บทที่ 1376 ประจันหน้า
“ทำไมที่นี่มีสิ่งปลูกสร้างของเผ่าความลับสวรรค์มากขนาดนี้?”
เทพโบราณอวี้ห่ายทำสีหน้าสงสัย
เขาคิดมาโดยตลอดว่าเจ้าของ ‘คลังสมบัติบรรพชน’ ก็คือเผ่าเทพยักษ์
แต่ตอนนี้เมื่อดูไปแล้ว มิติแห่งนี้ในตอนแรกน่าจะเป็นพื้นที่ในครอบครองของเผ่าความลับสวรรค์ จากนั้นถึงตกมาสู่มือของเผ่าเทพยักษ์
“เป็นเช่นนี้นี่เอง มิน่าล่ะที่นี่จึงซุกซ่อนความลับที่ทำให้ทะลวงขั้นจอมเทพเอาไว้!”
ในที่สุดเทพโบราณอวี้ห่ายก็เข้าใจเรื่องนี้
ในเมื่อมิติแห่งนี้ เดิมทีเป็นสถานที่ในอาณัติของเผ่าความลับสวรรค์ซึ่งเป็นลำดับที่สามในหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ ภายในมีโอกาสที่จะได้ทะลวงขั้นจอมเทพก็พอเข้าใจได้
“พวกมันซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่?” เทพโบราณหานอวี้กวาดสายตามองรอบบริเวณ พร้อมเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง แก้วผลึกในมือเขาเปล่งแสงสีเขียวสว่าง อีกด้านหนึ่ง แก้วผลึกในมือเทพโบราณอวี้ห่ายก็มีปฏิกิริยาตอบกลับเช่นกัน
“พวกมันหลบอยู่แถวนี้!” เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะเสียงเย็น
“เก็บงำกลิ่นอายเอาไว้ ค่อยๆ เข้าไปใกล้ แล้วสังหารพวกมันในคราวเดียว!”
เทพโบราณหานอวี้และคนอื่นส่งกระแสจิตสื่อสาร
ตั้งแต่ความพ่ายแพ้ของเทพโบราณอวี้ห่ายในคราวก่อน เทพโบราณหานอวี้มองออกว่าพวกซินอู๋เหินพอจะมีความสามารถอยู่
หนำซ้ำพวกเขายังรีบร้อนค้นหาพวกซินอู๋เหิน ไม่หยุดแม้แต่น้อย ส่งผลให้อาการบาดเจ็บของเทพโบราณอวี้ห่ายจนถึงตอนนี้ยังไม่หายดีทั้งหมด ใช้พลังออกมาได้เพียงเจ็ดส่วนเท่านั้น
‘พวกเจ้ารอวันตายซะดีๆ ฮ่าๆ!’ เทพโบราณอวี้ห่ายหัวเราะในใจ
เทพโบราณหานอวี้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเขาในตอนสุดยอดเล็กน้อย
ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาใช้กำลังรบได้แค่เจ็ดส่วน แต่หากร่วมมือกับเทพโบราณหานอวี้ก็กวาดล้างได้ทั่วทิศ อีกทั้งเทพโบราณหานอวี้ระมัดระวังถึงขนาดนี้ พวกซินอู๋เหินและจ้าวเฟิงมีปีกก็ยากจะบินหนีไป!
……
ทางฟากจ้าวเฟิงและซินอู๋เหิน เมื่อรู้ว่าตำหนักวิญญาณบรรพกาลเข้ามาใกล้ก็ถอยมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
“ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคน!” ซินอู๋เหินมีสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย
จากการต่อสู้ครั้งก่อน ในตอนนี้ถึงจะไม่ร่วมมือกับจ้าวเฟิง เขาก็อาจรับมือครึ่งก้าวสู่จอมเทพได้คนหนึ่ง แต่หากต้องเผชิญหน้ากับครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคนต้องไม่มีแรงต้านทานแน่
นอกจากนี้ เขายังกำลังครุ่นคิดว่าพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร?
“โชคดีที่มีหอหยั่งรู้!” จ้าวเฟิงรู้สึกโชคดีอยู่บ้าง
ถ้าหากไม่มีหอหยั่งรู้ เกรงว่าพวกเขาเพิ่งจะรู้ตัวเอาตอนที่พวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลตรงมาสังหารแล้ว
“พวกเราจะหนีออกจากที่นี่ หรือว่า…”
ซินอู๋เหินถามความเห็นจากจ้าวเฟิง
“เข้าไปในหอหยั่งรู้!” จ้าวเฟิงตอบทันที
เห็นได้ชัดเจนว่าพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลมีอุปกรณ์พิเศษที่สามารถสัมผัสตำแหน่งของทุกคนได้ ในด้านความเร็ว พวกเขาด้อยกว่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพมาก หากหนีไปเลยไม่ช้าเร็วก็ต้องโดนไล่ตามจนทัน และการเข้าไปในหอหยั่งรู้ก็เป็นคำแนะนำของเจ้าแมวขโมยน้อยด้วย
ตามที่เจ้าแมวขโมยบอกเอาไว้ หอหยั่งรู้อยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ความสามารถในการป้องกันโดดเด่นมาก ถึงจะเป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคนก็ยังยากจะโจมตีเข้ามาในเวลาสั้นๆ
พรึ่บ! พรึ่บ!
จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินตรงเข้าไปในหอหยั่งรู้ ก่อนขึ้นไปบนยอดหอคอย
ในตอนนี้ เทพโบราณหวาไฉ่และเทพโบราณพั่วเยวี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย
“ท่านอู๋เหิน ตำหนักวิญญาณบรรพกาลมีครึ่งก้าวสู่จอมเทพถึงสองคน!”
สีหน้าเทพโบราณพั่วเยวี่ยจนใจเล็กน้อย
เผ่าเทพยักษ์คิดไม่ถึงเลยว่าตำหนักวิญญาณบรรพกาลจะมาที่ ‘คลังสมบัติบรรพชน’ มิฉะนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องส่งครึ่งก้าวสู่จอมเทพผู้หนึ่งติดตามซินอู๋เหินมาด้วย
เมี้ยว เมี้ยว!
เจ้าแมวขโมยกระโจนขึ้นบนแท่นโลหะอันหนึ่งแล้วโบกไม้โบกมือ แสดงทีท่าว่าไม่ต้องหมดหวังไป
“เจ้าแมวขโมยตัวน้อยบอกว่ามันควบคุมหอหยั่งรู้ได้เบื้องต้นแล้ว และเปิดใช้ขั้นตอนการป้องกันบางส่วน ต่อให้ตำหนักวิญญาณบรรพกาลส่งครึ่งก้าวสู่จอมเทพมาสอง ก็ยังต้องใช้เวลาสักพักใหญ่จึงจะบุกเข้ามาได้!”
จ้าวเฟิงบอกเจตนาของเจ้าแมวขโมย
“จริงหรือ?”
แววตาเทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่เปล่งประกาย
ด้านนอกหอหยั่งรู้
กลุ่มตำหนักวิญญาณบรรพกาลเร่งรุดเดินทางมา
“ไม่นึกเลยว่าพวกมันจะได้ถึงการมาเยือนของพวกเรา จึงหลบเข้าไปในอาคารของเผ่าความลับสวรรค์!”
เทพโบราณอวี้ห่ายเอ่ยอย่างตกใจ
ก่อนนี้พวกเขาวางแผนว่าจะเข้าไปใกล้ตราเทพบรรพกาลอย่างช้าๆ แต่ฝ่ายตรงข้ามจู่ๆ ก็ย้ายหนีและไปหยุด ณ ที่อื่น
“นี่เป็นไปไม่ได้!” เทพโบราณหานอวี้เอ่ยเสียงเย็นชา
พวกเขาเข้ามาที่นี่ก็เพื่อเตรียมการให้เรียบร้อยเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่นแก้วผลึก จอมเทพซิงเซี่ยงสร้างขึ้นก็เพื่อเป็นอุปกรณ์สัมผัสตำแหน่งของตราเทพบรรพกาล
พวกเผ่าเทพยักษ์ไม่ได้เตรียมตัวเข้ามาที่นี่แม้แต่น้อย แล้วทำไมอีกฝ่ายจึงสัมผัสได้ถึงการมาถึงของพวกเขาก่อน?
“เหอะ พวกมันหลบเข้าไปในหอคอยแห่งนี้ก็รนหาที่ตายอยู่ดี!”
“บุกเข้าไปสังหารพวกมันทั้งหมดเสีย!”
สมาชิกอีกสองคนของกลุ่มเทพโบราณหานอวี้อดรนทนไม่ไหวแล้ว
“เข้าไป!” เทพโบราณหานอวี้สั่งเสียงต่ำ
หากเมื่อครู่ซินอู๋เหินสังเกตเห็นพวกเขาได้ก่อน ในหอคอยเหล็กนั่นต้องมีอะไรซุกซ่อนอยู่ แต่ถึงจะมีอะไรซ่อนอยู่นางก็ไม่กลัว เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังอำนาจที่สมบูรณ์ กลอุบายเล็กๆ พวกนี้ก็ไร้ประโยชน์!
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
ทั้งห้าคนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลบินตรงไปที่ทางเข้าหอคอยยักษ์สีเงิน
แต่ในขณะนี้เอง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
รอบๆ หอคอยยักษ์สีเงินพลันปรากฏรูเล็กมากมาย ก่อนมีแสงสว่างสีเงินหลายสายพุ่งออกมา ลำแสงสีเงินนับไม่ถ้วนเกาะกลุ่มกันเป็นค่ายกลที่สลับซับซ้อนในพริบตา
วู้ม! ค่ายกลเปิดออก กลายเป็นปราการพลังสีเงินแห่งหนึ่ง บนเขตปราการนั้นสลักอักษรเผ่าความลับสวรรค์จางๆ เอาไว้ สาดซัดกลิ่นอายเก่าแก่โบราณออกมา
ปราการพลังสีเงินปกคลุมหอหยั่งรู้เอาไว้ภายใน กั้นขวางพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลเอาไว้ภายนอก!
“แค่ปราการค่ายกลเท่านั้น ทำลายเสีย!”
เทพโบราณอวี้ห่ายผลักฝ่ามือออกมา ฝ่ามือระลอกแสงสีดำหม่นขนาดยักษ์เปลี่ยนรูปร่างและพุ่งไปด้านหน้าในทันที
ฟิ้ว! ปราการสีเงินจุดที่โดนโจมตีเหมือนจะพังทลาย เว้าเป็นหลุมลงไป
ในขณะนั้นเอง อักษรเผ่าความลับสวรรค์บนปราการพลังก็พลันส่องแสงประหลาดเรืองรอง
วินาทีต่อมา พลานุภาพการโจมตีของเทพโบราณอวี้ห่ายค่อยๆ ลดลง พลังก็หลุดลอยออกไปช้าๆ เช่นกัน
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” สีหน้าของเทพโบราณอวี้ห่ายตกตะลึง
ทุกคนในหอหยั่งรู้ประหลาดใจ
“ดีเหลือเกิน ปราการป้องกันนี้สามารถต้านการโจมตีของครึ่งก้าวสู่จอมเทพได้!”
เทพโบราณพั่วเยวี่ยอุทานอย่างตกใจ
“ไม่แค่เท่านั้น การโจมตีของเทพโบราณอวี้ห่ายเหมือนถูกเปลี่ยนเป็นแหล่งกำเนิดพลังของหอหยั่งรู้!”
จ้าวเฟิงสำรวจอย่างละเอียด
เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยน้อยยกมุมปากขึ้น ท่าทีภูมิอกภูมิใจอย่างยิ่ง
“ฮ่าๆ สหายแมว เจ้าเก่งเหลือเกิน!” เทพโบราณพั่วเยวี่ยหัวเราะร่วน
เทพโบราณหวาไฉ่เองก็ถูกเจ้าแมวเย้าจนหัวเราะ
“เจ้าแมวขโมยตัวนี้นี่!”
จ้าวเฟิงเหลือบมองภาพเหตุการณ์บนม่านแสงเก้าเหลี่ยม ในใจตื่นตะลึง
จำได้ว่าก่อนหน้านี้ หอหยั่งรู้ทำได้เพียงแค่สัมผัสถึงเหตุการณ์ทั้งหมดในรัศมีห้าล้านลี้ แต่ตอนนี้รัศมีของประสาทสัมผัสไกลถึงแปดล้านลี้แล้ว อีกอย่าง ที่จริงแล้วเมื่อครู่เจ้าแมวขโมยน้อยกำลังพูดว่าความสามารถในการควบคุมหอหยั่งรู้ของมันยังเพิ่มขึ้นได้อีก
“ทุกคน พวกเราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอด รีบเพิ่มพลังฝึกตนให้เร็วที่สุดเถอะ!”
ซินอู๋เหินเปิดปากเอ่ย
ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะปลอดภัย แต่นี่ก็ไม่ใช่แผนระยะยาว
พลังถึงจะเป็นทุกสรรพสิ่ง!
“อืม ข้ารู้สึกว่าตนเองกำลังจะทะลวงขั้นแล้ว!”
“ข้าเองก็ด้วย!”
เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่เอ่ยด้วยสีหน้าตั้งอกตั้งใจ
ลำดับต่อมา จ้าวเฟิงและซินอู๋เหินเอาสิ่งของที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงนี้ออกมาทั้งหมด
“นี่คือผลนภาโลหิต!” เทพโบราณพั่วเยวี่ยตื่นเต้นอย่างมาก
ประโยชน์ที่ผลนภาโลหิตมีต่อเผ่าเทพยักษ์ไม่ธรรมดาเลย มันไม่เพียงสามารถเพิ่มระดับขั้นชีวิตได้มาก แต่ยังหลอมรวมเข้าไปในสายเลือด ช่วยให้สายเลือดเข้มข้นมากขึ้นด้วย
“ยังมีดอกบัวเก้ามรกต หนำซ้ำยังได้ใบบัวมาเก้าใบอีกด้วย!”
ใบหน้าเทพโบราณหวาไฉ่เผยแววตื่นเต้นยินดีเหมือนกัน
เมี้ยว เมี้ยว! เจ้าแมวขโมยตัวน้อยกระโดดไปหยิบเอาของส่วนใหญ่มา
จ้าวเฟิงกลอกตาใส่มัน เจ้าแมวขโมยตัวนี้ให้เขาและซินอู๋เหินไปค้นหาทรัพยากรมา ส่วนมากเป็นของที่มีประโยชน์กับตัวมันเอง แต่ครั้งนี้เจ้าแมวขโมยได้ความดีความชอบอย่างมาก จ้าวเฟิงจึงไม่ใส่ใจ คนอื่นๆ ก็ไม่มีความเห็นต่างออกไป
หลังจากเจ้าแมวขโมยน้อยเลือกไปแล้ว คนที่มีสิทธิ์เลือกคือจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินอย่างไม่ต้องสงสัย
จ้าวเฟิงเลือกเอาดอกบัวเก้ามรกตเป็นอย่างแรก ลำดับถัดมาก็หยิบทรัพยากรฝึกฝนชั้นวิญญาณ สุดท้ายก็เลือกเอาทรัพยากรฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลาจำนวนหนึ่งออกมา หลังจากเลือกเสร็จแล้ว จ้าวเฟิงจึงตรงเข้าไปในชุดคลุมมิติ
“พลังของข้าไปแตะขั้นแปดสุดยอดแล้ว หลังจากใช้ดอกบัวเก้ามรกตนี้ จะต้องทะลวงถึงเทพโบราณขั้นเก้าได้ในคราวเดียวแน่!”
พลังเทพของจ้าวเฟิงทุกวันนี้แข็งแกร่งมาก พลังวิญญาณไปถึงเทพโบราณขั้นเก้า ขาดเพียงระดับพลังเท่านั้น หลังจากใช้ใบบัวมรกตทั้งเก้าไปแล้ว จ้าวเฟิงรู้สึกได้ในฉับพลันว่ามีของเหลวเก้ากลุ่มหลั่งไหลในเลือดทั่วร่าง ก่อนค่อยๆ หลอมรวมไปที่จุดตันเถียนช้าๆ ของเหลวทั้งแปดทะลักเข้าไปในฐานเทพแปดชั้นด้านหน้า แล้วสร้างความเสถียรให้กับรากฐานเทพ
ขั้นตอนนี้เชื่องช้าเล็กน้อย ส่วนของเหลวกลุ่มที่เก้าปรากฏขึ้นเหนือฐานเทพชั้นที่แปด
ขอแค่จ้าวเฟิงยินดีก็จะสามารถสร้างรากฐานเทพ โอกาสที่จะทะลวงเทพโบราณขั้นเก้าได้มีถึงสี่ส่วน
‘สรรพคุณของของเหลวทั้งแปดกลุ่มช่วยให้ข้าทะลวงขั้นแปดสุดยอดได้ ถ้าหากทะลวงผ่านขั้นเก้าต่อ สัดส่วนสำเร็จจะลดลง ไม่สู้เก็บสรรพคุณยาที่เก้านี้เอาไว้ก่อน!’
จู่ๆ จ้าวเฟิงก็มีความคิดประหลาด
รอให้ทะลวงถึงขั้นแปดสุดยอดได้ก่อน เมื่อคุ้นเคยกับพลังและประคองให้พลังเสถียรแล้ว ก็ค่อยใช้ของเหลวกลุ่มที่เก้า สัดส่วนที่จะทะลวงถึงเทพโบราณขั้นเก้าน่าจะเพิ่มขึ้น
เมื่อนึกถึงตรงนี้ จ้าวเฟิงจึงเคลื่อนย้ายพลังเทพบนรากฐานเทพชั้นที่แปด แล้วใช้พลังเหมันต์ผนึกมันเอาไว้ จากนั้นใช้พลังเสวียนอ้าวมิติปกคลุม เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะสามารถหยุดยั้งการรั่วไหลของสรรพคุณยาได้
นอกจากจ้าวเฟิง พวกเผ่าเทพยักษ์ก็กำลังทะลวงขั้นพลัง
ส่วนเจ้าแมวขโมยน้อยสำรวจหอหยั่งรู้
ด้านนอกหอหยั่งรู้
ในกลุ่มเทพโบราณหานอวี้มีคนชำนาญค่ายกลพอดี และยังมีความเข้าใจในค่ายกลความลับสวรรค์พอควร ดังนั้นเขาจึงหยุดอยู่ด้านนอกเพื่อให้เวลาปรมาจารย์ค่ายกลสักเล็กน้อย อีกอย่าง เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ก็มีโอกาสมากมาย
พวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็กำลังปิดด่านเพื่อเพิ่มพลังของตนเองเช่นกัน
“แบบนี้ก็ดี รอให้พลังของข้าฟื้นฟูทั้งหมด พอถึงตอนนั้นจะต้องทำให้จ้าวเฟิงนั่นทรมานจนไม่อยากมีชีวิตอยู่!”
เทพโบราณอวี้ห่ายรีบฟื้นฟูอาการบาดเจ็บของแหล่งกำเนิดวิญญาณ
สิบวันต่อมา ปรมาจารย์ค่ายกลผู้นั้นไปจากละแวกของหอหยั่งรู้ด้วยใบหน้าอิดโรย
“ผู้เฒ่าไร้ความสามารถ ไม่สามารถทำลายค่ายกลความลับสวรรค์ได้!”
เทพโบราณขั้นเก้าผู้นั้นเอ่ยอย่างรู้สึกผิด
“เหอะ เปลืองเวลาข้าเสียจริง!”
เทพโบราณหานอวี้แค่นเสียงเย็น พลังเหมันต์เย็นยะเยียบจับขั้วกระดูก ทำให้วิญญาณเทพโบราณขั้นเก้าผู้นั้นแทบสูญเสียความรู้สึกไป
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องติดต่อพวกเขาแล้ว!”
เทพโบราณหานอวี้หยิบป้ายส่งข่าวชิ้นหนึ่งส่งข่าวไปบอกพวกพวกอวี่เหิง “รู้ตำแหน่งของซินอู๋เหินแล้ว แต่พวกเขาหลบอยู่ในอาคารของเผ่าความลับสวรรค์ ด้านนอกมีค่ายกลความลับสวรรค์ปกป้องอยู่ พวกเราไม่สามารถบุกเข้าไปได้ในตอนนี้!”
“ทำไมไม่ติดต่อข้าให้เร็วกว่านี้?” ทางฝั่งอวี่เหิง ถึงแม้เสียงเขาจะนิ่งเรียบ ใบหน้ากลับฉายแววเย็นชา พวกเทพโบราณหานอวี้ทั้งห้ามีสีหน้าเย็นวาบน้อยๆ
พวกเขาเองก็เดาได้ว่าอวี่เหิงอาจรู้เคล็ดวิชาความลับสวรรค์ แต่หากอวี่เหิงไม่ได้มา ก็ยากจะทำลายค่ายกลได้
ในตอนนั้นเอง เสียงของอวี่เหิงดังออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ “ถ้าหากข้าไปด้วยตนเอง ค่ายกลความลับสวรรค์จะเป็นแค่อากาศธาตุเท่านั้น!”
“ถึงแม้ว่าข้าเดินทางไปไม่ถึงในเวลาสั้นๆ แต่จะทำลายค่ายกลนั้นก็ง่ายดายยิ่ง…”