บทที่ 1335 แท่นศิลาบดวิญญาณ
หลังจากสังหารเทพโบราณขั้นแปดแล้ว จ้าวเฟิงกับแมวขโมยตัวน้อยก็รีบหนีทันที ทว่าระหว่างพวกเขาทั้งสองหลบหนียังต้องเลือกเส้นทาง ทำลายกับดักกลไกบางอย่าง
แต่คู่เทพเซียนปีศาจคนอื่นๆ ที่ไล่สังหารมาแค่ต้องตามการรับรู้หรือเบาะแส แล้วไล่ตามไปโดยไม่ต้องสนใจอะไรก็ได้แล้ว
“ตามทันแล้ว!” คู่เทพเซียนปีศาจหัวเราะเหี้ยมเกรียม
“เจ้าสารเลว ยอมให้จับเสียดีๆ!”
“แมวขโมยน้อย รีบกลับมานี่เร็ว!”
จากนั้นพวกชายผมแดงคนก็ปรากฏขึ้นติดๆ กัน
“เป็น ‘มายาเทพ’ จริงๆ ด้วย” สายตาของคู่เทพเซียนปีศาจจ้องหมอกแสงห้าสีกลุ่มนั้นเขม็ง ถึงแม้จะมองสภาพภายในหมอกแสงห้าสีไม่เห็น แต่สามารถรับรู้ถึงพลังฝึกตนของคนที่ซ่อนอยู่ในนั้นได้ ดังนั้นพวกเขาจึงแน่ใจว่าคนข้างในก็คือเจ้าเด็กที่คลุมชุดคลุมมิตินั่น
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยู่กับแมวความลับสวรรค์ แต่แบบนี้ยิ่งดี สามารถจัดการพร้อมกันทีเดียวได้ หากแมวความลับสวรรค์อยู่กับเทพโบราณลั่วหลิง เช่นนั้นพวกเขาจะยิ่งยุ่งยากกว่า
เหมือนสัมผัสถึงสายตาของคู่เทพเซียนปีศาจได้ แมวขโมยตัวน้อยพลันยิ้มบางๆ ให้กับคู่เทพเซียนปีศาจ มือถือมีดอักขระสีเงินขึ้นมา
“มีดลับฟ้าคำราม!”
ตาของคู่เทพเซียนปีศาจแทบจะถลนออกมา
นอกจากเทพโบราณโยวเฉวียนแล้ว ทุกคนที่นั่นล้วนไม่รู้จักอาวุธเทพชิ้นนี้
มีดลับฟ้าคำรามสร้างออกมาตามอาวุธเทพบรรพกาลระดับสุดยอดอย่างมีดฟ้าคำราม
มีดลับฟ้าคำราม ในด้านพลังไม่อาจเทียบกับอาวุธเทพบรรพกาลมีดฟ้าคำรามได้เลย แต่ระหว่างขั้นตอนการสร้าง เผ่าความลับสวรรค์ได้เพิ่มความสามารถอื่นบางอย่างเข้าไป ทำให้อาวุธเทพชิ้นนี้ไม่ใช่อาวุธเทพโจมตีเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังมีความสามารถพิเศษอื่นๆ ด้วย
อาวุธเทพชิ้นนี้ก็เป็นผลเก็บเกี่ยวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หอมารสวรรค์ได้มาจากการสำรวจซากปรักหักพังเผ่าความลับสวรรค์ ราคาของมันสูงยิ่งกว่ากระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ นับได้ว่าเป็นของชิ้นหนึ่งที่ล้ำค่าที่สุดในคลังสมบัติฝั่งตะวันออก พวกเขาอดนับถือสายตาของแมวขโมยน้อยไม่ได้จริงๆ
“ขอเพียงจับพวกมันได้ พวกเจ้าทุกคนจะได้รับ ‘หยาดวารีเทพ’ คนละหนึ่งขวด! ”
คู่เทพเซียนปีศาจพูดขึ้นทันที
แน่นอนว่านี่คือคำพูดที่เทพโบราณโยวเฉวียนสั่งการมา
เจ้าเด็กที่คลุมชุดคลุมมิตินั่นไม่ธรรมดา รวมกับแมวความลับสวรรค์ที่ลึกลับจนไม่อาจคาดเดา ยากที่จะหลีกเลี่ยงความพลาดพลั้งจากความประมาทได้
ดังนั้นเทพโบราณโยวเฉวียนจึงให้คำมั่นสัญญาเช่นนี้
ขอเพียงจับจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยเอาไว้ได้ ราคาของหยาดวารีเทพสองสามขวดช่างก็เล็กน้อยด้อยค่า
“หยาดวารีเทพ!”
เทพโบราณขั้นแปดสองสามคนที่เหลือสั่นสะท้านไปทั้งกาย
พวกเขาไม่เคยได้ยินมีดลับฟ้าคำรามที่เทพคู่เซียนปีศาจพูดถึง แต่ราคาของหยาดวารีเทพกลับรู้อย่างกระจ่างแจ้ง
หยาดวารีเทพคือของล้ำค่าที่ผู้แข็งแกร่งเทพแท้จริงทั้งเก้าขั้นต่างก็เฝ้าปรารถนาว่ากันว่าดื่มหยาดวารีเทพครั้งแรกจะมีโอกาสทะลวงหนึ่งขั้นได้ทันทีสูงมาก
พลังฝึกตนยิ่งต่ำโอกาสก็ยิ่งสูง เทพแท้จริงขั้นหกลงมามีโอกาสสำเร็จห้าส่วน หากเป็นเทพโบราณขั้นแปดจะมีประมาณสองส่วน
ต้องรู้ว่า สำหรับเทพแท้จริงหรือเทพโบราณบางคนแล้ว การทะลวงหนึ่งขั้นได้ทันทีแทบจะประหยัดเวลาฝึกตนได้หลายร้อยหลายหมื่นปี กระทั่งหลายล้านปีทีเดียวถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ แต่ต่อให้เลื่อนขั้นไม่สำเร็จก็วางรากฐานพลังฝึกตนได้ ห่างจากเลื่อนขั้นไม่ไกลแล้ว
“แสงมรณะ!”
“เทพเพลิงมหาประลัย!”
คนทั้งสามที่เหลือต่างพากันโคจรสายเลือดดวงตา สำแดงวิชาดวงตาโจมตีระยะไกล
“โล่รวมศูนย์!”
จ้าวเฟิงโคจรพลังเทพรวมศูนย์ทันที โล่แสงบิดเบี้ยวมืดหม่นก่อตัวขึ้นที่ด้านหลัง
ในด้านการโจมตี พลังเทพรวมศูนย์ค่อนข้างเหนือกว่าการโจมตีจากพลังเทพของเทพโบราณขั้นแปด หากใช้ในด้านการป้องกันผลจะยิ่งเป็นเลิศ
แต่น่าเสียดาย ผู้ที่จ้าวเฟิงเผชิญหน้าด้วยคือทายาทเนตรเทพเจ้า พลังที่พวกเขาใช้จึงไม่ธรรมดาเลย
ครืน ตูม บึ้ม! หลังจากต้านทานหลายกระบวนท่า โล่เทพรวมศูนย์ของจ้าวเฟิงก็พังทลายลง ขณะเดียวกัน ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมปรากฏขึ้นในมือจ้าวเฟิง
เคร้ง เคร้ง! ชิ้นเหล็กสามเหลี่ยมแปรสภาพเป็นกระดานเหล็กสีดำ ต้านข้างหลังจ้าวเฟิงเอาไว้ทันที
ตราเทพบรรพกาลในตอนนี้แปรสภาพเป็นอาวุธเทพระดับสูง มันสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้อย่างหลากหลาย แต่ว่าพลังการโจมตีเทียบเท่ากับอาวุธเทพระดับสูงทั่วไปเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็คือความสามารถด้านการป้องกันของตราบรรพกาลเป็นที่สุดในบรรดาอาวุธเทพระดับสูงแน่นอน แข็งแกร่งจนแทบไม่อาจทำลายลงได้
“ของที่เผ่าความลับสวรรค์ศึกษาค้นคว้า!”
ผ่านสายตาของคู่เทพเซียนปีศาจ เทพโบราณโยวเฉวียนมองร่องรอยอะไรบางอย่างจากตราเทพบรรพกาลออก จากการรับรู้ของเขา ตราเทพบรรพกาลนี้ไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่ง ส่วนรายละเอียดว่ามีจุดที่ไม่ธรรมดาอะไร หลังจากค้นคว้าอย่างละเอียดแล้วเท่านั้นจึงจะรู้ได้
“จะต้องจับเจ้าเด็กนั่นให้ได้!”
เทพโบราณโยวเฉวียนแบ่งความคิดส่วนใหญ่ไปควบคุมคู่เทพเซียนปีศาจ
มีเพียงจับจ้าวเฟิงเอาไว้ให้ได้เท่านั้นจึงจะชดเชยความผิดพลาดและความสูญเสียของเขาได้ อีกทั้งในตัวของจ้าวเฟิงยังมีอาวุธเทพระดับสูงอย่างชุดคลุมมิติ รวมทั้งตราเทพบรรพกาลที่เขาเพิ่งสำแดงออกมา ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นเขาไม่เพียงแต่จะไร้ซึ่งความผิด ซ้ำยังมีความดีความชอบอีกด้วย
ตอนนี้เอง
“โล่โลหิตมาร!” ชายผมแดงคนนั้นกัดฟันสำแดงเคล็ดวิชาลับที่ไม่รู้ชื่อ
ครืน! หมอกเลือดพวยพุ่งขึ้นทั่วร่างของเขา ร่างย่อขนาดลงเป็นแสงโลหิตหยดหนึ่ง กะพริบวูบวาบแล้วหายวับไป ความเร็วที่น่าตกใจราวกับเคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาอย่างไรอย่างนั้น แต่เคลื่อนย้ายมิติชั่วพริบตาต้องรักษาเสถียรภาพของมิติ อีกทั้งยังต้องสำแดงเสวียนอ้าวเวลาด้วย
เคล็ดวิชาลับที่ชายผมแดงสำแดงออกมากลับไม่ถูกควบคุมจากเหตุปัจจัยพวกนี้
“หยุดอยู่ที่นี่เสีย!”
เสี้ยวขณะที่ชายผมแดงปรากฏกายขึ้น สีหน้าเขาซีดขาวขึ้นทันที แต่เมื่อคิดถึงหยาดวารีเทพ เขาก็เผยรอยยิ้มลิงโลดในฉับพลัน
วู้ม! ชายผมแดงโคจรเนตรหมื่นปรากฏการณ์ พลังธรรมชาติหมื่นปรากฏการณ์ทะลักออกมาทันที รอบกายของเจ้าเฟิงและเจ้าแมวขโมยหนักหน่วงเป็นอย่างยิ่ง โบยบินแล้วสิ้นเปลืองแรงนัก จากนั้นพลังเย็นยะเยือกอีกกลุ่มหนึ่งก็โจมตีมา
พืชเถาวัลย์นับไม่ถ้วนที่เจริญเติบโตในอากาศด้านล่างพันรัดจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยเอาไว้ ชั่วพริบตา จ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยถูกพลังธรรมชาติหมื่นปรากฏการณ์หุ้มล้อมไว้อย่างสมบูรณ์ ความเร็วก็ลดลง
“ดีมาก!” คู่เทพเซียนปีศาจหัวเราะเสียงเย็นพลางเร่งความเร็ว เข้าประชิดไปยังจ้าวเฟิงและแมวความลับสวรรค์
“แมวขโมยน้อย รีบลงมาเร็วเข้า!” จ้าวเฟิงเอ่ยเร่งทันที
เมื่อครู่แมวขโมยน้อยพูดกับจ้าวเฟิงว่ามันมีไพ่ตายที่สามารถรับมือกับคู่เทพเซียนปีศาจได้ หากทำให้อีกฝ่ายรวมตัวอยู่ด้วยกัน ผลของไพ่ตายใบนี้จะทรงพลังเป็นที่สุด
เมี้ยว เมี้ยว! ในตอนนี้เอง แท่นศิลาโลหะทรงกลมลึกลับอันหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของแมวขโมยน้อย
สีหน้าของจ้าวเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย นี่ก็คือไพ่ตายที่มันพูดถึงงั้นรึ?
จำได้ว่าแท่นศิลาโลหะนี้เคยเป็นวัตถุหนึ่งที่อยู่ในคลังสมบัติฝั่งตะวันออก
ในตอนนั้น หลังจากที่แมวขโมยน้อยช่วยให้จ้าวเฟิงเอา ‘มายาเทพ’ มาได้แล้ว มันก็หยิบของชิ้นนี้ออกมาจากในเขตพลังป้องกัน จากนั้นถึงจะหนีออกมาพร้อมกับจ้าวเฟิง
ส่วนที่ว่าแท่นศิลาโลหะนี้มีประโยชน์อะไร จ้าวเฟิงก็ไม่รู้แล้ว
“แท่นศิลาบดวิญญาณ!”
คู่เทพเซียนปีศาจที่กำลังไล่โจมตีข้างหลังจ้องแท่นศิลาโลหะในมือแมวขโมยน้อย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ฟุ่บ ฟุ่บ! คู่เทพเซียนปีศาจหยุดฝีเท้าทันใด แต่ไม่ทันเวลาแล้ว แมวขโมยน้อยโยนแท่นศิลาแผ่นกลมในมือออกมา
แท่นศิลาโลหะร่วงลงระหว่างกลางชายผมแดงและคู่เทพเซียนปีศาจ
วู้ม! บนนั้นสาดลำแสงออกมาสายหนึ่ง จากนั้นแท่นศิลากลมก็หมุนวนขึ้นทันควันหมอกทึบสีเทาหม่นพวยพุ่งออกมา หมุนวนไปตามการหมุนโคจรของแท่นศิลาโลหะเช่นกัน ก่อนจะก่อเป็นพายุหมุนคลั่งสีเทาหม่นโอบล้อมคนอื่นๆ นอกจากจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยเอาไว้ข้างใน
“นี่มัน? การโจมตีวิญญาณ!” ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงพบว่าหมอกทึบสีเทาหม่นนั่นเป็นวัตถุที่เกิดจากวิญญาณ
“อ๊าก…” ชายผมแดงที่อยู่ใกล้กับจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยที่สุดร้องอย่างน่าอนาถ
ในขณะเดียวกัน คู่เทพเซียนปีศาจและคนอื่นๆ ที่เหลือด้านหลังก็เสียสมดุล สีหน้าบิดเบี้ยวดิ้นรน
คู่เทพเซียนปีศาจอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงของวิญญาณ ค่อยๆ ถอยหลังไป พยายามลองออกไปจากขอบของพายุหมุนคลั่งสีเทา
“แท่นศิลาบดวิญญาณ!”
วิญญาณของเทพโบราณโยวเฉวียนในโถงลับสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดชั่วขณะหนึ่ง
สิ่งนี้มาจากการเชื่อมประสานของเขากับคู่เทพเซียนปีศาจ
“แมวความลับสวรรค์เอาของชิ้นนี้ออกมางั้นรึ!”
เทพโบราณโยวเฉวียนมีสีหน้าเหี้ยมโหด
แค่เพียงอุปกรณ์ชิ้นนี้กระตุ้นขึ้น วิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบด้านทั้งหมดก็จะเท่ากับอยู่ในแท่นศิลา ถูกบดขยี้ไปมาจนเจ็บปวดเจียนตาย แต่อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็มีข้อด้อยมากมาย นั่นก็คือขอบเขตการโจมตีเกิดขึ้นแค่รอบด้านเท่านั้น ไม่อาจโจมตีระยะไกลได้ อีกทั้งขอบเขตการโจมตีก็ไม่กว้างด้วย และมันก็เป็นวัตถุที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว
“บัดซบ เป็นของที่สูงค่าถึงเพียงนี้!”
เทพโบราณโยวเฉวียนรู้สึกว่าหัวใจกระตุกไปชั่วขณะหนึ่ง
ไม่นานนักผลของแท่นศิลาบดวิญญาณก็สลายไป นอกจากวิญญาณของเทพโบราณขั้นเจ็ดสุดยอดคนหนึ่งจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว คนอื่นๆ ที่เหลือสภาพไม่นับว่าสาหัสนัก แต่พวกเขาคลาดจากจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยไปแล้ว
“พวกมันน่าจะหนีไปจากเขตใจกลางแล้ว!”
เทพโบราณโยวเฉวียนไตร่ตรองก่อนพูดขึ้น
ทั้งสองคนได้รับประโยชน์ไปไม่น้อย อีกทั้งเมื่อครู่พวกเขายังถูกบังคับให้ใช้แท่นศิลาบดวิญญาณ กว่าจะหลุดจากสถานการณ์ลำบากไปได้ พวกเขาน่าจะคิดหาวิธีหนีไปจากที่นี่ ไม่มีทางอยู่ในเขตพื้นที่ใจกลาง
ด้วยเหตุนี้ โยวเฉวียนจึงบัญชาให้เทพคู่เซียนปีศาจและหลายคนนอกจากนี้ออกไปจากพื้นที่ใจกลางเพื่อสำรวจค้นหา
“มีสิ่งผิดปกติอะไร ให้รายงานข้าทันที!” เทพโบราณโยวเฉวียนพูดกับสมาชิกควบคุมในโถงลับ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เทพโบราณโยวเฉวียนก็ยังไม่วางใจ รีบปลดปล่อยกายวัฏสงสารออกมาสี่ร่าง มุ่งหน้าไปยังข้างสมบัติของพื้นที่ใจกลาง
ในพื้นที่ใจกลางมีคลังสมบัติทั้งหมดสี่แห่ง ของที่เก็บรักษาด้านตะวันออกคืออาวุธเทพและอุปกรณ์เครื่องมือ
ด้านตะวันตกคือของล้ำค่า ยา หรือยาลูกกลอน
ด้านใต้คือผลสำเร็จของการค้นคว้าทายาทเนตรเทพเจ้า
เหนือขึ้นไปคือสถานที่ที่เก็บรักษาหุ่นเชิดกลไก
คลังสมบัติเหล่านี้มีระดับความลับเทียบเท่ากับโถงลับ แต่มาตรการการป้องกันกระทั่งว่าสูงยิ่งกว่าโถงลับ ต่อให้เป็นเทพโบราณขั้นเก้าคิดบุกคลังสมบัติก็คือรนหาที่ตาย ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องการผู้แข็งแกร่งคอยปกปักรักษา แต่ครั้งนี้กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน นั่นก็คือแมวความลับสวรรค์ ดังนั้นเทพโบราณโยวเฉวียนเลยจำต้องรอบคอบไว้ก่อน
พื้นที่ใจกลาง ห้องลับห้องหนึ่ง แมวขโมยน้อยแอบอยู่ในชุดคลุมมิติ
“เจ้าแมวขโมยน้อย ไม่ไปงั้นรึ?”
จ้าวเฟิงถามอย่างสงสัย
จากเส้นทางหลบหนีของแมวขโมยน้อย เขาก็มองออกว่าแมวขโมยน้อยยังไม่มีความคิดที่จะไปจากที่นี่
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวขโมยน้อยโบกไม้โบกมือกับจ้าวเฟิง จากนั้นเผยท่าทีสบประมาท เห็นได้ชัดว่ากำลังพูดว่าจ้าวเฟิงรักตัวกลัวตาย
“จะบอกว่าตอนนี้พวกเรายากที่จะหนีไป ต่อให้ไปจากหอมารสวรรค์ หากออกไปก็จะถูกกลุ่มเทพที่ต่อสู้อยู่ด้านนอกหมายหัวเอา ดังนั้นอยู่ที่นี่กลับจะยิ่งปลอดภัย…”
จ้าวเฟิงพอจะเข้าใจความหมายของแมวขโมยน้อย
ด้านนอกมีผู้แข็งแกร่งหอมารสวรรค์กำลังต่อสู้กับเทพโบราณชื่อเซียวของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ หากเขาออกไปตอนนี้ เท่ากับเป็นการรนหาที่ตายแน่นอน แต่อยู่ในพื้นที่ใจกลางก็ไม่ค่อยจะเหมาะนัก
เมี้ยว เมี้ยว! แมวขโมยน้อยโบกไม้โบกมือต่อไป จากนั้นก็ไม่สนใจจ้าวเฟิง ยึดครองมีดลับฟ้าคำรามของมันไป
จ้าวเฟิงก็ทำตามความหมายของแมวขโมยน้อย ยึดครองกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณก่อนค่อยว่ากัน
เวลาในชุดคลุมมิติผ่านไปสามวัน ระดับการสยบกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณของจ้าวเฟิงถึงขั้นเจ็ดแล้ว!
ในตอนนี้เอง แมวขโมยน้อยกระโดดออกไปจากชุดคลุมมิติทันที จึงเพิ่งรู้ว่าควรจะลงมือแล้ว
จ้าวเฟิงบินตามแมวขโมยน้อยได้สักครู่ก็มองเห็นวังผลึกแก้วสีฟ้าแห่งหนึ่ง
“คลังสมบัติ?” จ้าวเฟิงยืนตะลึงอยู่กับที่ ส่งเสียงอุทานตกใจ
มีคลังสมบัติแห่งที่สองอีก มิน่าเล่าเจ้าแมวขโมยน้อยได้ประโยชน์ไปมากถึงเพียงนั้นแล้วก็ยังไม่ยอมจากไป!