บทที่ 1412 ครึ่งก้าวสู่จอมเทพมาเยือน
“เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าเด็กนี่คนเดียวสังหารเทพโบราณขั้นเก้าเผ่าเปลวทองได้?”
เทพโบราณหลันหย่วนยากที่จะเชื่อ
ในดินแดนเทพรกร้าง เรื่องการสังหารข้ามระดับมีให้เห็นไม่น้อย แต่ส่วนมากเป็นสายเลือดระดับสูงสังหารสายเลือดระดับต่ำ
เผ่าพันธุ์เช่นเผ่าเปลวทองที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ เรื่องเช่นนี้แทบจะไม่มีเกิดขึ้น ดังนั้นการกระทำของจ้าวเฟิงตอนนี้ ถึงได้ทำให้ผู้คนรอบด้านให้ความสำคัญและตื่นตะลึงเช่นนี้
เสียดายก็เพียงแต่เรื่องที่จ้าวเฟิงสังหารชายชุดดำได้อย่างไร ที่นั่นมีเพียงน้อยคนเท่านั้นที่เห็นขั้นตอนทั้งหมด
เทพโบราณหลันหย่วนร่วมมือกับเจ้าสำนักเทียนหลันก็ยังไม่ใช่คู่มือของเทพโบราณอั้นเมี่ย และกำลังอกสั่นขวัญแขวนอยู่ในการต่อสู้ แน่นอนว่ามองไม่เห็น
ส่วนสมาชิกสำนักเทียนหลัวที่เหลือเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งขั้นแปดสุดยอดสองคน หากไม่ได้อาศัยคนมาก เกรงว่าคงดับดิ้นทั้งหมดนานแล้ว คนที่เห็นก็น้อยมากเช่นกัน
ผู้ที่เห็นได้อย่างชัดเจนเพียงหนึ่งเดียว เกรงว่าจะมีแค่เทพโบราณอั้นเมี่ยและขั้นแปดสุดยอดที่เหลือสองคนของเผ่าเปลวทอง
“นี่ไม่ใช่เรื่องจริง…เขาฆ่าเทพโบราณขั้นเก้าเผ่าเปลวทอง!”
ขั้นแปดสุดยอดสองคนมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ก็ยังคงไม่กล้าเชื่อ
ระยะเวลาสั้นๆ ไม่ถึงสิบปี พลังฝึกตนจ้าวเฟิงก็ไปถึงขั้นแปดสุดยอด รากฐานพลังฝึกตนน่าจะไม่มั่นคงมากสิจึงจะถูก ไยจึงมีพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
“เจ้าเด็กนี่…มีอะไรซ่อนอยู่!” เทพโบราณอั้นเมี่ยแอบตกใจ
นับจากพวกเขาแฝงตัวเข้ามาที่นี่เพื่อเตรียมลอบโจมตี จนตอนนี้เปิดศึกอย่างดุเดือด
สีหน้าท่าทางของจ้าวเฟิงไม่มีคลื่นอารมณ์มากนัก
แต่ในยามที่เทพโบราณอั้นเมี่ยเตรียมถอยเมื่อครู่ จู่ๆ จ้าวเฟิงกลับสังหารชายชุดดำในกระบวนท่าเดียว ถึงแม้จะเป็นเพียงกระบวนท่าเดียว แต่เทพโบราณอั้นเมี่ยกลับสัมผัสกลิ่นอายวิญญาณที่แข็งแกร่งบนร่างของจ้าวเฟิงได้รางๆ
“ถอย!” เทพโบราณอั้นเมี่ยตะโกนทันใด ร่างถอยไปข้างหลัง
พลังของจ้าวเฟิงแข็งแกร่งเกินไป และพวกเขาสูญเสียเทพโบราณขั้นเก้าคนหนึ่ง หากอยู่ที่นี่ต่อก็เป็นไปได้มากว่าอาจจะพ่ายแพ้ยับเยิน
“ถอย?” เทพโบราณหลันหย่วนตะลึงอยู่กับที่
เขาร่วมมือกับเจ้าสำนักเทียนหลัวต่อสู้กับเทพโบราณอั้นเมี่ย อกสั่นขวัญแขวนมาโดยตลอด กลัวว่าอีกฝ่ายจะจับจุดอ่อนอะไรได้
แต่ตอนนี้กลับเป็นฝั่งเทพโบราณอั้นเมี่ยเลือกถอยทัพแทน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะจ้าวเฟิงสังหารเทพโบราณขั้นเก้า
“เยี่ยมยอดจริงๆ!” เจ้าสำนักเทียนหลัวยิ้มด้วยใบหน้าลิงโลด
ครั้งนี้สำนักเทียนหลัวเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้อีกครั้ง โจมตีศัตรูจนล่าถอยสมาชิกสำนักเทียนหลัวทั้งหมดโล่งอกกันทันที
“คิดหนี?” จ้าวเฟิงพลันหัวเราะขึ้น
ฟุ่บ! ร่างของจ้าวเฟิงเพียงกะพริบ ก็มาถึงข้างผู้อาวุโสเกราะดำที่อยู่ใกล้เขาที่สุด
“ไม่…” สีหน้าของผู้อาวุโสเกราะดำเปลี่ยนไปทันควัน จ้าวเฟิงสามารถสังหารเทพโบราณขั้นเก้าได้อย่างง่ายดาย จะสังหารเขายิ่งไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายดั่งใจหรือ
เขาพลันกระตุ้นเคล็ดวิชาลับ เผาไหม้พลังเทพ คลื่นแสงเปลวเพลิงพวยพุ่งทั่วร่าง
ฟิ้ว! ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกมากทันที เทียบเคียงกับเทพโบราณขั้นเก้าได้ในเวลาอันสั้น จากนั้นแปลงเป็นลำแสงสีทองสายหนึ่งหลบหนีไปไกล
“กระบี่เทพรวมศูนย์!” ตาซ้ายของจ้าวเฟิงแผ่ระลอกคลื่นอีกครั้ง พลังเทพรวมศูนย์ก่อตัวเป็นกระบี่เทพขนาดเล็กเล่มหนึ่งภายในนั้น
ฟุ่บ เสี้ยวขณะต่อมา ประกายกระบี่สีเงินมืดหม่นขนาดเล็กก็พุ่งออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิง
จากที่ไกลๆ ผู้อาวุโสเกราะดำที่หนีไปได้ไม่ไกลนัก ร่างถูกกระบี่เทพรวมศูนย์พุ่งทะลุจนแหลกสลาย ส่วนวิญญาณดับดิ้นทันที ยามรับมือกับเทพโบราณขั้นแปดสุดยอด จ้าวเฟิงไม่จำเป็นต้องเผยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งของตนก็สามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย รวมกับก่อนหน้านี้เขาสังหารเทพโบราณขั้นเก้าลงไปแล้ว ตอนนี้โจมตีสังหารขั้นแปดสุดยอด ปัญหาไม่น่าจะหนักหนานัก
“น่ากลัวจริงๆ …” อีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มหน้าทองที่กำลังหลบหนีเห็นเหตุการณ์นี้ เนื้อตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด
“หยุดเดี๋ยวนี้!” สายตาจ้าวเฟิงเพ่งมองไปยังร่างของชายหนุ่มหน้าทอง
“ไม่…” ชายหนุ่มหน้าทองรู้สึกว่าตนเองราวถูกเทพแห่งความตายจับจ้องอย่างไรอย่างนั้น เขารีบเผาไหม้พลังเทพ หลบหนีสุดกำลัง เพียงชั่วพริบตา ชายหนุ่มหน้าทองก็หนีหายไปจากครรลองสายตาของทุกคน
ในตอนนี้เอง
ฟิ้ว! กระบี่เทพรวมศูนย์ขนาดเล็กพุ่งออกมาจากตาซ้ายของจ้าวเฟิง กะพริบวูบวาบแล้วหายวับไป
ชั่วขณะต่อมา ทุกคนก็ได้ยินเสียงร้องน่าอนาถ ทั้งยังมีกลิ่นอายของวิญญาณที่ดับดิ้น
“ไป!” เทพโบราณอั้นเมี่ยมองจ้าวเฟิงอย่างลึกล้ำแวบหนึ่ง ร่างผสานไปในท้องฟ้ามืดมิด ก่อนหายไปไร้ร่องรอย
ไม่ถึงชั่วขณะ ผู้แข็งแกร่งเผ่าเปลวทองสี่คนก็ดับดิ้นไปสาม
“นี่…นี่มัน สังหารขั้นแปดสุดยอดในพริบตา!” เทพโบราณหลันหย่วนสั่นไปทั้งตัว จ้องจ้าวเฟิงราวกับเห็นสัตว์ประหลาด
เทพโบราณขั้นแปดเผ่าเปลวทอง เมื่ออยู่ในเงื้อมมือของจ้าวเฟิงก็เป็นเรื่องเพียงชั่วพริบตา เช่นนี้แล้ว ตัวเขาในสายตาของจ้าวเฟิงจะมิใช่เพียงพริบตาเดียวก็ถึงตายหรือ
ตอนนี้เทพโบราณหลันหย่วนคิดถึงเรื่องที่ตนตั้งตัวเป็นศัตรูกับจ้าวเฟิงก่อนหน้านี้ เขาพลันรู้สึกเหมือนความตายเฉียดผ่านตนไป ด้วยพลังที่จ้าวเฟิงแสดงออกมาตอนนี้ ต่อให้ฆ่าเทพโบราณหลันหย่วนลง เผ่าพันธุ์วิญญาณก็ไม่มีทางลงโทษหนัก
“แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว!” เจ้าสำนักเทียนหลัวมีสีหน้าตื่นตะลึง
ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าจ้าวเฟิงลึกล้ำไม่อาจหยั่งถึง มีอะไรซ่อนอยู่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพลังที่แท้จริงของจ้าวเฟิงจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ บดขยี้สังหารเทพโบราณขั้นเก้า ปลิดชีพผู้แข็งแกร่งระดับขั้นเดียวกันในชั่วพริบตา
ลูกศิษย์ของสำนักเทียนหลัวก็ตื่นตะลึงและเคารพเช่นเดียวกัน ไม่อาจละสายตาไปจากจ้าวเฟิงได้
“จ้าวเฟิง ครั้งนี้เจ้าสร้างคุณงามความดีใหญ่หลวง ข้าจะรายงานเผ่าพันธุ์วิญญาณให้ตบรางวัลเจ้าอย่างงาม!”
เทพโบราณหลันหย่วนรีบบินมายิ้มรับ อย่างไรเขาก็คาดไม่ถึง ที่แท้จ้าวเฟิงเก็บซ่อนพลังมาโดยตลอด ตอนนี้เขาหวังเพียงจ้าวเฟิงอย่าได้เจ็บแค้นพวกเขาพ่อลูกก็พอหากสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจ้าวเฟิงได้ แน่นอนว่ายิ่งดี ด้วยศักยภาพของจ้าวเฟิง ในวันข้างหน้าจะเลื่อนเป็นจอมเทพก็ไม่มีปัญหาอะไรมาก
“นี่ไม่จำเป็นหรอก พวกเราชนะได้เป็นเพราะความพยายามของทุกคน!”
จ้าวเฟิงทำหน้าสบายๆ
หลังจากพูดจบ เขาก็กลับมายังที่อยู่ของตัวเอง
“ปิงหยวน เจ้าจำไว้ วันหลังอย่าได้ไปล่วงเกินเขาเด็ดขาด ดีที่สุดคือสร้างความสัมพันธ์อันดีกับจ้าวเฟิงไว้!” เทพโบราณหลันหย่วนแอบส่งกระแสจิตให้เทพโบราณปิงหยวน
“ขอรับ!” เทพโบราณปิงหยวนรับคำเสียงต่ำ ในใจอึดอัดยิ่งนัก
……
ภายในวังใต้ดินที่เงียบสงบเย็นยะเยือกแห่งหนึ่ง
พรึ่บ! เงาดำมืดสายหนึ่งที่จู่ๆ พุ่งเข้าไป กลายเป็นผู้อาวุโสร่างหนังหุ้มกระดูก
บนเตียงหยกเย็นเยียบเบื้องหน้าเทพโบราณอั้นเมี่ย มีสตรีรูปร่างอรชรนางหนึ่งนอนอยู่ ถึงแม้จะหันหลังให้เทพโบราณอั้นเมี่ย แต่อาภรณ์บนเรือนร่างก็ไม่อาจปิดบังร่างอันเย้ายวนของนางได้ เรียวขาขาวเนียนที่ปรากฏอยู่ภายนอกดุจหยกงาม สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
“ล้มเหลวรึ?” เสียงเย็นชาของเทพโบราณหานเยี่ยนส่งออกไป
“จ้าวเฟิงซ่อนพลังแท้จริงเอาไว้ อีกสามคนที่ไปกับข้าตายหมดสิ้น!” เทพโบราณอั้นเมี่ยก้มหัวกัดฟันพูด
ครืน ฟู่ ฟู่!
ไฟเหมันต์พลันลุกโหมขึ้นบนเตียงหยกเย็นเยียบ ร่างของเทพโบราณหานเยี่ยนค่อยๆ หายไปจากในเปลวเพลิง แต่ขณะต่อมา เทพโบราณหานเยี่ยนก็มาปรากฏตัวข้างกายเทพโบราณอั้นเมี่ย
ชั้นเกล็ดน้ำแข็งห่อหุ้มเทพโบราณอั้นเมี่ยไว้ทันใด เลือดในกายแทบจะแข็งตัว
“ท่าทางข้าคงต้องออกโรงเองถึงจะได้!” บนใบหน้างดงามของเทพโบราณหานเยี่ยนเผยรอยยิ้มบางๆ
ครั้งนี้เผ่าเปลวทองส่งเทพโบราณขั้นเก้าไปสองคน แต่ยังล้มเหลว
เรื่องนี้จะต้องดึงดูดความสนใจของเผ่าพันธุ์วิญญาณ ให้ส่งสมาชิกมายังสำนักเทียนหลัวแน่
เทพโบราณหานเยี่ยนไม่ยอมให้ตนพ่ายแพ้ ดังนั้นครั้งนี้นางจะลงมือเอง
สีหน้าของเทพโบราณอั้นเมี่ยตื่นตระหนก เทพโบราณหานเยี่ยนคิดจะลงมือจัดการขั้นแปดสุดยอดด้วยตนเอง?
แต่เขาไม่กล้าสงสัยความคิดของเทพโบราณหานเยี่ยน
“ขอรับ…ขอรับ!” เทพโบราณอั้นเมี่ยพยักหน้าติดๆ กัน
……
ผ่านไปไม่กี่วัน สำนักเทียนหลัวก็กลับคืนสู่ปกติ
สมาชิกสำนักเทียนหลัวกำลังสะสมพลังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง เจอการต่อสู้ที่น่าหวาดหวั่นอันตรายสองศึกติดๆ กัน ถึงแม้พวกเขาจะเจ็บหนักล้มตาย แต่มันก็ยิ่งฝึกฝนพวกเขาให้เฉียบแหลมยิ่งขึ้น
ในชุดคลุมมิติ จ้าวเฟิงกำลังฝึกฝนเสวียนอ้าวทั้งหลาย
ยิ่งเป็นเสวียนอ้าวขั้นหลังๆ ก็ยิ่งยกระดับยาก ต่อให้จ้าวเฟิงมีของล้ำค่ามากมาย การตระหนักรู้ดีเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ก็ยังต้องใช้เวลามากเพื่อฝึกฝน นอกจากฝึกฝนเสวียนอ้าว จ้าวเฟิงยังฝึกฝน ‘วงแสงรวมศูนย์’ บ้างเป็นบางครั้ง
จู่ๆ จ้าวเฟิงก็ลืมตาขึ้นแล้วออกไปจากชุดคลุมมิติ
เวลาต่อมา อุณหภูมิฟ้าดินลดลงอย่างรวดเร็ว หมอกน้ำแข็งตลบกระจายรอบด้าน
สมาชิกมากมายในสำนักเทียนหลัวแตกตื่นเพราะความเย็นเยือกที่แผ่มากะทันหันอีกทั้ง ความเย็นเยียบกลุ่มนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สถานที่หลายๆ แห่งในสำนักเทียนหลัวล้วนจับตัวเป็นน้ำแข็ง
“แย่แล้ว!” เจ้าสำนักเทียนหลัวรู้แล้วว่าไม่ชอบมาพากล จึงมายังเหนือสำนักเทียนหลัวทันที
เห็นเพียงฟ้าดินไกลลิบราวกับเป็นน้ำแข็งไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ร่างเงาร่างหนึ่งในท้องฟ้าเดินเข้ามาช้าๆ ทุกย่างก้าวของนางข้ามไปข้างหน้าได้ถึงหลายหมื่นลี้
เพียงชั่วพริบตาก็มาถึงสำนักเทียนหลัว
เทพโบราณหานเยี่ยนในตอนนี้ดุจเทพธิดาน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น
ใบหน้านางงดงามเลิศล้ำ แต่กลับแผ่กระจายความเย็นเยือกที่ทำให้ทุกคนไม่กล้าเข้าใกล้
การรุกล้ำโจมตีที่เย็นยะเยือกลุกลามมาอย่างรวดเร็ว เข้าโจมตีสำนักเทียนหลัวจากทั่วทุกด้าน หากไม่ใช่ว่ามีค่ายกลป้องกัน ลูกศิษย์ขั้นต่ำกว่าเทพโบราณในสำนักเทียนหลัว เกรงว่าคงโดนไอเย็นกลุ่มนี้สังหารไปแล้ว
ฟุ่บ! ฟุ่บ! พ่อลูกเทพโบราณหลัยหย่วนก็ปรากฏกายขึ้นข้างนอกเช่นเดียวกัน
“ครึ่งก้าว…สู่จอมเทพ!”
เทพโบราณหลันหย่วนสัมผัสได้ถึงรัศมีอำนาจของเทพโบราณหานเยี่ยน พลางเอ่ยอย่างหวาดผวา
เสี้ยวขณะนี้ เขาคิดอยากจะหนีไปเสียจริงๆ
แต่เขาจะหนีพ้นรึ?
เทพโบราณหลันหย่วนชักแปลกใจ นับจากที่จ้าวเฟิงมา การรุกโจมตีของเผ่าเปลวทองรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ครั้งแรกเป็นเทพโบราณขั้นเก้า ครั้งที่สองเป็นการลอบสังหารของเทพโบราณขั้นเก้าสองคน
ส่วนครั้งนี้ ครึ่งก้าวสู่จอมเทพมาเยือนเอง!
“เป็นไปได้อย่างไร? ครึ่งก้าวสู่จอมเทพก็เข้าร่วมรบด้วย!”
เทพโบราณปิงหยวนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกว่าสายเลือดพลังเทพในกายตนเหมือนถูกแช่แข็ง ยากที่จะโคจรได้
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?” สีหน้าลูกศิษย์ทั่วทั้งสำนักเทียนหลัวอึ้งตะลึงและสิ้นหวัง
ครั้งนี้ พวกเขาสิ้นหวังแล้วจริงๆ
พลังของครึ่งก้าวสู่จอมเทพ เพียงแค่สะบัดมือก็สามารถทำลายทั้งสำนักเทียนหลัวให้พินาศได้
“เป็นครึ่งก้าวสู่จอมเทพ…จริงๆ ด้วย!” สายตาของจ้าวเฟิงค่อนข้างเคร่งเครียด
“เจ้าก็คือจ้าวเฟิงกระมัง?” ใบหน้าเย็นชาของเทพโบราณหานเยี่ยนปรากฏรอยยิ้มสนอกสนใจ
“หรือว่าต้องเผยพลังที่แท้จริงแล้ว?” จ้าวเฟิงไม่สนใจเทพโบราณหานเยี่ยน ตกเข้าสู่ภวังค์ความคิด
ทันใดนั้น สายตาของเขาเปล่งประกาย สีหน้าผ่อนคลายลง
ครืน ฟู่ ฟู่! ท้องฟ้าเบื้องหลังสั่นไหวเล็กน้อย หมอกผลึกน้ำแข็งสีขาวพร้อมด้วยพลังกดดันในฟ้าดินมหาศาลแผ่เข้ามา
“นี่มัน?” เทพโบราณหลันหย่วนและสำนักเทียนหลัวทั้งหมดมองไปข้างหลังทันที
เห็นเพียงในหมอกผลึกน้ำแข็งมีสตรีงามเลิศล้ำที่สวมชุดเขียวนางหนึ่งตรงมาท่วงท่าของนางงามสง่า ใบหน้างดงามนิ่งสงบ คิ้วเข้มดวงตาสุกสว่าง ผมยาวดำขลับ ดูสูงส่งสง่างามเกินบรรยาย ราวกับเป็นเทพธิดาที่ไม่อาจเอื้อม
“เทพโบราณหยวนเหยา! (ต้นกำเนิดแห่งหยก)”
สีหน้าของเทพโบราณหลันหย่วนตกตะลึง ฉายแววยินดี
“สำนักเทียนหลัว ขอต้อนรับ ‘ผู้อาวุโสหยวนเยา’ แห่งเผ่าพันธุ์วิญญาณ!”
เจ้าสำนักเทียนหลัวพลันส่งเสียงออกไป
สมาชิกทั้งสำนักเทียนหลัวก็ร้องตะโกนเช่นกัน พร้อมเผยสีหน้าประหลาดใจ
เพราะเทพโบราณหยวนเหยาที่มาถึงในตอนนี้คือครึ่งก้าวสู่จอมเทพ อีกทั้งยังเป็น ‘เทพโบราณหยวนเหยา’ ที่เคยถูกขนานนามว่าเป็นสตรีอัจฉริยะฟ้าประทานที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาครึ่งก้าวสู่จอมเทพของเผ่าพันธุ์วิญญาณ