บทที่ 1378 เพิ่มขึ้นพุ่งพรวด
ทันใดนั้น ลำแสงสีแดงขนาดเล็กมากมายปรากฏขึ้นในอากาศ หมุนวนด้วยความเร็วสูง พร้อมแผ่พลังเหมันต์ประหลาดออกมา และแขนของเทพโบราณมู่อวี้ไม่ทันระมัดระวังถูกทำร้ายจากลำแสงสีโลหิตจำนวนหนึ่ง
“ไม่ดีแล้ว!” เทพโบราณมู่อวี้เรียกสติกลับมา จากนั้นจึงถอยร่นไปทันที
เขารู้สึกได้ว่าพิษกลุ่มนี้หลั่งไหลเข้าในร่างเขา ทั้งยังแทรกซึมเข้าไปในกระดูกและดวงวิญญาณด้วย
วินาทีต่อมา พลังเทพของเขาก็หลุดลอยหายไปอย่างรวดเร็ว สตินึกคิดก็ค่อนข้างเลือนราง
“เป็นอย่างไรบ้าง เทพโบราณมู่อวี้?”
เทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอีกคนรีบบินมา
ถ้าหากเทพโบราณมู่อวี้เกิดอุบัติเหตุอะไร พวกเขาคิดจะโจมตีชั้นบนของหอหยั่งรู้ก็ยากขึ้นแล้ว
“ไม่มีอันตรายร้ายแรง!”
เทพโบราณมู่อวี้รีบนั่งขัดสมาธิ โคจรพลังเทพข่มพิษเอาไว้
ค่ายกลพิษกลืนนภาจะมีพลังสังหารแค่คนต่ำกว่าขั้นเทพโบราณเท่านั้น จึงส่งผลต่อเทพโบราณแค่เล็กน้อย เพียงแต่พลังเทพจะหลุดลอยออกไปไม่หยุด จิตสำนึกพร่าเลือนจนไม่สามารถรวบรวมพลังได้
“นี่คือหินกำเนิดเทพ สามารถฟื้นฟูพลังเทพได้อย่างรวดเร็ว ในตอนที่จำเป็นต้องใช้พลังเทพ เจ้าก็ใช้มันเสีย”
เทพโบราณหานอวี้หยิบเอาหยกที่ส่องประกายสีขาวออกมาสองชิ้น
พวกเขานอกจากจะตามหาตราเทพบรรพกาลและซินอู๋เหินแล้ว ก็ยังตามหาทรัพยากรไปพร้อมกันด้วย หินกำเนิดเทพนี้ก็คือหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาได้มา
“อืม!” เทพโบราณมู่อวี้รับหินกำเนิดเทพมา
เผ่าวิญญาณบรรพกาลเป็นถึงเผ่าพันธุ์ศาสตร์วิญญาณ มีพลังต้านทานแข็งแกร่งอยู่บ้าง
ตอนนี้มีหินกำเนิดเทพ ในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน หากสามารถฟื้นฟูพลังเทพได้อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นก็น่าจะไม่มีอุปสรรคใดๆ
“บัดซบ คิดไม่ถึงเลยว่าเนตรข้ามนภาของเจ้าเด็กนั่นจะทะลุผ่านชั้นของอาคารได้ด้วย!”
ในมิติแห่งนี้ ประสาทสัมผัสเทพถูกกดข่มไว้ แต่สิ่งปลูกสร้างเผ่าความลับสวรรค์ระดับสูงพวกนี้ปิดกั้นประสาทสัมผัสเทพ ตามหลักการแล้ว ที่นี่ไม่มีตราประทับวิญญาณ หรือถ้าหากประสาทสัมผัสเทพไม่สามารถขยายมาถึงที่นี่ได้ เนตรข้ามนภาก็จะไม่สามารถมาถึงได้เช่นกัน
“พวกมันควบคุมหอหยั่งรู้ ทำได้ขนาดนี้ไม่น่าแปลกใจ ต่อไปพวกเจ้าต้องรับมืออย่างระมัดระวัง ตรวจตรารอบบริเวณตลอดเวลา ทันที่เนตรข้ามนภาปรากฏขึ้น ต้องใช้การโจมตีชั้นวิญญาณทันที!”
เสียงอวี่เหิงดังขึ้นในหัวทุกคน
“มันไม่มีโอกาสครั้งที่สองแล้ว!” สีหน้าเทพโบราณหานอวี้เย็นชา
ในฐานะที่เป็นเผ่าพันธุ์ศาสตร์วิญญาณ ประสาทสัมผัสของนางที่มีต่อพลังวิญญาณแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ตัวนางเองก็ชำนาญการโจมตีชั้นวิญญาณ
เทพโบราณหานอวี้มั่นใจ คราวหน้าหากจ้าวเฟิงใช้เนตรข้ามนภาอีกครั้ง ต้องทำให้อีกฝ่ายไม่มีทางได้กลับมาแน่
“รุกคืบเข้าไปอีก ถึงแม้ว่าค่ายกลจะถูกกระตุ้น แต่จะทำลายค่ายกลก็ไม่ได้ยากอะไร!”
อวี่เหิงเอ่ยอีกครั้ง
พวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามมีสีหน้าตื่นตะลึงเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงความลึกล้ำเกินหยั่งถึงจากร่างอวี่เหิง
……
บนยอดหอคอย จ้าวเฟิงและเจ้าแมวขโมยน้อยมองเห็นทุกอากัปกิริยาของพวกเทพโบราณหานอวี้ผ่านม่านแสงเก้าเหลี่ยม
“เริ่มทำลายค่ายกลอีกแล้ว!” สีหน้าจ้าวเฟิงอึมครึมเล็กน้อย
ตัวเขามีอภิสิทธิ์บางส่วนในหอหยั่งรู้ สามารถใช้เนตรข้ามนภาและเปิดใช้ค่ายกลกลไก แต่การกระทำของเขาก็ส่งผลอะไรไม่มาก ทำได้แค่ยื้อเวลาไปเล็กน้อย ถึงแม้ค่ายกลจะถูกกระตุ้นขึ้นมา ตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็ยังมีวิธีทำลายอยู่ดี
หลังจากผ่านไปนาน คนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามทำลายค่ายกลพิษกลืนนภาและรุกคืบเข้าไปเรื่อยๆ
ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงชั้นที่สาม
“ครั้งที่สอง พวกมันต้องเตรียมพร้อมเอาไว้แน่ เกรงว่าคงไม่ง่ายดายแบบนั้นอีกแล้ว!”
จ้าวเฟิงไม่ได้ผลีผลามลงมือ
ทันทีที่ลงมือ โอกาสที่จะสำเร็จก็น้อยมาก และเขายังต้องเผชิญหน้ากับการรุกโจมตีอย่างบ้าคลั่งของพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลด้วย
หลังจากไปถึงขั้นเทพโบราณแล้ว ระดับของสัมผัสจะสูงยิ่งนัก สามารถโจมตีเนตรข้ามนภาได้ แล้วสร้างความเสียหายต่อจิตวิญญาณของจ้าวเฟิง แต่หากจ้าวเฟิงไม่ขัดขวาง คนตำหนักวิญญาณบรรพกาลจะไปถึงชั้นที่หก ซึ่งก็คือชั้นบนสุดอย่างรวดเร็ว
เป็นอย่างที่คิดไว้ คนตำหนักวิญญาณบรรพกาลพุ่งผ่านชั้นสาม เข้าสู่ชั้นสี่อย่างว่องไว
วู้ม วู้ม! ในตอนนี้เอง กลิ่นอายสายเลือดที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งกระจายปกคลุมบริเวณที่ไม่ไกลจากจ้าวเฟิง
วินาทีต่อมา ซินอู๋เหินก็ปรากฏตัวที่นี่ กลิ่นอายบนร่างค่อยๆ ถูกเก็บงำเข้าไป
“ทำลายได้แล้ว?” จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับครึ่งก้าวสู่จอมเทพ มีแค่ซินอู๋เหินที่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้ แต่ซินอู๋เหินในยามนี้ทะลวงขั้นเก้าสุดยอด พลังก้าวหน้าไปอีกขั้น
“สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
ซินอู๋เหินถามประโยคนี้แล้วก็มองม่านแสงเก้าเหลี่ยม สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด
เขามองเห็นทุกอย่างผ่านม่านแสงเก้าเหลี่ยมนี้ คนจากตำหนักวิญญาณบรรพกาลใกล้บุกมาถึงแล้ว
“นอกจากเทพโบราณอวี้ห่ายที่เฝ้าอยู่นอกหอหยั่งรู้ พื้นที่แห่งนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งตำหนักวิญญาณบรรพกาลคนอื่นอีกๆ!”
จ้าวเฟิงเล่าเรื่องทั้งหมดแก่ซินอู๋เหิน
“หากเป็นแบบนี้ พวกเราจำเป็นต้องหนีออกจากที่นี่!”
ซินอู๋เหินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยออกมา
ถ้าหากอยู่ที่นี่นานกว่านี้ รอจนยอดฝีมือคนอื่นตำหนักวิญญาณบรรพกาลมาถึงจะหนีไปได้ยากกว่าเดิม แต่อยากหนีไปก็ไม่ง่ายอย่างนั้น อย่างไรเสียความเร็วของตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็เหนือกว่าพวกเขาด้วย
นั่นแปลว่าสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อหนีออกไปได้สำเร็จ ก็คือทำให้พวกเทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่ายไล่ตามไม่ทัน
“ตอนนี้เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการทะลวงขั้น…”
ซินอู๋เหินเอ่ยอีกครั้ง
หากถูกขัดจังหวะระหว่างทะลวงขั้นแล้วละก็ เป็นไปได้มากว่าจะก่อให้เกิดผลสะท้อนกลับ ภายหลังคิดทะลวงขั้นอีกครั้งก็จะยากมากขึ้นอีก ทั้งหากพวกเขาสองคนทะลวงขั้นสำเร็จแล้ว พลังของทุกคนก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
“พวกเราร่วมมือกัน ขวางพวกนั้นเอาไว้ก่อนครู่หนึ่งก่อน…”
จ้าวเฟิงเอ่ยออกมาทันที
……
“เทพโบราณมู่อวี้ ท่านเข้าใจกับดักกลไกเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยนะ!”
เทพโบราณหานอวี้หัวเราะเรียบๆ
ทุกคนต่างรู้สึกได้ว่าเทพโบราณมู่อวี้ทำลายค่ายกลได้เร็วขึ้นไม่น้อย
“ฮ่าๆ เพราะได้อวี่เหิง!”
เทพโบราณมู่อวี้หัวเราะร่วน
ในตอนเดียวกันกับที่ทำลายค่ายกล เขายิ่งชำนาญมากขึ้น บางครั้งถึงขั้นไม่ต้องให้อวี่เหิงเตือนก็พอจะมองออกได้
“รีบทำลายค่ายกล เหลือแค่ชั้นสุดท้ายแล้ว!” อวี่เหิงเอ่ยเสียงเย็น
ตอนนี้พวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามเดินทางมาถึงชั้นห้าแล้ว!
พวกเขาใกล้จะถึงชั้นบนสุดแล้ว!
“รับทราบ!” เทพโบราณมู่อวี้ในตอนนี้นับถืออวี่เหิงอย่างมาก ทำตามทุกคำสั่งของอีกฝ่าย
เขาเดินนำหน้า เริ่มทำลายกับดักกลไกที่นี่
“ช้าก่อน!” จู่ๆ เทพโบราณหานอวี้ก็ร้องขึ้น
วินาทีต่อมา เงาคนก็ปรากฏขึ้นที่ปากทางเข้าด้านหน้าสุด
“ซินอู๋เหิน!” เทพโบราณหานอวี้ร้องเสียงต่ำ
“ซินอู๋เหินมอบตราเทพบรรพกาลมาโดยดีเสียเถอะ!”
เทพโบราณมู่อวี้จ้องซินอู๋เหินและเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
“ฝันไปเถอะ!” ซินอู๋เหินแค่นเสียงเย็น
เปรี๊ยะ! เขายกมือซ้ายขึ้น โคจรพลังเทพที่แข็งแกร่ง แล้วพลันส่งคมดัชนีที่รวดเร็วออกมาหลายสาย แสงสีขาวจำนวนมากหอบเอาแก่นแท้พลังที่ทรงอานุภาพพุ่งออกมา
“เจ้ารอความตายไปแล้วกัน!”
เทพโบราณหานอวี้เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา เกล็ดหิมะที่หนาวเหน็บบินว่อนเร็วรี่รอบตัวนาง
เกล็ดหิมะเหมันต์แช่แข็งพลังและสรรพชีวิตในทุกแห่งที่พวกมันผ่านไป
โครม! แต่ในตอนที่แสงดัชนีของซินอู๋เหินพุ่งทะยานมา เกล็ดหิมะเหมันต์บางส่วนด้านหน้าถูกระเบิดทำลายทันใด
“หืม? พลังของเจ้านี่เพิ่มขึ้นแล้ว!” เทพโบราณหานอวี้ตกใจอยู่บ้าง
จากการประลองส่งเดชของคนทั้งสอง คิดไม่ถึงเลยว่าซินอู๋เหินจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเทพโบราณหานอวี้จะชำนาญการโจมตีศาสตร์วิญญาณ แต่ขั้นของพลังเทพนางก็อยู่ในที่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพ
หากเป็นเช่นนี้ พลังในตอนนี้ของซินอู๋เหินน่าไปถึงขั้นครึ่งก้าวสู่จอมเทพแล้ว เพิ่งจะทะลวงถึงขั้นเก้าสุดยอดก็ครอบครองพลังเช่นนี้ ไม่เสียทีที่เป็นซินอู๋เหินจริงๆ!
แววตาเทพโบราณหานอวี้เพ่งมอง ในร่างทะลักพลังเสวียนอ้าวที่หนาวเหน็บยิ่งกว่าเดิมออกมา ถึงจะแช่แข็งแสงดัชนีของซินอู๋เหินและทำลายจนแหลกละเอียดเป็นผุยผงได้ แต่ในเวลานั้น กลางอากาศเหนือคนตำหนักวิญญาณบรรพกาล มีเนตรมายาสีเงินปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
“โลกมายาอัสนีวารี!” ในเนตรมายาทะลักเสี้ยวสายฟ้ากลุ่มหนึ่งออกมา
พลังสายฟ้ากลุ่มนี้ดูดซึมเอาพลังเหมันต์วารีแถวนั้น ก่อนจะถักทอเป็นตาข่ายอัสนีวารีกว้างใหญ่ปกคลุมพวกตำหนักวิญญาณบรรพกาลทั้งสามคนไว้
เมื่อสำแดงการโจมตีนี้เสร็จ จ้าวเฟิงก็สลายเนตรข้ามนภาทันที
“เป็นเจ้านี่อีกแล้ว!” สีหน้าเทพโบราณหานอวี้เย็นชา
หากไม่ใช่เพราะการปรากฏกายของซินอู๋เหิน นางต้องโจมตีเนตรข้ามนภาของจ้าวเฟิงกลับได้แน่
โครม! เทพโบราณหานอวี้โบกมือ อสูรชั่วร้ายประเภทเดียวกับฉลามตัวหนึ่งพุ่งทะลวงมาทันใด
อสูรฉลามปลดปล่อยพลังเสวียนอ้าวเหมันต์วารีที่แข็งแกร่ง กลายเป็นพายุน้ำแข็งพุ่งทะลวงไปปะทะตาข่ายเมฆอัสนี
ทั้งสองเข้าโรมรันกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตาข่ายสายฟ้าวารีก็ถูกทำลายลงไป
“ด้วยพลังของพวกเจ้า ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก!”
เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดอีกคนหนึ่งแค่นเสียงเย็น
ซินอู๋เหินไม่สนใจคำพูดของเขา แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่เดิม
“ผิดแล้ว พวกมันกำลังรบกวนการทำลายปราการค่ายกลของพวกเรา!”
เทพโบราณมู่อวี้เอ่ยออกมาในทันที
“เจ้าตั้งใจทำลายค่ายกลไปเถอะ เรื่องอื่นยกให้พวกเราจัดการ!”
ใบหน้าเทพโบราณหานอวี้ฉายแววเย็นชา
ขอแค่พวกเขาบุกโจมตีชั้นบนได้เป็นผลสำเร็จ ทั้งหมดก็จะจบสิ้นลงแล้ว แต่เทพโบราณมู่อวี้เพิ่งเตรียมจะบุกขึ้นด้านบน ซินอู๋เหินก็โคจรพลังสายเลือด สำแดงแสงดัชนีแข็งแกร่งที่กระจัดกระจายออกมาจำนวนมาก
“ภูผาเยือกแข็ง!”
เทพโบราณหานอวี้ยื่นมือทั้งสองข้าง ปลดปล่อยพายุเกล็ดหิมะที่หนาวเหน็บ
เกล็ดหิมะพวกนั้นลอยละล่องลงมายังเบื้องหน้าเทพโบราณมู่อวี้ ก่อนจะกลายเป็นยอดเขาน้ำแข็งที่หนาวเยือกในพริบตา
ตู้ม! คมดัชนีของซินอู๋เหินมาถึงในทันที ทะลักเข้าไปภายในและพุ่งทะลวงผ่านไม่หยุด
เทพโบราณหานอวี้ตะลึงค้างไปเล็กน้อย
หลังจากซินอู๋เหินใช้พลังสายเลือดไปแล้ว ในการประมือกันขั้นกายเนื้อนายก็ยังเป็นฝ่ายเปรียบอยู่ดี
“เยือกแข็ง!” เทพโบราณหานอวี้ตะโกนเสียงต่ำ พลังเหมันต์ที่หนาวเหน็บอย่างยิ่งนั้นผนึกการโจมตีของซินอู๋เหินเอาไว้ภายใน
“พลังของเจ้าคนนี้!” เทพโบราณหานอวี้มีสีหน้าทะมึน
ถ้าหากให้เวลาซินอู๋เหินได้เติบใหญ่ขึ้นมา ย่อมกลายเป็นความยุ่งยากของตำหนักวิญญาณบรรพกาลแน่น
อีกด้าน อสูรของนางและเทพโบราณขั้นแปดสุดยอดรวบรวมสติทั้งหมดเพื่อป้องกันการลอบโจมตีของจ้าวเฟิง
เวลาที่เหลือพวกนี้ เทพโบราณมู่อวี้จัดการทำลายค่ายกลไกด้วยความเร็วสูงสุด
‘ใกล้แล้ว พวกเจ้ารอความตายไปเถอะ!’ เทพโบราณมู่อวี้ลอบหัวเราะในใจ
ชั้นที่ห้าถูกทำลายไปมากกว่าครึ่ง พวกเขากำลังจะเข้าไปชั้นที่หกแล้ว!
ขอแค่เข้าไปชั้นที่หกได้ ก็จะยื้อพวกจ้าวเฟิงไว้ได้ชั่วคราว ไม่ให้พวกเขาหนีไปได้ เทพโบราณอวี้ห่ายก็จะเข้ามาช่วยได้อย่างรวดเร็ว
จนถึงตอนนั้น ครึ่งก้าวสู่จอมเทพสองคนร่วมมือกัน พวกจ้าวเฟิงและซินอู๋เหินจะต้องตายอย่างแน่นอน!
“ซินอู๋เหิน เผ่าเทพยักษ์ของพวกเจ้าไม่มีวันกลับมารุ่งเรืองตลอดไป!”
เทพโบราณหานอวี้หัวเราะเสียงเย็น
ถึงแม้ซินอู๋เหินจะมีศักยภาพแฝงมหาศาล แต่ขอแค่สังหารลงที่นี่ได้ เผ่าเทพยักษ์ก็จะไม่มีความหวังใดอีกต่อไป
“หืม? กับดักกลไกหยุดการทำงานหมดแล้ว!”
เทพโบราณมู่อวี้ที่กำลังทำลายค่ายกลอุทานขึ้น
วินาทีต่อมา
ตูม! ตูม! ชั้นบนของหอหยั่งรู้มีระลอกกลิ่นอายสายเลือดที่ทรงพลังสองกลุ่มแผ่มา ทำให้สายเลือดในร่างคนเผ่าวิญญาณบรรพกาลสั่นระริกเล็กน้อย
“กลิ่นอายกลุ่มนี้…แย่ล่ะ!” เทพโบราณหานอวี้หน้าเปลี่ยนสี
กลิ่นอายสองกลุ่มเมื่อครู่ ก็คือกลิ่นอายสายเลือดของเผ่าเทพยักษ์ และหนึ่งในนั้นไปถึงขั้นเก้าด้วย