Skip to content

King of Gods 1343

King Of Gods

บทที่ 1343 เผ่ามังกรโบราณอัสนีเพลิง

เทพโบราณลั่วหลิงวางแผนจะไปหาจ้าวเฟิง แล้วพาเขาออกไปด้วยกัน ในเมื่อตอนแรกทั้งสองเคยร่วมมือกัน และหลังจากนั้นจ้าวเฟิงยังหวังดีเตือนนาง

การพาจ้าวเฟิงออกไปจากที่นี่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น แต่ยามที่นางมาถึงจุดที่จ้าวเฟิงซ่อนตัวในตอนนี้ กลับสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังมหาศาลและเสียงระเบิดก้องไปทั่วฟ้า

ในตอนนั้นเทพโบราณลั่วหลิงคิดว่าจุดที่จ้าวเฟิงซ่อนตัวถูกหอมารสวรรค์พบเข้าแล้ว ทั้งสองฝั่งกำลังต่อสู้กันอยู่

นางกำลังเตรียมตัวพุ่งไปช่วยจ้าวเฟิง

แต่เมื่อนางมาถึงใกล้ๆ กับค่ายกลมังกรกั้นนภา กลับเห็นจ้าวเฟิงและมังกรวารีล้างโลการ่วมมือกันสังหารชายผมแดง ส่วนหุ่นเชิดกลไกขั้นแปดสุดยอดที่อยู่อีกด้านหนึ่งเลือกที่จะระเบิดตัวเองตาย

สีหน้าของหนึ่งคนหนึ่งหุ่นนั้นเจ็บปวด เศร้าโศก จนปัญญา และอัปยศ…

ภาพนี้ไม่รู้ว่าสร้างความตระหนกให้กับเทพโบราณลั่วหลิงหนักหนาเพียงใด!

ถึงแม้จ้าวเฟิงมีผู้ช่วย แต่คนที่ช่วยเขาเป็นเพียงแค่ขั้นเจ็ดสุดยอดเท่านั้น ทว่ากลับบีบอีกฝ่ายให้มาถึงขั้นนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนเพิ่งทะลวงขั้นแปดสามารถทำได้!

หากไม่ใช่ว่าตอนแรกเทพโบราณลั่วหลิงเคยร่วมมือกับจ้าวเฟิงมาก่อน นางคงไม่มีทางเชื่อว่าคนที่อยู่ในหมอกแสงห้าสีนั่นจะเป็นจ้าวเฟิง

“สังหารเทพโบราณขั้นแปดซึ่งหน้า ทั้งยังบีบให้หุ่นเชิดกลไกขั้นแปดสุดยอดอีกตัวหนึ่งระเบิดตัวเอง!”

สีหน้าของเทพโบราณลั่วหลิงค่อนข้างอึ้งตะลึง

หุ่นเชิดกลไกขั้นแปดสุดยอดตัวหนึ่งกลับไม่มีจิตใจจะต่อสู้ และเลือกระเบิดตัวเองยากที่จะจินตนาการได้ว่าอีกฝ่ายผจญกับอะไรเข้าในค่ายกลมังกรกั้นนภา

ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงเพิ่งเห็นเทพโบราณลั่วหลิง

“เจ้ามาได้อย่างไร?” จ้าวเฟิงมองเทพโบราณลั่วหลิง ถามขึ้นทันที

เทพโบราณลั่วหลิงไม่ใช่ว่าไปยังโถงตำหนักลับตรงพื้นที่ใจกลางแล้วรึ? ต่อให้ล้มเหลวก็น่าจะหาโอกาสหนีไปถึงจะถูก ทำไมถึงได้วิ่งมาหาตนเล่า ยามนั้น ไม่รู้ว่าแมวขโมยน้อยใช้วิธีอะไรจึงทำลายค่ายกลมังกรกั้นนภาได้อย่างสบายๆ

“เอ๋?” สีหน้าของเทพโบราณลั่วหลิงเปลี่ยนไปทันที

เมื่อครู่เป็นเพราะค่ายกล การรับรู้ของนางจึงไม่ครบรอบด้าน ตอนนี้พอค่ายกลหายไปแล้ว นางสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความตายที่รุนแรง เห็นได้ชัดว่าคนที่ดับดิ้นในค่ายค่ายกลนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ชายผมแดงกับหุ่นเชิดกลไกนั่นแน่นอน

จากนั้นสายตาของเทพโบราณลั่วหลิงมองไปยังมังกรวารีล้างโลกา

“เผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกา!”

ใบตาของเทพโบราณลั่วหลิงยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวขึ้นอีก กลิ่นอายบนร่างมังกรวารีล้างโลกาทำให้สายเลือดของนางสั่นเทาเล็กน้อย ถึงแม้สายเลือดบนร่างของมังกรวารีล้างโลกาจะเจือจางมาก แต่อย่างไรเสียก็เป็นสายเลือดเผ่าพันธุ์มังกรล้างโลกาที่อยู่ในสิบอันดับแรกของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ!

สายเลือดมังกรล้างโลกาที่แข็งแกร่งที่สุด กระทั่งว่าเทียบเคียงได้กับสายเลือดแปดเนตรเทพเจ้า

“ข้าเห็นเจ้าซ่อนอยู่ที่นั่น คิดว่าเจ้าไม่มีวิธีหนีออกมา เลยเตรียมกลับมาพาเจ้าออกไป!”

เทพโบราณลั่วหลิงอ้ำอึ้งอยู่ชั่วขณะหนึ่งถึงจะพูดขึ้น ยามนี้นางวางจ้าวเฟิงเอาไว้ในระดับเดียวกับตัวเองแล้ว เพิ่งจะทะลวงขั้นแปดก็สามารถทำผลงานที่น่าตกใจเช่นนี้ได้ ไม่ด้อยไปกว่านางเลย

จิตใจของจ้าวเฟิงสั่นไหว เขากำลังรอโอกาสออกไปอยู่จริงๆ แต่หากเขาออกไปพร้อมกับเทพโบราณลั่วหลิงจะต้องได้รับความสนใจจากแดนศักดิ์สิทธิ์มิติแน่

คิดถึงตอนนั้นในมิติห้วงฝันบรรพกาล จ้าวเฟิงชิงชุดคลุมมิติมาจากมือของกองกำลังย่อยของแดนศักดิ์สิทธิ์มิติ พูดได้ว่าสร้างความแค้นเอาไว้

จ้าวเฟิงเตรียมจะปฏิเสธ แต่ในหัวของเขาพลันมีความคิดหนึ่งแล่นขึ้นมา

“พวกเรามาทำข้อแลกเปลี่ยนกันเถอะ!” จ้าวเฟิงพูดขึ้น

“ข้าพาเจ้าออกไป ไม่ได้ต้องการของใดๆ ของเจ้าทั้งนั้น!”

แววตาของเทพโบราณลั่วหลิงฉายแววดูถูก

คำพูดนี้ของจ้าวเฟิงทำให้นางเข้าใจผิด คิดว่าความหมายของเขาคือตนพาหนีออกไปเพราะอยากได้ของล้ำค่าอะไรมา แต่ว่าเทพโบราณลั่วหลิงก็ปรารถนาในชุดคลุมมิติตัวนั้นจริงๆ

“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าคิดอยากจะแลกเปลี่ยนอย่างอื่นกับเจ้า!”

จ้าวเฟิงยิ้มบางๆ

สีหน้าของเทพโบราณลั่วหลิงอดอึ้งไปไม่ได้ แก้มแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็จางไปอย่างรวดเร็ว

“แลกเปลี่ยนอะไร?” เทพโบราณลั่วหลิงถามเสียงต่ำ

“ข้าให้เจ้าเข้าไปในมิติชุดคลุมมิติ ทะลวงไปเทพโบราณขั้นเก้า จากนั้นเจ้าก็ช่วยข้าเรื่องหนึ่ง…”

จ้าวเฟิงยิ้มเล็กน้อย

“ให้ข้าทะลวงขั้นเก้า เข้าไปในชุดคลุมมิติ?” เทพโบราณลั่วหลิงตื่นตะลึง

ต้องรู้ว่า เทพโบราณทั้งสามขั้น ทุกๆ ขั้นล้วนทะลวงผ่านได้ยากยิ่ง ต่อให้มีผู้แข็งแกร่งที่ระดับสูงยิ่งกว่าช่วยเหลือ ก็ไม่ใช่พูดว่าจะทะลวงก็ทะลวงได้ แต่ตอนนี้ คนที่พูดประโยคนี้กับเทพโบราณลั่วหลิงคือผู้มีระดับพลังฝึกตนต่ำกว่านางด้วยซ้ำ

นอกจากนั้น การเข้าไปในมิติของชุดคลุมก็เท่ากับสามารถคลำหาใจกลางของชุดคลุมมิติได้

ถึงแม้ชุดคลุมมิติจะมีเจ้าของแล้ว แต่แค่เพียงจ้าวเฟิงบาดเจ็บหนักหรือเทพโบราณลั่วหลิงมีกลวิธีพิเศษอะไรละก็ จะสามารถชิงเอาไปได้เลย

“หยาดวารีเทพ ไม่รู้ว่าเจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่!” จ้าวเฟิงถาม

ดื่มหยาดวารีเทพครั้งแรกถึงจะมีอัตราการทะลวงขั้นสำเร็จสูง

ก่อนหน้านี้จ้าวเฟิงไม่เคยได้ยินชื่อหยาดวารีเทพมาก่อน น่าจะเป็นของล้ำค่าสำหรับทะลวงขั้นที่เผ่าความลับสวรรค์คิดค้นขึ้น ดังนั้นเทพโบราณลั่วหลิงน่าจะไม่เคยดื่มหยาดวารีเทพมาก่อนเช่นกัน

เทพโบราณลั่วหลิงส่ายหน้า แสดงว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ของล้ำค่านี้มีอัตราที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งในขอบเขตเซียนสวรรค์ทั้งเก้าขั้นทะลวงหนึ่งขั้นได้พอสมควร ระดับพลังฝึกตนยิ่งต่ำอัตรายิ่งสูง ข้าก็ดื่มของล้ำค่านี้ถึงทะลวงถึงขั้นแปดเช่นกัน เจ้าเป็นขั้นแปดสุดยอดแล้ว น่าจะไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร… ”

จ้าวเฟิงเริ่มอธิบายกับเทพโบราณลั่วหลิงอย่างละเอียด

ถึงจะพูดว่าปัญหาของขั้นแปดสุดยอดมีไม่มาก แต่จ้าวเฟิงก็ไม่กล้ารับประกันผลที่แน่นอน ของอย่างอัตราแบบนี้ ไม่ว่าใครก็บอกไม่ได้ ดังนั้นก่อนอื่นเขาจึงบอกสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อน

“ข้าตกลง!” เทพโบราณลั่วหลิงตกลงทันที

ข้อแลกเปลี่ยนที่จ้าวเฟิงพูดมา สำหรับนางแล้วมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษ

“ดี!” จ้าวเฟิงหยิบเอาม้วนหนังสือพันธะสัญญาออกมา

จุดประสงค์สำคัญที่ลงนามสัญญาก็เพื่อควบคุมเทพโบราณลั่วหลิง หลังจากที่นางเข้าไปในชุดคลุมมิติแล้ว ห้ามทำอะไรกับชุดคลุมมิติทั้งสิ้น เพียงตั้งใจฝึกฝนทะลวงขั้นก็พอแล้ว

จากนั้นจ้าวเฟิงจึงมอบหยาดวารีเทพที่เหลืออยู่สองส่วนให้เทพโบราณลั่วหลิงหนึ่งส่วน

พรึ่บ! ชุดคลุมมิติสะบัดปลิว เทพโบราณลั่วหลิงและมังกรวารีล้างโลกาต่างเข้าไปในมิติข้างใน

กริ๊ง กริ๊ง! เจ้าแมวขโมยน้อยโยนเหรียญทองแดงโบราณสองสามเหรียญออกมา ก่อนจะชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง

จ้าวเฟิงก็บินไปตามทิศทางที่แมวขโมยน้อยชี้ให้

ในห้องฝึกลับห้องหนึ่ง พลันมีร่างเงาหนึ่งร่างปรากฏขึ้น

“ผู้อาวุโส ผู้บุกรุกหนีไปยังด้านตะวันออกแล้ว!” เขารีบหยิบป้ายส่งข่าวออกมาทันที แล้วส่งข่าวไป แต่เดิมคนคนนี้ก็ทำตามคำสั่งของเทพโบราณโยวเฉวียน คือไล่ตามไปยังจุดหมายเพื่อล้อมสังหารจ้าวเฟิง

แต่เรื่องเกิดการเปลี่ยนแปลง พวกเขาได้รับคำสั่งอีกคำสั่งว่าอย่าเข้าใกล้จุดหมาย

ดังนั้นรอบๆ เป้าหมายจึงซ่อนสมาชิกหอมารสวรรค์เอาไว้ไม่น้อย รวมถึงกายวัฏสงสารของเทพโบราณโยวเฉวียนด้วยเช่นกัน

……

ในหอมารสวรรค์ เทพโบราณโยวเฉวียนเดินทางไปด้วยความเร็วสูงที่สุด

เขาคือเนตรสังสารวัฏ ไม่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ ด้านความเร็วก็ไม่ยกเว้น ด้วยเหตุนี้เลยช้ากว่าเทพโบราณลั่วหลิงที่เป็นทายาทเนตรมิติไม่ใช่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ตอนนี้เอง เขาหยิบป้ายแผ่นหนึ่งขึ้นมา สัมผัสรับรู้สักหน่อย

“เจ้าจะหนีรอดงั้นรึ?” เทพโบราณโยวเฉวียนแค่นเสียงเย็น

ครั้งนี้เขาออกโรงด้วยตัวเอง ผู้บุกรุกทั้งสองคนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แมวความลับสวรรค์ก็จะหนีไม่รอด!

“ไม่ใช่ เป็นด้านตะวันออก!” สีหน้าของเทพโบราณโยวเฉวียนเปลี่ยนไปทันใด จากนั้นก็ครุ่นคิด

“บัดซบ ทิศที่พวกนั้นหลบหนีไปเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด!”

ทพโบราณโยวเฉวียนเปิดปากสบถทันที

กายวัฏสงสารของเขากำลังตรงมาจากด้านตะวันตก ส่วนเขาไล่ตามไปจากด้านเหนือ

บังเอิญนัก ทิศทางที่จ้าวเฟิงหนีไปคือด้านตะวันออก

หรือจ้าวเฟิงจะรู้เรื่องทุกอย่างนี้?

“จะต้องเป็นแมวความลับสวรรค์แน่นอน!” เทพโบราณโยวเฉวียนเข้าใจทันที

ก่อนหน้านี้แมวความลับสวรรค์อยู่ข้างจ้าวเฟิงตลอดเวลา เป็นถึงแมวความลับสวรรค์ เรื่องการทำนายไม่ใช่เรื่องยากเลย

“ก็แค่ยืดเวลาตายของเจ้าออกไปเท่านั้น!” เทพโบราณโยวเฉวียนไม่สนใจแม้แต่น้อย

นอกจากนั้น คู่เทพเซียนปีศาจน่าจะตามจ้าวเฟิงทันก่อน เขาไม่หวังให้ทั้งสองจับจ้าวเฟิงได้ เพียงแค่รบกวน ตรึงกำลัง หรืออย่างน้อยขอเพียงแค่ไม่คลาดสายตาก็พอรอให้กายวัฏสงสารขั้นเก้าของเทพโบราณโยวเฉวียนไปถึง ทุกอย่างก็เป็นที่แน่นอนแล้ว!

……

เส้นทางในหอมารสวรรค์สลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต

ฟิ้ว! ปีกที่หลังของจ้าวเฟิงกระพืออย่างรวดเร็ว ร่างของเขาแปลงเป็นประกายแสงสีทองสายหนึ่งพาดผ่านไปในทางเดิน

‘หวังว่าเทพโบราณลั่วหลิงจะทะลวงขั้นได้เร็วหน่อย!’ จ้าวเฟิงคิดอยู่ในใจ

ที่จริงแล้วเขาสามารถตามเทพโบราณลั่วหลิงจากไปได้เลย แต่ว่าจ้าวเฟิงยังค่อนข้างเจ็บใจที่จะจากไปเช่นนี้ จึงทำการแลกเปลี่ยนกับเทพโบราณลั่วหลิง

แค่เพียงเทพโบราณลั่วหลิงทะลวงถึงขั้นเก้า ในหอมารสวรรค์นี้พวกเขาจะไม่ไร้เทียมทานหรือ!

นอกจากนั้น คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการแลกเปลี่ยนครั้งนี้คือเทพโบราณลั่วหลิง จ้าวเฟิงก็ได้ผูกมิตรกับแดนศักดิ์สิทธิ์มิติในระดับหนึ่งด้วย

“มาเร็วถึงเพียงนี้เชียวรึ!” แววตาของจ้าวเฟิงเปล่งกระจาย

จ้าวเฟิงพลันเลี้ยวที่ทางแยก

ในขณะเดียวกัน คู่เทพเซียนปีศาจพลันปรากฏตัวขึ้นที่ปากทางข้างหน้า

“ผู้บุกรุก!” ทั้งสองคนร้องอย่างตกใจ

พวกเขาได้รับคำสั่งจากเทพโบราณโยวเฉวียน ขอแค่ตรึงกำลังผู้บุกรุกเอาไว้ กระทั่งไม่คลาดกันก็พอ ในตอนที่เห็นจ้าวเฟิงพอดี ทั้งสองคนตกใจไม่น้อย เพราะจากที่เทพโบราณโยวเฉวียนกล่าวไว้ พลังของพวกจ้าวเฟิงล้ำหน้าเหนือพวกเขา ด้วยเหตุนี้จึงปะทะกันซึ่งหน้าไม่ได้ แต่สถานการณ์ที่แท้จริง จ้าวเฟิงเห็นพวกเขากลับหนีไปทันที

หากพลังของพวกจ้าวเฟิงแข็งแกร่งกว่าพวกเขา เหตุใดจึงหลบหนี?

คู่เทพเซียนปีศาจค่อนข้างคิดไม่ตก

“ตามไปเร็ว!” ทั้งสองไล่ตามไปทันที

แต่ว่าจ้าวเฟิงไม่สนใจพวกเขาเลย อีกทั้งความเร็วของจ้าวเฟิงมากกว่าพวกเขาเล็กน้อย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะถูกสลัดทิ้งไว้ข้างหลัง

“บัดซบ ความเร็วของเจ้าคนนี้เร็วกว่าพวกเราเสียอีก!”

คู่เทพเซียนปีศาจรู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน

ที่จริงแล้วหากจ้าวเฟิงบินสุดแรง คนทั้งสองจะไม่มีทางตามทันเลย แต่จ้าวเฟิงผ่านศึกใหญ่มาครั้งหนึ่ง ใช้พลังไปไม่น้อย ต่อไปยังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังกับเรื่องนี้

อีกทั้งจะสลัดสองคนนี้ทิ้งได้หรือไม่ก็ไม่สำคัญเลยแม้แต่น้อย

“ภูติผีพิฆาต!”

“กระบี่แสงวิญญาณเซียน!”

คู่เทพเซียนปีศาจสำแดงการโจมตีที่แข็งแกร่งก่อกวนจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงหลบหลีกได้ และยังคงไม่สนใจสองคนนี้ บินสะเปะสะปะไปในเส้นทางของหอมารสวรรค์

“ยังไม่สำเร็จอีกรึ?”

เวลายืดเยื้อออกไปนานเกินไปจะยิ่งอันตราย ความคิดของจ้าวเฟิงสำรวจเข้าไปในชุดคลุมมิติเล็กน้อย

ตอนนี้เทพโบราณลั่วหลิงกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการสร้างรากฐานเทพ…

ทันใดนั้น ความเร็วของจ้าวเฟิงที่กำลังบินอยู่ก็ช้าลง

“แย่แล้ว!”

สีหน้าของจ้าวเฟิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย หมุนตัวพุ่งไปยังทิศที่คู่เทพเซียนปีศาจอยู่

“ฮ่าๆ จะหนีไปไหน!” คู่เทพเซียนปีศาจหัวเราะหยัน พุ่งทะยานไปยังจ้าวเฟิง

สำหรับท่าทีผิดปกติที่จ้าวเฟิงพลันแสดงออกมา พวกเขาไม่แปลกใจแม้แต่น้อยตอนนี้เอง กลิ่นอายแข็งแกร่งที่ชวนให้ใจสั่นสะท้านแผ่กระจายมาจากที่ไม่ไกลนักอากาศค่อยๆ ร้อนขึ้นเป็นอย่างมาก รอบด้านมีแสงอัสนีแผ่กระจายอยู่ทั่ว

“ผู้บุกรุก ตายเสีย!”

เสียงคำรามดังก้องสะเทือนออกมา จากนั้นร่างสีแดงมหึมาก็ปรากฏขึ้นสุดทาง

เขามีตัวเป็นคนหัวเป็นมังกร ที่หลังมีปีกคู่หนึ่ง หน้าตาทรงพลังเหี้ยมโหด นี่ก็คือกายวัฏสงสารขั้นเก้า ผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรโบราณอัสนีเพลิงนั่นเอง!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version