บทที่ 1395 จ้าวเฟิงปะทะอวี่เหิง
จากที่ไกลๆ มู่กู่ ซินอู๋เหิน และพวกอวี่เหิงที่กำลังหลบหนีและไล่ล่าก็ตะลึงไปทันที
“เมื่อครู่มันเกิดอะไรขึ้น?” เทพโบราณหานอวี้ถามขึ้นอย่างตกใจ
เมื่อครู่จ้าวเฟิงเพิ่งจะฟื้นคืนสติ ไม่มีกำลังรบ และการโจมตีของเทพโบราณเมี่ยหลิวก็ใกล้จะสังหารเขาได้แล้ว แต่จู่ๆ สายธารทำลายล้างดำทมิฬที่ไม่สิ้นสุดสายนั้นกลับหายไปไร้ร่องรอย จากประสบการณ์ของเทพโบราณหานอวี้ นางไม่อาจเข้าใจได้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“มู่กู่ ข้าบอกแล้วใช่ไหม เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดา!” เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนส่งกระแสจิตพูดขึ้น
“ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” แม้กระทั่งมู่กู่ก็ยังค่อนข้างสับสน
เมื่อครู่เขากำลังถูกไล่สังหาร ไม่ได้สนใจสถานการณ์ของจ้าวเฟิงทางนั้นนัก
“ตาของเจ้านี่…” สายตาของอวี่เหิงเคร่งเครียดเกินจะเปรียบ
เมื่อครู่ตอนที่จ้าวเฟิงสำแดงวิชาดวงตาสลายการโจมตีของเทพโบราณเมี่ยหลิว สายเลือดบรรพกาลของเขาสั่นสะท้านเบาๆ อีกครั้ง
เผ่าบรรพกาลเป็นถึงสายเลือดอันดับหนึ่งในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ การสั่นสะท้านที่ประหลาดเช่นนี้ทำให้ใจของอวี่เหิงไม่สงบ คิดอยากจะกำจัดจ้าวเฟิงทิ้งทันที
……
หลังจากใช้พลังดั้งเดิมสลายการโจมตีของเทพโบราณเมี่ยหลิวแล้ว จ้าวเฟิงรู้สึกสมองปลอดโปร่งขึ้นมาก
ความรู้สึกปวดหนึบวิงเวียนกำลังหายไปอย่างรวดเร็ว ความคิดของเขาก็ค่อยๆ ฟื้นคืนปกติ มองไปแล้วกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก
“บางทีอาจเป็นเพราะในมิติดั้งเดิมสะสมพลังดั้งเดิมไว้มากเกินไป ตอนนี้ปลดปล่อยออกไปเลยดีขึ้นเยอะ…”
จ้าวเฟิงได้ข้อสรุปดังนั้น
หากเป็นเช่นนี้จริง วิชาดวงตากระบวนท่าที่เขาสำแดงเมื่อครู่ก็ใช้พลังดั้งเดิมไปมากถึงเพียงนั้นทีเดียว แต่ว่าพลังของมันก็สมกับค่าตอบแทนที่จ่ายไป
“เรียกว่า ‘เนตรเทพมายาทำลายล้าง’ ก็แล้วกัน!”
มุมปากของจ้าวเฟิงยกยิ้มบางๆ
ประสิทธิภาพของวิชาดวงตานี้มีส่วนคล้ายกับเนตรเทพแยกส่วน แต่พลังต่างกันราวฟ้ากับดิน
“เป็นไปไม่ได้!” ไม่ไกลนัก เทพโบราณเมี่ยหลิวร้องคำราม ทั้งยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ
“หึ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้!” จ้าวเฟิงแค่นเสียงเย็น ปีกแสงสีทองคู่หนึ่งงอกออกมาจากข้างหลัง
ตอนนี้เขาฟื้นคืนสภาพอย่างสมบูรณ์แล้ว พลังทั้งหมดใช้ได้ดั่งใจปราถนา
ฟิ้ว! เขาแปลงเป็นลำแสงว่องไวสายหนึ่ง พุ่งประชิดไปยังเทพโบราณเมี่ยหลิวทันที
ถึงแม้จะอยู่ในค่ายกั้นเวหา แต่จ้าวเฟิงไม่อาศัยเสวียนอ้าวมิติ ความเร็วก็ยังคงสูงเป็นที่สุด
“หมัดเทพรวมศูนย์!”
จ้าวเฟิงรวบรวมพลังเทพ แล้วซัดหมัดแสงรวมศูนย์สีเงินเข้มสายหนึ่งออกไป
รอบด้านของหมัดแสงนี้มีกลุ่มพลังกัดกินที่แปลกประหลาดชั้นหนึ่ง มันกลืนกินพลังเวลาในฟ้าดินตามรายทางมาเพิ่มอานุภาพให้กับตน
หมัดนั้นไม่อาจหลบหลีกได้เลย
เพราะว่าภายใต้เสวียนอ้าวเวลา หมัดดังกล่าวเพิ่มความเร็วถึงระดับสูงสุด ทำให้เทพโบราณเมี่ยหลิวรู้สึกเหมือนภาพลวงตา
พลั่ก ครืน~ เทพโบราณเมี่ยหลิวถูกหมัดหนึ่งซัดลอยไป เลือดไหลออกจากมุมปาก
“เจ้าหนุ่ม ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” เทพโบราณเมี่ยหลิวเช็ดคราบเลือด มองไปอย่างโกรธแค้น
เขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงที่อ่อนแอเป็นอย่างยิ่งเมื่อครู่ เพียงชั่วประเดี๋ยวก็ฟื้นสู่สภาพปกติ ก่อนจะโจมตีเขาจนรับมือไม่ทัน
ในตอนนี้เอง
เหมียว~
เงาแมวปราดเปรียวตัวหนึ่งโผออกมาจากเงาสลัวด้านล่าง มีดอักขระสีเงินเล่มหนึ่งวาดคมเย็นยะเยือกฟาดฟันไปยังเทพโบราณเมี่ยหลิว
ฉัวะ ฉึก!
คมเย็นยะเยือกสายนั้นฝังลงไปในท้องของเทพโบราณเมี่ยหลิว
ทันใดนั้น พลังที่หนาวเหน็บเป็นที่สุดแผ่ลามออกมา ทำให้สายเลือดและวิญญาณของเขาสั่นสะท้านอย่างอดไม่ได้
“เพลิงดวงตาอัสนีเทวะ!”
จ้าวเฟิงโคจรพลังอัสนีเทวะ รวมอัสนีเพลิงที่บิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่งขึ้นในชั่วพริบตาแล้วโจมตีออกไป
ครืน ฉัวะ!
ไฟอัสนีเผาไหม้ชั้นวิญญาณของเทพโบราณเมี่ยหลิว
เสี้ยวขณะนี้ เหมันต์และอัสนีเพลิงต่างส่งผลกระทบบนร่าง ทำเอาใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ฉายแววเจ็บปวด
เขาที่แต่เดิมร่างก็มีบาดแผลอยู่แล้ว พอถูกจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยโจมตีติดๆ ก็ยิ่งอ่อนแอมากขึ้น
วูบ! ในตอนนี้เอง เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่บินตามมา โจมตีเทพโบราณเมี่ยหลิวทันที
“ผนึกกำลังสังหารคนคนนี้ก่อน!” จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตพูด
สังหารครึ่งก้าวสู่จอมเทพคนหนึ่งให้ได้ก่อนถึงจะพลิกสถานการณ์ได้
“ไม่ พวกเจ้า…” เทพโบราณเมี่ยหลิวรีบร้อนหลบหนีไปพร้อมกับบาดแผล
“แย่แล้ว หากเป็นแบบนี้ต่อไป เทพโบราณเมี่ยหลิวเขา…”
สีหน้าของเทพโบราณหานอวี้พรั่นพรึงเล็กน้อย หลังจากที่จ้าวเฟิงฟื้นคืนสติก็ทำให้คนอื่นมองความผิดปกติไม่ออก ทั้งยังมีแมวขโมยน้อยที่เจ้าเล่ห์เพทุบายนั่นอีก ยิ่งเมื่อรวมกับเทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่แล้วละก็
เป็นไปได้เป็นมากว่าเทพโบราณเมี่ยหลิวจะตายอยู่ที่นี่
“ดี สถานการณ์กำลังพลิกผันแล้ว!”
ใจของมู่กู่ค่อนข้างตื่นเต้นยินดี มองไปยังจ้าวเฟิงมากยิ่งขึ้น
“ส่วนพลังสายเลือดของอวี่เหิงก็อ่อนแอลงไปไม่น้อย น่าจะยืนหยัดต่อไปได้ไม่นานเท่าไหร่!” ซินอู๋เหินก็แอบคาดเดาเช่นกัน
“บัดซบ จ้าวเฟิง แมวความลับสวรรค์!” อวี่เหิงมีสายตาโกรธแค้น กัดฟันกรอด
หากไม่ใช่จู่ๆ จ้าวเฟิงคืนสติมา ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาคงจบทุกอย่างลงไปแล้ว
ขวับ! อวี่เหิงหยิบหลอดทดลองขนาดนิ้วมือขึ้นมาหลอดหนึ่ง ความคิดขยับเล็กน้อยก็บีบมันจนแตกออก
จากนั้นของเหลวสีเงินปนทองกลุ่มหนึ่งก็ไหลเข้าไปในปากของเขา
“แย่แล้ว!” สีหน้าของซินอู๋เหินเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ภาพฉากนี้เขาเคยเห็นที่ด้านนอกมาแล้ว แน่นอนว่าเขารู้ว่านี่หมายถึงอะไร
เสี้ยวขณะต่อมา
ครืน! ในร่างมหึมาของอวี่เหิงก็ปะทุพลังสายเลือดแข็งแกร่งที่สยบทั่วทุกทิศ ทำให้สภาพของเขาเหมือนฟื้นฟูถึงระดับสุดยอดอีกครั้ง
เทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่ายที่อยู่ข้างๆ อวี่เหิง วิญญาณและสายเลือดโดนกดดันเป็นอย่างยิ่ง คล้ายว่าจะทรุดตัวลงหมอบเคารพ
วู้ม ฟิ้ว ฟิ้ว! อวี่เหิงยกสองมือขึ้น เส้นแสงสีเงินทองแต่ละเส้นกระจายออกมา แผ่กลิ่นอายอันตรายที่ทำให้ผู้คนใจสั่น
“เกิดอะไรขึ้น? พลังสายเลือดฟื้นฟูขึ้นแล้ว!”
มู่กู่เผยสีหน้าตกใจ
“ไม่ดีแล้ว มันก็สังเกตได้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ ท่าทางคิดจะจบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว!” ซินอู๋เหินกลัดกลุ้มใจยิ่ง
ตอนนี้พลังสายเลือดของอวี่เหิงฟื้นคืนสู่ช่วงรุ่งเรืองที่สุด เหมือนกำลังเตรียมสำแดงเคล็ดวิชาลับอะไร
พลังของเผ่าบรรพกาลเดิมก็แข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครเทียบเคียงได้ หากใช้พลังกลุ่มนี้สำแดงวิชาลับที่แข็งแกร่ง เกรงว่าเขาและมู่กู่ก็ยากจะต้านทานได้
“คมเวลาพิฆาต!”
“ดัชนีเทพยักษ์!”
ในช่วงเวลาคับขัน ทั้งสองต่างปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลัง พยายามขัดจังหวะอวี่เหิง หรืออย่างน้อยก็ลดพลังสายเลือดของฝ่ายตรงข้ามลง
ครืน บึ้ม ตูม!
การโจมตีของครึ่งก้าวสู่จอมเทพทั้งสองปะทะไปบนร่างของอวี่เหิงไม่หยุด
อวี่เหิงก็คาดการณ์ถึงจุดนี้ไว้ได้ จึงกระตุ้นกายเทพมารบรรพกาลเอาไว้นานแล้ว และฝืนต้านทานทั้งหมดนี้ไว้
วู้ม วู้ม!
กะโหลกสีเงินปนทองขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองของอวี่เหิง มันแผ่กระจายกลิ่นอายบรรพกาลที่สะเทือนทั่วฟ้า
“นี่คืออะไร…”
เทพโบราณหานอวี้และเทพโบราณอวี้ห่ายสั่นเทิ้มอย่างอดไม่ได้
ในยามที่มองไปยังดวงตาทั้งสองของกะโหลกสีเงินทองขมุกขมัวนั่น พวกเขาราวว่ารู้สึกมีเทพมารชั้นยอดจากดึกดำบรรพ์ตนหนึ่งก้มมองลงมา
“ไม่ได้การ กระบวนท่านี้พวกเรายากที่จะต้านทานเอาไว้ได้!”
สีหน้ามู่กู่เปลี่ยนไปทันใด
ยามที่อวี่เหิงหลอมรวมกระบวนท่านี้ ในใจของเขาก็เกิดความหวาดกลัว
“หนี!”
ซินอู๋เหินก็รู้สึกถึงพลังน่าหวาดกลัวที่แฝงอยู่ในกะโหลกสีเงินทองเช่นกัน
ฟุ่บ ฟุ่บ! พวกเขาทั้งสองหนีไปไกลทันที
หากอยู่ห่างออกไปไกลจะสามารถลดพลังโจมตีไปได้ระดับหนึ่ง ถึงตอนนั้นพวกเขาสองคนลงมือสุดกำลัง บางทีอาจจะต้านทานเอาไว้ได้
“ฮ่าๆ โง่เง่า!”
อวี่เหิงเห็นมู่กู่และซินอู๋เหินหลบหนีไป กลับเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม
ครืน! สองฝ่ามือของเขาพลันซัดออกไป แต่เป้าหมายไม่ใช่ซินอู๋เหินและมู่กู่ แต่เป็นจ้าวเฟิง
“ติดกับแล้ว!” มู่กู่และซินอู๋เหินตื่นตะลึง
ที่แท้เป้าหมายของอวี่เหิงไม่ใช่พวกเขาสองคน แต่เป็นพวกจ้าวเฟิงที่อยู่อีกฝั่งของสนามต่อสู้
ด้วยพลังที่น่ากลัวของเคล็ดวิชาลับอวี่เหิง เกรงว่าจะสังหารทำลายทุกอย่างที่สนามรบฝั่งนั้นได้เพียงชั่วพริบตา
ครืน! ฟ้าดินสั่นไหวโดยพลัน พลังทำลายล้างที่ไม่มีอะไรเทียบได้กลุ่มหนึ่งโจมตีมายังจ้าวเฟิง เทพโบราณเมี่ยหลิว และเทพโบราณเฉิงอวิ๋น ทำให้สายเลือดทั่วร่างสั่นสะท้าน ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้
เสี้ยวขณะต่อมา กะโหลกสีเงินทองตรงดิ่งเข้ามา มันอ้าปากกว้าง แผ่แรงดึงดูดที่ทรงพลังหาใดเปรียบออกมา ตอนนี้ทุกคนแค่ต้านทานแรงดูดนี้ก็ลำบากยิ่งแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องหลบหนีเลย
“แย่แล้ว!” เทพโบราณเฉิงอวิ๋นสั่นสะท้าน
กระบวนท่านี้ของอวี่เหิงน่าหวาดกลัวนัก ทำลายฟ้าบดขยี้ดิน ไม่อาจหลบหลีกได้เลย
“ไม่…” เทพโบราณหวาไฉ่เผยสีหน้าสิ้นหวัง
ตอนนี้นางรู้สึกว่าตนราวกับมดปลวก ใกล้จะถูกหินก้อนมหึมาบดขยี้ ไม่มีทางหนีรอดเลยแม้แต่น้อย
“ชัยชนะยังคงเป็นของข้า!” อวี่เหิงหัวเราะเสียงเย็น
กระบวนท่านี้ของเขาสามารถสังหารจ้าวเฟิง เทพโบราณเฉิงอวิ๋น เทพโบราณหวาไฉ่ หรือกระทั่งแมวความลับสวรรค์ไปได้ทันที
หลังจากกำจัดคนอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว ซินอู๋เหินและมู่กู่ที่เหลืออยู่ก็ไม่ใช่ปัญหาเลย
“กระบวนท่าแข็งแกร่งเช่นนี้…” สีหน้าของจ้าวเฟิงตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง
“เนตรเทพมายา…ทำลายล้าง!”
แววตาเขาฉายแววสิ้นหวัง เหนี่ยวนำพลังดั้งเดิมในมิติเนตรเทพเจ้า
การโจมตีของอวี่เหิงแข็งแกร่งทรงพลัง ไม่มีใครต้านทานได้ แต่กระบวนท่านี้ของจ้าวเฟิงเรียนมาจากเทพมารบรรพกาลในสนามรบรกร้าง มีพลังอัศจรรย์ที่ฝืนชะตาเปลี่ยนชีวิต ไยจะต้านทานอีกฝ่ายไม่ได้
วู้ม วู้ม!
ในมิติเนตรเทพเจ้า พลังดั้งเดิมขับเคลื่อนออกมาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งลูกทรงกลมสีเงินมายายังแผ่หมอกแสงมายาแต่ละชั้นไม่หยุด
ในตาซ้ายของจ้าวเฟิง สีสันเลือนรางดุจความฝันเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หมอกแสงมายาแต่ละสายหมุนวนตลบออกมา แทรกซึมเข้าไปในฟ้าดิน จากนั้นหายไปโดยไร้ร่องรอย
การเคลื่อนไหวของจ้าวเฟิงดึงดูดทุกคนที่อยู่ที่นั่นทันที เพราะเมื่อครู่ ก่อนหน้าที่การโจมตีของเทพโบราณเมี่ยหลิวจะหายไป ฝั่งจ้าวเฟิงก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“ฮ่าๆ ภายใต้ระดับขั้นเดียวกัน ต่อให้เป็นพลังของแปดเนตรเทพเจ้าก็ทำอะไรเผ่าบรรพกาลไม่ได้ เจ้าคิดจะต่อกรกับข้า? ฮ่าๆ…” อวี่เหิงพลันหัวเราะลั่น
จ้าวเฟิงไม่สนใจอวี่เหิง แต่รวมพลังดั้งเดิมอย่างบ้าคลั่ง
การโจมตีของอวี่เหิงไม่ธรรมดายิ่ง หากพลังดั้งเดิมน้อยเกินไปเกรงว่าจะไม่ได้ผล
ทันใดนั้น สรรพสิ่งในสายตาจ้าวเฟิงล้วนปกคลุมไปด้วยสีสันดุจความฝันอันวิจิตรพร่างพราย ราวกับแดนสุขาวดี ชวนให้ผู้คนหลงใหล
“พินาศ!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงเพ่งไปบนกะโหลกสีเงินทอง
วู้ม! พลังแปลกประหลาดกลุ่มหนึ่งปกคลุมไปบนกะโหลกที่เต็มไปด้วยสีสันดุจความฝัน ทั้งยังแทรกซึมเข้าไปไม่หยุดหย่อน
ครืน ตูม ตูม! เห็นแต่กะโหลกสีเงินทองอันใหญ่บดขยี้ตรงมา ใกล้จะกลืนกินทุกสิ่งอยู่รอมร่อ แต่ฉับพลันนั้น กะโหลกนั้นส่งเสียงดัง ‘บึ้ม’ ก่อนกลายเป็นแสงมายานับไม่ถ้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ฟ้าดินที่แต่เดิมสั่นไหวเงียบสงัดไปทันที
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นและเทพโบราณหวาไฉ่ที่กำลังรอความตายมีเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมอย่างโง่งม สมองมึนงงไปชั่วขณะ
อวี่เหิงที่อยู่ไกลๆ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาอ้าปากค้าง สายตาอึ้งตะลึง สีหน้ายากจะเชื่อได้
“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้!”