั่วร้ายที่ทั่วร่างมีเกล็ดสีเทาเต็มไปหมด

“หากแมวความลับสวรรค์ตัวนี้แปรสภาพเป็นร่างสมบูรณ์…”

ตาทั้งสองของผู้อาวุโสเกล็ดเทาจ้องแมวขโมยน้อยเขม็ง ยากที่จะเก็บซ่อนความตื่นเต้นในดวงตาไว้

ฟุ่บ! ในตอนนี้เอง เงาดำร่างหนึ่งโผล่เข้ามา

“ใต้เท้า ผู้แข็งแกร่งแดนศักดิ์สิทธิ์มิติกำลังเข้ามาใกล้เขตหอมารสวรรค์!”

ร่างเงาดำรายงานทันใด

“ท่าทางคนไปปฏิบัติภารกิจที่นั่นเมื่อครั้งที่แล้วจะทิ้งร่อยเอาไว้สินะ!”

ผู้อาวุโสเกล็ดเทาทอดถอนใจ แววตาฉายประกายเย็นเยียบ

“หึ ผู้ที่มาเป็นใคร?” ผู้อาวุโสเกล็ดเทาถามขึ้นอีกครั้ง

“ลูกศิษย์ของผู้ครอบครองเนตรมิติ เทพโบราณชื่อเซียว! (นภาสีชาด)”

“เป็นเทพโบราณชื่อเซียวงั้นรึ ว่ากันว่าเขาถึงขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพแล้ว ให้ข้าไปเจอเขาหน่อยก็แล้วกัน!”

ผู้อาวุโสเกล็ดเทามีท่าทางสงบนิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version