บทที่ 1324 ปราบจนอยู่หมัด
“เขาเป็นคนที่ข้าให้ไปจับมา!”
เทพโบราณเสวียนหมัวพูดเสียงต่ำ จากนั้นก็ม้วนตัวจ้าวหุยไปจากที่นี่
เมื่อออกจากมิติมืดสลัวแห่งนี้ เทพโบราณเสวียนหมัวก็มาปรากฏตัวในทางเดินเหล็กทรงกลมที่กว้างขวางแห่งหนึ่ง ทางเดินแยกไปทุกทิศทุกทาง อีกทั้งทางเข้าออกที่สำคัญบางแห่งยังต้องตรวจสอบตัวตนอีกด้วย
ไม่นานเท่าใด เทพโบราณเสวียนหมัวก็เข้าไปในห้องลับแยกเดี่ยวแห่งหนึ่ง แล้วโยนจ้าวหุยเข้าไป
“อย่าบอกว่าข้าว่าเจ้าไม่รู้จักจ้าวเฟิง!”
สายตาเทพโบราณเสวียนหมัวฉายแววโกรธแค้นเล็กน้อย กลิ่นอายกดดันที่เป็นของเทพโบราณบีบไปข้างหน้า
จ้าวหุยเป็นเพียงแค่เทพแท้จริงขั้นสาม จึงราวกับขาดอากาศและขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ภายใต้พลังการควบคุมของเขา
“รู้…จัก!” จ้าวหุยส่งเสียงสั่นสะท้าน สีหน้าตื่นตระหนกหวาดกลัว
ดวงตาของเทพโบราณเสวียนหมัวเปล่งประกาย สีหน้าลิงโลด
“เช่นนั้นก็บอกทุกอย่างมาเสียดีๆ!” รัศมีอำนาจของเทพโบราณเสวียนหมัวยิ่งเพิ่มมากขึ้น
วู้ม ฟู่! ศีรษะภูตผีสีดำที่ดูเหี้ยมเกรียมค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในมือของเขา ศีรษะภูตผีนั่นมีจิตวิญญาณ หลังจากที่ก่อตัวออกมาแล้วก็พุ่งไปยังศีรษะของจ้าวหุยทันที
นี่เป็นวิธีพิเศษที่จะชิงเอาความทรงจำไป แค่เพียงศีรษะภูตผีสีดำนี่เข้าไปในร่างของจ้าวหุยก็จะกัดกินวิญญาณของเขาและเอาทุกอย่างไป
เทพโบราณเสวียนหมัวยิ้มอย่างได้ใจ จ้องไปยังเทพโบราณขั้นต่ำที่แล้วแต่เขาจะฆ่าแกง
“จะโทษก็โทษที่เจ้ามีความสัมพันธ์กับจ้าวเฟิงเถอะ!”
เทพโบราณเสวียนหมัวแค่นเสียงเย็น ตอนนี้เขาเพียงอยากจะจับจ้าวเฟิงให้ได้เร็วหน่อย แล้วเอาทุกอย่างของอีฝ่ายมา ทำให้อยากจะมีชีวิตก็ไม่ได้ อยากจะตายก็ไม่ได้
ฟู่ ฟู่! ศีรษะภูตผีสีดำอันเหี้ยมเกรียมใกล้จะเข้าไปในกระหม่อมของจ้าวหุยแล้ว
“เจ้าอยากพบข้าถึงเพียงนี้เชียว?” ในตอนนี้เอง มีเสียงที่สามดังขึ้นในมิติแห่งนี้
เสียงนี้ทำเอาเทพโบราณเสวียนหมัวสะท้านไปทั้งร่าง ความรู้สึกคุ้นเคย เกลียดชัง และโกรธแค้นทะลักล้นออกมาทันใด
“จ้าวเฟิง!”
เทพโบราณเสวียนหมัวนึกขึ้นได้ทันใด สีหน้าก็เปลี่ยนไป
เขารีบร้อนอยากจะจับจ้าวเฟิงเป็นอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาปรากฏตัวที่นี่
ฟุ่บ!
จ้าวเฟิงมาปรากฏตัวข้างจ้าวหุยทันที จากนั้นก็พุ่งไปยังเทพโบราณเสวียนหมัว
ในยามที่เฉียดผ่านศีรษะภูตผีสีดำ กลิ่นอายแข็งแกร่งมหาศาลที่สำแดงอยู่บนร่างของจ้าวเฟิงก็สะเทือนจนมันแหลกสลาย
“หมัดเทพรวมศูนย์!”
จ้าวเฟิงใช้พลังสายฟ้าโคจรพลังเทพรวมศูนย์ที่แข็งแกร่ง สำแดงชุดเคล็ดวิชาใน ‘พลังเทพประสานหนึ่ง’ ออกมา
ครืน บึ้ม!
เห็นเพียงลำแสงผสมปนเปที่มืดหม่นกลุ่มหนึ่งบดขยี้ไปข้างหน้าดุจขุนเขาใหญ่
เทพโบราณเสวียนหมัวที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อยถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว
อั้ก! เขากระอักเลือดสดๆ ออกมา ร่างลอยกระเด็นไปจากการโจมตีของภูเขามืดหม่นขนาดมหึมา
‘พลังเทพประสานหนึ่ง’ ทะลวงได้ถึงขั้นสอง ระดับพลังฝึกตนของจ้าวเฟิงก็ถึงขั้นเจ็ดสุดยอดเช่นกัน พลังของเขาเทียบกับในตอนแรกแล้วยกระดับขึ้นมาอีกขั้น
เทพโบราณเสวียนหมัวที่ถูกหมัดหนึ่งซัดเข้าให้ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่เพียงถอยไปข้างหลังเท่านั้น แต่ทว่ายังไม่ทันรอให้เทพโบราณเสวียนหมัวร่วงถึงพื้น จ้าวเฟิงก็มายังข้างกายเขาแล้ว
ชุดคลุมสีเงินสะบัดพลิ้ว เทพโบราณเสวียนหมัวและจ้าวเฟิงหายไปจากที่ตรงนั้น
มิติในชุดคลุม
เทพโบราณเสวียนหมัวกระอักเลือดออกมาอีกหลายครั้งติดกันถึงจะตั้งตัวได้
“จ้าวเฟิง…เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร พลังของเจ้า…”
เทพโบราณเสวียนหมัวมีเรื่องตื่นตระหนกมากมาย คำพูดที่อยากจะพูดก็มีมากเช่นกัน
เขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะแฝงตัวเข้ามาในขอบเขตขั้วอำนาจของพวกเขาโดยเอาตัวเข้าเสี่ยงภัย ถึงแม้เขาแน่ใจว่าจ้าวเฟิงเข้ามาที่นี่ต้องตายแน่ แต่ตอนนี้เขาต้องเป็นห่วงชีวิตของตัวเองเสียก่อน
ห่างจากการเจอกันเมื่อครั้งที่แล้ว พลังของจ้าวเฟิงยิ่งแข็งแกร่งขึ้นอีก
“ที่นี่คือมิติในชุดคลุมมิติ เจ้าหนีออกไปไม่ได้หรอก ศิโรราบต่อข้าเสีย!”
จ้าวเฟิงสั่งอย่างเรียบนิ่ง
ในขณะเดียวกันนี้เอง จ้าวหวางและมังกรวารีล้างโลกาในมิติชุดคลุมก็ตามมา
ทั่วร่างมังกรวารีล้างโลกาลุกไหม้ไปด้วยเพลิงมังกรดำทะมึน กลิ่นอายสายเลือดในกายปลดปล่อยออกมาอย่างไม่เก็บซ่อนเลยสักนิด อีกทั้งแผ่กระจายกลิ่นอายภัยพิบัติที่ทำลายล้างทุกสิ่ง ส่วนจ้าวหวางที่อยู่อีกฝั่งเป็นเพียงแค่ขั้นห้าสุดยอดเท่านั้น แต่เขากลับเป็นทายาทเนตรมรณะ
สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเทพโบราณเสวียนหมัวมากที่สุดก็คือไม้เท้ากรงเล็บดำทะมึนที่อยู่ในมือจ้าวหุย กลิ่นอายน่ากลัวชวนขนหัวลุกที่แผ่กระจายออกมา อันตรายยิ่งกว่ามังกรวารีล้างโลกาเสียอีก
“เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกา อาวุธเทพมรณะระดับสุดยอด!”
เทพโบราณเสวียนหมัวหมดหวังทันที
ลำพังแค่จ้าวเฟิงก็ไม่ใช่คนที่เขาจะงัดข้อได้แล้ว นับประสาอะไรกับมีเทพโบราณเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาอีกคนหนึ่ง ส่วนอีกคนก็ควบคุมอาวุธเทพมรณะระดับสุดยอด
อีกทั้งเทพโบราณเสวียนหมัวยังรู้อีกว่าจ้าวเฟิงยังมีไพ่ตายใบอื่นๆ อีก
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะต้องมาตายเพราะจับเทพโบราณขั้นสามคนหนึ่ง
“เจ้าก็ต้องตายเหมือนกัน!”
เทพโบราณเสวียนหมัวกลับเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นขณะจนตรอก
วู้ม วู้ม! พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งหดตัวและพวยพุ่งในกายของเขา แผ่กลิ่นอายที่ชวนให้สะพรึงออกมา
“คิดจะระเบิดตัวเองรึ?” จ้าวเฟิงเหมือนคาดการณ์เอาไว้ได้นานแล้ว สีหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าใดนัก และจู่ๆ ร่างของเขาก็หายไปจากมิติแห่งนี้ ก่อนประชิดเข้าใกล้เทพโบราณเสวียนหมัว
“เจ้า…ทำอะไร?” เทพโบราณเสวียนหมัวมีสีหน้าตกตะลึง
ตอนนี้เขาคิดจะระเบิดตัวเองแล้วจริงๆ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าจ้าวเฟิงเร็วมาก จะต้องหนีจากพื้นที่ระเบิดได้แน่นอน ดังนั้นสาเหตุแท้จริงที่เขาระเบิดตัวเองไม่ใช่เพื่อสังหารจ้าวเฟิง แต่เพื่อให้หอมารสวรรค์ล่วงรู้ถึงการตายของเขา ถึงตอนนั้นหอมารสวรรค์จะต้องเพิ่มกำลังสืบหา ต่อให้จ้าวเฟิงติดปีกก็หนีไม่รอด แต่สิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือยามตนจะระเบิดตัวเอง จ้าวเฟิงไม่หนี แต่กลับเข้าใกล้ตนด้วยซ้ำ
“เจ้าคิดอยากจะหยุดยั้งไม่ให้ข้าระเบิดตัวเองรึ? น่าหัวเราะสิ้นดี!”
เทพโบราณเสวียนหมัวหัวเราะเหยียดหยาม
ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นแปดก็ไม่อาจควบคุมเขาได้ทุกด้าน ดังนั้นจ้าวเฟิงไม่สามารถหยุดการระเบิดตัวเองของเขาได้เลย อีกทั้งหากจ้าวเฟิงเข้ามาใกล้เกินไปแล้วละก็ การระเบิดตัวเองก็จะสังหารเขาในพริบตา
เทพโบราณเสวียนหมัวจึงหัวเราะเยาะเย้ยความโง่เขลาของจ้าวเฟิง
ฟุ่บ! จ้าวเฟิงมาถึงข้างกายเทพโบราณเสวียนหมัวในชั่วพริบตา ดวงตาสีเงินดุจความฝันที่จ้องเขาหมุนวนเล็กน้อย
“นี่มัน…”
เสี้ยวขณะต่อมา เทพโบราณเสวียนหมัวก็สัมผัสได้ถึงพลังมิติประหลาดที่เก่าแก่ดึกดำบรรพ์ จะส่งเขาไปยังอีกที่หนึ่ง
ส่วนเขาเพิ่งเตรียมจะต้านทาน จู่ๆ มิติแห่งนี้ก็มีพลังมิติกลุ่มหนึ่งควบคุมอยู่บนร่างของเขา
ในขณะเดียวกัน ตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็ปลดปล่อยพลังศาสตร์ลวงตาที่แข็งแกร่งออกมา ส่งผลกระทบต่อความคิดจิตใจเขา
พลังดวงวิญญาณของเทพโบราณเสวียนหมัวเดิมก็สู้จ้าวเฟิงไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งเนตรหมื่นปรากฏการณ์ของเขายิ่งไม่อาจเทียบชั้นกับเนตรปฐมเทพของจ้าวเฟิงได้เลย
ฟุ่บ! เทพโบราณเสวียนหมัวถูกจ้าวเฟิงลากเข้าไปในห้วงฝันบรรพกาลทันที
ในห้วงฝันบรรพกาล ที่ใจกลางของเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต
เทพโบราณขั้นแปดสามคน และยังมีผู้อาวุโสสูงสุดเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิต นั่งแยกกันอยู่สี่ทิศ
ทันใดนั้นร่างเทพโบราณเสวียนหมัวก็ปรากฏขึ้นตรงกลางของทั้งสี่คน
เสี้ยวขณะต่อมา สีหน้าของเทพโบราณทั้งสี่เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นระเบิดพลังมหาศาลออกมาพร้อมๆ กันแล้วบดขยี้ไปยังตรงกลาง
เทพโบราณเสวียนหมัวเพิ่งจะมาถึงที่นี่ ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกพลังแข็งแกร่งไร้พ่ายกลุ่มนี้ควบคุมเอาไว้
พลังระเบิดที่ก่อขึ้นในตัวเขาก็หยุดไหลเวียนแล้วค่อยๆ สลายไป
“ที่นี่….มัน…คือที่ไหนกัน?”
เทพโบราณเสวียนหมัวเค้นสี่ห้าคำออกมาด้วยความยากลำบาก
นี่เป็นมิติอีกแห่งอย่างชัดเจน อีกทั้งในมิติแห่งนี้ยังซ่อนผู้แข็งแกร่งชั้นยอดไว้หลายคนด้วย
ชั่วขณะต่อมา จ้าวเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่เช่นกัน
“นายท่าน!” คนของเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตเรียกเสียงเบา
“ตราผนึกดวงใจทมิฬ!”
จ้าวเฟิงไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ในตาซ้ายก่อตราผนึกสีเงินมายาขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ประทับลงไปในส่วนลึกของวิญญาณเทพโบราณเสวียนหมัว
เทพโบราณเสวียนหมัวที่ถูกควบคุมจากผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณทั้งสี่ไม่มีพลังต้านทานแม้แต่น้อย จึงถูกประทับตราอย่างง่ายดายยิ่ง
จากนั้นสมาชิกเผ่าพันธุ์กิเลนเพลิงโลหิตจึงปล่อยตัวเขา
จ้าวเฟิงรู้เป็นอย่างดีถึงอันตรายระหว่างที่แฝงกายเข้าไป ดังนั้นจึงเตรียมการเอาไว้นานแล้ว
ขั้วอำนาจลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเทพโบราณเสวียนหมัว เวลาดำเนินการจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากแน่นอน สมาชิกทั้งหมดน่าจะมี ‘หยกวิญญาณ’ กับตัว
ใน ‘หยกวิญญาณ’ รวมไว้ด้วยตราประทับวิญญาณเสี้ยวหนึ่งของตัวเอง หากตัวเองตายหยกวิญญาณก็จะแตกสลาย ดังนั้นจ้าวเฟิงแฝงตัวเข้ามาในนี้ ทางที่ดีที่สุดคืออย่าสังหารใคร มิฉะนั้นจะเปิดเผยตัวตนออกไปได้
“นายท่านมีสิ่งใดบัญชา!”
เทพโบราณเสวียนหมัวที่อ่อนแอเต็มกำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าจ้าวเฟิง
“บอกข้าเรื่องสถานการณ์ของแมวความลับสวรรค์ในตอนนี้ อีกทั้งข้อมูลทั้งหมดของขั้วอำนาจที่เจ้าอยู่ด้วย!”
จ้าวเฟิงค่อนข้างตื่นเต้น
สำหรับขั้วอำนาจของเทพโบราณเสวียนหมัว เขาสงสัยมาโดยตลอด
ทายาทเนตรเทพเจ้ากลุ่มหนึ่งกลับสามารถขับเคลื่อนอุปกรณ์กลไกของเผ่าความลับสวรรค์ได้
หลังจากแฝงตัวเข้ามาแล้ว จ้าวเฟิงค้นพบว่าขั้วอำนาจเบื้องหลังเทพโบราณเสวียนหมัวเกรงว่าจะแข็งแกร่งและลึกลับมากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ ล่วงรู้วิทยาการมากมายของเผ่าความลับสวรรค์
หากไม่ใช่ว่าคนส่วนมากคือทายาทเนตรเทพเจ้า จ้าวเฟิงคงสงสัยกระทั่งว่าที่นี่เป็นขั้วอำนาจของเผ่าความลับสวรรค์ใช่หรือไม่
“นายท่าน ข้ายากที่จะทำได้!”
เทพโบราณเสวียนหมัวเผยสีหน้าขัดขืนดิ้นรน
สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึงไปทันใด หลังจากถูกลงตราผนึกดวงใจทมิฬ เทพโบราณเสวียนหมัวจะศิโรราบกับตนแม้กระทั่งความรู้สึกนึกคิด
แต่เสี้ยวขณะนี้ เทพโบราณเสวียนหมัวกลับขัดขืนคำสั่งของเขา!
“นายท่าน ข้าลงนามในพันธะสัญญา หากเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ‘หอมารสวรรค์’ จิตวิญญาณก็จะแตกดับทันที!”
เทพโบราณเสวียนหมัวตอบตามความจริง
จ้าวเฟิงเข้าใจทันใด มีเพียงความตายเท่านั้นที่จะทำให้ผู้ที่ถูกตนลงตราผนึกดวงใจทมิฬขัดขืนคำสั่งของเขา เพียงแค่เทพโบราณเสวียนหมัวพูดข้อมูลบางอย่างออกมา เกรงว่าเพิ่งพูดได้นิดหน่อยก็จะตายทันที ไม่มีประโยชน์ใดๆ กับจ้าวเฟิงเลย
เรื่องนี้ทำให้จ้าวเฟิงสัมผัสได้ถึงความระแวดระวังของ ‘หอมารสวรรค์’ อีกครั้ง การเคลื่อนไหวต่อไปของเขาจะต้องรอบคอบระมัดระวังให้ดี
หลังจากลงตราผนึกดวงใจทมิฬแล้ว จ้าวเฟิงและเทพโบราณเสวียนหมัวก็กลับมายังโลกภายนอก ถึงแม้เทพโบราณเสวียนหมัวจะเปิดเผยความลับออกไปไม่ได้ แต่ก็รู้ที่อยู่ของแมวขโมยตัวน้อย สามารถนำทางจ้าวเฟิงได้
อีกทั้งระหว่างทางก็มีหลายที่ที่ต้องตรวจสอบตัวตนก่อน
แต่ว่าก่อนอื่นต้องให้เทพโบราณเสวียนหมัวฟื้นฟูสภาพเสียก่อน มิฉะนั้นจะเผยพิรุธได้ง่าย จากนั้นทั้งสองคนก็อยู่ฝึกฝนในห้องลับห้องนี้เป็นการชั่วคราว
แต่เทพโบราณเสวียนหมัวเพิ่งฝึกได้ไม่นานก็ลืมตาขึ้น หยิบเอาป้ายเหล็กทรงกลมขึ้นมา บนป้ายส่องประกายแสงสีแดงสลัว
“เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวเฟิงถามขึ้นทันที
“มีคนแตะโดนระบบเตือนภัย ตอนนี้ทั่วบริเวณแสนลี้ของหอมารสวรรค์ถูกปิดกั้นโดยสมบูรณ์!”
เทพโบราณเสวียนหมัวตอบตามความจริง
“ข้าถูกจับได้แล้ว?” สีหน้าจ้าวเฟิงอึ้งตะลึง
“ไม่ น่าจะเป็นคนอื่น!” เทพโบราณเสวียนหมัวมีสีหน้าเคร่งเครียด
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้จ้าวเฟิงวางใจได้ลงเล็กน้อย
แต่มีคนอื่นแตะโดนระบบเตือนภัย ทำให้ที่นี่เริ่มเพิ่มความระมัดระวัง สำหรับจ้าวเฟิงแล้วนี่คือข่าวร้ายอย่างหนึ่ง
แต่เรื่องนี้ก็มีด้านดีอยู่ ความสนใจของหอมารสวรรค์ในตอนนี้น่าจะถูกดึงดูดจากคนที่แตะโดนสัญญาณเตือนภัย เป็นโอกาสที่ดีในการลงมือของจ้าวเฟิง
“พวกเราจะต้องเร่งลงมือหน่อยแล้ว!”
จ้าวเฟิงกำชับ อีกทั้งยังช่วยเทพโบราณเสวียนหมัวฟื้นฟูบาดแผลด้วยตนเอง
วู้ม วู้ม! ทันใดนั้น ห้องลับที่ทั้งสองอยู่ก็เปล่งแสงวูบวาบที่สลัวรางเป็นอย่างยิ่ง
“มีคนมา!” เทพโบราณเสวียนหมัวพูดขึ้นทันใด
จ้าวเฟิงอดโคจรตาซ้ายไม่ได้ เขาสำแดงพลังมองทะลุผ่านกำแพงเหล็กพิเศษแต่ละชั้นออกไปข้างนอก เห็นเพียงที่ปากทางเข้าแห่งหนึ่งมีร่างของสองคนยืนอยู่ พวกเขากำลังสัมผัสค่ายกลประจำที่พักอาศัยของเทพโบราณเสวียนหมัว