บทที่ 1409 พลิกกลับมาโจมตี
“เป็นไปได้อย่างไร…” ชายวัยกลางคนส่งเสียงร้องน่าสังเวชออกมา
ตัวเป็นคนเผ่าเปลวทอง ระดับก็ขั้นเดียวกัน ไยจึงทะลวงการป้องกันร่างกายของเขาได้ง่ายดายเช่นนี้ อีกทั้งพลังเทพในกายของเขายังปั่นป่วน หลั่งไหลออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกการเคลื่อนไหวถูกดึงให้ช้าลง ไร้ซึ่งแรงต้านทาน
พรึ่บ ฉึก ฉึก! กระบี่เทพรวมศูนย์ในมือของจ้าวเฟิงหายไปจากในกายของชายวัยกลางคน จ้วงฟันไปมา
กลืนกิน ดูดซับ!
กระบี่เทพรวมศูนย์ในมือของจ้าวเฟิง พลังไม่เพียงแต่ไม่ลดลง กลับพุ่งพรวดขึ้น สนามพลังที่น่าสะพรึงกลัวฉีกกระชากชายวัยกลางคนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้กระทั่งวิญญาณก็แตกดับไปด้วย
ฉากที่พลันเกิดขึ้นทำลายบรรยากาศเมื่อครู่ ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน
เจ้าสำนักเทียนหลัวและสมาชิกสำนักเทียนหลัวที่แต่เดิมสิ้นหวังไปนานแล้วจ้องจ้าวเฟิงเขม็ง
“ขั้นแปดสุดยอดนั่นถูกจ้าวเฟิงสังหารไปแล้ว!”
เจ้าสำนักเทียนหลัวเอ่ยอย่างอึ้งตะลึง อย่างไรเขาก็คาดไม่ถึงว่าหลังจากเทพโบราณหลันหย่วนหนีไปแล้วจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
เกิดอะไรขึ้น? ขั้นแปดสุดยอดของเผ่าเปลวทอง ทำไมจู่ๆ ถึงถูกจ้าวเฟิงสังหารลงได้!”
สมาชิกที่เหลือตรงนั้นมีขอบเขตพลังฝึกตนค่อนข้างต่ำ ค่อนข้างยากจะเข้าใจเหตุการณ์เมื่อครู่
ตามหลักแล้ว หากคิดจะสังหารขั้นเดียวกันก็ยากลำบากอย่างยิ่ง แต่จ้าวเฟิงกลับทำได้อย่างง่ายดายเหลือเกิน
“ผู้เยาว์ เจ้าฆ่าเขา…”
ตอนนี้เทพโบราณอั้นยาตั้งสติกลับมาได้ ใบหน้าโกรธแค้น ในดวงตามีจิตสังหารเอ่อล้น
สถานการณ์ที่แต่เดิมจะได้รับชัยชนะ จู่ๆ กลับสูญเสียขั้นแปดสุดยอดไป อีกทั้งชายวัยกลางคนยังถูกฆ่าภายใต้สายตาของเขาอีกด้วย
“เฮ้อ ถึงแม้ขั้นแปดสุดยอดของอีกฝ่ายจะตาย แต่ยังมีเทพโบราณขั้นเก้าอยู่อีกคน!”
ในยามที่เจ้าสำนักเทียนหลัวมองไปยังเทพโบราณอั้นยา ใบหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นอีกครั้ง หากเทพโบราณหลันหย่วนไม่หนีไปแล้วละก็ พวกเขาสามคนร่วมมือกัน บางทีอาจจะโจมตีให้เทพโบราณอั้นยาล่าถอยไปได้
“พวกเจ้าเดินมาหาความตายเอง ไยข้าจึงไม่จะไม่สังหารเล่า?” จ้าวเฟิงมองยังเทพโบราณอั้นยา พลางหัวเราะเย็นชา
“ผู้เยาว์ เจ้ากำแหงเช่นนี้ เจ้าจะตายอย่างน่าอนาถ…” สายตาของเทพโบราณอั้นยาเพ่งมอง จ้องจ้าวเฟิงเขม็ง
สำหรับเขาแล้ว เหตุการณ์เมื่อครู่ประเด็นที่สำคัญเป็นเพราะชายวัยกลางคนประมาท รวมกับจ้าวเฟิงลอบโจมตี และใช้กระบวนท่าโจมตีถึงแก่ชีวิตที่แข็งแกร่ง แต่เขาเทพโบราณอั้นยาเผชิญหน้ากับศัตรู ไม่มีทางประมาท
ฟึ่บ! เงาดำเพียงกะพริบ เทพโบราณอั้นยาก็ประชิดเข้ามาใกล้จ้าวเฟิง หอกยาวในมือแทงออกไป
เปลวไฟทรงพลังสีน้ำตาลเข้มพวยพุ่งออกมาทันที
อีกทั้งในเปลวไฟสีน้ำตาลยังแฝงไว้ด้วยพลังมิติที่ปั่นป่วน ก่อกวนไปทั่วผืนฟ้า ทำให้จ้าวเฟิงไม่อาจสำแดงเคลื่อนมิติในชั่วพริบตาได้
พรึ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงทะลักลำแสงทองนับไม่ถ้วนออกมา ลากประกายสีทองอ่อนโชติช่วงหนีไปไกล
เปลวไฟสีน้ำตาลเข้มทะลุผ่านเสี้ยวเงาที่จ้าวเฟิงทิ้งไว้ ก่อนปะทะไปบนพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมไหม้เกรียมขนาดกว่าร้อยจั้งทันที
หลังจากที่การโจมตีพลาดเป้า เทพโบราณอั้นยาก็รีบไล่ตามไป หอกยาวในมือพุ่งออกไปติดๆ กัน เปลวเพลิงลุกโชนสีน้ำตาลเข้มกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าตัดขวางไปในห้วงรัตติกาล ทำให้ฝั่งศัตรูและตัวเองทั้งสองฝั่งหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง พากันถอยหลังไป
แต่จ้าวเฟิงเคลื่อนที่ไปมาท่ามกลางการโจมตีทั่วฟ้า กระบี่เทพรวมศูนย์ในมือประเดี๋ยวก็โจมตีออกมา เอาชีวิตของฝั่งศัตรูไปหลายคน เห็นได้ชัดว่าชำนาญเป็นอย่างยิ่ง
“เจ้าเด็กนี่ ต่อให้ไม่สำแดงประกายมิติก็ยังเร็วได้ถึงเพียงนี้!” สีหน้าของเทพโบราณอั้นยาคร่ำเคร่ง เขาที่เป็นเทพโบราณขั้นเก้า ด้านความเร็วยังห่างชั้นจากจ้าวเฟิงอีกไกลโข
เสี้ยวขณะนี้ จ้าวเฟิงราวกับว่าเมินเฉยต่อตัวตนของเทพโบราณอั้นยา สังหารสมาชิกเผ่าเปลวทองเต็มที่
“เยี่ยม! คิดไม่ถึงเลยว่าความเร็วของจ้าวเฟิงจะสูงถึงเพียงนี้!”
เจ้าสำนักเทียนหลัวตื่นตะลึง ราวกับมองเห็นความหวัง
สมาชิกทั้งหมดของสำนักเทียนหลัวเห็นเหตุการณ์นี้ก็ปลุกใจฮึกเหิมขึ้นมาใหม่ โจมตีไปอย่างเต็มที่
“อ๊าก! อ๊าก…” ท้องฟ้าเหนือสำนักเทียนหลัวมีเสียงร้องน่าสังเวชดังไม่ขาดสาย
ทุกครั้งที่ลำแสงสีทองในท้องฟ้าพุ่งผ่านไป ล้วนแต่ปลิดชีวิตคนสองคนไปพร้อมกับประกายโลหิตที่สาดกระเซ็น
เมื่อรวมกับการโจมตีของสมาชิกสำนักเทียนหลัว จำนวนคนเผ่าเปลวทองที่บาดเจ็บล้มตายพุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตา
“ย้าก…” แม้แต่เทพโบราณอั้นยาที่สุขุมสงบยังเต้นเร่าๆ โกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง
ตอนนี้เขาทำได้เพียงแต่มองจ้าวเฟิงปลิดชีพบริวารของตัวเองไปทีละคนกับตาตน
สิ่งที่ทำให้เขาไร้กำลังก็คือ จ้าวเฟิงเหมือนตั้งใจแกล้งเขา ทุกครั้งที่เขาใกล้จะตามทัน ความเร็วของจ้าวเฟิงก็พลันจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้พลังฝึกตนของจ้าวเฟิงจะผนึกไว้ที่ขั้นแปดสุดยอด แต่ทักษะและสำนึกรู้ที่ล้ำลึกยังคงอยู่ หากเขาไม่คิดจะแสดงฝีมือจนน่าตกใจเกินไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องประชิดตัวเลย เกรงว่าเทพโบราณอั้นยาจะถูกเขาสังหารไปอย่างง่ายดายนานแล้ว
“ฆ่า ฆ่าสมาชิกเผ่าเปลวทองให้สิ้นซาก!”
เจ้าสำนักเทียนหลัวอีกทั้งผู้นำระดับสูงทั้งหลายก็ฮึกเหิมออกรบตามจ้าวเฟิง สังหารไปอย่างเลือดร้อน
เผ่าเปลวทองคือศัตรูที่รุกรานสำนักของพวกเขา สังหารศิษย์สำนักเดียวกันของพวกตนไป อีกทั้งสังหารสมาชิกเผ่าเปลวทองยังได้คะแนนคุณูปการเป็นรางวัล สามารถแลกของล้ำค่าหายากที่ปกติยากจะได้มามากมาย จากการกระตุ้นของจ้าวเฟิง สำนักเทียนหลัวพลิกสถานการณ์ได้ทันที
ไม่นานนัก สมาชิกเผ่าเปลวทองที่เทพโบราณอั้นยานำมาก็ตายเกือบหมดแล้ว
และยังมีสมาชิกอีกไม่น้อยหนีเตลิดไป
“คิดไม่ถึงเลยว่าความเร็วของจ้าวเฟิงจะสูงเช่นนี้ แม้แต่เทพโบราณขั้นเก้าก็ยังห่างไกลนัก!”
เจ้าสำนักเทียนหลัวมองไปยังร่างที่เปล่งแสงสีทองอ่อน ในสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ เพราะความเร็วระดับสูงสุดของจ้าวเฟิงทำให้เทพโบราณอั้นยาทำอะไรไม่ได้สักนิด สำนักเทียนหลัวจึงพลิกกลับมาชนะได้ราวปาฏิหาริย์
“…แพ้แล้ว!” สีหน้าของเทพโบราณอั้นยาย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง
เขาอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์รบสุดท้ายจะเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้
ตอนนี้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เขานำมาเหลือเพียงเทพแท้จริงที่อ่อนแอจำนวนหนึ่งกับเทพโบราณขั้นเจ็ดคนหนึ่ง
ส่วนสมาชิกสำนักเทียนหลัวสูญเสียเพียงน้อยนิด แทบจะไม่ต้องนับเลย
“ล้อมสังหารเผ่าเปลวทอง!” จ้าวเฟิงคำรามลั่นทันที
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งขั้นเทพโบราณของสำนักเทียนหลัวทะยานออกไป
เทพแท้จริงทั่วไปฝั่งสำนักเทียนหลัวเริ่มวางค่ายกล บ้างก็วางเขตพลังป้องกันอีกครั้ง
ส่วนเจ้าสำนักเทียนหลัวดูแลค่ายกลปกป้องสำนัก ควบคุมมังกรยักษ์วาวระยับสีฟ้าอ่อนให้เข้าประชิดไปยังเทพโบราณอั้นยา
“พวกเจ้ารอก่อนเถอะ ครั้งหน้าข้าจะต้องเอาเลือดล้างสำนักเทียนหลัวอย่างแน่นอน!”
เทพโบราณอั้นยาคำรามเสียงแหบแห้ง ความอาฆาตแค้นในใจมากมายถึงขีดสุด
ขวับ! เทพโบราณอั้นยานำคนที่เหลือหนีไปทันที
“ข้าเคยพูดว่าจะปล่อยพวกเจ้าไปงั้นรึ?”
ในตอนนี้เอง ร่างของจ้าวเฟิงพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเทพโบราณอั้นยาพร้อมด้วยรอยยิ้มบางๆ ก้มมองลงมายังฝ่ายตรงข้ามจากเบื้องบน
“ผู้เยาว์ ถ้าข้าจะไปเจ้าก็ขวางไม่ได้!” เทพโบราณอั้นยาพูดเสียงต่ำ
สำหรับเขา จ้าวเฟิงก็เพียงแค่เร็วเท่านั้น หากพูดถึงพลังยังห่างชั้นกับเทพโบราณขั้นเก้าอยู่ระดับหนึ่ง
“เช่นนั้นก็ลองดู!” รอยยิ้มหยอกล้อปรากฏขึ้นที่มุมปากของจ้าวเฟิง ร่างเพียงกะพริบก็เข้าไปใกล้เทพโบราณอั้นยาแล้ว
วู้ม ฉัวะ! พลังเทพรวมศููนย์สีเงินขุ่นข้นก่อตัวเป็นกระบี่ยาวอย่างรวดเร็ว แล้วแทงออกไปทันที
ครืน บึ้ม! หอกของเทพโบราณอั้นยากวาดออกไป ทั้งสองประมือกันหลายกระบวนท่าอย่างรวดเร็วในท้องฟ้า แล้วจึงแยกจากกันอีกครั้ง
เทพโบราณอั้นยามีสีหน้าตื่นตะลึง กวาดตามองบาดแผลหลายทางบนร่าง ถึงแม้จะเล็กบางมาก แต่กลับทำลายการป้องกันร่างกายของเขาไปแล้ว
ขณะเดียวกัน เขายังรู้สึกว่าพลังในกายของเขาถูกจ้าวเฟิงดูดไปไม่น้อย
กระบี่เทพรวมศูนย์ในมือจ้าวเฟิงแผ่ระลอกพลังประหลาดออกไป มองไปแล้วอานุภาพยิ่งแข็งแกร่ง
“เป็นไปได้อย่างไร?” เทพโบราณอั้นยาตื่นตกใจ แม้กระทั่งการป้องกันร่างกายเทพโบราณขั้นเก้าของเขา จ้าวเฟิงก็ยังทำลายลงได้โดยง่าย?
ครืน! ในเวลาเดียวกัน เจ้าสำนักเทียนหลัวและเทพโบราณสำนักเทียนหลัวคนอื่นๆ ต่างพากันพุ่งมาสังหาร
เพียงชั่วพริบตา เทพโบราณอั้นยาก็ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม
“บัดซบ!” สีหน้าของเขาย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง ตกอยู่ในสภาพจนตรอก
ในตอนที่เขาเตรียมตัวจะสำแดงวิชารักษาชีวิตรอด ทันใดนั้นคลื่นแปลกประหลาดก็ทะลักขึ้นข้างหลังเขา
เสี้ยวขณะต่อมา!
กระบี่ยาวสีเงินเข้มทะลุออกจากหน้าอกของเขาพร้อมด้วยเลือดสีแดงทองมากมาย
ครืน! พลังแข็งแกร่งที่ปั่นป่วนวุ่นวายหอบม้วนไปยังร่างของเทพโบราณอั้นยาทันที
พลังทำลายล้างที่รุนแรงทำเอาเทพโบราณอั้นยาสัมผัสได้ถึงความตายที่มาเยือนในเสี้ยววินาทีนั้น
“นี่เป็นไปไม่ได้ พลังของเจ้า…”
สีหน้าของเขาตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง พลังที่จ้าวเฟิงสำแดงออกมาตอนนี้ ต่อให้เป็นเทพโบราณขั้นเก้าก็ยังเทียบไม่ได้
ท่าร่างและสำนึกรู้ที่ลึกล้ำ เคล็ดวิชากับพลังเทพที่แข็งแกร่ง อีกทั้งพลังเสวียนอ้าว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เทพโบราณขั้นแปดสุดยอดจะมีได้เลย แต่เทพโบราณอั้นยาที่รู้เรื่องพวกนี้ไม่มีโอกาสได้พูดออกมา
ฉึก ฉัวะ! กระบี่ยาวในมือจ้าวเฟิงสะบัดไป ฟันเทพโบราณอั้นยาแยกออกเป็นสองท่อนทันที
“ตายแล้ว?” สมาชิกทั้งหมดของสำนักเทียนหลัวมีสีหน้าอึ้งตะลึง
ถึงแม้เทพโบราณอั้นยาจะตกอยู่ในสภาพยากลำบาก แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก น่าจะยังมีไพ่ตายบางอย่างที่ยังไม่ได้สำแดงออกมา
แต่เสี้ยวขณะต่อมา จู่ๆ เทพโบราณอั้นยากลับถูกจ้าวเฟิงสังหาร
“กระบวนท่าเดียวปลิดชีวิต!” เจ้าสำนักเทียนหลัวใจสั่นสะท้าน
“เทพโบราณอั้นยา ขอบใจพลังเทพของเจ้าด้วย พลังเทพรวมศูนย์ของข้ามีอานุภาพเพิ่มขึ้นมาก!”
จ้าวเฟิงเอ่ยพร้อมยิ้มเรียบๆ
“ที่แท้พลังเทพของท่านจ้าวเฟิงเยี่ยมยอดถึงเพียงนี้ สามารถดูดซับพลังเทพของคนอื่นมาเพิ่มพลังให้กับตนเอง!”
“ท่านจ้าวเฟิงช่างสมกับที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
สมาชิกส่วนใหญ่ของสำนักเทียนหลัวต่างมองมาด้วยสายตาเคารพเลื่อมใส ลูกศิษย์สตรีแรกรุ่นจำนวนไม่น้อยยิ่งนับจ้าวเฟิงเป็นชายที่สมบูรณ์แบบในใจ นับจากแรกเริ่มจนถึงตอนนี้ พลังเทพรวมศูนย์ของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งขึ้นมาตลอด หลังจากที่ดูดซับพลังเทพของเทพโบราณอั้นยาแล้ว การโจมตีพลังเทพก็ยิ่งแกร่งขึ้นไปอีก
เมื่อรวมกับการล้อมโจมตีและตรึงกำลังของสมาชิกสำนักเทียนหลัวทั้งหลาย หลังจากจ้าวเฟิงสะสมพลังแล้วก็พลันลอบโจมตี เทพโบราณอั้นยาจึงดับดิ้นไปในทันใด ทั้งหมดดูไปแล้วเหมือนไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่มีเพียงเจ้าสำนักเทียนหลัวเพียงคนเดียวที่รู้สึกถึงสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ในยามที่เขามองจ้าวเฟิง ก็พลันรู้สึกว่าคนหนุ่มเบื้องหน้าราวกับห้วงฟ้าดวงดาวอันเวิ้งว้าง ลึกลับไม่อาจคาดเดาได้
“ครั้งนี้สามารถเอาชนะเผ่าเปลวทองได้อย่างราบรื่น ต้องขอบคุณความร่วมมือของสำนักเทียนหลัวทุกท่าน!”
จ้าวเฟิงหมุนตัวไปมองสมาชิกสำนักเทียนหลัวทั้งหลาย แล้วยิ้มพูดขึ้น
หลังจากการต่อสู้จบสิ้น ทั่วทั้งสำนักเทียนหลัวก็ยุ่งวุ่นวายกับการรวบรวมจำนวนคนบาดเจ็บล้มตาย ทั้งยังสร้างสำนักขึ้นใหม่
ส่วนจ้าวเฟิงกลับไปยังตำหนักของตัวเองแล้วปิดด่านฝึกตน
ออกรบครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องโดดเด่นเกินไปนัก
สงครามยังอีกยาวไกลนัก ต่อไปค่อยๆ เปิดเผยพลัง เมื่อระดับพลังฝึกตนและพลังที่แท้จริงเผยออกมาจะได้ไม่ถูกคนสงสัย อีกทั้งการกดพลังฝึกตนให้ต่ำแล้วเข้าต่อสู้ สำหรับจ้าวเฟิงก็คือการฝึกฝนอย่างหนึ่ง
เช้าวันที่สอง ทั่วทั้งสำนักเทียนหลัวก็ยังคงยุ่งวุ่นวาย
ทันใดนั้น ลำแสงสีขาวสองสายพลันตรงเข้ามา
เจ้าสำนักเทียนหลัวและสมาชิกบางส่วนจ้องมองไป เป็นเทพโบราณหลันหย่วนและเทพโบราณปิงหยวนนั่นเอง
เทพโบราณหลันหย่วนกล้ำกลืนฝืนใจ ลอยต่ำลงสู่สำนักเทียนหลัวอย่างเนิบช้า ส่วนเทพโบราณปิงหยวนที่อยู่ข้างๆ ใบหน้างามสง่าอับอายจนแดง แทบจะแทรกแผ่นดินหนี
“เมื่อคืนวานข้าเตรียมตัวไปหาคนมาช่วย คิดไม่ถึงว่าพวกเจ้าจะพลิกจากร้ายกลายเป็นดีได้!”
สีหน้าของเทพโบราณหลันหย่วนไม่เป็นธรรมชาติมาก พูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วน
ที่จริงแล้ว เทพโบราณหลันหย่วนและเทพโบราณปิงหยวนไม่ได้หนีไปไกลนักดังนั้นพวกเขาจึงรู้ในทันทีว่าสำนักเทียนหลัวโจมตีเผ่าเปลวทองจนล่าถอยไปแล้ว
“เทพโบราณหลันหย่วนต้องกังวลใจแล้ว!” เจ้าสำนักเทียนหลัวไม่ยินดียินร้าย
ในเมื่อเทพโบราณหลันหย่วนเป็นเทพโบราณขั้นแปดสุดยอดของเผ่าพันธุ์วิญญาณ ความสัมพันธ์ซับซ้อน เขาจึงไม่กล้าล่วงเกิน
แต่ก้นบึ้งในใจ เจ้าสำนักเทียนหลัวแค่นเสียงเย็นเหยียดหยาม ‘ไปขอความช่วยเหลือจำเป็นต้องพาลูกชายไปด้วยกันหรือ?’
ลูกศิษย์สำนักเทียนหลัวต่างทำสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่ได้พูดอะไร
ในตอนนี้เอง จ้าวเฟิงก็เดินออกมาพร้อมรอยยิ้มราบเรียบ มองไปยังพ่อลูกที่หนีไปในยามคับขัน
“จ้าวเฟิง เจ้าบอกหน่อยสิว่าเมื่อวานนี้พวกเจ้าพลิกจากร้ายให้กลายเป็นดี โจมตีเผ่าเปลวทองจนล่าถอยไปได้อย่างไร?”
เทพโบราณหลันหย่วนเพ่งสายตามองจ้าวเฟิง ก่อนถามขึ้นทันใด