Skip to content

King of Gods 1333

King Of Gods

บทที่ 1333 ผลประโยชน์ที่น่าตื่นตะลึง

สิ่งที่เก็บอยู่ในคลังสมบัติฝั่งตะวันออกล้วนเป็นผลการศึกษาค้นคว้าเกือบหมื่นปีของหอมารสวรรค์ ทั้งยังมีของล้ำค่าที่รวบรวมมาจากทั่วทุกทิศ ของข้างในนี้ถูกปิดผนึกเป็นชั้นๆ คือของสำคัญที่สุด

“ตามหลักแล้ว อีกฝ่ายไม่มีทางแก้กับดักกลไกค่ายกลที่อยู่รอบคลังสมบัติได้ แต่…”

สมาชิกผู้ควบคุมคนนั้นไม่ค่อยแน่ใจ

คลังสมบัติมีค่ายกลป้องกัน ทั้งยังมีกับดักกลไกต่างๆ ผู้ที่สามารถเข้าไปข้างในได้อย่างราบรื่น ทั่วทั้งหอมารสวรรค์ก็มีผู้แข็งแกร่งชั้นยอดสามสี่คนนั้นเท่านั้น

“ต่อให้เจ้าโจรนั่นควบคุมคนของหอมารสวรรค์ก็ยากจะแก้กลได้ มีเพียงความน่าจะเป็นเพียงอย่างเดียวคือ…แมวความลับสวรรค์!”

สีหน้าของเทพโบราณโยวเฉวียนเคร่งเครียด

อย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าแมวความลับสวรรค์จะช่วยคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ

บางทีอาจเพราะคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติช่วยมันออกไป แมวความลับสวรรค์จึงช่วยเหลือคนผู้นี้ นอกจากนั้นแมวความลับสวรรค์บางทีก็อาจจะต้องการสิ่งของบางอย่างในคลังสมบัติเช่นกัน

เทพโบราณโยวเฉวียนหยิบป้ายส่งข่าวสีเงินหม่นขึ้นมา “พวกเจ้าส่งคนสี่ห้าคนไปคลังสมบัติฝั่งตะวันออก สังหารผู้บุกรุก และจับแมวความลับสวรรค์มา…”

คลังสมบัติอยู่นอกเขตพื้นที่ใจกลาง หากไม่จำเป็นจริงๆ เทพโบราณโยวเฉวียนจะไม่ให้สมาชิกทั่วไปเข้าไปในเขตใจกลางนี้

ไม่แน่ว่าคนของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติอาจจะแฝงตัวอยู่ในนั้น หากเข้ามาอีกสามสี่คนจะไม่วุ่นวายแย่หรือ

“หมัดเทพรวมศูนย์!” จ้าวเฟิงโคจรพลังเทพรวมศูนย์ ชกประกายหมัดหนักแน่นที่มืดหม่นออกมา

ครืน บึ้ม! แต่พลังประกายหมัดที่แข็งแกร่งชกโจมตีไปบนเขตพลังป้องกันรอบๆ กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ กลับทำให้มันสั่นไหวเบาๆ เท่านั้น อีกทั้งชั้นเหล็กม่วงเชื่อมเป็นส่วนเดียวกับตัวปราสาทเหล็กม่วง ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

“พลังเทพรวมศูนย์ที่ฝึกออกมาจาก ‘วิชาพลังฟ้าประสานหนึ่ง’ แข็งแกร่งไร้เทียมทานยิ่ง ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นขั้นเจ็ดสุดยอด แต่การโจมตีของพลังเทพแข็งแกร่งกว่าเทพโบราณขั้นแปด เช่นนี้แล้วก็ยังยากจะทำลายเขตพลังป้องกัน!”

จ้าวเฟิงตะลึงไปเล็กน้อย

แต่ว่านี่ก็ย่อมแน่นอนอยู่แล้ว เพราะกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณคืออาวุธเทพระดับสุดยอด

อาวุธเทพระดับสุดยอดจะได้มาง่ายๆ ได้อย่างไรกัน

แต่ในตอนนี้เอง กลิ่นอายบรรพกาลมหาศาลที่เก่าแก่โบราณกลุ่มหนึ่งพลันปะทุมาจากที่ไกลๆ

เมี้ยว เมี้ยว!

เห็นเพียงใบหน้าของแมวขโมยตัวน้อยประดับรอยยิ้มร้ายกาจ จ้องมีดสั้นสีเงินแปลกประหลาดที่มีอักขระเขียนเต็มไปทั่วในมือ

บนมีดสั้น อักขระสีเงินแผ่กระจายกลิ่นอายแข็งแกร่งที่ทำให้คนใจหวาดผวา ด้วยความรู้สึกของจ้าวเฟิง มันเป็นอาวุธเทพโบราณระดับสุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย

“เจ้านี่…” จ้าวเฟิงจนคำพูดไปทันใด

แต่เดิมเขายังคิดว่าเจ้าแมวขโมยน้อยพาตนมาที่นี่ก็เพื่อจะขอบคุณเขาที่เป็นเจ้านาย ผลสุดท้ายเจ้าแมวขโมยน้อยคิดถึงแต่เพียงตัวเอง

แต่ว่าจ้าวเฟิงตกใจในฝีมือของแมวขโมยน้อยยิ่งกว่า

เมื่อครู่เขาไม่ได้สังเกตให้ละเอียด ไม่แน่ใจว่าแมวขโมยน้อยใช้กลวิธีอะไรทำลายเขตพลังป้องกัน

หลังจากได้มีดสั้นสีเงินเล่มนี้มาแล้ว เจ้าแมวขโมยน้อยก็นั่งลงทันที แล้วโคจรแสงเทพสีเงินเทาหุ้มมันเอาไว้

อาวุธเทพใดก็แล้วแต่ล้วนต้องกำราบจึงจะสามารถสำแดงพลังของมันออกมาได้

“สลายไปเสีย!”

ตาซ้ายของจ้าวเฟิงโคจรขึ้น เปลวอัสนีดุจความฝันม้วนตัวอยู่ข้างในไม่หยุด

ครืน ฉึก! เสี้ยวขณะต่อมา กลุ่มไฟอัสนีดุจที่หุ้มล้อมด้วยหมอกแสงแห่งความฝัน ฟาดเข้าไปบนเขตพลังป้องกันตรงที่กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณตั้งอยู่ทันที

เปลวเพลิงอัสนีฟาดผ่าเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง

ฉัวะ ฉึก ฉึก!

บนเขตพลังป้องกันส่องประกายแสงเลือนราง เสี้ยวขณะหนึ่งก็ปรากฏรูเล็กๆ สองรูที่ถูกอัสนีเทวะฟาดใส่ แต่เขตพลังป้องกันนั่นมีคุณสมบัติสมานตัว ขอเพียงแค่พลังไม่หายไปโดยสิ้นเชิงก็สามารถฟื้นฟูกลับมา

“หมัดเทพรวมศูนย์!”

จ้าวเฟิงไม่พูดพร่ำทำเพลง พยายามต่อไป ชกเงาหมัดมืดหม่นที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานออกไปติดๆ กันหลายหมัด

ครืน ตูม บึ้ม!

ภายใต้การโจมตีสองกระบวนท่าของพลังดวงตาอัสนีเทวะและหมัดเทพรวมศูนย์

พลังของเขตพลังป้องกันใช้ไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็มืดหม่นไร้ประกาย

“ทลาย!” นิ้วชี้ขวาของจ้าวเฟิงแผ่กระจายกลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลที่แข็งแกร่งออกมา

ยามอยู่ที่ดินแดนทวีป นิ้วชี้ของจ้าวเฟิงผนึกเลือดเทพเอาไว้หยดหนึ่ง

ในตอนนั้นเป็นเพราะร่างของจ้าวเฟิงไม่อาจดูดซับพลังของเลือดเทพหยดนี้ได้ จึงใช้งานได้ไม่ดีนัก แต่จากที่พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงพัฒนาไม่หยุด ระดับขั้นชีวิตบรรลุ เลือดเทพในนิ้วชี้หล่อเลี้ยงสายเลือดและแก่นแท้ร่างกายของจ้าวเฟิงอย่างไร้รูปร่าง พลังใช้หมดไปนานแล้ว

แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น นิ้วชี้ของจ้าวเฟิงก็ไม่ธรรมดาเลย

ฟิ้ว! แสงดัชนีสีแดงหม่นที่ผสมปนเปยิงออกมาจากในนิ้วชี้

แสงดัชนีนั่นกระแทกไปยังเขตพลังป้องกันในพริบตา ทั้งสองฝั่งยื้อยุดกันชั่วขณะหนึ่ง

แกรก! เขตพลังป้องกันแตกออกทันที

พลังที่เหลือของแสงดัชนีกระทบไปบนกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ ก็เพียงแค่สาดประกายไฟออกมาเท่านั้น

“กระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงลิงโลด มือโบกขึ้นแล้วหยิบกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณออกมาทันที

ครืน แซ่ด แซ่ด!

กลิ่นอายอัสนีบรรพกาลแผ่กระจายออกมาจากข้างใน

ต่อให้ร่างของจ้าวเฟิงเคยเป็นกายศักดิ์สิทธิ์อัสนีเทวะ ในยามที่สัมผัสเข้ากับพลังอัสนีกลุ่มนี้ก็ยังคงรู้สึกชาไปครู่หนึ่ง

แต่ทว่า วิญญาณของจ้าวเฟิงกลับไม่เกรงกลัวต่อพลังอัสนีกลุ่มนี้อย่างเห็นได้ชัด กระทั่งแสดงทีท่าคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง เขาดูดซับพลังอัสนีที่แผ่ออกมาจากกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณไปไม่น้อย

ชั่วพริบตาเดียว จ้าวเฟิงรู้สึกว่าวิญญาณปลอดโปร่ง สดชื่นกระปรี้กระเปร่า

“สมกับที่เป็นกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณที่มีฤทธิ์ในการฝึกฝนวิญญาณ!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเผยแววยินดี

จากการยกระดับอย่างรวดเร็วของขอบเขตพลัง กายวิญญาณอัสนีของเขาไม่แข็งแกร่งเหมือนในตอนนั้น แต่หากมีกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ ความพิเศษและข้อได้เปรียบของกายวิญญาณอัสนีของจ้าวเฟิงก็จะแสดงออกมาอีกครั้ง อีกทั้งกระจกบานนี้ยังเป็นอาวุธเทพโจมตี จ้าวเฟิงเชี่ยวชาญอัสนีเทวะ มีเสวียนอ้าวอัสนี สามารถสำแดงพลังของมันได้

“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือยึดครองมัน!” จ้าวเฟิงนั่งลงขัดสมาธิทันที

หากไม่ได้ครอบครองมันเสียก่อน อาวุธเทพระดับสุดยอดชิ้นนี้ก็จะไม่มีประโยชน์กับจ้าวเฟิงเลยแม้แต่น้อย

ตอนนี้เขายังอยู่ในหอมารสวรรค์ สมาชิกในหอมารสวรรค์ก็เกลียดจ้าวเฟิงเข้ากระดูกดำ จะต้องค้นหาไปทั่วแน่นอน

“หากครอบครองกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณได้ ความสามารถในการปกป้องตัวเองของข้าก็จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย!”

จ้าวเฟิงรีบโคจรพลังเทพและพลังวิญญาณ ดำดิ่งลงไปในกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณ

สิ่งที่เกินคาดคือ ความเร็วในการสยบกระจกเก้าอัสนีของจ้าวเฟิงสูงเกินปกติ

เขาเคยมีประสบการณ์สยบชุดคลุมมิติ เทียบกันแล้วความเร็วของฝั่งกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าคิดสักนิดก็จะเข้าใจได้

หากเปลี่ยนเป็นทายาทเนตรมิติยึดครองชุดคลุมมิติ ก็อาจจะเร็วกว่าจ้าวเฟิงในตอนนั้น และเสวียนอ้าวอัสนีที่จ้าวเฟิงฝึกฝนเคยเป็นกายศักดิ์สิทธิ์อัสนี วิญญาณล้วนเป็นกายวิญญาณอัสนี ดังนั้นจึงยึดครองกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณราบรื่นยิ่ง

เหมียว เหมียว

ไม่นานเท่าใดนัก เสียงของแมวขโมยน้อยดังขึ้นข้างหูจ้าวเฟิง

ต่อให้จ้าวเฟิงเข้ากับกระจกเก้าอัสนีนี้ได้เป็นอย่างดี การยึดครองอาวุธเทพระดับสุดยอดก็ไม่ใช่จะสำเร็จได้ในระยะเวลาสั้นๆ

ในตอนนี้ ระดับการยึดครองกระจกเก้าอัสนีหลอมวิญญาณเพิ่งจะถึงสองส่วนเท่านั้น

“มีเวลาไม่มากแล้วรึ?” าวเฟิงเข้าใจความหมายของแมวขโมยตัวน้อยคร่าวๆ

เขากับแมวขโมยน้อยบุกเข้ามาในคลังสมบัติ หอมารสวรรค์ไม่มีทางสังเกตอะไรไม่ได้เลย

เมี้ยว เมี้ยว!

เจ้าแมวขโมยน้อยโบกไม้โบกมือต่อหน้าจ้าวเฟิง จากนั้นกระโดดขึ้นมาบนชั้นเหล็กม่วงหนึ่งในนั้น

“เจ้าจะช่วยข้าเลือกของที่มีประโยชน์บางอย่าง?”

สีหน้าของจ้าวเฟิงตะลึงไป จากนั้นก็เผยแววเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เสี้ยวขณะต่อมา มีดอักขระสีเงินเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือของแมวขโมยน้อย อักขระแต่ละประเภทบนนั้นส่องแสงประกายที่แปลกประหลาดไม่หยุด

เจ้าแมวขโมยมาถึงเขตพลังป้องกันหนึ่งในนั้น ในเขตพลังมีแถบแสงสีขาวเงินแถบหนึ่งแผ่ประกายสีเงินจางๆ

เจ้าแมวขโมยน้อยใช้มีดอักขระเงินในมือกรีดลงไปเบาๆ

ฉัวะ ฉึก ฉึก! เขตพลังป้องกันถูกกรีดเป็นรอยทางหนึ่ง

ถึงแม้รอยนั้นพยายามสมานตัวอย่างสุดชีวิต แต่ในมีดอักขระเงินก็แผ่กระจายพลังแปลกประหลาดออกมางัดข้อกับมัน

ฟุ่บ! ในขณะเดียวกัน แมวขโมยน้อยก็หยิบของในเขตพลังป้องกันออกมา

“ง่ายดายเช่นนี้เชียว!” จ้าวเฟิงตะลึงไปทันใด

อีกทั้งเขารู้สึกว่าระดับการสยบมีดอักขระเงินของแมวขโมยตัวน้อยอาจจะสูงกว่ากระจกเก้าอัสนีของเขา

พออาศัยพลังมองทะลุปรุโปร่งของดวงตาเทพเจ้า จ้าวเฟิงพบว่ากลิ่นอายบนร่างของแมวขโมยน้อยจางลงไปหลายส่วน

ท่าทางแมวขโมยน้อยหยิบของในเขตพลังป้องกันออกมาโดยตรง ต้องใช้พลังไปไม่น้อยอย่างแน่นอน

เจ้าแมวขโมยโยนแถบแสงสีขาวเงินให้กับจ้าวเฟิง

เหมียว เหมียว!

หลังจากโบกไม้โบกมือไปตามใจ ดวงตาทั้งสองที่ราวกับนิลของมันก็มองไปยังที่อื่นอีก

จ้าวเฟิงทำตามที่แมวขโมยน้อยชี้บอก แปะแถบแสงสีเงินขาวไว้ใกล้ๆ ชุดคลุมมิติ แล้วโคจรพลังเทพขึ้นเล็กน้อย

ทันใดนั้น แถบแสงสีเงินขาวนั้นก็ค่อยๆ หายไปในชุดคลุมมิติ

จ้าวเฟิงรีบโคจรดวงตาเทพเจ้าสังเกตอย่างละเอียดทันที

ผลสุดท้ายจึงพบว่าแถบแสงสีเงินขาวแบ่งเป็นเส้นเล็กละเอียดมากมาย แทรกซึมลึกลงไปในที่ที่เป็นรอยหรือจุดเสียหายในชุดคลุมมิติ แล้วจัดการซ่อมแซมมันให้สมบูรณ์

“มีผลมหัศจรรย์เช่นนี้ด้วย!” จ้าวเฟิงอดทำหน้าตะลึงไม่ได้

ชุดคลุมมิติคืออาวุธเทพสุดยอดจากยุคบรรพกาล ผ่านร้อนผ่านหนาวมาไม่รู้ต่อกี่ปี เดิมก็มีรอยขีดข่วนไม่น้อย และหลังจากจ้าวเฟิงได้ชุดคลุมมิติมา ผ่านเหตุการณ์เสี่ยงอันตรายมามากมาย ทำให้ชุดคลุมมิติเกิดความเสียหายเล็กน้อย แต่ตอนนี้ร่องรอยพวกนี้ถูกซ่อมเกือบจะทั้งหมด

ยังไม่ทันได้คิดให้ละเอียด แมวขโมยน้อยก็โยนของอีกชิ้นหนึ่งมา

“นี่น่าจะเป็นอุปกรณ์พิเศษ…”

จ้าวเฟิงมองลูกกลมโลหะขนาดกำปั้นเด็กทารก ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ประสาทสัมผัสเทพของเขาดิ่งเข้าไปในนั้นโดยไม่ตั้งใจ เห็นเพียงหมอกหนาแปลกประหลาดชั้นหนึ่ง

พลังเทพทะลักเข้าไปข้างใน

ครืน ฟู่ ฟู่! ทันใดนั้น ลูกกลมโลหะในมือเขาละลายกลายเป็นหมอกแสงหลากสีหุ้มรอบตัวเอาไว้ ถึงแม้ว่ารอบกายจะถูกโอบล้อมด้วยหมอกแสงชั้นนี้ แต่ครรลองสายตาของจ้าวเฟิงและประสาทสัมผัสเทพไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

“นี่มีประโยชน์อะไรกัน?”

ตอนนี้จ้าวเฟิงยังไม่รู้ชัดถึงประโยชน์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ แต่ของที่เจ้าแมวขโมยเลือกให้จ้าวเฟิงด้วยตัวเองย่อมไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน

“แย่แล้ว มีคนมา!”

ในตอนนี้ ตาซ้ายของจ้าวเฟิงมองทะลุสิ่งปลูกสร้างออกไปจนมองเห็นร่างร่างหนึ่ง

จากนั้นก็มีร่างเงาอีกร่างปรากฏขึ้น เป้าหมายก็คือคลังสมบัติที่เขาและเจ้าแมวขโมยน้อยอยู่

“แมวขโมยน้อย!” จ้าวเฟิงร้องอย่างตกใจ

ฟุ่บ! เจ้าแมวขโมยรีบอออกมาจากชั้นเหล็กสีม่วงทันที จากนั้นทั้งสองฉวยโอกาสออกไปจากปราสาทเหล็กสีม่วง

แต่เพิ่งจะออกมา จ้าวเฟิงก็ได้ยินเสียงร้องตกใจ “อยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย!”

“แมวความลับสวรรค์!”

เห็นเพียงร่างสามร่างเข้าประชิดมายังจ้าวเฟิงและแมวขโมยตัวน้อยอย่างรวดเร็ว

อีกทั้งสามคนนี้มีสองคนเป็นเทพโบราณขั้นแปด หัวหน้าคือชายผมแดงซึ่งยิ่งเป็นขั้นแปดสุดยอด

“เอ๋? หมอกแสงหลากสีกลุ่มนั้นมันคืออะไรกัน?”

หนึ่งในนั้นจ้องไปยังจ้าวเฟิงที่ถูกล้อมด้วยหมอกเป็นชั้นๆ ใบหน้าตื่นตกใจ

อาศัยเพียงครรลองสายตา พวกเขาไม่อาจมองหมอกแสงได้ทะลุปรุโปร่ง แต่ต่อให้โคจรประสาทสัมผัสเทพก็ไม่อาจมองเห็นภาพในหมอกแสงได้ สำหรับพวกเขามันคือหมอกแสงหลากสีกลุ่มหนึ่งที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในอากาศ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version