Skip to content

King of Gods 1334

King Of Gods

บทที่ 1334 สังหารซึ่งหน้า

“เอ๋? หมอกแสงหลากสีกลุ่มนั้นคืออะไรน่ะ?”

หนึ่งในนั้นจ้องจ้าวเฟิงที่ถูกหุ้มล้อมด้วยหมอกควันกลุ่มนั้น ใบหน้าตื่นตะลึง

หากอาศัยเพียงครรลองสายตา พวกเขาไม่อาจมองทะลุหมอกแสงไปได้ แต่ต่อให้โคจรประสาทสัมผัสเทพก็ไม่อาจมองเห็นสภาพภายในหมอกแสงได้อยู่ดี

“พวกเขามองไม่เห็นข้า?” จากปฏิกิริยาของทั้งสามคน จ้าวเฟิงก็พอเดาออกคร่าวๆ

“ที่แท้อาวุธชิ้นนี้สามารถอำพรางตัวของข้าได้…”

จ้าวเฟิงเข้าใจเจตนาของแมวขโมยตัวน้อยในชั่วพริบตา อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องกรมากที่สุดในตอนนี้จริงๆ สำหรับรูปร่างหน้าตาของจ้าวเฟิง คนของหอมารสวรรค์แทบจะรู้กันทั้งหมด

แต่ตอนนี้คนของหอมารสวรรค์ล้วนนึกว่าจ้าวเฟิงเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ ด้วยเหตุนี้จึงละเลยความน่าจะเป็นเรื่องเนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าไป

ยิ่งเข้าใจในขั้วอำนาจนี้ จ้าวเฟิงก็พบว่าพวกเขาปรารถนาและเสาะแสวงหาในเนตรเทพเจ้ากับทายาทเนตรเทพเจ้ายิ่งนัก

ตอนนี้การเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิงยิ่งสะดวกขึ้น อันตรายก็ลดลงไปเป็นอย่างมาก

“พวกเจ้าสองคนบุกรุกคลังสมบัติ วันนี้หนีไปไหนไม่รอดแล้ว!”

“จับพวกมันเอาไว้เร็ว!” คนทั้งสามที่ตามไล่มาตวาดอย่างโกรธแค้น

“กระบี่แสงประกายทอง!”

ดวงตาของชายผมแดงที่เป็นหัวหน้าส่องประกายแสงห้าสี ข้างในนั้นพลันส่งกระบี่สีทองคมกริบที่ทะลุผ่านทุกสรรพสิ่งออกมาหลายเล่ม

“หมัดเทพรวมศูนย์!”

จ้าวเฟิงโคจรพลังเทพรวมศูนย์ สำแดงเคล็ดวิชาอันแข็งแกร่ง

พลังเทพรวมศูนย์พิเศษเป็นอย่างยิ่ง แฝงด้วยเสวียนอ้าวหลายชนิด คุณสมบัติพิเศษมากมายแทบจะไม่ถูกพลังอะไรควบคุมไว้เลย แต่พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงกับฝ่ายตรงข้ามมีระยะห่างอยู่ หมัดเทพรวมศูนย์ยุดยื้ออยู่ไม่ถึงชั่วขณะ กระบี่คมสีทองนั่นก็แทงทะลุเข้ามาได้

ในตอนนี้เอง กระจกแสงลวดลายอัสนีแวววาวที่โปร่งแสงบานหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของจ้าวเฟิง

“พลังอัสนีสวรรค์!” มือหนึ่งของจ้าวเฟิงตบลงไปด้านหลังกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ จากนั้นโคจรพลังอัสนีเทวะและเสวียนอ้าวอัสนี

ครืน แซ่ด แซ่ด! เพียงชั่วพริบตา กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณฟาดพลังอัสนีสะท้านฟ้าอันชั่วร้ายออกมา สามคนที่ไล่ตามมาด้านหลัง ร่างกายและวิญญาณสั่นสะท้านขึ้นอย่างอดไม่ได้ ฟ้าดินรอบด้านราวกับกลายเป็นเขตแดนอัสนี สายฟ้านับไม่ถ้วนแลบแปลบปลาบ

“นั่นมัน…กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ!”

“เจ้าขโมยอาวุธเทพนี้ไปงั้นรึ!” คนทั้งสามที่ไล่ตามมาด้านหลังสบถด่าทันที

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณเป็นหนึ่งในสมบัติหลายชิ้นที่ล้ำค่าที่สุดในคลังสมบัติฝั่งตะวันออกทีเดียว

ครืน แซ่ด แซ่ด!

อัสนีบาตเหี้ยมเกรียมราวกับมังกรตัวเขื่องพลันระเบิดออกมาจากในกระจก

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณถูกจ้าวเฟิงยึดครองไปสองส่วน ก็ยังสามารถสำแดงพลังออกมาได้ไม่น้อย

ครืน บึ้ม! พลังอัสนีสวรรค์ปะทะกับกระบี่ทองนับไม่ถ้วน

พลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งสุดยอดสองกลุ่มฟาดผ่ามาทันใด ทำลายสิ่งก่อสร้างรอบด้านจนพรุนไม่เป็นรูปเป็นร่าง

เพราะพลังน่ากลัวที่ปะทุออกมาในชั่วพริบตากลุ่มนั้น ความเร็วของพวกชายผมแดงทั้งสามคนชะงักไปเล็กน้อย ส่วนจ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยน้อยล่วงหน้าไปก่อน หนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย

“รีบตามไปเร็ว!” ชายผมแดงที่เป็นหัวหน้าร้องสั่งเสียงต่ำ

ในขณะเดียวกันนี้เอง เบื้องหลังของทั้งสามคนมีกลิ่นอายที่น่ากลัวสองกลุ่มพวยพุ่งมา

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ร่างเงาสองร่างหนึ่งดำหนึ่งขาว ไล่ตามขึ้นมาทันที

คนหนึ่งเป็นชายร่างมืดทะมึนที่โอบล้อมด้วยหมอกปีศาจ เยือกเย็นน่ากลัว อีกคนคือสตรีรูปโฉมงดงาม มีหมอกขาวแผ่ปกคลุมรอบกาย ราวกับเซียนอย่างไรอย่างนั้น

“คู่เทพเซียนปีศาจ ผู้อาวุโสโยวเฉวียน!”

ชายผมแดงร้องตะโกนอย่างเคารพนอบน้อมทันที

“ผู้บุกรุกแดนศักดิ์สิทธิ์มิติอยู่กับแมวความลับสวรรค์ใช่หรือไม่?”

คู่เทพเซียนปีศาจถามเสียงเย็น

“ไม่แน่ใจ คนที่อยู่กับแมวความลับสวรรค์ทั่วร่างห่อหุ้มอยู่ในหมอกแสงห้าสี พวกเราไม่อาจสืบทราบตัวตนของเขาได้เลย!”

ชายผมแดงตอบไปตามความจริง

“หมอกแสงห้าสี นั่นคืออุปกรณ์พิเศษนาม ‘มายาเทพ’! ”

คู่เทพเซียนปีศาจอุทานอย่างตื่นตะลึงทันที

แน่นอน นี่คือท่าทางตามเจตจำนงของเทพโบราณโยวเฉวียน

มายาเทพคืออุปกรณ์อำพรางกายพิเศษที่หอมารสวรรค์ประดิษฐ์ออกมา หากใช้จะสามารถซ่อนตัวเข้าไปในหมอกแสงได้ ประสาทสัมผัสเทพก็ใช้ไม่ได้ผล ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่ระดับขั้นสูงกว่าผู้ใช้หนึ่งขั้น ก็ยังยากที่จะสอดส่องเห็นสภาพหน้าตาที่แท้จริงในหมอกแสง

นอกจากนั้นทั้งสามคนไม่รู้ว่าหมอกแสงห้าสีคืออะไร ก็เพราะพวกเขาไม่รู้ผลสำเร็จจากการค้นคว้ามากมายของหอมารสวรรค์เลย แต่จากท่าทางของคู่เทพเซียนปีศาจ พวกเขาก็สามารถเดาได้ว่าของสิ่งนั้นไม่ธรรมดา

“นอกจากนั้นยังมีกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณด้วย!”

ชายผมแดงเอ่ยเสียงเบา “อะไรนะ? กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ!”

สีหน้าของคู่เทพเซียนปีศาจเปลี่ยนไปโกรธแค้นสุดขีด

ส่วนเทพโบราณโยวเฉวียนที่อยู่ในโถงลับยิ่งโกรธจนกระทืบเท้า

กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณคือ อาวุธเทพบรรพกาล พวกเขาได้มาจากการสำรวจซากปรักหักพังบรรพกาล ผนึกรักษาเอาไว้มาโดยตลอด

ครั้งนี้พวกเขาเตรียมมอบของทุกอย่างในคลังสมบัติรวมถึงแมวความลับสวรรค์ให้กับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เบื้องบน

ก่อนหน้านี้พวกเขากระทั่งจ่ายค่าตอบแทนมหาศาล ทำการวางแผนปลุกแมวความลับสวรรค์ และกระตุ้นศักยภาพของมัน แต่ตอนนี้แมวความลับสวรรค์หนีไปแล้ว กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณและผลการค้นคว้าอย่าง ‘มายาเทพ’ ก็หายไปเช่นกัน

“ตามไปเร็ว ปล่อยพวกมันสองคนไปไม่ได้เด็ดขาด!”

คู่เทพเซียนปีศาจตวาดอย่างโกรธแค้น

“แย่แล้ว คู่เทพเซียนปีศาจมาแล้ว!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงสังเกตสถานการณ์เบื้องหลัง

คู่เทพเซียนปีศาจคือขั้นแปดสุดยอด และยิ่งเป็นกายวัฏสงสารที่เป็นอมตะ ด้วยพลังของจ้าวเฟิงในตอนนี้ ถ้าถูกพวกเขาไล่ตามได้ทัน เช่นนั้นก็จบเห่แน่

“ข้างหน้าก็มีคน!” แววตาของจ้าวเฟิงวูบไหวเล็กน้อย

“ท่าทางพวกเราเข้าไปในคลังสมบัติ จะยั่วโทสะหอมารสวรรค์อย่างสมบูรณ์เสียแล้ว!”

จ้าวเฟิงหัวเราะอย่างเหนื่อยหน่าย

เขตพื้นที่ใจกลางเป็นที่ที่สำคัญอย่างยิ่งแท้ๆ แต่เพื่อจับจ้าวเฟิงและแมวความลับสวรรค์ หอมารสวรรค์กลับส่งกำลังคนออกมามากมายเช่นนี้

ตอนนี้จ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยโดนบุกขนาบทั้งสองด้าน!

แต่ว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกำลังคนที่ไล่ตามมาด้านหลัง ข้างหน้าก็เป็นเพียงแค่เทพโบราณขั้นแปดเท่านั้น

ฟิ้ว ฟิ้ว! ความเร็วของจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยไม่ลดลง ยังมุ่งหน้าไปไม่เปลี่ยนแปลง พุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“มีคน!” ชายวัยกลางคนที่บนหัวมีเขากวางคนหนึ่งสีหน้าเปลี่ยนไปทันใด

เขากำลังเตรียมมุ่งหน้าไปคลังสมบัติฝั่งตะวันออกเพื่อรวมตัวจับผู้บุกรุกกับคนอื่นๆ

แต่ตอนนี้ยังไม่ทันถึงจุดหมาย เพียงแค่ครึ่งทางก็พลันรู้สึกถึงคลื่นชีวิตบางๆ กลุ่มหนึ่งซึ่งประชิดมายังเขา

ฟิ้ว ฟิ้ว! จ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยน้อยพุ่งออกไปโจมตีทันที

“หมัดเทพรวมศูนย์!” มือซ้ายจ้าวเฟิงส่งแสงหมัดพลังผสมปนเปที่มืดหม่นเป็นอย่างยิ่งออกไปหลายสาย

ส่วนแมวขโมยตัวน้อยสะบัดมีดสั้นอักขระในมือ ฟันคมมีดสีเงินที่ไม่อาจคาดเดาร่องรอยได้ออกมาต่อเนื่อง

ครืน! ชายวัยกลางคนเขากวางคนนั้นกระตุ้นเนตรชีวิตทันที พลังชีวิตที่แข็งแกร่งปะทุออกมาจากในกายของเขา

ในขณะเดียวกันนี้เอง รอบกายเขามีเถาวัลย์เส้นหนาแข็งแรงนับไม่ถ้วนงอกออกมาจากอากาศ ก่อเป็นชั้นป้องกันที่แข็งแกร่ง

ครืน ตูม บึ้ม! ในตอนที่การโจมตีของจ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยน้อยซัดมาถึง ชั้นป้องกันนั้นถูกทำลายย่อยยับไปในชั่วพริบตา

พลังการโจมตีที่เหลือของทั้งสองคนปะทะไปบนร่างของชายเขากวาง ทิ้งรูเอาไว้รูหนึ่ง

แต่เพียงชั่วพริบตา รูนั่นก็ฟื้นฟูคืนสภาพภายใต้การกระตุ้นของพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง

นี่ก็คือพลังชีวิตที่แข็งแกร่งของทายาทเนตรชีวิต

“แมวความลับสวรรค์!” สายตาของชายเขากวางจ้องไปยังแมวขโมยตัวน้อย

“หยุดเดี๋ยวนี้!” สีหน้าชายเขากวางฉายแววลิงโลด

ขอเพียงแค่เขาสามารถสกัดจ้าวเฟิงและแมวความลับสวรรค์ให้อยู่ที่นี่ รอจนผู้แข็งแกร่งหอมารสวรรค์คนอื่นๆ ไล่ตามมา เขาก็จะได้สร้างความดีความชอบครั้งใหญ่

“หึ อย่างเจ้านี่นะ!” จ้าวเฟิงแค่นหัวเราะหยัน หมัดทั้งสองชกออกไปอีกครั้ง

แสงหมัดผสมปนเปอันมืดหม่นแต่ละสาย ราวกับภูเขาสูงตระหง่านบดขยี้ลงมา

“หึ เจ้าดูถูกเนตรชีวิตเกินไปแล้ว” ชายเขากวางแค่นเสียงเย็น ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

รอบกายเขามีต้นไม้โบราณหนาอวบนับไม่ถ้วนเติบโตขึ้นจากข้างล่างพุ่งไปข้างบน

ครืน ตูม บึ้ม! การโจมตีของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ต้นไม้ทั้งหมดถูกทำลาย แต่ยิ่งจ้าวเฟิงทำลายไปเท่าไหร่ ต้นไม้พวกนั้นก็งอกออกมามากเท่านั้น

ชั่วขณะเดียวกัน รอบกายของชายเขากวางปรากฏเกราะรบลวดลายสีเขียวชั้นหนึ่งขึ้น

ฟุ่บ! ชายเขากวางบินทะยานมายังจ้าวเฟิง หมัดที่มาพร้อมด้วยพลังน่าหวาดกลัวโจมตีเข้ามา เสี้ยวขณะนี้ พลังเสวียนอ้าวชีวิตลอยขึ้นรอบด้านและรวบรวมไปยังหมัดของเขาทั้งหมด

“เหอะ เป็นเจ้าที่ดูถูกข้ามากไปหน่อยกระมัง!” จ้าวเฟิงยิ้มเล็กน้อย

ตอนนี้เขาถึงขั้นเจ็ดสุดยอด เทพโบราณขั้นแปดทั่วไปไม่ใช่คู่มือของเขาตั้งนานแล้ว

“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”

คลื่นเจตจำนงดวงตาแผ่ระลอกขึ้นในตาซ้าย เพลิงอัสนีกลุ่มหนึ่งเอ่อล้นออกมาช้าๆ

ครืน ฉัวะ! กลุ่มเพลิงอัสนีฟาดผ่ามายังชั้นวิญญาณของชายเขากวางทันที

ถึงแม้จะไม่ได้ใช้พลังดั้งเดิม แต่พลังของเพลิงดวงตาอัสนีเทวะก็ไม่ใช่สิ่งที่เทพโบราณขั้นแปดทั่วไปจะทนไหว

“อัสนีเทวะแข็งแกร่งยิ่งนัก…” ชายเขากวางเผยสีหน้าดิ้นรนเจ็บปวด

แม้ไม้ข่มสายฟ้า แต่เขาก็ยังคงถูกวิชาดวงตาอัสนีเทวะของจ้าวเฟิงทรมานจนเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง

“พลังอัสนีสวรรค์”

ในเวลาเดียวกัน มังกรอัสนีตัวเขื่องที่เหี้ยมเกรียมตัวหนึ่งก็พุ่งทะยานออกมาจากกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณในมือจ้าวเฟิง

ครืน ตูม ตูม! พลังอัสนีสองกลุ่มสอดประสานรอบกายชายเขากวาง ฟาดผ่าจนทั่วร่างจนไหม้เกรียม

“เป็นไปไม่ได้!” ชายเขากวางมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

ครั้งนี้แมวความลับสวรรค์ไม่ได้ลงมือ เขาที่เป็นผู้ครองเนตรชีวิตกลับไม่ใช่คู่มือของเทพโบราณขั้นเจ็ดสุดยอด

ชายเขากวางกระตุ้นเนตรชีวิตอย่างร้อนรน เกราะรบลายสีเขียวชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นรอบกายอีกครั้ง

“หมัดเทพรวมศูนย์!”

“ฝ่ามือครองสวรรค์!”

จ้าวเฟิงเข้าประชิดมายังชายเขากวางในชั่วพริบตา และสำแดงเคล็ดวิชาลับทั้งสองชนิดนี้ทันทีภายใต้ระยะที่ใกล้เป็นอย่างยิ่ง หมัดมืดหม่นกับฝ่ามือมายาสอดประสาน ซัดเข้าไปยังร่างของชายเขากวาง

ครืน ตูม บึ้ม! ชายเขากวางถูกซัดไปอีกด้าน เลือดเนื้อแหลกเละ ลมหายใจรวยริน

หากเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาเกรงว่าคงตายไปนานแล้ว แต่เขาคือเนตรชีวิต ยังคงฝืนเอาไว้ได้ แล้วทะลักพลังเสวียนอ้าวชีวิตที่แข็งแกร่งไม่หยุดเพื่อฟื้นฟูกายเทพของตน

“เจ้าอ่อนแอเกินไป!” จ้าวเฟิงพูดเรียบๆ ตาซ้ายโคจรขึ้นเล็กน้อย

ชายเขากวางคนนั้นเจ็บใจยิ่งนัก แต่ก็ไม่มีแรงตอบโต้

เขาเป็นถึงเทพโบราณขั้นแปด แต่กลับพ่ายแพ้ซึ่งๆ หน้าให้กับเทพโบราณขั้นเจ็ดสุดยอดคนหนึ่ง

“เป็นไปไม่ได้!” ใบหน้าชายเขากวางบิดเบี้ยวอยู่ชั่วขณะ ก้มหน้าก้มตาแผดเสียงร้องลั่น

เพราะช่องโหว่ของจิตวิญญาณ วิชาดวงตาศาสตร์ลวงตาของจ้าวเฟิงล่วงล้ำเข้าไปทันที ทำให้ชายเขากวางตกอยู่ในห้วงมายาอันเป็นอนันต์

“พลังอ่อนแอถึงเพียงนี้!” จ้าวเฟิงหัวเราะเยาะหยัน

ตอนนี้ชายเขากวางถลำลึกเข้าสู่โลกวิชามายา ไม่อาจถอนตัวขึ้นมาได้

ส่วนเนตรชีวิตของเขาก็หยุดโคจรลงเพราะเหตุนี้

“ตายไปเสีย!” จ้าวเฟิงโคจรตาซ้าย พลังบิดเบี้ยวที่ผสมปนเปกันกลุ่มหนึ่งโจมตีออกมา

“ดาราทลายผืนดิน!”

ลูกแสงมืดหม่นปกคลุมทั่วร่างของชายเขากวาง จากนั้นระเบิดออกทันใด

ครืน ตูม บึ้ม! ร่างของชายเขากวางกลายเป็นเถ้าธุลีไปตามรอยแตกของลูกแสงมืดหม่นนั้น

“ไป!” จ้าวเฟิงลำพองใจเล็กน้อย หนีต่อไปกับแมวขโมย

ครั้งนี้แมวขโมยน้อยแทบจะไม่ได้ช่วยอะไร จ้าวเฟิงคนเดียวโรมรันกับเทพโบราณขั้นแปดซึ่งหน้า ทั้งยังสังหารอีกฝ่ายลงได้อีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version