บทที่ 1401 เสริมความแข็งแกร่ง
มิติเอกเทศในเศษซากป้อมปราการเก่า ทุกคนยืนอยู่ใต้ต้นไม้แห่งกาลเวลา มีสีหน้าตื่นตะลึงปนสงสัย
“เจ้าแมวขี้เกียจ แล้วยังมีเงาคนอีกคนหนึ่ง!”
จ้าวเฟิงตกสู่ห้วงภวังค์ไปชั่วคราว ตามหลักแล้วเจ้าแมวขี้เกียจต้องคอยตามปราชญ์ลิ่วอูจึงจะถูก
สิ่งที่ยิ่งน่าประหลาดก็คือ สตรีชุดขาวสูงส่งลึกลับคนนั้นมอบความรู้สึกคุ้นเคยให้จ้าวเฟิงอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เขาใจร้อนอยากจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่าย แต่น่าเสียดาย ตั้งแต่เริ่มจนจบ สิ่งที่สตรีสองนางนั้นทิ้งไว้ให้ทุกคนมีเพียงแค่ภาพด้านหลังเท่านั้น
“พวกนางไปแล้ว ไปจากมิติแห่งนี้แล้ว!” มู่กู่เอ่ยปากพูด
“ข้าอาศัยตราเทพบรรพกาลยังไม่อาจเปิดทางไปสู่โลกภายนอกได้ แต่พวกนางกลับจากไปได้เลย!” ในใจของซินอู่เหินตื่นตะลึง
“พวกนางรู้ช่องโหว่ของมิติแห่งนี้ อีกทั้งค่ายกลความลับสวรรค์นั้นยังมีระดับสูงมากอีกด้วย…” มู่กู่มีประสบการณ์มากมาย สายตาเฉียบคมมาก
“สตรีสองนางนั้นเป็นเผ่าความลับสวรรค์ ก่อนหน้านี้พวกนางน่าจะอยู่ที่นี่ เช่นนั้นทำไมพวกนางถึงจากไปแล้ว?”
เทพโบราณหวาไฉ่มีข้อสงสัยเต็มหัวไปหมด
หากสตรีทั้งสองคนนั้นคือเผ่าความลับสวรรค์ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นพวกเดียวกับอวี่เหิง
ตอนนี้อวี่เหิงดับดิ้น สตรีทั้งสองกลับไม่ได้มาล้างแค้น แต่ไปจากมิติแห่งนี้เลย
“เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่แน่ใจ แต่ข้ารู้อยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือค่ายกลแรกที่พวกนางทั้งสองและแมวความลับสวรรค์ตัวนั้นกระตุ้นช่วยสกัดกั้นคนภายนอกที่คิดจะบุกเข้ามาที่นี่!”
มู่กู่พูดอย่างเนิบช้า แม้กระทั่งตัวเขาเองยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง
“มันจะเป็นไปได้อย่างไร?” เทพโบราณหวาไฉ่ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากผ่านการต่อสู้ศึกใหญ่มา เผ่าแสงและเผ่าเทพยักษ์ต่างเชื่อมั่นและยอมรับกันและกัน ทั้งสองฝ่ายปรองดองกันมาก
“นายท่าน พูดเช่นนั้นแสดงว่าสตรีเผ่าความลับสองคนนั้นช่วยเหลือพวกเรา?”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นยากจะเชื่อได้
เผ่าความลับสวรรค์กลับช่วยพวกเขา
“หมายความว่าไม่มีอันตรายแล้ว?” เทพโบราณหวาไฉ่เผยสีหน้าลิงโลด
แต่เดิมมู่กู่บอกว่ามีคนนอกคิดจะบุกเข้ามา ทำให้ทุกคนเคร่งเครียดกันมาก หลังจากนั้น ทุกคนยิ่งพบกับสตรีที่คล้ายกับจะเป็นเผ่าความลับสวรรค์สองนาง แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นสตรีทั้งสองช่วยพวกเขาจัดการภัยอันตราย
“ไม่แน่ คนที่คิดจะบุกเข้ามาที่นี่แค่ถูกขัดขวางไว้เท่านั้น อาจจะมีการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปก็ได้!” มู่กู่สีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ้าง
“นายท่าน มีวิธีใดที่จะทำให้ต้นไม้แห่งกาลเวลาฟื้นคืนชีพขึ้นมาหรือไม่?”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นถามอย่างเคารพนบนอบ
ต้นไม้แห่งกาลเวลาคือศูนย์กลางของทั้งอาณาจักรเทพ ถ้าฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์ มู่กู่ก็จะสามารถควบคุมอาณาจักรเทพนี้ในเบื้องต้นได้ หากมีคนภายนอกคิดจะบุกเข้ามา แรงต้านทานของทุกคนก็จะสูงขึ้นมาก อีกทั้งถึงตอนนั้นมู่กู่ยังสามารถซ่อมแซมช่องโหว่ของอาณาจักรเทพได้อีก จะเพิ่มระดับความยากให้กับคนภายนอกอย่างมาก
“ข้าจะลองดู!” มู่กู่พยักหน้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หากเขาอยู่ในช่วงพลังสูงสุด คิดจะฟื้นคืนต้นไม้แห่งกาลเวลาก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยด้วยพลังของเขาในตอนนี้ อยากจะฟื้นคืนต้นไม้แห่งกาลเวลา ความเป็นไปได้ยังต่ำมาก แต่ก็ต้องลองดูสักครั้ง
“ทุกคน พวกเจ้าอยากจากไปเมื่อใด ข้าจะส่งพวกเจ้าออกไปเอง!”
จู่ๆ มู่กู่ก็หันหลังกลับมามองเผ่าเทพยักษ์และจ้าวเฟิง
จ้าวเฟิง ซินอู๋เหิน และเทพโบราณหวาไฉ่ต่างแสดงออกว่าอยากจะอยู่ที่นี่ไปอีกช่วงหนึ่ง
ในเมื่ออาการบาดเจ็บของพวกเขายังฟื้นสภาพได้ไม่สมบูรณ์ และที่นี่ยังเป็นสถานที่ชั้นยอดสำหรับฝึกฝนเสวียนอ้าวเวลา หากสามารถบรรลุเสวียนอ้าวเวลาได้ขั้นหนึ่ง พลังทั้งหมดจะยกระดับขึ้นสูงยิ่ง
“ดี พวกเจ้าคิดอยากจะออกไปเมื่อใด ก็บอกกับข้ามาได้เลย!” มู่กู่ยิ้มให้
ครั้งนี้อาณาจักรเทพของเผ่าแสงสามารถคงอยู่ต่อไป พวกเขามีชีวิตอยู่ต่อได้ ถึงอย่างไรก็ต้องขอบคุณจ้าวเฟิงและเผ่าเทพยักษ์
มู่กู่ย่อมไม่ได้ประโยชน์แล้วก็ไล่ทุกคนไปทันที
อีกทั้งเผ่าแสงตอนนี้ก็ต้องการพันธมิตร…
“ผู้อาวุโสมู่กู่ เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเป็นคนเผ่าเทพยักษ์…”
ซินอู๋เหินพูดถึงเรื่องของเทพโบราณเฉิงอวิ๋น เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเดิมคือคนของเผ่าเทพยักษ์ อยู่ขั้นแปดสุดยอด พรสวรรค์ก็ไม่เลว
ในตอนนี้เผ่าเทพยักษ์ยิ่งต้องการกำลังคนและกำลังรบที่แข็งแกร่ง หากสามารถเอาเทพโบราณเฉิงอวิ๋นกลับมาได้ย่อมดีที่สุด
“วิญญาณของคนคนนี้หลอมรวมกับข้าเป็นร่างเดียวแล้ว หากข้าออกไป วิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส รากฐานและศักยภาพจะสูญเสียไป…”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นพูดออกมาตรงๆ หรือพูดอีกอย่างก็คือ หากร่างดวงจิตออกไป เทพโบราณเฉิงอวิ๋นในตอนนี้ก็จะไม่ใช่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นคนก่อนแล้ว
“เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ถือว่าระหว่างข้าและเผ่าเทพยักษ์แลกเปลี่ยนกัน เทพโบราณเฉิงอวิ๋นเป็นของพวกเรา และพวกเราก็จะมอบทรัพยากรล้ำค่าให้พวกเจ้า ราคาของทรัพยากรเหล่านี้อย่างน้อยก็สามารถฝึกฝนเทพโบราณขั้นเก้าได้สองสามคน อย่างนี้เป็นเช่นไร?”
มู่กู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเสนอความคิด
ซินอู๋เหินและเทพโบราณหวาไฉ่ปรึกษากัน ถึงแม้การชดใช้ด้วยทรัพยากร พวกเขาจะเป็นฝ่ายยิ่งได้กำไร แต่เทพโบราณเฉิงอวิ๋นคือคนของเผ่าพวกเขา มีสายเลือดเผ่าเทพยักษ์ที่ไม่เลวเลย
“ใช่แล้ว ข้าได้รับข้อมูลบางอย่างจากความทรงจำของเขา เทพโบราณเฉิงอวิ๋นก่อนหน้านี้เหมือนจะไปมาหาสู่กับตำหนักวิญญาณบรรพกาลอย่างลับๆ!”
เทพโบราณเฉิงอวิ๋นพูดขึ้นอีกครั้ง
“อะไรนะ เทพโบราณเฉิงอวิ๋น?”
เทพโบราณหวาไฉ่ตะโกนอย่างตกใจทันที
ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัด
มิน่าเล่า ก่อนหน้านี้ที่ซินอู๋เหินเพิ่งได้ตราเทพบรรพกาล ตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็โจมตีมา ที่แท้เป็นเพราะเทพโบราณเฉิงอวิ๋นเป็นหนอนบ่อนไส้นี่เอง นอกจากนั้น เหตุที่คนของตำหนักวิญญาณบรรพกาลสามารถมาถึงยังมิติแห่งนี้ได้ บางทีอาจจะเกี่ยวกับเทพโบราณเฉิงอวิ๋นด้วย
“ตกลง!” ซินอู๋เหินตอบรับทันใด
ถึงแม้เขาจะอยากให้เทพโบราณเฉิงอวิ๋นฟื้นคืนกลับมาเหมือนเก่า แล้วส่งเขาให้คนในเผ่าลงโทษ แต่เทียบกับเรื่องนี้แล้ว การฟื้นฟูเผ่าเทพยักษ์ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งสำคัญกว่า
นอกจากนั้น หากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเผ่าแสง ดึงมู่กู่กำลังช่วยสำคัญคนนี้มาเป็นพวก ความมั่นใจของเผ่าเทพยักษ์ในการต่อกรกับตำหนักวิญญาณบรรพกาลก็จะยิ่งมากขึ้น
“ดี ผ่านไปอีกสองสามวัน ข้าจะส่งของไปถึงมือของพวกเจ้า!” มู่กู่พูดขึ้น
ครั้งนี้คุณูปการของเผ่าเทพยักษ์ไม่อาจลืมเลือนได้ แต่กลับไม่ได้รับประโยชน์มากเท่าใดนัก ดังนั้นมู่กู่จึงยื่นข้อเสนอนี้ออกมา ราคาของทรัพยากรที่มอบให้เกินกว่าเทพโบราณเฉิงอวิ๋นคนหนึ่งเสียอีก
“จ้าวเฟิง เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนเป็นของเจ้าแล้ว!” จากนั้นมู่กู่มองมายังจ้าวเฟิง
เมื่อเทียบกับจ้าวเฟิง ผลประโยชน์เล็กน้อยของเผ่าเทพยักษ์แทบจะไม่ต้องพูดถึงเลย
ซินอู๋เหินและเทพโบราณหวาไฉ่แววตาอึ้งตะลึง ค่อนข้างอิจฉาอยู่บ้าง
“ขอบคุณที่ช่วยเหลือ!” จ้าวเฟิงยิ้มน้อยๆ
“จ้าวเฟิง ตอนนี้เผ่าแสงยังมีเรื่องสำคัญอื่นอีก ข้าจะอยู่กับเผ่าแสงก่อน ในตอนที่เจ้าจะไปจากที่นี่ข้าค่อยติดตามเจ้า…”
เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนลอยมาอยู่เบื้องหน้าจ้าวเฟิงแล้วปรึกษาหารือกับเขา
“ได้!” จ้าวเฟิงคิดอยู่สักครู่ ก่อนจะตอบตกลง
ดูจากท่าทางของมู่กู่ เขาเหมือนไม่ได้ต้องการเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนมากนัก
ในเมื่อตัวเขาก็คือเผ่าแสง เชี่ยวชาญเสวียนอ้าวเวลาเป็นที่สุด เขาในช่วงสุดยอดแข็งแกร่งมากแน่นอน ไม่ได้ต้องการเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนประเภทเวลามากนัก แต่ดูท่าทางเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชน เหมือนจะไม่ค่อยยอมรับจ้าวเฟิงสักเท่าใด
ตลอดมาเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนล้วนอยู่เคียงข้างเผ่าแสง ช่วยฝ่าฝันอันตราย หากไม่ได้เกี่ยวพันกับความเป็นความตายของเผ่าแสง เศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนไม่มีทางตอบรับข้อเสนอของแมวขโมยน้อยแน่นอน
นอกจากนั้น ถึงแม้ภาพลักษณ์ของจ้าวเฟิงในสายตาของเขาจะเปลี่ยนไป แต่ก็ยังเทียบกับเผ่าแสงไม่ได้
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
มู่กู่และเทพโบราณเฉิงอวิ๋นนำเศษเสี้ยวอาวุธบรรพชนไปจากที่นี่
ส่วนจ้าวเฟิงและเผ่าเทพยักษ์คนอื่นๆ ปิดด่านต่อไป
ในชุดคลุมมิติ หนึ่งร้อยวันผ่านไปเพียงพริบตาเดียว จ้าวเฟิงฟื้นคืนสภาพถึงขั้นสุดยอด
ขวับ ขวับ~ คลื่นน้ำวนพลังดวงตาปรากฏขึ้นในอากาศ ของล้ำค่าหายากแต่ละอย่างค่อยๆ ปรากฏออกมา จำนวนมากถึงสี่สิบชนิด
นี่คือทรัพยากรสำหรับฝึกฝนที่จ้าวเฟิงลอกแบบไว้ในช่วงนี้
คุณค่าและระดับของทรัพยากรพวกนี้ไม่นับว่าสูงมาก จึงลอกแบบได้ค่อนข้างง่าย
“เสี่ยวเฮย ของพวกนี้เป็นของเจ้าทั้งหมด!”
จ้าวเฟิงส่งกระแสจิตเรียกมังกรวารีล้างโลกามา
ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบทรัพยากรฝึกฝนจำนวนมากออกมาจากในมิติเก็บของ แล้วมอบให้กับมังกรวารีล้างโลกาทั้งหมด
ทรัพยากรล้ำค่าที่จ้าวเฟิงดื่มกินตลอดมาล้วนเป็นของชั้นยอดทั้งสิ้น
ตอนนี้เขาเพิ่งจะทะลวงขั้น ไม่รีบร้อนยกระดับต่อ
ด้วยเหตุนี้ จ้าวเฟิงจึงตัดสินใจนำของล้ำค่าที่ตนไม่ได้ต้องการมากนักมาใช้บ่มเพาะมังกรวารีล้างโลกาทั้งหมด
“นี่…นี่มัน ขอบคุณนายท่านมาก!”
มังกรวารีล้างโลกาดวงตาเปล่งประกาย คุกเข่าลงทันที
ต้องรู้ว่า ส่วนมากทรัพยากรล้ำค่าสำหรับฝึกฝนพวกนี้ล้วนเป็นของล้ำค่าในอาณาจักรเทพเผ่าแสง เก่าแก่มากและหายากยิ่ง ตลอดชีวิตของมังกรวารีล้างโลกายังไม่เคยเห็นทรัพยากรหายากมากมายเช่นนี้เลย
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จสิ้น จ้าวเฟิงเตรียมปิดด่าน ทำพลังฝึกตนให้มั่นคง
แต่ในตอนนี้เอง
วู้ม วู้ม! คลื่นการโจมตีเวลาที่รุนแรงกลุ่มหนึ่งพาดผ่านไปในท้องฟ้า ทำให้มิติในชุดคลุมไม่มั่นคง
“เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวเฟิงออกจากชุดคลุมมิติทันที
เห็นเพียงมู่กู่และเทพโบราณเฉิงอวิ๋น ยืนอยู่ข้างหน้าต้นไม้แห่งกาลเวลา และเบื้องหน้าของพวกเขามีสมบัติที่สูงค่าเป็นอย่างยิ่งมากมาย
“ผลไม้แห่งชีวิต ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ผลึกเลือด…”
จ้าวเฟิงพึมพำด้วยความตกตะลึง ท่ามกลางของล้ำค่าชั้นเยี่ยมพวกนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เขารู้จัก
ผลไม้แห่งชีวิต แฝงด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากเผ่าพันธุ์สายเลือดอย่างเช่นเผ่าเทพยักษ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างกายใกล้จะถูกทำลาย กินผลไม้นี้ลูกหนึ่งก็จะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในทันที
ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ผลึกเลือดก็เป็นของล้ำค่าประเภทที่กระตุ้นระดับขั้นชีวิต เพิ่มความแข็งแกร่งร่างกาย ฟื้นฟูบาดแผลของกายเทพ นอกจากของล้ำค่าประเภทชีวิต ยังมีของล้ำค่าที่แฝงไว้ด้วยแก่นของเวลาไม่น้อย
วู้ม วู้ม! มู่กู่สำแดงเคล็ดวิชาลึกลับของเผ่าแสง ดึงเอาแก่นสารที่อยู่ในของล้ำค่าพวกนี้เข้าไปในต้นไม้แห่งกาลเวลา แต่แก่นสารที่ต้นไม้แห่งกาลเวลาดูดซึมไปไม่ถึงหนึ่งในหมื่นของแก่นสารทั้งหมด
และพอแก่นสารเล็กน้อยพวกนั้นเข้าไปในต้นไม้แห่งกาลเวลา ก็ราวกับก้อนหินที่จมลงสู่ทะเล ไม่เกิดผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้นสำหรับทะเลทั้งผืน
ฟุ่บ ฟุ่บ! ในขณะเดียวกัน เผ่าเทพยักษ์คนอื่นๆ ก็ตื่นตกใจ พากันมาปรากฏตัวที่นี่
ครั้นเห็นเหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่ามู่กู่คิดจะฟื้นคืนชีพต้นไม้แห่งกาลเวลา แต่สถานการณ์เหมือนจะไม่ราบรื่นนัก
ฟู่! หลังจากผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง มู่กู่ก็หยุดวิชาลับลง
“ด้วยพลังฝึกตนของข้าในตอนนี้ ยังห่างชั้นอีกไกลนัก!”
มู่กู่ทอดถอนใจเสียงต่ำ
ควบคุมอาณาจักรเทพไม่ได้ พวกเขาก็ต้องระวังผู้บุกรุกจากภายนอกอยู่ตลอด พูดได้ว่าทำอะไรก็ล้วนใจไม่เป็นสุข
“ให้ข้าลองดูก็แล้วกัน!” ทันใดนั้น เสียงของจ้าวเฟิงทำลายความเงียบ
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างมองมายังเขาอย่างตื่นตะลึง
“สหายจ้าว เจ้ามีวิธีรึ?” แม้กระทั่งซินอู๋เหินที่เชื่อมั่นใจตัวจ้าวเฟิงมาโดยตลอดก็ยังสงสัยนัก
หากพูดถึงความเข้าใจในต้นไม้แห่งกาลเวลา เผ่าแสงเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน
ตอนนี้มู่กู่ยังไม่มีวิธี แล้วจ้าวเฟิงจะมีวิธีอะไร?
เช่นเดียวกัน มู่กู่และเทพโบราณเฉิงอวิ๋นก็ไม่เชื่อ
แต่ควรรักษาม้าตายประดุจม้าเป็น[1] ในเมื่อจ้าวเฟิงอยากจะลอง ให้เขาลองดูก็ไม่เป็นไร
จ้าวเฟิงก้าวออกมายังเบื้องหน้าต้นไม้แห่งกาลเวลา ตาซ้ายโคจรขึ้นโดยพลันหมอกแสงมายาเป็นชั้นๆ หมุนวนออกมาจากตาซ้ายของเขาไม่หยุด เสี้ยวขณะต่อมา โลกเบื้องหน้าจ้าวเฟิงก็กลายเป็นสีสันตระการตาราวกับสรวงสวรรค์
……………………
[1] รักษาม้าตายประดุจม้าเป็น หมายถึง แม้ไม่มีหวัง แต่ก็ยังหวังว่าจะกอบกู้เรื่องนั้นๆ กลับมาได้ ถึงจะดันทุรังแต่ลองดูก็ไม่เสียหาย