บทที่ 1388 กำราบหมื่นเผ่าพันธุ์
ในเขตแดนเหมันต์พันวารี
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามมีสีหน้าจริงจัง พวกเขารวมตัวอยู่ด้วยกันโดยมีเทพโบราณหานอวี้เป็นใจกลาง
จ้าวเฟิงใช้ข้อได้เปรียบของความเร็ว ‘ระดับสูงสุด’ สังหารเทพโบราณขั้นเก้าติดๆ กันสองคน กระทั่งทำร้ายครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนหนึ่งบาดเจ็บหนัก สร้างความสั่นคลอนให้พวกเขาอย่างใหญ่หลวง จิตใจเตรียมพร้อมระมัดระวัง
พวกเขาสูญเสียอีกไม่ได้แล้ว
ดีที่ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามร่วมมือกัน ต่อให้ความเร็วของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นอีกระดับก็ยากจะหาจุดอ่อนได้
ทว่าในตอนนี้เอง พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว! ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!
ข้างหลังอวี่เหิงที่คุมเชิงอยู่ กองทัพแมลงมืดฟ้ามัวดินปรากฏขึ้น พวกมันเป็นปฏิปักษ์อย่างบ้าคลั่ง หอบม้วนกลืนกินฟ้าดินตรงเข้ามา
ในครรลองสายตา ทั้งสองฝั่งที่อยู่ตรงนั้นล้วนใจหนาวเหน็บ
แค่เพียง ‘เผ่าตั๊กแตนพิษ’ สำแดงวิชาฝูงแมลงที่แท้จริง ต่อให้เป็นผู้ที่มีพลังฝึกตนสูงกว่าก็ยังต้องหนีหัวซุกหัวซุน ไม่อาจฝืนปะทะได้
“เกิดอะไรขึ้น!”
จ้าวเฟิงและเผ่าเทพยักษ์ทั้งสามต่างตะลึง
สีหน้าของครึ่งก้าวสู่จอมเทพเผ่าวิญญาณบรรพกาลยิ่งดูย่ำแย่
ตอนนี้ สถานการณ์ที่พวกเขาอยู่ยิ่งเป็นภัย ข้างหน้ามีเผ่าเทพยักษ์ ข้างหลังมีกองทัพแมลง
“ทำอย่างไรดี?” ทั้งสามต่างพากันถามอวี่เหิงที่รับหน้าที่คุมเชิงอยู่ข้างหลัง
ในตอนที่วางแผนกัน อวี่เหิงก็ร้องขออยู่ข้างหลัง อีกทั้งยังเก็บงำกลิ่นอายไว้สุดกำลัง ไม่บุ่มบ่ามลงมือ
พวกเขาสงสัยว่าอวี่เหิงเป็นคนที่ชักนำเผ่าแมลงพวกนี้มา
ในตอนนี้
ต่อหน้ากองทัพแมลงแนวหน้าสุด อวี่เหิงที่อยู่ตัวคนเดียวพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงบ “การดมกลิ่นของเผ่าแมลงว่องไวจริงๆ ด้วย…”
ปฏิกิริยาของแมลงพวกนี้เหมือนว่าจะอยู่ในการคาดเดาของเขาทั้งหมด
“มารวมตัวกันก่อนก็แล้วกัน” ในที่สุดอวี่เหิงก็ออกปาก ออกคำบัญชาต่อครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสาม
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของเหล่าครึ่งก้าวสู่จอมเทพเปลี่ยนไปทันที
“ระ…รวมตัว?”
“หรือว่าจะให้พวกเราฝืนสู้กับเผ่าตั๊กแตนพิษ นี่มันไม่ฉลาดเอาเสียเลย” ทั้งสามลังเลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดคำสั่ง ก่อนที่จะบุกทะลวงคลังสมบัติบรรพชน พวกเขาก็ได้รับคำสั่งที่ชัดเจนมา ทุกอย่างต้องฟังคำสั่งชายหนุ่มลึกลับคนนี้
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามถอยไปรวมตัวกับอวี่เหิงที่อยู่ข้างหลังทันใด
พวกจ้าวเฟิงทั้งหลายไม่อาจขัดขวางได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังแทบจะหลบกองทัพแมลงไม่ทันแล้ว
ทันทีที่ตกอยู่ในกองทัพแมลง ผลลัพธ์ก็ไม่อาจจินตนาการได้
“เจ้าพวกนี้ ตกลงแล้วคิดวางแผนอะไรกันแน่? ตอนแรกจะฆ่าพวกเรา ตอนนี้กลับล้มเลิกอีกแล้ว”
เผ่าเทพยักษ์ทั้งหลายสับสนเป็นอย่างยิ่ง
จ้าวเฟิงมองตากันกับซินอู๋เหิน ไม่นานนักก็ตัดสินใจได้
“ดูไปก่อน หากสถานการณ์ไม่ดี ข้าเก็บพวกเจ้าเข้าไปในชุดคลุมมิติค่อยหนีก็ไม่ยากอะไร”
จ้าวเฟิงพูดพึมพำ
ในกองกำลังเผ่าวิญญาณบรรพกาล คนเดียวที่เขามองไม่ทะลุปรุโปร่งก็คืออวี่เหิงคนนั้น น่าเสียดายที่การต่อสู้ก่อนหน้านี้ อีกฝ่ายไม่ยอมลงมือ
“ชายหนุ่มคนนั้นเป็นเผ่าวิญญาณบรรพกาลรึ?” จ้าวเฟิงถามขึ้นโดยพลัน
“ไม่ใช่!” ซินอู๋เหินทั้งหลายไม่แม้แต่จะคิด มั่นใจเป็นอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นศัตรูคู่แค้นของเผ่าวิญญาณบรรพกาล เผ่าเทพยักษ์ไวต่อกลิ่นอายสายเลือดของพวกเขาเป็นอย่างยิ่ง
จ้าวเฟิงสังเกตได้นานแล้วว่ากลิ่นอายสายเลือดบนร่างของชายหนุ่มลึกลับเลือนรางนัก ลึกลับเป็นอย่างยิ่ง
ในตอนนี้เอง อวี่เหิงไปรวมตัวกับครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสาม
แมลงที่ราวกับเกลียวคลื่นพุ่งทะยานมา แต่กลับถูกครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามทำลายกลายเป็นเศษธุลีอย่างง่ายดาย ต่อหน้าครึ่งก้าวสู่จอมเทพ แมลงพวกนี้ไม่ต่างอะไรกับมดปลวกเลย
วิชาคลื่นแมลงของกองทัพของเผ่าตั๊กแตนพิษ พลังล้างสังหารเป็นเรื่องรอง สิ่งที่น่ากลัวคือสิ้นเปลืองพลังอย่างมากเพื่อต่อกร
“ด้วยพลังของพวกเรา หากร่วมมือกันสุดพลังจะเอาชนะนางพญาแมลงก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องยากนัก เพียงแต่สิ้นเปลืองพลังมาก เหมือนว่าจะได้ไม่คุ้มเสียกระมัง”
เทพโบราณเมี่ยหลิวถามข้อสงสัย
อวี่เหิงยืนอยู่ตรงกลาง สั่งอย่างเรียบนิ่งว่า “รอให้เผ่าแมลงพ่ายแพ้เมื่อใด หยิบเอา ‘เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน’ ออกมาทันที”
อะไรนะ? ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามอึ้งตะลึง
เผ่าแมลงพ่ายแพ้? เอาเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมา? พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจความหมายของอวี่เหิง
“เช่นนั้น ถ้าเกิดพวกเราเอาชนะเผ่าแมลงได้ เสียพลังไปมหาศาล แล้วเผ่าเทพยักษ์ทั้งหลายตีย้อนโจมตีกลับมาจะทำเช่นไร?”
เทพโบราณหานอวี้ไม่ค่อยพอใจนัก
อวี่เหิงนี่บ้าคลั่งเกินไปแล้ว หรือจะไม่รู้ว่าการเอาชนะเผ่าแมลงต้องจ่ายค่าตอบแทนเช่นไร?
“ข้อหนึ่ง ข้าลงมือก็เพียงพอแล้ว ข้อสอง พวกมันไม่กล้าหรอก”
ใบหน้าของอวี่เหิงค่อยๆ หมดความอดทน
เจ้าคนเดียว?
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพททั้งสามกายใจสั่นสะท้าน จากนั้นก็รู้สึกอยากหัวร่อ
“จุดสะเพร่าเดียวคือเจ้านั่นมีความเร็วระดับสูงสุดใน ‘มิติอาณาจักรเทพ’ แห่งนี้”
อวี่เหิงพึมพำ
ความเร็วระดับสูงสุดนี้จัดการยากจริงๆ ตามแผนการเดิมของเขา ตนเองและคนอื่นๆ โจมตี ฝั่งเผ่าเทพยักษ์จะต้องล่าถอยไปแน่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะเลือกโจมตี ทั้งยังคิดหยั่งเชิงฝีมือของอวี่เหิง
เช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่อาจออกห่างจากเขตป้อมปราการเก่า เพราะแค่เพียงกลิ่นอายพลังเปิดเผย เผ่าแมลงก็จะรับรู้ได้ทันที
สุดท้าย ประสาทสัมผัสการดมกลิ่นของนางพญาแมลงน่ากลัวกว่าที่คิดเอาไว้นัก
ชั่วขณะนั้น
กองกำลังเผ่าวิญญาณบรรพกาลตกเป็นเบี้ยล่างที่ถูกล้อมหน้าหลัง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขามีเพียงต้องเปิดเผยตื้นลึกหนาบางที่แท้จริงบางอย่างออกไปบ้าง
“พวกเจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด”
อวี่เหิงยกมือขึ้นเล็กน้อย กลิ่นอายเก่าแก่แปลกประหลาดกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากร่าง
ในระหว่างนี้ ผิวกายของเขาปรากฏลวดลายโบราณขึ้นชั้นหนึ่ง ลักษณะคล้ายเกล็ดปลา ทั้งยังคล้ายลายกระดองเต่า
“เป็นกลิ่นอายกลุ่มนั้น สังหาร!”
“ทำลายบ้านของข้า สังหารท่านแม่และท่านย่าของข้า ข้าสาบานไว้ว่าจะฉีกพวกเจ้าเป็นชิ้นๆ…” เสียงเย็นชาของนางพญาแมลงดังขึ้นมาจากในรังมหึมาที่อยู่ด้านหลังกองทัพแมลง
แมลงที่มากขึ้นเรื่อยๆ บินทะยานมา กระทั่งว่ารังมหึมานั่นทิ้งการโจมตีป้อมปราการเก่าแล้วบินมุ่งมาทางนี้ ฉากนี้ทำเอาครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามตกใจยกใหญ่
การโจมตีของพวกแมลงช่างบ้าระห่ำเกินไปแล้ว!
“มดปลวกฝูงหนึ่งจะขวางทางข้าได้?” รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาของอวี่เหิง จากนั้น ลายเส้นโบราณเรียบง่ายที่ปรากฏบนผิวกายของเขาหลบซ่อนลงไปทันใด
ในขณะเดียวกัน
“กลิ่นอายพลังนั่นสงบลงไปอีกแล้ว…”
ด้านหน้าป้อมปราการเก่า เสียงพึมพำต่ำทุ้มที่ดังมาจากเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน
กลิ่นอายกลุ่มนั้นทำให้เผ่าแมลงบ้าคลั่งที่สงบเสงี่ยมลงอย่างรวดเร็ว
ครั้นแล้ว อวี่เหิงยืนอย่างทะนงอยู่ที่เดิม แขนทั้งสองกางออกช้าๆ ทั่วร่างก่อกลิ่นอายบรรพกาลที่ล้ำลึกขึ้นมา กลิ่นอายบรรพกาลกลุ่มนั้นยิ่งสำแดงก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกทรงพลังหยิ่งทะนงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ครืน ฟิ้ว! กลิ่นอายสายเลือดที่ทรงพลังกลุ่มนั้นพุ่งสู่ท้องฟ้า พร้อมด้วยกระแสอากาศสีเงินทอง ทำให้ท้องฟ้าผืนนี้เริ่มสั่นไหวเบาๆ
แม้พวกจ้าวเฟิงอยู่ห่างไปไกลลิบ แต่ล้วนมองเห็นกลิ่นอายสายเลือดบรรพกาลที่ทรงพลังกลุ่มนั้น
กลิ่นอายสายเลือดกลุ่มนั้นอยู่ตรงกลาง ถูกล้อมรอบด้วยกระแสอากาศเงินทองสองสาย ขับเน้นร่างเทพมารบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
วู้ม! ภาพร่างเทพมารบรรพกาลประทับเข้าไปในร่างของอวี่เหิง ยิ่งทำให้ดูสมจริงขึ้นอีก
ใบหน้า ร่างกาย และเส้นผมไรขนของอวี่เหิงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า และยิ่งเหมือนภาพร่างเทพมารบรรพกาลขึ้นเรื่อยๆ
เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่างของอวี่เหิงขยายถึงสิบจั้ง กระแสลมสีเงินทองสอดประสาน กระจายกลิ่นอายบรรพกาลกวาดไปทั่วทุกทิศอย่างหยิ่งผยอง
“เกิดอะไรขึ้น!”
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามหายใจลำบาก ร่างกายและสายเลือดสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
ขณะนี้ แม้กระทั่งความคิดที่จะปลดปล่อยพลังของพวกเขาก็ยังเกิดขึ้นได้ยาก
เผ่าเทพยักษ์ทั้งหลายที่อยู่ห่างไปไกลมีสีหน้าหวาดกลัว ลึกลงไปในสายเลือดเกิดความรู้สึกยอมศิโรราบและหวาดกลัวขึ้นมาเอง
“นี่มันคือสายเลือดอะไรกัน?”
จ้าวเฟิงรู้สึกว่าร่างกายและสายเลือดไม่อยู่ในการควบคุม แม้กระทั่งพลังเทพรวมศูนย์ในกายก็ยังปั่นป่วนไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่ใช่เพียงแต่ร่างกาย แม้กระทั่งดวงตาเทพเจ้าก็ยังสั่นไหวไม่หยุด
ใจกลางพลังดั้งเดิมของดวงตาเทพเจ้า พลังดั้งเดิมสีเงินมายาสั่นไหว ร้อนรนเป็นอย่างยิ่ง
“ทำไม…” มือทั้งสองของจ้าวเฟิงกุมหัวไว้ รู้สึกได้ถึงความรู้สึกสับสนที่ทะลุผ่านวิญญาณ
กลิ่นอายบรรยากาศที่น่ากลัวแผ่กระจายไปในฟ้าดิน
แมลงมากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่ใกล้ๆ ข้างหลังอวี่เหิง แต่ละตัวสั่นเทิ้ม ล้มลุกคลุกคลานไปบนพื้น
ครืน ตูม! รังมหึมาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าร่วงหล่นลงมา ฝุ่นธุลีตลบฟุ้งไปหมด
“เป็นไปได้อย่างไรกัน…” เสียงหวาดกลัวของนางพญาแมลงก้องไปทั่วฟ้าดิน
เผ่าแมลงที่อยู่ในอันดับสิบของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ เมื่ออยู่ต่อหน้ากลิ่นอายกลุ่มนั้นยังต้องหวาดผวาไม่เป็นสุข
ขณะเดียวกัน
หน้าเศษซากป้อมปราการเก่า เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง “เป็นไปไม่ได้! นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ตอนนี้เป็นยุคของเนตรเทพเจ้า มันปรากฏออกมาได้อย่างไร!”
“กำราบหมื่นเผ่าพันธุ์!”
เทพมารบรรพกาลที่แปลงกายจากอวี่เหิงสาดประกายแสงเงินทองที่มืดหม่น ปากเปล่งเสียงก้องสะท้านภพอย่างเนิบช้า
เสี้ยวขณะนั้น
ฟ้าดินคำราม สรรพสิ่งที่สืบสายด้วยสายเลือดทั้งหมดประสานเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว
โพละ! โพละ! โพละ!…
แมลงนับล้านระเบิดตัวเองตายภายใต้พลังสายเลือดที่กำราบหมื่นเผ่าพันธุ์
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก…”
เผ่าพันธุ์ปีศาจที่ซ่อนอำพรางอยู่ใต้ดินบางตนยากที่จะรอดพ้นจากเคราะห์ อย่างเบาเลือดก็ไหลออกจากทั้งเจ็ดทวาร อย่างหนักก็ตัวระเบิดมอดม้วยไป
ครืน!
มิติสั่นไหว ราวกับว่ามีระลอกคลื่นโลหิตหอบม้วนทุกสรรพสิ่ง
อั้ก! อั้ก! เทพโบราณพั่วเยวี่ยและเทพโบราณหวาไฉ่ที่อยู่ห่างออกไปไกลลิบต่างกระอักเลือด ถึงขนาดครวญครางออกมา
นี่เป็นถึงเผ่าเทพยักษ์ สายเลือด พลัง และร่างกายแข็งแกร่งไร้เทียมทาน อีกทั้งสองคนล้วนเป็นขั้นเทพโบราณ
“กำราบหมื่นเผ่าพันธุ์? มีเผ่าพันธุ์อะไรที่มีพลังถึงเพียงนี้…”
ปราณในกายของจ้าวเฟิงโหมซัดจนเกือบกระอักเลือดเช่นกัน โชคดีที่พลังเทพรวมศูนย์ของเขาทรงพลัง รากฐานเทพมั่นคง ทั้งยังมีชุดคลุมมิติคอยปกป้อง
มีเพียงครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามข้างกายอวี่เหิงเท่านั้นที่ไม่เจอผลกระทบจากการ ‘กำราบหมื่นเผ่าพันธุ์’
“น่ากลัวเกินไปแล้ว!”
ครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสามสูดลมหายใจเย็น สายเลือดในกายสั่นเทิ้มอยู่ตลอด แทบจะสูญเสียการควบคุมไป
รอบด้าน เวลาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ แมลงหลายร้อยล้านที่เหลืออยู่ตายลงหลายสิบล้านทุกวินาที จะต้านทานการกำราบสายเลือดที่ไร้รูปร่าง หนึ่งคือต้องมีสายเลือดสูงส่ง สองคือต้องมีพลังฝึกตนสูง
แมลงทั่วไปจะมีสายเลือดและพลังฝึกตนเท่ากับเทพแท้จริงทั่วไปเท่านั้น เพียงแค่การกดดันสายเลือดก็ทำให้พวกมันตัวระเบิดตายได้แล้ว
“ไสหัวไป!” อวี่เหิงยื่นมือออกไปช้าๆ แสงเทพสีเงินทองที่น่าพรั่นพรึงพุ่งทะลุท้องฟ้า ก่อนเข้าประชิดรังนางพญาแมลงทันที
เสี้ยวขณะนั้น
การโจมตีของเขาฉีกทึ้งเสวียนอ้าวเวลาของพื้นที่แห่งนี้ แม้แต่การควบคุมต่างๆ ก็ยังซัดออกไปไกลหลายพันลี้
นางพญาแมลงกรีดร้องเสียงแหลม รังมหึมากลายเป็นศูนย์ไปทันใด แมลงหลายร้อยล้านที่แตกกระสานซ่านเซ็นกระโดดมุดหนีไปทั่วทิศ
แซ่ก! แซ่ก! แซ่ก!
เพียงสิบกว่าลมหายใจ แมลงทั้งหมดต่างถอยทัพ หายไปโดยไร้ร่องรอย เหลือเพียงซากแมลงกองพะเนินอยู่ที่เดิม
ในฟ้าดิน ทุกสรรพสิ่งเงียบสงัด
เสี้ยวขณะนี้ ทั่วทั้งฟ้าดินราวกับมีเพียงผู้เดียวที่หลงเหลืออยู่
กวาดมองอย่างหยิ่งยโส มีเพียงข้าที่เป็นใหญ่!
ทุกการเคลื่อนไหวของอวี่เหิง ทุกๆ ความคิด ล้วนทรงพลังและทำลายทุกสิ่ง
เสี้ยวขณะนี้เขาไม่ใช่ร่างมนุษย์ ไม่ใช่ร่างเทพแท้จริงหรือเทพโบราณเช่นกัน แต่แปลงเป็นร่างเทพมารบรรพกาล
“เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน เจ้าใช้กฎเกณฑ์ดั้งเดิมไปมาก เกรงว่าจะไร้แรงต้านทานข้าแล้ว”
ฝีก้าวของอวี่เฟิงช้าลง เดินไปยังป้อมปราการเก่า
ด้านหน้าป้อมปราการแห่งนั้น
เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนสั่นไหวเล็กน้อย แต่ไม่ยอมศิโรราบ พูดพึมพำว่า “แผนการคืนชีพเผ่าพันธุ์บรรพกาลงั้นรึ?”